วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
1 23 Apr 2016
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55) วันเสาร์ ที่ 7 มกราคม 2555 เวลา 11.00 - 12.30 น. ตอนที่ 1 ข้ อ 1 - 10 เป็ นข้ อสอบแบบอัตนัย ข้ อละ 2 คะแนน 1. ถ้ าเซตคาตอบของอสมการ |3 − 2𝑥| − |3𝑥 − 7| ≥
0
คือช่วง [𝑎, 𝑏] แล้ ว 𝑎 + 𝑏 มีคา่ เท่ากับเท่าใด
2. ถ้ า 𝑆 เป็ นเซตของจานวนนับ 𝑛 ซึง่ ค.ร.น. ของ 720 และ 𝑛 มีคา่ เท่ากับ 10800 แล้ วสมาชิกของ 𝑆 ที่มีคา่ น้ อยที่สดุ มีคา่ เท่ากับเท่าใด
3.
sec 2(2 tan−1 √2)
มีคา่ เท่ากับเท่าใด
2
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
4. กาหนดให้ O เป็ นจุดกาเนิด A = (1, −4, −3) และ B = (3, −6, 2) ถ้ า C เป็ นจุดบน OB ซึง่ ทาให้ AC ตังฉากกั ้ บ OB แล้ ว OC ยาวเท่าใด
5. ผลบวกของคาตอบทังหมดของสมการ ้
6. ถ้ า
log [𝑥 + 27log3 2 ] = 1
3𝑥 + 32−𝑥 = 4√3
แล้ ว 𝑥 มีคา่ เท่ากับเท่าใด
มีคา่ เท่ากับเท่าใด
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
7. ในการกระจาย
(𝑥 2 +
2 10 ) 𝑥3
โดยใช้ ทฤษฎีบททวินาม จะได้ วา่ พจน์คา่ คงตัวมีคา่ เท่ากับเท่าใด
8. ในการสอบวิชาประวัตศิ าสตร์ มีการสอบ 5 ครัง้ โดยที่อาจารย์ผ้ สู อนให้ น ้าหนักของผลการสอบครัง้ สุดท้ ายเป็ นสอง เท่าของผลการสอบครัง้ อื่น ในการสอบสีค่ รัง้ แรก เด็กชายพลูสอบได้ คะแนนเฉลีย่ 86 เปอร์ เซ็นต์ ถ้ าเขาต้ องการผล การสอบวิชานี ้เป็ น 90 เปอร์ เซ็นต์แล้ วเขาจะต้ องได้ คะแนนในการสอบครัง้ ที่ 5 เท่ากับกี่เปอร์ เซ็นต์
9. กาหนดให้ L1 เป็ นเส้ นตรงซึง่ มีสมการเป็ น 4𝑥 − 3𝑦 + 10 = 0 และ L2 เป็ นเส้ นสัมผัสของเส้ นโค้ ง 𝑦 = 𝑥 2 − 83 𝑥 + 73 ถ้ า L2 ขนานกับ L1 แล้ ว ระยะห่างระหว่างเส้ นตรง L1 และ L2 เท่ากับเท่าใด
3
4
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
10.
2
6𝑥|𝑥 − 2| 𝑑𝑥
มีคา่ เท่ากับเท่าใด
0
ตอนที่ 2 ข้ อ 11 - 30 เป็ นข้ อสอบแบบปรนัย ข้ อละ 4 คะแนน 11. กาหนดให้ 𝑃(𝑥) เป็ นพหุนามดีกรี 3 ถ้ า 𝑥 − 1 , 𝑥 − 2 และ 𝑥 − 3 ต่างก็หาร 𝑥 − 4 หาร 𝑃(𝑥) ลงตัว แล้ ว 𝑃(5) มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. −3 2. −1 3. 0 4. 1 5. 3
12. ถ้ า 𝑧 เป็ นจานวนเชิงซ้ อนซึง่ มี แล้ ว 𝑧 8 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1 √3 −2 2
1.
−
4.
−2 −
1
Im(𝑧) > 0
และสอดคล้ องกับสมการ 1 √3 +2 2
i
2.
−
√3 i 2
5.
−2 +
1
i
√3 i 2
(𝑧 +
2 √3 ) 2
3.
1 2
𝑃(𝑥)
1
= −4
แล้ วเหลือเศษ 1 และ
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
13. กาหนดให้ 𝑎, 𝑏 เป็ นจานวนเต็มบวกซึง่ 𝑎𝑏 − 25𝑎 − 25𝑏 = 1575 ถ้ า ห.ร.ม. (𝑎, 𝑏) = 5 แล้ ว |𝑎 − 𝑏| มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. 15 2. 45 4. 210 5. 435
3.
90
14. กาหนดให้ 𝑢⃗ และ 𝑣 เป็ นเวกเตอร์ สามมิตซิ งึ่ ทามุมป้านต่อกัน และพื ้นที่ของรูปสีเ่ หลีย่ มด้ านขนานทีม่ ีด้านประกอบ มุมเป็ น 𝑢⃗ และ 𝑣 มีคา่ เท่ากับ 3 ตารางหน่วย ถ้ า 𝑢⃗ และ 𝑣 มีขนาด 1 และ 5 หน่วย ตามลาดับแล้ ว (2𝑢 ⃗ + 𝑣 ) ∙ (𝑢 ⃗ − 𝑣 ) มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. −27 2. −19 3. 0 4. 19 5. 27
15. กาหนดให้ H เป็ นไฮเพอร์ โบลาซึง่ มีสมการเป็ น 9𝑥 2 − 72𝑥 − 16𝑦 2 − 32𝑦 = 16 ถ้ า E เป็ นวงรี ซงึ่ มีจดุ ยอด 1 อยูท่ ี่จดุ โฟกัสของ H และมีความเยื ้องศูนย์กลางเท่ากับ √5 แล้ ว E คือสมการในข้ อใดต่อไปนี ้ 1. 4.
(𝑥−4)2 25 (𝑥+4)2 25
+ +
(𝑦+1)2 16 (𝑦−1)2 20
= 1
2.
= 1
5.
(𝑥+4)2 25 (𝑥−4)2 16
+ +
(𝑦−1)2 16 (𝑦+1)2 9
= 1 = 1
3.
(𝑥−4)2 25
+
(𝑦+1)2 20
= 1
5
6
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
16. กาหนดให้ รูปสามเหลีย่ ม ABC มีมมุ A และมุม B เป็ นมุมแหลม ถ้ า cos 2A + 3 cos 2B = −2 และ cos A − √2 cos B = 0 แล้ ว cos C มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. 15 (√3 − √2) 2. 15 (√3 + √2) 3. 15 (2√3 − √2) 4. 15 (√2 + 2√3) 5. 15 (2√2 − √3)
17. ถ้ า
𝑥, 𝑦, 𝑧
สอดคล้ องกับระบบสมการ
2𝑥 + 𝑦 + 2𝑧 = 𝑎 𝑥+𝑦−𝑧
= 𝑏
3𝑥 + 2𝑦 − 2𝑧 = 𝑐
โดยที่ดีเทอร์ มิแนนท์ 1. 4.
−4 4 5
2 |2 𝑎
−1 −2 2 4 | = 24 𝑏 𝑐 2. − 45
5.
18. กาหนดให้ 𝐴 เป็ นเมทริ กซ์มติ ิ 3 × 3 และ
𝐴𝑋𝑖 = 𝐵𝑖
1
2. 5.
มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 3.
0
เมื่อ
𝑖 = 1, 2, 3 1 0 0 𝐵1 = [0] , 𝐵2 = [1] , 𝐵3 = [0] 0 0 1
1 1 1 𝑋1 = [0] , 𝑋2 = [2] , 𝑋3 = [3] , 5 5 1 แล้ ว det (𝐴) มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ −8
𝑥
4
ถ้ า 1. 4.
แล้ ว
− 8
1 8
3.
1 8
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
19. ถ้ า
𝑆1 = { 𝑥 | log 1 (𝑥 + 1) + 2 log 1 (𝑥 + 2) − log 1 (9𝑥 − 3) ≤ 0 } 2
4
และ 𝑆2 = { 𝑥 | 𝑥 เป็ นจานวนเต็มซึง่ −10 ≤ 𝑥 ≤ 10 } แล้ ว 𝑆1 ∩ 𝑆2 มีจานวนสมาชิกเท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. 5 2. 6 4. 8 5. 9
2
3.
7
20. ในการจัดเด็ก 7 คนซึง่ มีอายุ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ขวบ นัง่ เก้ าอี ้ 7 ตัวซึง่ ติดหมายเลข 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 โดย กาหนดให้ เด็กที่จะนัง่ เก้ าอี ้หมายเลข 𝑘 ต้ องมีอายุมากกว่าหรื อเท่ากับ 𝑘 − 1 ขวบ จะมีจานวนวิธีในการจัดเท่ากับ ข้ อใดต่อไปนี ้ 1. 32 2. 60 3. 64 4. 120 5. 128
21. ข้ อมูลชุดหนึง่ เป็ นคะแนนจากการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรี ยนกลุม่ หนึง่ ถ้ าเพิ่มคะแนนให้ นกั เรี ยนทุกคนๆละ 3 คะแนน แล้ วจะทาให้ คา่ สถิตใิ นข้ อใดต่อไปนี ้มีคา่ ลดลง 1. ส่วนเบี่ยงเบนเฉลีย่ ของคะแนน 2. สัมประสิทธิ์ของพิสยั ของคะแนน 3. ค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนน 4. ค่ามัธยฐานของคะแนน 5. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนน
7
8
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
22. น ้าหนักของถุงซึง่ บรรจุอาการขายส่งของบริษัทแห่งหนึง่ มีการแจกแจงปกติ ถ้ าถุงทีม่ ีน ้าหนักเกิน 117.8 กรัม มีอยู่ 67% และถุงที่มีน ้าหนักเกิน 126.7 กรัม มีอยู่ 9% แล้ ว จานวนเปอร์ เซ็นต์ของถุงที่มีน ้าหนักน้ อยกว่า 125 กรัม เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ โดยกาหนดตารางแสดงพื ้นทีใ่ ต้ เส้ นโค้ งปกติดงั นี ้ 𝑍
พื ้นที่ใต้ เส้ นโค้ ง
1. 4.
84.13 89.25
0.17 0.4554
0.44 0.1700
2. 5.
1 0.3413
86.43
1.1 0.3643
1.2 0.3849
1.34 0.41
3.
88.49
90
23. พาราโบลารูปหนึง่ มีแกนสมมาตรขนานกับแกน Y มีจดุ ยอดอยูท่ จี่ ดุ (3, 9) และผ่านจุด (1, 5) บริ เวณที่ปิดล้ อม ด้ วยพาราโบลารูปนี ้ และแกน X มีพื ้นที่เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. 9 ตารางหน่วย 2. 18 ตารางหน่วย 3. 27 ตารางหน่วย 4. 36 ตารางหน่วย 5. 54 ตารางหน่วย
24. กาหนดให้
เป็ นฟั งก์ชนั พหุนามซึง่ มีจดุ (2, −1) เป็ นจุดตา่ สุดสัมพัทธ์ และกราฟของ 𝑔 ผ่านจุด (1, 4) 2 ถ้ า 𝑐 เป็ นค่าคงตัวที่ทาให้ ฟังก์ชนั 𝑓 นิยามโดย 𝑓(𝑥) = {(𝑐𝑥 + 1)𝑔(𝑥) เมื่อ 𝑥 ≥ 1 2𝑥 + 10 เมื่อ 𝑥 < 1 ต่อเนื่องทีจ่ ดุ 𝑥 = 1 แล้ ว 𝑓 ′ (2) มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. −8 2. −4 3. 0 4. 4 5. 8 𝑔
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
25. ถ้ า 1. 4.
𝑎𝑛 = {
𝑛 2𝑛
860 1240
เมื่อ 𝑛 เป็ นจานวนคี่ แล้ ว 40 𝑎𝑘 มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ เมื่อ 𝑛 เป็ นจานวนคู่ k 1 2. 1060 3. 1080 5. 1440
𝑎 1−𝑎 1 0 26. ถ้ า 𝐴 = [1 + ] เมื่อ 𝑎 เป็ นจานวนจริ งและ I = [ ] 𝑎 −𝑎 0 1 แล้ ว det(𝐴 − √2 I)(𝐴 − √3 I)(𝐴 − √5 I)(𝐴 − √7 I) มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. 48 − 13𝑎 2. (𝑎 − √2)(𝑎 − √3)(𝑎 − √5)(𝑎 − √7) 3. 17𝑎 4. 17 5. 48
27. กาหนดให้
𝐸𝑛 เป็ นวงรี ที่มีสมการเป็ น
𝑥2 2 𝑎𝑛
𝑦2
+ 𝑏2 = 1 𝑛
วงรี
𝐸𝑛 เป็ นจุดโฟกัสของวงรี 𝐸𝑛−1
ทุก 𝑛 ≥ 2 แล้ ว
1. 4.
6 + 4√3
2. 5.
15
8 + 4√3 17
โดยที่
𝑎𝑛 = 2𝑏𝑛 ≥ 0
𝑎𝑛
n 1
ถ้ า
𝑎1 = 2
มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 3.
10 + 4√3
และ จุดยอดของ
9
10
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
28. ข้ อใดต่อไปนี ้ผิด 1. 𝑓(𝑥) = 𝑥|𝑥 + 1| 𝑥 2. 𝑓(𝑥) = |𝑥+1| 3. 𝑓(𝑥) = |𝑥|(𝑥 + 1) 4. 𝑓(𝑥) = 𝑥 2 |𝑥 + 1| 5. 𝑓(𝑥) = 𝑥|𝑥|
มีอนุพนั ธ์ที่จดุ มีอนุพนั ธ์ที่จดุ มีอนุพนั ธ์ที่จดุ มีอนุพนั ธ์ที่จดุ มีอนุพนั ธ์ที่จดุ
29. กาหนดให้ ข้อมูลชุดหนึง่ ประกอบด้ วย
𝑥=0 𝑥=0 𝑥=0 𝑥=0 𝑥=0
𝑎1 , 𝑎2 , 𝑎3 , … , 𝑎91 โดยที่ 𝑎𝑛 = {
มัธยฐานของข้ อมูลชุดนี ้มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ 1. 63 2. 68 4. 74 5. 76
𝑛 3 + 4𝑛
3.
เมื่อ 𝑛 เป็ นจานวนเต็มบวกคู่ เมื่อ 𝑛 เป็ นจานวนเต็มบวกคี่
71
𝑏 ] | 𝑎, 𝑏, 𝑐, 𝑑 ∈ {−1, 0, 1}} 𝑑 ถ้ าสุม่ เลือกเมทริ กซ์ หนึง่ เมทริ กซ์จากเซต 𝑀 แล้ ว ความน่าจะเป็ นทีจ่ ะได้ เมทริกซ์ที่มีอินเวอร์ สการคูณมีคา่ เท่ากับข้ อ
30. กาหนดให้
ใดต่อไปนี ้ 1. 24 81 4.
48 81
𝑀 = {[
𝑎 𝑐
2.
31 81
5.
50 81
3.
33 81
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
เฉลย 1. 6 2. 675 3. 9 4. 3 5. 2 6. 2
7. 8. 9. 10. 11. 12.
13. 14. 15. 16. 17. 18.
3360 98 3 8 1 5
19. 20. 21. 22. 23. 24.
1 2 3 3 5 2
25. 26. 27. 28. 29. 30.
3 3 2 1 4 1
11
4 5 2 3 4 4
แนวคิด 4. 3 วาดได้ ดงั รูป ชิด OC จะได้ cos 𝜃 = ฉาก = OA ดังนัน้
A(1,–4 ,–3)
O
ดังนัน้ 7.
𝜃
B(3,–6 ,2)
แต่จาก
⃗⃗⃗⃗⃗ ∙ OB ⃗⃗⃗⃗⃗ = |OA ⃗⃗⃗⃗⃗ ||OB ⃗⃗⃗⃗⃗ | cos 𝜃 OA
C
OA cos 𝜃 =
⃗⃗⃗⃗⃗⃗ ∙OB ⃗⃗⃗⃗⃗⃗ OA ⃗⃗⃗⃗⃗⃗ |OB| ⃗⃗⃗⃗⃗⃗ ⃗⃗⃗⃗⃗⃗ OA∙OB ⃗⃗⃗⃗⃗⃗ |OB|
=
OC = OA cos 𝜃
⃗⃗⃗⃗⃗ | cos 𝜃 = |OA
(1)(3)+(−4)(−6)+(−3)(2) √32 +(−6)2 +22
=
21 7
= 3
3360 𝑟
𝑟
จะได้ แต่พจน์ต้องอยูใ่ นรูป (𝑛𝑟)𝑎𝑛−𝑟 𝑏𝑟 = (10𝑟)(𝑥 2)10−𝑟 (𝑥23) = (10𝑟) ∙ 𝑥 20−2𝑟 ∙ 𝑥23𝑟 ในพจน์ที่เป็ นค่าคงตัว 𝑥 จะต้ องตัดกันหมดไป นัน่ คือ 20 − 2𝑟 = 3𝑟 จะแก้ ได้ 𝑟 = 4 10∙9∙8∙7 แทนค่า 𝑟 จะได้ พจน์คา่ คงตัว คือ 24 (10 ) = 16 ∙ 4∙3∙2∙1 = 3360 4
= 2𝑟 (10 )∙ 𝑟
𝑥 20−2𝑟 𝑥 3𝑟
8. 98 ให้ การสอบทัง้ 5 ครัง้ ได้ คะแนน 𝑥1 , 𝑥2 , 𝑥3 , 𝑥4 , 𝑥5 เปอร์ เซ็นต์ ตามลาดับ 𝑥 +𝑥 +𝑥 +𝑥 4 ครัง้ แรก มีคา่ เฉลีย่ = 86% ดังนัน้ 1 2 4 3 4 = 86 จะได้ 𝑥1 + 𝑥2 + 𝑥3 + 𝑥4 = 344 …(∗) ถ้ าให้ น ้าหนักชอง 4 ครัง้ แรก = 𝑤 จะได้ น ้าหนักของครัง้ ที่ 5 คือ 2𝑤 𝑤(𝑥1 +𝑥2 +𝑥3 +𝑥4 +2𝑥5 ) 𝑥 +𝑥 +𝑥 +𝑥 +2𝑥 2 +𝑤𝑥3 +𝑤𝑥4 +2𝑤𝑥5 จะได้ คา่ เฉลีย่ แบบถ่วงน ้าหนัก = 𝑤𝑥1+𝑤𝑥 = = 1 2 63 4 5 𝑤+𝑤+𝑤+𝑤+2𝑤 6𝑤 =
แต่ต้องการผลสอบ 90% ดังนัน้
344+2𝑥5 6
= 90
แก้ สมการ จะได้
𝑥5 =
540−344 = 2
344+2𝑥5 6
98
11. 1 เนื่องจาก 𝑥 − 1 , 𝑥 − 2 และ 𝑥 − 3 หาร 𝑃(𝑥) เหลือเศษ 1 และ 𝑃(𝑥) มีดีกรี 3 ดังนัน้ 𝑃(𝑥) = 𝑘(𝑥 − 1)(𝑥 − 2)(𝑥 − 3) + 1 …(∗) เมื่อ 𝑘 เป็ นตัวเลขอะไรก็ได้ และจากทฤษฎีเศษ ถ้ า 𝑥 − 4 หาร 𝑃(𝑥) ลงตัว จะได้ 𝑃(4) = 0 แทน 𝑥 = 4 ใน (∗) จะได้ 𝑃(4) = 𝑘(4 − 1)(4 − 2)(4 − 3) + 1 0 1 −6
= 6𝑘 + 1 = 𝑘
แทน 𝑘 = − 16 และ 𝑥 = 5 ใน (∗) จะได้
1
𝑃(5) = − 6 (5 − 1)(5 − 2)(5 − 3) + 1 = −4 + 1 = −3
12
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
20. 3 เริ่ มจากคนที่ 7 เลือกได้ 2 แบบ (6, 7) ; คนที่ 6 เลือกได้ 5, 6, 7 แต่ต้องไม่ซ ้ากับที่คนที่ 7 เลือก → เหลือ 2 แบบ คนที่ 5 เลือกได้ 4, 5, 6, 7 แต่ต้องไม่ซ ้ากับที่คนที่ 6 กับ 7 เลือก → เหลือ 2 แบบ เหมือนกัน ทุกคน จะเลือกได้ 2 แบบ ยกเว้ นคนแรก เลือกไม่ได้ เหลือตัวไหนต้ องนัง่ ตัวนัน้ → 2 × 2 × 2 × 2 × 2 × 2 × 1 23. 4 แกนสมมาตรขนานแกน Y → แสดงว่าเป็ นพาราโบลาแบบคว่า-หงาย โจทย์ถามพื ้นที่ที่ปิดล้ อมด้ วยพาราโบลาและแกน X → ต้ องอินทิเกรต เพื่อให้ อินทีเกรตได้ งา่ ย จะใช้ สมการพาราโบลาในรูป 𝑦 = 𝑎(𝑥 − ℎ)2 + 𝑘 โจทย์ให้ จดุ ยอด = (3, 9) → จะได้ ℎ = 3 และ 𝑘 = 9 แทนในสมการกราฟ จะได้ จากกราฟผ่านจุด (1, 5) → แปลว่าแทน 𝑥 = 1 , 𝑦 = 5 จะได้ สมการเป็ นจริ ง :
𝑦 = 𝑎(𝑥 − 3)2 + 9 …(∗)
5 −4 −4 −1
แทน
𝑎 = −1
ใน (∗) จะได้ สมการกราฟคือ
หาพื ้นที่ที่ปิดล้ อมกับแกน X
→
𝑦 = = = = =
= = = =
𝑎(1 − 3)2 + 9 𝑎(−2)2 𝑎( 4 ) 𝑎
−(𝑥 − 3)2 + 9 −(𝑥 − 3)2 + 9 −(𝑥 2 − 6𝑥 + 9) + 9 −𝑥 2 + 6𝑥 − 9 + 9 −𝑥 2 + 6𝑥
หาจุดทีก่ ราฟตัดแกน X
→
แทน 𝑦 = 0
:
0 = −𝑥 2 + 6𝑥 0 = −𝑥(𝑥 − 6) 𝑥=0, 6
จะได้ พาราโบลาตัดแกน X ที่ 0 และ 6 ดังนัน้ พื ้นที่
6
= −𝑥 2 + 6𝑥 𝑑𝑥 0 6
= − 0
𝑥3 3
+
6𝑥 2 2
𝑑𝑥 = −
𝑥3 3
+ 3𝑥 2
6 | 0
= (−
63 3
+ 3(62 )) − (−
= −72 + 108
03 3
− 0
+ 3(02 )) = 36
29. 4 มัธยฐาน จะอยูต่ วั ที่ 91+1 = 46 แต่ข้อนี ้ ต้ องรู้ ก่อนว่า 𝑎1 , 𝑎2 , 𝑎3 , … , 𝑎91 ไม่ได้ เรี ยงจากน้ อยไปมาก 2 ดังนัน้ มัธยฐาน จะไม่ใช่ 𝑎46 แต่เราต้ องเรียงข้ อมูลจากน้ อยไปมาก แล้ วหาว่าตัวที่ 46 มีคา่ เท่าไร ถ้ าใช้ สตู รที่โจทย์ให้ จะได้ พจน์คู่ 𝑎2 , 𝑎4 , 𝑎6, … คือ 2, 4, 6, 8, 10, … พจน์คี่ 𝑎1 , 𝑎3 , 𝑎5, … คือ 7, 15, 23, … เราจะเอาพจน์คแู่ ละพจน์คี่ มาเรียงลาดับ จะเห็นว่า ทุกๆ 4 ตัวของพจน์คู่ จะเสียบพจน์คี่ระหว่างตัวที่ 3 กับ 4 ได้ เสมอ พจน์คู่ : 2 , 4 , 6 , 8 , 10 , 12 , 14 , 16 , 18 , 20 , 22 , 24 , 26 , … พจน์คี่ : 7 15 23
จะเห็นว่า รูปแบบการเสียบ จะซ ้าเดิมเป็ นรอบๆ ดังนันเราจะสามารถสร้ ้ างกล่องมาครอบทุกๆ 5 ตัวได้ ดังรูป เนื่องจาก 46 ÷ 5 ได้ 9 เศษ 1 ดังนัน้ ตัวที่ 46 คือ ตัวแรกของกล่องที่ 10 พิจารณาตัวแรกของแต่ละกล่อง จะเรี ยงเป็ นลาดับ 2, 10, 18, … แต่ละตัวเพิม่ ที่ละ 8
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ (ม.ค. 55)
จะได้ ตัวที่ 10 คือ
2 + (10 – 1)8 = 74
เครดิต ขอบคุณ คุณ Runma Runkung ที่ช่วยตรวจสอบคาตอบนะครับ
13