Inventory Management การจัดการสินค้าคงคลัง - IE @ PIT

ประเภทของวัสดุคงคลัง. • แบ่งได้ 5 แบบ. 1. วัตถุดิบและชิ้นส่วนที่ซื้อมาเพื่อผลิต ( Raw Matrials & PartS). 2. ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต ( Work In Process, WI...

165 downloads 684 Views 3MB Size
Inventory Management การจัดการสิ นค้าคงคลัง

ข้ อใดไม่ ใช่ ประเภทของวัสดุคงคลัง • • • • •

1.วัตถุดบ ิ ิ้ สว่ นทีซ ื้ มาเพือ 2.ชน ่ อ ่ ผลิต ้ ต ......ไม่ ไช่ 3.เครือ ่ งจักรทีใ่ ชผลิ 4. ผลิตภัณฑ์สาเร็จ ิ ค ้าหรือลูกค ้า 5.ผลิตภัณฑ์ทอ ี่ ยูร่ ะหว่างการขนสง่ ไปยังคลังสน

ประเภทของวัสดุคงคลัง • แบ่งได ้ 5 แบบ 1. 2. 3. 4. 5.

ิ้ สว่ นทีซ ื้ มาเพือ วัตถุดบ ิ และชน ่ อ ่ ผลิต ( Raw Matrials & PartS) ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต ( Work In Process, WIP) ิ ค ้า(ในร ้านค ้าปลีก) ผลิตภัณฑ์สาเร็จ(ในงานอุตสาหกรรม) หรือสน อะไหล่ อุปกรณ์และเครือ ่ งมือ ิ ค ้าหรือลูกค ้า ผลิตภัณฑ์ทอ ี่ ยูร่ ะหว่างการขนสง่ ไปยังคลังสน

หน้าที่ของวัสดุคงคลัง • การตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า • การตอบสนองต่อเงื่อนไขของสายการผลิต • ทําให้การผลิตไม่สะดุดหรื อหยุดชะงัก • ป้องกันไม่ให้เกิดการขาดแคลนวัสดุ • ความได้เปรี ยบของการสัง่ ซื้อเป็ นรอบวัฏจักร ทําให้ค่าใช้จ่าย ในการสัง่ ซื้อและค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา ตํ่าที่สุด • ความได้เปรี ยบของการสัง่ ซื้อทีละมากๆในราคาที่ถูกลง

ผูท้ ี่มีหน้าที่วางแผนการบริ หารวัสดุคงคลังจึงต้องทําการตัดสิ นใจเกี่ยวกับ • When to order? เวลาที่เหมาะสมในกรสัง่ ซื ้อสินค้ า จุดสัง่ ซื ้อ Re – rorfder point • How much / How many? ปริ มาณที่สงั่ ซื ้อแต่ละครัง้ Order Quantity

ิ ค ้าแต่ละประเภทของวัสดุคงคลังออกมาก่อน ก่อนอืน ่ เราต ้องจาแนกประเภทสน

ขัน ้ ตอนที่ 1 คานวณมูลค่ารวมรายปี ขัน ้ ตอนที่ 2 เรียงลาดับมูลค่ารายปี จากมากไปหาน ้อย รายการ Code

A012 B001 C006 A120 A201 B101 B012 A102 A201 A201 B112 B112 B103 B103 B401 B401

ราคา(บาท/ หน่วย) 4000

ความต้องการ (หน่วย/ปี ) 1000

10 700 200 500

3000 5000 400 1900

35 700 192 250

1000 2500

210 192 250 200

200 2500 2500 400

3 100 700 210

9000 500 1000 200

100 35 500 10

500 1000 1900 3000

700 3

5000 9000

มูลค่ารวมรายปี

4000000 30000 3500000 80000 950000 35000 625000

นามูลค่ามาทาการเรียง ลาดับใหม่ จากมาก น ้อย

480000 42000 80000 625000 50000 27000 42000 7000000 35000 50000 30000 950000 27000 3500000 27000 10519000

ทัง้ ปี เราจะได ้มูลค่ารวม ิ ค ้าคงคลังทัง้ หมด สน 10,519,000 บาท มูลค่ารายปี ไปคานวณ%

ขัน ้ ตอนที่ 3 คานวณ% มูลค่ารวมรายปี รายการ Code

ราคา(บาท/ หน่วย)

ความต้องการ (หน่วย/ปี )

มูลค่ารวมรายปี

% มูลค่า รวมรายปี

A012

4000

1000

4000000

38.03

B001

700

5000

3500000

33.27

C006

500

1900

950000

9.03

A120

700

1000

625000

6.65

A201

250

2500

480000

5.94

B101

192

2500

80000

4.56

B012

200

400

50000

0.76

A102

100

500

42000

0.48

A201

210

200

35000

0.40

B112

35

1000

30000

0.33

B103

10

3000

27000

0.29

B401

3

9000

27000

0.26

10519000

100%

ิ ค ้าคงคลัง ขัน ้ ตอนที่ 4ลองแบ่งกลุม ่ ประเภทสน ่ คิดตามเกณฑ์แนวนอน • ดูนโยบายของบริษัท ว่าอยากจะแบ่งกลุม ่ โดยคิดตามเกณฑ์ เชน

ิ ค ้าทัง้ หมด กลุม ่ A มีจานวน 15% ของรายการสน ิ ค ้าทัง้ หมด กลุม ่ B มีจานวน 35% ของรายการสน ิ ค ้าทัง้ หมด กลุม ่ C มีจานวน 50% ของรายการสน

ิ ค ้า 12 รยการ ถ ้าเรามีสน ิ ค ้า C เราจะเห็นแล ้วว่า สน 50% จะมีทงั ้ หมด 6 รายการ A มีอยู่ 15% จะมี 2 รายการ B มีอยู่ 4 รายการ

การแบ่งประเภทวัสดุเรียบร ้อย จะมีความสาคัญต่อการนับจานวนวัสดุคงคลัง เราจะสามารถนับ ่ นับทุกๆ หนึง่ สป ั ดาห์ หรือทุกๆเดือน - เป็ นชว่ งเวลาห่างเท่าๆกัน เชน ่ สน ิ ค ้า ซุปเปอร์มาเกต แล ้วตัดสน ิ ใจว่าจะซอ ื้ อะไรเพิม เชน ่ ้ น ิ ค ้านับแบบต่อเนือ ิ ค ้าคงเหลือตลอดเวลา - จะสงั่ ซอส ่ ง จะทราบสน ้ อ ื้ สน ิ ค ้า ใชเครื ่ งมือ (BarCode) เมือ ่ ถึงเกณฑ์กาหนด ก็จะสงั่ ซอ

• ตัวอย่างการคานวณการนับจานวน รายการวัสดุคงคลังทีต ่ ้องนับ

่ ถ ้าเรามีสน ิ ค ้าทัง้ หมด 5000 รายการ แล ้วมี A 500 รายการ เชน มี B 1750 รายการ และมี C 2750 รายการ ถ ้านโยบายบริษัทว่า นับ A ทุกๆเดือน (ทางาน 20 วัน/เดือน) นับ B ทุกๆ 1 ไตรมาส (60 วัน) นับ C ทุกๆ 6 เดือน ( 120 วัน) ดังนัน ้ ต่อวัน จะนับ A กีร่ ายการ นับ B กีร่ ายการ นับC กีร่ ายการ ประเภท

ิ ค้า จานวนสน

นโยบายการน ับ

จานวนน ับต่อว ัน

A

500

ทุกๆเดือน

500/20 = 25 รายการ

B

1750

ทุกๆ ไตรมาส

1750/60 = 29 รายการ

C

2750

ทุกๆ 6 เดือน

2750 / 120 = 23 รายการ

77 รายการ/วัน

ต้ นทุนพืน้ ฐานเกี่ยวกับวัสดุคงคลัง ิ ค ้า (Item Cost หรือ Product Cost , P ) 1.ต ้นทุนวัสดุหรือสน 2.ต ้นทุนในการเก็บรักษา(Holding or Carrying Cost , H or I) ื้ วัสดุ หรือสงั่ ผลิต(Ordering Cost or Set up Cost , S) 3.ต ้นทุนการสงั่ ซอ 4.ต ้นทุนการขาด แคลนวัสดุ(Shortage Cost, K)

ตัวแปรที่ใช้ ในการคานวณ

ตัวแบบในการจัดการกับวัสดุคงคลัง Deterministic Model ตัวแปรต่างๆ ทราบค่าและคงที่

1. EOQ 2. POQ 3. DQ

Stochastic Model ตัวแปรต่างๆ แปรผัน ไม่คงที่

1. Demand แปรผ ัน Lead time คงที่ 2. Demand คงที่ Lead time แปรผ ัน 3. Demand แปรผ ัน Lead time แปรผ ัน

ตัวแบบปริมาณการสั่งซือ้ ที่ประหยัดที่สุด

( Economic Order Quantity, EOQ Model)

การหาค่า Q*

ื้ Order Cost ต ้นทุนการสงั่ ซอ ื้ น ้อย ทาให ้เราสงั่ ซอ ื้ บ่อย ถ ้าเราสงั่ ซอ ื้ ก็จะสูง ต ้นทุนการสงั่ ซอ ต ้นทุนการเก็บรักษา Inventory Cost เก็บน ้อย ต ้นทุนน ้อย

𝐷

Ordering Cost =𝑄∗S

𝑄∗

Inventory Cost = 2 H

สำหรับกำรหำปริมำณกำรสั่ งซื้อทีป่ ระหยัด จะแบ่ งตำมลักษณะปั ญหำ ดังนี้ ื้ ทีป ิ ค้าครบตามจานวนที่ 1. การหาปริมาณการสง่ ั ซอ ่ ระหย ัด และได้ร ับสน ื้ โดยไม่ตอ สง่ ั ซอ ้ งรอ (Zero lead time) ื้ ทีป ิ ค้าครบตามจานวนทีส 2. การหาปริมาณการสง่ ั ซอ ่ ระหย ัดและได้ร ับสน ่ ง่ ั โดยต้องรอ (Non Zero lead time) ื้ ทีป ่ นลดตามปริมาณการสง่ ั ซอ ื้ 3. การหาปริมาณการสง่ ั ซอ ่ ระหย ัด เมือ ่ มีสว (Quantity discount) ิ ค้าสารอง (Safety Stock) 4. การหาปริมาณสน

กำรคำนวณหำปริมำณกำรสั่ งซื้อทีป่ ระหยัด คือ กำรคำนวณหำ ปริมำณกำรสั่ งซื้อแต่ ละครั้ง (Q) ที่ทำให้ ค่ำใช้ จ่ำยรวมต่ำทีส่ ุ ด

ตัวอย่ ำงที่ 1 บริ ษทั ผลิตทีวี ต้องการใช้หลอดภาพในการ ผลิตทีวปี ี ละ 10,000 หลอด ต้นทุนหลอดภาพ ราคา 400 บาท/หลอด ค่าเก็บรักษาคิดเป็ น 5% ของต้นทุนหลอดภาพ ค่าใช้จ่ายใน การสัง่ ซื้อแต่ละครั้ง เท่ากับ 360 บาท จงหาปริ มาณการสั่งซื้อที่ประหยัด

ตารางที่ 1 แสดงการคานวณค่ าใช้ จ่ายรวม Q

ค่ าเก็บรั กษาCI (บาท)

ค่ าใช้ จ่ายรวมTC (บาท)

400

4,000

13,000

500

5,000

12,200

600

6,000

12,000

700

7,000

12,142.85

500

8,000

12,500

ตำรำงที่ 1 จะพบว่ ำค่ ำใช้ จ่ำยรวมต่ำสุ ด คือ 12,000 บำท ซึ่งมีค่ำ Q* = 600 หน่ วย หรื อ ควรสั่ งซื้อหลอดภำพทีวีสีครั่งละ 600 หลอด จึงจะทำให้ ค่ำใช้ จ่ำยรวมต่ำสุ ด

ค่ ำใช้ จ่ำย (บำท) ค่ ำใช้ จ่ำยรวมต่ำสุ ด

ค่ าใช้ จ่ายรวม ค่ าใช้ จ่ายในการเก็บรักษา

12,000

(Holding Cost)

6,000 ค่ าใช้ จ่ายในการสั่งซือ้ (Ordering Cost)

ปริมำณกำรสั่ งซื้อ

600*

แสดงค่ ำใช้ จ่ำยแต่ ละส่ วนกับปริมำณทีส่ ั่ งซื้อต่ อครั้ง

กำรคำนวณหำจุดที่สั่งซื้อ (Reorder Point) เนื่องจำก EOQ เป็ นตัวแบบที่ไม่ มกี ำรรอสิ นค้ ำ จึงไม่ จำเป็ นต้ อง สั่ งสิ นค้ ำก่ อนหมด ดังนั้น จุดที่สั่งซื้อ คือ จุดทีไ่ ม่ มสี ิ นค้ ำเหลืออยู่เลย กำรหำจำนวนครั้งทีส่ ั่ งซื้อต่ อปี จำนวนสั่ งซื้อใน 1 ปี เท่ ำกับ D/Q* ครั้ง

33

D ค่า H

S

Q* N T

D= 9600 S=75 H=16

ื้ 300 หน่วยต่อครัง้ ทีส ่ ั่งซอ

ื้ ทุกๆ 9 ว ัน ระยะห่างในการสง่ ั ซอ

• อีกตัวอย่าง บอกค่า I และ P มา 34

D=3600 S=600 H=IP I=20% P=1500

I= ต้ นทุนการเก็บรักษา P= ต้ นทุวสั ดุ D=ความต้ องการใช้ วสั ดุ H=ต้ นทุนการเก็บรักษา

ต้นทุนรวม 3600 บาท/ปี

แบบฝึ กทบทวน ข้ อที่ 1 บริ ษัทพัฒนาอุตสาหกรรม จากัด ผู้ผลิตวิทยุกระเป๋ าหิ ้ว สัง่ ซื ้อส่วนประกอบ ชนิดหนึง่ เพื่อใช้ ในการผลิตจากบริ ษัท ไทยรุ่งเรื อง จากัด โดยประมาณการใช้ สว่ นประกอบ ปี ละ 1,200 หน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท จากการวิเคราะห์คา่ ใช้ จา่ ยประมาณว่าใน การสัง่ ซื ้อสินค้ านี ้ แต่ละครัง้ เสียค่าใช้ จา่ ย 20 บาท และต้ นทุนการเก็บรักษาสินค้ าคิดเป็ น 12% ของมูลค่าพัสดุคงคลังเฉลี่ย จงหาปริ มาณการสัง่ ที่ประหยัด และค่าใช้ จา่ ยทังหมด ้ ข้ อที่ 2 บริ ษัทการค้ าแห่งหนึง่ สัง่ ยาแก้ ปวดเมื่อยมาขาย 10,000 ขวดทุกปี ทุนแต่ละขวด ราคา 2 บาท ค่าใช้ จา่ ยสัง่ ซื ้อครัง้ ละ 100 บาท ค่าใช้ จา่ ยในการเก็บรักษา 15% ของราคา ขวด/ปี จงหาจานวนยาที่ควรสัง่ แต่ละครัง้ และค่าใช้ จา่ ยทังหมด ้

กำรหำปริมำณสั่ งซื้อทีป่ ระหยัด และต้ องรอสิ นค้ ำหลังจำกกำรสั่ ง (EOQ Model : Nonzero lead time)

ในทำงปฏิบัตทิ ั่วไป ย่ อมมีเวลำในรอคอยสิ นค้ ำ ดังนั้น สิ่ งที่ ทีส่ ำคัญย่ อมได้ แก่ ควรมีสินค้ ำคงเหลือในคลังเท่ ำใด จึงสั่ งสิ นค้ ำ แล้ ว จะสอดคล้ องกับระยะเวลำในกำรส่ งสิ นค้ำ

กำรหำจุดสั่ งซื้อซ้ำ (Reorder Point)

หลังจากที่ตดั สินใจเกี่ยวกับปริ มาณสินค้ าที่สงั่ แล้ ว สิ่ง ต่อมาที่ต้องตัดสินใจคือ จะทาการสัง่ ซื ้อเมื่อไหร่ โดยทังนี ้ ้ขึ ้นอยู่กบั lead time เวลาในการขนส่งสินค้ า โดยถ้ าสัง่ แล้ วได้ เลย (L=0) แต่ถ้า lead time ไม่เป็ น 0 จะต้ องมีการคานวณเผื่อเวลาด้ วย

• ตัวอย่ าง 5 ถ้ าบริษัทจากตัวอย่างที่ 1 ถ้ าการสัง่ หลอดภาพทีวีสีแต่ละครัง้ จะต้ องรอ 1 สัปดาห์ จึงจะได้ รับสินค้ า บริ ษัทควรจะสัง่ ซื ้อเมื่อใดและสัง่ ซื ้อปี ละกี่ครัง้ Solve ในการสัง่ จะต้ องรอ 1 สปดาห์ นัน่ คือ L = 1 สัปดาห์ สัปดาห์ ความต้ องการใช้ หลอดภาพสัปดาห์ละ d=

หลอด

𝐷 52

=

สมมติเวลาทางาน 1 ปี มี 52

10000 52

= 192.3 หลอด หรื อ 193

600

193

0

L= 1 สป. R=จุดสั่งซือ้

เวลา

ื้ R= จุดทีม จุดสง่ ั ซอ ่ ห ี ลอดภาพเหลือในคล ัง ั ั ื้ ต่อสปดาห์ = ( L สปดาห์ )x(ความต้องการสง่ ั ซอ ) = ( 1 ) ( 192.3 ) = 192.3 ้ื หลอดภาพเหลือในคล ัง 193 หลอด และสง่ ั ด ังนนบริ ั้ ษ ัทควรสง่ ั ซอ ครงละ ั้ 600 หลอด

6

ความต้ องการสินค้ า D= 2400 หน่วย/ปี ต้ นทุนการสัง่ ซื ้อ F= 200 บาท/ครัง้ ค่าเก็บรักษา H=1.50 บาท/หน่วย/ปี ค่า Lead time = 1.5 เดือน Slove

ปริ มาณการสัง่ ซื ้อประหระหยัด Q* = จานวนครัง้ ในการสัง่ ซื ้อ/ปี N =

𝐷 𝑄∗

2𝐹𝐷 𝐻

=

2(200)(2400) = 1.50

64000 = 800 หน่วย/ครัง้

2400

= 800 = 3 ครัง้

จุดสัง่ ซื ้อ( Reorder point ) = อัตราการใช้ x lead time

= สัง่ ซื ้อเพิ่มทันที

ค่าใช้ จ่ายรวม TC=

𝑄 𝐻 2

2400 12 𝐷 𝑄

( 1 ปี = 12 เดือน)

𝑥 1.50 = 300 หน่วย นัน่ คือสินค้ าคงเหลือในครัง้ ถึง 300 หน่วย ก็จะทาการ

+ (𝐹 ) ,=

800 1.50 2

+ (200

2400 ) 800

= 1200 บาท###

ถ ้าต ้นทุนการเก็บรักษามิได ้มีหน่วยเป็ นบาท แต่บอกเป็ นเปอร์เชนต์หรือร ้อยละ ของคงคลังถัวเฉลีย ่ การคานวณหาค่าEOQ สูตรต่อไปนีแ ้ ทน

• Q* =

2𝐹𝐷 𝐼𝑃

I= ต ้นทุนการเก็บรักษาเป็ น% หรือ ร ้อยละ ิ ค ้า/หน่วย/ปี P= ราคาสน

37

D= 10,000 หน่วย F= 20 บาท/ครัง้ I= 20% P= 5 บาท/หน่วย

• Q* =

• TC=

2𝐹𝐷 𝐼𝑃

𝑄 𝐻 2

,=

2(20)(10000) (0.20)(5)

𝐷 + (𝐹 𝑄)

= 632.4 หน่วย/ครัง้

TC=

𝑄 𝐻 2

+

𝐷 𝐹𝑄

+ S. H หรื อTC=

𝑄 𝐼𝑃 2

+

𝐷 𝐹𝑄

+ 𝑆. 𝐼𝑃

เช่น ถ้ าเก็บให้ มีสินค้ าเผื่อขาดมือ(S) เท่ากับ 200 หน่วย ค่าใช้ จ่ายรวมจากตัวอย่างที่ 6,7 ข้ างต้ น จะเพิ่มขึ ้นเท่าไหร่ TC=

𝑄 𝐻 2

𝐷

+ 𝐹 𝑄 + S. H ,TC=

𝑄 𝐷 TC= 𝐼𝑃 + 𝐹 + 𝑆. 𝐼𝑃 2 𝑄

800 1.50 2

,TC=

+ 200

2400 800

+ 200 ∗ 1.50 = 1500 บาท

633 10000 0.20 ∗ 5 + 20 + 200.0.20 ∗ 5 = 832.50 บาท 2 633

ต.ย.6

D = 2000 Q* =

2𝐹𝐷 𝐼𝑃

,=

F= 50 2(50)(10000) (0.25)(20)

P=20 I= 25% (0.25) = 200 หน่วย/ครัง้

N=

𝐷 𝑄∗

2000 = 200

= 10 ครัง้

ตารางเปรี ยบเทียบต้ นทุน

P

Q*

N

F

H

D

N

Q* N H

P F D

disc N

ื้ ทีป ขนาดการสง่ ั ซอ ่ ระหย ัดทีม ่ ส ี ว่ นลดปริมาณ (Quantity Discount) เมื่อซื ้อของจานวนมากฝ่ ายจัดซื ้อมักจะต่อรองให้ ราคาสินค้ าต่อหน่วยลดลงซึง่ ได้ มี สมมติฐานว่า ยิ่งจานวนที่ซื ้อมากเท่าไร ราคาต่อหน่วยของสินค้ ายิ่งลดลงเท่านัน้ นอกจากนัน้ ปริ มาณสัง่ ซื ้อที่เปลี่ยนแปลงไปจะมีผลทาให้ ต้นทุนการเก็บรักษาเปลี่ยน ดังนัน้ วิธีการที่จะคานวณให้ ได้ ขนาดการสัง่ ซื ้อที่ประหยัดที่สุดจึงต้ องพิจารณาต้ นทุน ของสินค้ าที่ราคาต่างกันด้ วย ขันตอนของการคิ ้ ดมีดงั ต่อไปนี ้ 1.คานวณหาขนาดการสัง่ ซื ้อที่ประหยัดแล้ วหาต้ นทุนสินค้ าคงคลังรวมที่ EOQ ถ้ าขนาดการสัง่ ซื ้อที่ประหยัดที่คานวณได้ ไม่อยูใ่ นช่วงปริ มาณที่สามารถสัง่ ซื ้อได้ ในระดับราคา ต่าสุด ให้ คานวณต้ นทุนรวมของการเก็บสินค้ าคงคลังที่ปริ มาณการสัง่ ซื ้อต่าสุดของระดับราคาสินค้ าที่ต่า กว่าระดับราคาของขนาดการสัง่ ซื ้อที่ประหยัดที่คานวณได้ แล้ วเปรี ยบเทียบกับต้ นทุนรวมที่ขนาดการสัง่ ซื ้อ ที่ประหยัด เพื่อหาต้ นทุนต่าสุดแล้ วกาหนดปริ มาณการสัง่ ซื ้อที่ประหยัด

ตัวอย่าง •

อาคารคอนโดมิเนียมใชน้ ้ ายาทาความสะอาดปี หนึง่ ต ้องใชปี้ ละ 816 แกลลอน ื้ ได ้ในระดับราคาต่าสุด 120 บาท ค่าเก็บรักษาเท่ากับ 40 บาท ต่อปี ตอ คาสงั่ ซอ ่ ลิตร การให ้สว่ นลดของผู ้ค ้าสง่ น้ ายาทาความสะอาดเป็ นดังต่อไปนี้ ื้ ต่อครัง้ แกลลอน ปริมาณการสงั่ ซอ 0 – 49 50 – 79 80 – 99 100 ขึน ้ ไป

ื้ ทีป จงหาขนาดการสงั่ ซอ ่ ระหยัดทีส ่ ด ุ EOQ = Q* =

2𝐹𝐷 𝐼𝑃

ราคาต่อแกลลอน 100 90 85 80

2 x816 x120 = 69.97 = 70 แกลลอน 40

D=816 F=120 H=40

ื้ ต่อครัง้ แกลลอน ปริมาณการสงั่ ซอ

ราคาต่อแกลลอน

0 – 49 50 – 79 80 – 99 100 ขึน ้ ไป

100 90 85 80

้ • แต่ปริมาณ 70 แกลลอนจะได ้ราคาแกลลอนละ 90 บาท ซงึ่ ไม่ใชราคาต ่าสุด ิ ค ้าคงคลังรวม เปรียบเทียบกับต ้นทุนสน ิ ค ้าคงคลังรวม • ดังนัน ้ จึงต ้องคานวณต ้นทุนสน ทีร่ าคา 85 และ 80 บาท ตามลาดับ

1.เมื่อสัง่ ซื ้อที่ 70 แกลลอน ราคาแกลลอนละ 90 บาท ต้ นทุนรวม = ต้ นทุนสินค้ า + ต้ นทุนการสัง่ ซื ้อ + ต้ นทุนการเก็บรักษา

D=816 F=120 H=40

TC=

𝑄 𝐻 2

= 𝐷

+ 𝐹𝑄

70   816   (90x816)+  x120    40 x  2   70  

= 76,239 บาท 2.เมื่อสัง่ ซื ้อที่ 80 แกลลอน ราคาแกลลอนละ 85 บาท ต้ นทุนรวม

=

80   816   (85x816)+  x120    40 x  2  80  

= 72,184 บาท 3.เมื่อสัง่ ซื ้อที่ 100 แกลลอน ราคาแกลลอนละ 80 บาท ต้ นทุนรวม

=

100   816   (80x816)+  x120    40 x  2   100  

= 68,259 บาท ต้ นทุนรวมที่ต่าสุดคือปริ มาณการสัง่ ซื ้อครัง้ ละ 100 แกลลอน

การบ้าน ข้อที่ 1 ่ มบารุงในโรงงานเอสเอสไอ รับผิดชอบในการสารองอะไหล่ในการซอ ่ มบารุงเครือ ฝ่ ายซอ ่ งจักรซงึ่ ได ้ ้ ิ้ สว่ น ราคาต่อหน่วย และการใชงาน ้ เก็บประวัตก ิ ารใชงานที ผ ่ า่ นมา มีหมายเลขชน ดังแสดงในตาราง ต่อไปนี้ ชิ ้นส่วนที่ ต้ นทุนต่อหน่วย อุปสงค์ตอ่ ปี ิ ค ้าทัง้ หมด กลุม ่ A มีจานวน 15% ของรายการสน ิ ค ้าทัง้ หมด กลุม ่ B มีจานวน 35% ของรายการสน 1 60 90 ิ ค ้าทัง้ หมด กลุม ่ C มีจานวน 50% ของรายการสน 2 360 40 3 30 130 ิ จัดแบ่งประเภทสน ิ ค ้า ตามrate ทีใ่ ห ้มา ให ้ นิสต 4 80 60 5 30 10 6 20 180 7 10 170 8 320 50 9 510 6 10 20 120

การบ้าน ข้อที่ 2 • บริษัทจาหน่ายวัสดุผนังหินสงั เคราะห์ในประมาณการว่า ปี นจ ี้ ะมีอป ุ สงค์รวม 10,000 ตาราง ื้ ครัง้ ละ 150 บาท เมตร ต ้นทุนการเก็บรักษาต่อหลายเท่ากับ 0.75 บาท ต ้นทุนการสงั่ ซอ • จงหา •

ื้ ทีป 1.ขนาดการสงั่ ซอ ่ ระหยัด (EOQ) 2.ต ้นทุนรวมทีต ่ า่ สุด

ื้ ทีป 3.จานวนครัง้ ของการสงั่ ซอ ่ ระหยัดทีส ่ ด ุ

ข้อที่ 3