นฟ ร
้อ่า
าให
นํา ม
งส อื
รด อ
ี โป
นฟ รี โ ปร ดอ
าให ้อ่า
อื น ํ าม
หน ั งส
ย
นํา ไป
ี โป รด อย ่า
ย่า นํา ไป ขา
นฟ ร
อน ํ าม าให ้อ่า
ขา ย
ขา ย นํา ไป
ลอดลายมังกร
ี โป รด อย ่า
ประภัสสร เสวิกุล เขียน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
เลขมาตรฐานสากลประจําหนังสือ ฉบับ ebook 978-616-040609-8 ราคาฉบับ ebook 149 บาท © ลิขสิทธิ ์ 2543 : ประภัสสร เสวิกุล
อน ํ าม าให ้อ่า
หนังสือเลมนี้ ไดรับอนุญาตถูกตองตามกฎหมายจากเจาของลิขสิทธิ ์ สงวนลิขสิทธิต ์ ามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ ์ พ.ศ. 2537
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
หามทําซํ้า แกไข ดัดแปลงหรือเผยแพรดวยวิธีการอื่นใดกอนไดรับ อนุญาต บริษท ั นานมีบุคส จํากัด เลขที่ 11 ซอยสุขุมวิท 31 (สวัสดี) ถนน สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนื อ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 Nanmeebooks Call center 0-2662-3000 กด 1 โทรสาร 0-26620919 www.nanmeebooks.com email :
[email protected] จัดทําในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิ กส (epub) โดย www.hytexts.com Open source licenses: JS Font and CKeditor
นํา ไป
ขา ย
คํานํ าสํานักพิมพ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
ลอดลายมังกร บทประพันธเรื่องเยี่ยมของ ประภัสสร เสวิกุล นับถึงวันนี้ มีอายุนับไดเกือบสองทศวรรษ และพิมพมากวาสิบเกา ครั้งแลว วันนี้ นานมีบุคส ขอนําเสนอ ลอดลายมังกร ตอทานผูอานอีก ครั้งในรูปโฉมใหม แตเนื้ อในอัดแน นดวยคุณภาพเชนเดิม
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เหลียง คือตัวแทนของคนจีนอพยพที่มีเพียง “เสื่อผืน หมอนใบ” มุงหนาจากแผนดินมาตุภูมิ มาเพื่อแสวงหาอนาคตและความ รุงเรืองในผืนแผนดินไทย กระทั่งสรางฐานะเปนเจาของกิจการการ คาใหญโต เปนที่นับหนาถือตาในสังคม มีทายาทมากมายที่จะรับ สืบทอดเจตนารมณ
าให ้อ่า
คุณธรรมประจําใจ และจรรยาบรรณในอาชีพคือสิ่งที่ เหลียง ยึดถือและพยายามถายทอดสูอนุชนรุนหลัง แมวาหลายครั้ง การ สั่งสอนก็ไมประสบผลเสมอไป
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
วิธีดําเนิ นธุรกิจ วิธีจัดการชีวิตครอบครัวของเหลียง จะเปน บทเรียนที่ดีใหหลาย ๆ คนนําไปปรับใช นอกเหนื อไปจากความ บันเทิงที่มีอยูเต็มเปยมในนวนิ ยายเรื่องนี้ ขอเชิญพบกับ ลอดลายมังกร ตํานานการตอสูชีวิตสุดยิ่งใหญ ของลูกผูชายสายเลือดมังกร อีกหนึ่ งผลงานทรงคุณคาโดย ประภัสสร เสวิกุล นักเขียนที่มีผลงานสรางสรรคสังคม ซึ่งใหท้ง ั คติ ชีวิตและพลังในการดํารงชีวิตแกนักอานมาตลอดระยะเวลากวาสี่ สิบป สํานักพิมพนานมีบุคสเอโนเวล
นํา ไป
ขา ย
คํานํ าผูเขียน
าให ้อ่า
สําหรับนิ ยาย 5 อันดับแรกที่มีคนชื่นชอบ ไดแก 1. คูกรรม
ี โป
อื น ํ าม
2. สี่แผนดิน 3. ผูช นะสิบทิศ
รด อ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
จากผลสํารวจทัศนคติของคนไทยยุค ค.ศ. 2000 ดานสังคม และ วัฒนธรรม โดย ดร.ธีรยุทธ บุญมี สรุปโดยรวมวา อาเหลียง และ แมพลอย คือ ชาย-หญิง ในฝนของคนไทย คนไทยทั้งชนชั้น กลางและชั้นลาง ชื่นชมอาเหลียงเปนพิเศษ โดยเฉพาะเพศหญิง ชอบอาเหลียง ที่ขยันทํามาหากิน เปนผูนํามีความมั่นคง โดย เฉพาะดานฐานะชายไทย ชอบผูชายที่มีลักษณะอาเหลียง ถือเปน สวนความรับผิดชอบดานทํามาหากิน ในขณะที่คนจนชอบลูกผูชาย ที่ทํามาหากินแบบอาเหลียง ชนชั้นกลางอยากประสบความสําเร็จ ทางธุรกิจแบบอาเหลียง ในขณะที่คนรุนใหมนิยม “เวลาในขวดแกว” ซึ่งสะทอน ปญหาครอบครัวของคนรุนใหม รวมทั้งตัวละคร “ลองจุน” ใน “ขอ หมอนใบนัน ้ ...ทีเ่ ธอฝนยามหนุน” ก็ไดรับความนิ ยมในดานตัว ละครที่คนชอบ
หน ั งส
นฟ ร
4. บานทรายทอง และ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
5. เวลาในขวดแกว และเมื่อไมก่ว ี ันมานี้ มีนอ งนักขาวทานหนึ่ งถามถึงความรูสึก ของผมเกี่ยวกับการสํารวจครั้งนี้ ผมไดตอบไปวา “ดีใจที่ไดรับการ ยอมรับและการตอนรับจากผูอาน เพราะเปนการโหวตที่เรียกวา ‘ปลายเปด’ คือไมไดระบุไวกอนวามีเรื่องอะไรบาง แตเปดโอกาสให ผูท่ถ ี ูกสํารวจบอกออกมาเองวาชอบเรื่องอะไร จึงถือวาเปนเรื่องที่ ออกมาจากใจจริง ๆ ของผูท่โี หวต โดยไมไดมีการตั้งตุกตา หรือตัว
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เลือกไวกอนวาเปนเรื่องไหน ทําใหไดรับรูถึงความรูสึกนึ กคิดของ คนที่โหวตจริง ๆ” สําหรับผมเองก็ไดแตขอบคุณตอความเมตตาที่ทุกทานไดมอบ ใหกับผลงานของผมตลอดมา และหวังวา ลอดลายมังกร ฉบับ พิมพครั้งที่ 15 เลมนี้ จะเปนอีกเลมหนึ่ งที่ทานชื่นชอบ ดวยความปรารถนาดี
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ประภัสสร เสวิกุล กันยายน 2543
นฟ ร
้อ่า
าให
นํา ม
งส อื
รด อ
ี โป
นฟ รี โ ปร ดอ
าให ้อ่า
อื น ํ าม
หน ั งส
ย
นํา ไป
ี โป รด อย ่า
ย่า นํา ไป ขา
นฟ ร
อน ํ าม าให ้อ่า
ขา ย
แดพอผูเปนครูคนแรก
ในชีวิตการประพันธของผูเขียน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
1.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ครอบครัวเราเปนครอบครัวใหญ มีญาติพน ี่ อ งเยอะแยะ อยางที่ยาเนี ยมชอบพูดวา... “ญาติวงศพงศาพญาขร ดั่งมัจฉาในสา ครวาสี” ครอบครัวเรามีปูเปนหัวหนาครอบครัว ฉันคิดวาหลาย ๆ คน คงรูจักหรือเคยไดยินชื่อปูฉน ั มาบาง... นายเหลียง สือพาณิชย ไงละ แตในบาน ที่บริษท ั หรือแมกระทั่งคนทั่ว ๆ ไป เมื่อเวลาจะพูดกับปู หรือพูดถึง ปูมักใชคําวา “ทาน” แทนชื่อปูเสมอ... ยาเนี ยมเลาวา ตอนแรก ๆ ปูก็ไมคอยชอบใหใครเรียกอยางนั้น ปูบอกวาขี้กลากมัน จะกินกบาลเอา แตเมื่อใครตอใครพากันเรียกมาก ๆ เขาจนติดปาก ปูก็เลยตองปลอยเลยตามเลยทั้ง ๆ ที่ชอบใหคนเรียกทาน เอยเรียก ปูวา “เถาแก” มากกวา ปูมียาสามคน คนแรกคือยาเหมยหลิง หรือที่พวกเด็ก ๆ ชอบ เรียกกันวา “ยาใหญ” หรือ “ยาชั้นสาม” เพราะแกมีหองพักอยูบนชั้น สามของตัวตึก ซึ่งถือเปนเขตหวงหาม ไมมีใครกลาลวงลํ้าเขาไป... ปูแตงงานกับยาใหญตอนที่ปูอายุไดสิบหกป... ยาเนี ยมเลาวา เมื่อ ปูตัดสินใจจะออกจากบานที่เมืองซัวเถาลงเรือมาเสี่ยงโชคทางทะเล ใต ปูทวดยาทวดเกรงวาปูจะหลงเสน หผูหญิงตางแดนจนลืมบาน เกิดเมืองนอน จึงใหพอสื่อแมส่ อ ื หาลูกสะใภใหคนหนึ่ ง ปูกับยาใหญ ไมเคยเห็นหนาคาตากันมากอน และมีเวลาอยูดวยกันเพียงสองป ครึ่ง แตก็มีลูกชายดวยกันสองคน คือลุงคนที่หนึ่ งหรือลุงเทียน กับ
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ลุงคนที่สองหรือที่เรียกกันตอนหลังวาลุงแอนดี้ ซึ่งพอลุงแอนดี้อายุ ไดส่เี ดือน ปูก็เดินทางมาเมืองไทยตามที่ต้ง ั ใจไว โดยทิ้งยาใหญและ ลูกชายทั้งสองคนไวท่เี มืองจีน ฉันเคยเห็นรูปถายของยาใหญสมัยสาว ๆ แตงตัวแบบผูหญิง จีนโบราณ หนาตาจิ้มลิ้ม รูปรางแบบบาง ทาทางขี้อาย ชางผิดกัน ไกลกับตัวจริงของยาใหญในเวลานี้ ที่อวนเผละเหมือนกอนเตาหู ขาวเละ ๆ หงุดหงิดเจาอารมณ เมื่อเวลาที่ไมไดด่ง ั ใจขึน ้ มาก็จะสง ภาษาจีนลงเลงดาทอผูคนไมเลือกหนา ปกติยาใหญมักจะไมคอยลงมาจากตึกชั้นสาม แตเมื่อใดที่แก ลากเกีย ๊ ะแกรก ๆ ลงบันไดมา พวกเด็ก ๆ ที่กําลังวิ่งเลนสงเสียง เจีย ๊ วจาวกันอยางสนุกสนานก็จะแตกฮือและเงียบกริบ พวกคนใช พากันหลบหนาซอนตา แมแตพวกผูใหญเองก็ยังตองคอยเลี่ยง ๆ ไมกลาเขาใกล ยาคนที่สองคือยาเนี ยม ซึ่งเปนยาแท ๆ ของฉัน “แตพวกชั้น หลานมักจะเรียกกันวา ยากลาง” หรือ “ยาใจดี” ตามนิ สัยใจคอที่ อารมณดีเยือกเย็น ไมคอยดุดาวากลาวใคร หนําซํ้ายังมีขนมหรือ ของเลนไวแจกพวกเด็ก ๆ เสมอ แตฉน ั ชอบที่จะเรียกวายาเนี ยม มากกวาชื่ออื่น... เมื่อปูมาถึงเมืองไทยใหม ๆ นั้น อยูในลักษณะที่เรียกกันวา “เสื่อผืน หมอนใบ” และเริ่มงานครั้งแรกดวยการเปนจับกังรับจาง แบกกระสอบขาวสารที่ทานํ้าราชวงศ เคยมีคนถามวาตอนนั้นปู เหนื่ อยมากไหม ปูตอบ วาเหนื่ อย แตระหวางความเหนื่ อยกับความ หิวนั้น ความเหนื่ อยเปนสิ่งที่พอจะอดทนได สวนความหิวยากที่จะ ทนอดไหว ปูจึงยอมเหนื่ อยดีกวาจะยอมหิว
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ปูเปนจับกังจนเก็บเงินไดพอสมควรจึงไปเซงที่ปากตรอกแคบ ๆแถวนั้น ตั้งแผงเล็ก ๆ ขายกาแฟ... ปูเคยเลาอยางขัน ๆ วา ที่ เรียกวาตรอกนั้นที่แทแลวเปนเพียงซอกระหวางตึกแถวสองหลัง แตดานหลังของตึกแถวเผอิญมีท่ด ี ินวาง ๆ อยูสักสี่สิบหาสิบตาราง วา พวกคนถีบสามลอ และจับกังก็หาเศษไมเศษไร หรือสังกะสีผุ ๆ ไปปลูกเพิงอยูกันแน นชนิ ดที่หลังคาเกยซอนกัน และทั้ง ๆ ที่ซอกตึก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
นั้นแคบขนาดเวลาเดินเขา-ออก แตละที ตองคอย ๆ ตะแคงตัวผาน เขาไป แตก็ไมรูวาคนพวกนั้นขนขาวขนของแมกระทั่งตุมนํ้าใบโต ๆ เขาไปไดยังไง ปูขายกาแฟอยูปสองปก็พอดีเกิดสงคราม ทหารญี่ปุนเขามา เต็มบานเต็มเมือง บรรดาคนจีนใหมท่เี รียกกันวาซินตึง๊ ถูกเพงเล็ง หาวาเปน สายลับของจีนคณะชาติท่ถ ี ูกสงเขามากอกวนหรือสอด แนมความเคลื่อนไหวของญี่ปุนในเมืองไทย... ปูถูกจับถูกสอบสวน หลายครั้ง จนตองหนี ไปอาศัยคนรูจักกันอยูท่อ ี ําเภอดําเนิ นสะดวก ตอนเชาปูจะพายเรือขายกาแฟ ตกบายขาลองเรือกลับก็เก็บ ผักตบชวาหรือชอนแหนไปเลี้ยงหมูเลี้ยงเปด จนมีเงินกอนหนึ่ ง เมื่อสงครามสงบ ปูจึงกลับมากรุงเทพฯอีกครั้ง ตั้งใจจะมาเซง หองแถวเปดรานกาแฟใหญ ๆ แบบรานขายกาแฟหนาโรงหนังเฉลิ มกรุง แตบานเมืองหลังสงครามเปลี่ยนแปลงไปมาก ผูคนอดอยาก ขาดแคลนไมมีปญญาแตงตัวสวย ๆ นั่งรถยนตโก ๆ มากินกาแฟ ไอศกรีมเหมือนสมัยกอน... ปูเลาวา ตอนนั้นแมแตกาแฟผงก็ยัง ขาดตลาด คนที่สมองใสเลยเก็บเอาเม็ดมะขามมาคั่วบดขายแทน กาแฟ ปูตองเลิกลมความคิดที่จะเปดรานกาแฟหรู ๆ แตกลับได ความคิดในการสั่งกาแฟผง ชาฝรั่ง และนมกระปองจากเมืองนอก เขามาขาย...ปูเลาวา เมื่อหาที่อยูของบริษท ั ฝรั่งไดแลว ก็ตองไปหา คนจีนที่พอรูภาษาไทยใหชวยรางจดหมายสั่งสินคาเปนภาษาไทย ขึน ้ กอน เสร็จแลวจึงไหววานใหลูกผูดีคนไทยที่เคยไปเรียนหนังสือ ที่อังกฤษหรืออเมริกาแปลเปนภาษาอังกฤษอีกทีหนึ่ ง... ปูใชคําวา “ไหววาน” เพราะคนไทยสมัยนั้นเปนคนถือตัว ถึงจะยากจนเพียงไร ก็ยังวางทาเปนขุนนางนั่งเกี้ยว ไมยอมลดตัวลงมาเปนลูกจางคนจีน เวลาปูเอาจดหมายไปใหแปลก็ตองพินอบพิเทาไหวแลวไหวอีก เวลาจะใหเงินคาแปล ก็ตองเอาใสซองใหมิดชิดแอบ ๆ สงให สมัยสงครามเลิกใหม ๆ การขนสงสินคาโดยทางเรือเปนเรื่อง ยุงยากวุนวายและลาชามาก ปูตองเสียเวลาหลายเดือนไปกับการ รอคอยของ ยิ่งมีขาววาเรือสินคาที่แลนผานเกาะสิงคโปรชนทุน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ระเบิดญี่ปุนที่ตกคางอยูจมหายไปหลายลํา ปูก็ย่ง ิ ใจไมดี เพราะลง เงินไปมากกับการสั่งสินคา ทั้งมีลูกคาที่ไปติดตอไวท้ง ั ในกรุงเทพฯ และตางจังหวัด สั่งของมาเปนบัญชีหางวาว หลังจากเกาเดือนผานไป สินคาที่ปูส่ง ั จากเมืองนอกก็มาถึงใน สภาพที่ชํารุดเสียหายเกือบครึ่งหนึ่ ง จํานวนที่เหลืออยูก็ไมเพียงพอ ที่จะสงใหลูกคาไดทุกเจา ปูจึงใชวิธีสงของในกรุงเทพฯ จนครบกอน พรอม ๆ กับวิ่งเตนกูยืมเงินธนาคารที่เปนตัวแทนสงเงินปูไปซื้อ สินคาเมืองนอกมากวาน ซื้อของของตัวเองจากรานในกรุงเทพฯ สง ไปใหลูกคาตางจังหวัด
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
กิจการสั่งสินคาเขามาขายของปูขาดทุนยอยยับ แตปูถือคติวา ขาวของเงินทองเมื่อหมดไป หากยังพอมีกําลังอยูก็อาจหาใหมมา ทดแทนได แตช่ อ ื เสียงและความไววางใจ หากสูญสิ้นลงแลวทั้งชาติ นี้ ก็ไมมีทางที่จะสรางขึน ้ มาไดใหม ชวงนั้นเปนชวงที่ปูลําบากมากที่สุด จากคนที่เคยมีเงินมีทอง กลาย เปนคนสิ้นเนื้ อประดาตัว จากคนหนุมที่มีอนาคตอันสดใส กลายเปนคนอับโชคจนหนทาง ปูตองอาศัยนอนตามแผงในตลาด เกา และรีบตื่นตั้งแตตีสาม ตีส่ี ชวยพอคาแมคาขนของลงจากรถ สามลอ มาจัดแผงผัก แผงปลา เสร็จแลวก็เดินเตรอยูแถวถนน เยาวราช รอใครจะมีงานอะไรใหทําไปวัน ๆ
ี โป
อื น ํ าม
ปูตกยากอยูปเต็ม ๆ... แตส่ง ิ เดียวที่ทําใหปูไมเคยสิ้นหวัง หรือ หมด กําลังใจที่จะสูชีวิต ก็คือนิ ทานจีนเรื่องหนึ่ งซึ่งยาทวดชอบเลา ใหปูฟงเสมอ สมัยที่ปูยังเล็ก ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
นิ ทานเรื่องนั้นมีวา ในสมัยราชวงศถัง มีชายหนุมแซหวูคน หนึ่ งมีอาชีพตัดฟนขาย วันหนึ่ งในฤดูหนาวเขาขึน ้ ไปหาฟนบนภูเขา สูง พอดีหิมะตกหนักเลยหาทางกลับลงมาไมได คนแซหวูหลงทาง วนเวียนอยูบนเขาเปนเวลาหลายวันทั้งหนาวเย็นและหิวโหย จน กระทั่งไปพบกับนางปศาจจิ้งจอกตัวหนึ่ งเขา นางปศาจพึงพอใจใน รูปโฉมของคนตัดฟนจึงขอใหเขาอยูกินกับนาง โดยสัญญาวาจะใช อํานาจที่นางมีอยูทําใหเขากลายเปนเศรษฐี ไมตองเที่ยวหาฟนให ลําบากลําบนอีกตอไป คนตัดฟนถามวาขาจะตองใหอะไรนางเปน
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
สิ่งตอบแทน นางปศาจตอบวา เวลาที่เหลืออยูท้ง ั หมดในวัยหนุม ของเจา แตคนตัดฟนไมตกลง นางปศาจจิ้งจอกจึงสัญญาวาถาหาก เขายอมอยูกินกับนาง นางจะใชอํานาจที่มีอยูทําใหเขาเปนคน แข็งแรงที่สุดในโลก สามารถตัดฟนไดเปนพันเทาของที่เคยตัดไดใน วันหนึ่ ง คนตัดฟนถามวา ขาจะตองใหอะไรนางเปนสิ่งตอบแทน นางปศาจตอบวา ดวงตาที่งดงามดวงหนึ่ งของเจา แตคนตัดฟนก็ไม ยอมตกลง นางปศาจโกรธจัดจึงสาปใหเขาหลงทางอยูบนเขาอยาง นี้ เปนเวลารอยป เมื่อครบเวลารอยป นางปศาจจิ้งจอกก็กลับมาหาคนตัดฟนอีก ครั้งและยื่นขอเสนอตาง ๆ เชนเดิม แตคนตัดฟนไมยอมตกลงดวย นางปศาจออนใจจึงถามวา ถาเชนนั้นเจาตองการอะไร คนตัดฟน ตอบวา ขาไมตองการสิ่งใดนอกจากขอใหตัวขาเองมีความอดทนที่ จะเดินหลงทางอยูบนเขาลูกนี้ ไมวาจะอีกกี่รอยปก็ตาม นางปศาจ ตองยอมแพความเขมแข็งอดทนของคนตัดฟน ยอมถอนคําสาปและ พาเขาลงมาสงที่พ้ น ื ลาง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูบอกวา ในโลกนี้ นอกจากพอแมแลวไมมีใครจะใหอะไรเรา เปลา ๆ โดยไมเรียกรองสิ่งตอบแทน และถาเราไมตองการเปนหนี้ บุญคุณใครโดยไมรูจักจบสิ้น เราก็ตองชวยเหลือตัวเองใหมากที่สุด และอดทนใหมากที่สุด เมื่อเวลาหนึ่ งปผานพนไป นางปศาจจิ้งจอกในชีวิตของปูก็ถอน คําสาป... ทางบริษท ั ฝรั่งที่ปูส่ง ั ซื้อสินคาสงเงินมาชดเชยคาเสียหาย และตั้งใหปูเปนตัวแทนจําหน ายในเมืองไทย... ปูเลาวา ปูกําเงินใน กระเปากางเกงแน น รูสึกเหมือนหัวใจโตจนคับอก สิ่งแรกที่ปูทําก็ คือ เดินเขาไปในหอยเทียนเหลาและสั่งอาหารดี ๆ มาเต็มโตะ ตั้งใจ วาจะกินใหสมกับที่อยากมานาน แตเอาเขาจริง ๆ ปูก็กินไมลง ได แตน่ังเอาตะเกียบเขี่ยกับขาวเลน และเปนบทเรียนใหปูรูวาคนเรา ไมควรจะโลภจนเกินกําลัง
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ปูเปนตัวแทนจําหนายกาแฟผง ชาฝรัง่ นมกระปอง และสินคาอื่น ๆ อยูหลายป จนกระทั่งสินคามีราคาสูงขึน ้ ตามคา แรงในเมืองนอกทําใหของขายยากขึน ้ กําไรลดลง รวมทั้งตองตอสู แขงขันกับบริษท ั อื่น ๆ ที่ส่ง ั สินคาประเภทเดียวกันเขามาขาย ปูจึง บอกเลิกการเปนตัวแทนของบริษท ั ฝรั่ง และคิดที่จะลงทุนทําสินคา ขึน ้ เองในเมืองไทย แตการทํากาแฟผงหรือนมกระปองมีปญหา มากมาย เนื่ องจากยังคงตองสั่งกาแฟหรือนมเขามาจากเมืองนอก อยูดี “ชวงนั้นมีคนเริ่มตั้งโรงงานทอผา โดยรวมทุนกับญี่ปุนหรือ ไตหวัน ใหพวกนั้นลงทุนดานเครื่องจักรและเอานายชางเขามาฝก คนงาน สวนเราลงทุนดานที่ดินกับการปลูกสรางโรงงาน” ปูจะเริ่มตนดวยนํ้าเสียงแจมใสเมื่อมีคนขอใหเลาถึงเหตุการณ ตอนนั้นใหฟง
รด อ
าให ้อ่า
“พูดจริง ๆ แลว การรวมลงทุนก็เปนการชิงไหวชิงพริบกันดี ๆ นี่ เอง ทางนั้นก็หาทางระบายเครื่องจักรเกากับใชโควตาประเทศ ไทยสงผา เขาไปขายในยุโรปและอเมริกา สวนทางเราก็แกลงโกง ราคาที่ดินกับคากอสรางโรงงานเสียสูงลิ่ว... ตางคนตางหาทาง ลงทุนเปนตัวเงินสดแตนอ ย ๆ” ปูจิบนํ้าชาชา ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
“แตญ่ป ี ุนหรือไตหวันก็แพเราราบคาบ...” ปูชอบใชคําแทน ตัวเองวา “เรา” กับทุก ๆ คน “...เพราะพวกนั้นอยางเกงก็ไดกําไร เปนตัวเงินแตเราไดกําไรเปนตัวคน” พอปูเลาถึงตอนนี้ คนที่ไมเคยรูเรื่องเดิมมากอนก็อาจจะงง ๆ แตพวกลูก ๆ หลาน ๆ หรือคนที่พอรูเรื่องมาบางก็จะพากันนั่งอมยิ้ม เงียบ ๆ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
2.
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เมื่อปูตกลงใจทีจ ่ ะรวมลงทุนตัง ้ โรงงานทอผากับชาว ไตหวัน ก็เที่ยวมองหาที่ดินที่จะสรางโรงงานอยูหลายแหง ในที่สุด ก็ไปถูกใจที่แปลงหนึ่ งแถวตรอกจันทน ซึ่งตอนนั้นยังเปนสวนผัก และเจาของจะขายใหในราคาไมแพงนัก แตปญหาอยูตรงปูถือใบ ตางดาว ไมมีสิทธิซ ์ ้อ ื ที่ดินได...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
คนที่มาแกปญหานี้ ของปูลงไดก็คือยาเนี ยมของฉัน... ยาเนี ยม เปนลูกคนจีนเกิดในเมืองไทย ตาทวดมีรานขายเครื่องบวชนาคอยูท่ี ถนนบํารุงเมือง รูสึกวาพอจะเคยชี้ใหดูสักครั้งหรือสองครั้งตอนที่ฉน ั ยังเล็ก ๆ จําไดแตเพียงวาเปนตึกแถวเตี้ย ๆ ทึม ๆ ขางในนั้นมีพระ พุทธรูปองคโต ๆ ดูนากลัว ตูกระจกหนารานมีพวกขาวของเครื่องใช ของพระวางเต็มไปหมด... ตาทวดยายทวดตายตั้งแตกอนฉันเกิด และรานนั้นก็มีคนเซงตอไปนานแลว เมื่อปูซ้ อ ื ที่ในชื่อของตัวเองไมไดก็มีคนแนะนําใหใชช่ อ ื คนอื่นซื้อ แทน แตปูคิดไกลไปกวานั้นวาถาเปนคนอื่นที่ไมมีอะไรผูกพันกัน อีกหน อยก็อาจจะคิดคดโกงกันได และปูก็คงตองสูญที่ดินไปเปลา ๆ... วิธีท่จ ี ะสรางความผูกพันอยางแน นแฟนที่สุดของปูก็คือ หา ผูหญิงไทยหรือผูหญิงจีนเกิดในเมืองไทยสักคนมาแตงงานดวย ซึ่ง พอปูเปดเผยความคิดนี้ ออกไปก็มีใครตอใครแนะนํา “เจาสาวใน อนาคต” ใหปูมากมาย... ฉันเคยสงสัยวาทําไม เขาถึงเรียกสิ่งที่จะ เกิดขึน ้ ในภายหนาวา “อนาคต” และพี่นภิศพี่สาวคนเดียวของฉันก็
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตอบแบบยวน ๆ วา เพราะสิ่งที่จะเกิดขึน ้ ในอนาคตมันมักจะคด ๆ งอ ๆ ไมตรงเพียะอยางที่เราคาดหวังเอาไวนะซิ... เมื่อมองดู เรื่องราวของพวกญาติพ่น ี อ งแลว ฉันก็วาบางทีพ่น ี ภิศอาจจะพูดถูกก็ ได แมจะมีวาที่เจาสาวมาใหเลือกหลายราย แตปูก็ตัดสินใจเลือก ยาเนี ยมเปนเจาสาวตัวจริง... ปูแตงงานกับยาเนี ยมเมื่อปูอายุไดย่ี สิบเกาหลังจากมาอยูเมืองไทยไดสิบป และตอนนั้นยาเนี ยมอายุสิบ แปดเพิ่งเรียนจบม. 8 ออกมาอยูบานไดปเดียว... ปูเลาวา ที่ปูเลือก ยาเนี ยมก็เพราะยาเปนคนเดียวที่ไมไดตองการแตงงานกับปู
อน ํ าม าให ้อ่า
ยาเนี ยมเลาวา ไมเคยนึ กมากอนวาชาติน้ี จะตองมาแตงงานอยู กินกับคนซินตึง๊ ที่แกกวากันเกือบรอบ ใจจริงยาเนี ยมยังอยากจะ เรียนตอในมหาวิทยาลัยอยางเพื่อน ๆ รุนเดียวกัน
นฟ รี โ ปร ดอ
และที่สําคัญไปกวานั้นก็คือ ยาเองก็มีคนรักอยูแลว แตท่จ ี ําใจ ตองเลิกราจากคนรักเกามาแตงงานกับปูก็เพราะไมกลาที่จะขัดใจ ตาทวดยายทวด ถึงตรงนี้ คงจะรูกันแลววา
คน
อะไรคือสิ่งที่ปูวาปูไดกําไรเปนตัว
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูซ้ อ ื ที่ดินที่ตรอกจันทนในชื่อของยา และลงมือกอสราง โรงงานในตนปน้ัน... “นัฐกิจการทอ” เริ่มผลิตผาดิบในปถัดมา พรอม ๆ กับที่ยาเนี ยมคลอดลุงนัฐ ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังเปนเรื่อง เยาแหยกันในหมูพ่ี ๆ นอง ๆ วา โรงงานทอผานั้นออกเสียงวา “นัฐกิจการทอ” หรือ “นัฐกิจ-การทอ” ...แตท่แ ี น ๆ ก็คือ ทุกครั้งลุงนัฐ ตองยืนยันอยางหัวชนฝาวา “นัฐ-กิจการทอ” ซิวะ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ปูไมชอบใหลูกหลานมีช่ อ ื เลนอยางคนไทยทั่วไป ปูบอกวาคน เราเกิดมาครั้งหนึ่ งมีช่ อ ื เดียวก็พอแลว ทําไมจะตองมีช่ อ ื เลนชื่อจริง ใหมันมากมายไปเปลา ๆ หนําซํ้าบางคนชื่อจริงตั้งเอาไวมี ความหมายดี ๆ แตกลับเอาชื่อสัตวนานาชนิ ดตั้งแต เสือ ชาง กวาง หมี ไปจนถึงหมู แมว กบ กุง มาเรียกเปนชื่อเลน ฟงแลวไมนาจะ เปนมงคลเลย... ใชแตเทานั้น แมแตช่ อ ื ของปูเองก็ไมยอมเปลี่ยนให เปนไทย ๆ ตามอยางคนอื่นปูวา...
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“ชื่อนี้ พอแมอีต้ง ั มาแตเราเกิด ถาชื่อมันไมดีจริงเราก็คงเจงไป นานแลว... ชื่อคนมันก็เหมือนกับยี่หอสินคา สินคาจะยี่หออะไรไม สําคัญเทาคุณภาพ ถาของดีจริงเสียอยาง ตอใหย่ห ี อไมเขาทาไมชา มันก็ติดตลาดไปเอง” ดังนั้นลุงทั้งสามคน พอ อานุช อานนท และอานันทนาจนถึง ลูก ๆ ของ “ยาเล็ก” ตลอดจนชั้นหลาน ๆ จึงไมมีช่ อ ื เลนเลยสักคน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พอเกิดวันที่ 29 พฤศจิกายน 2494 ...ทีป ่ ูจําวันเกิดพอ ไดแมนยํากวาวันเกิดลูกคนอื่น เพราะวันนั้นเปนวันที่คณะทหารทํา การปฏิวัติ แมชีวิตของปูในเมืองไทยจะพบการปฏิวัติครั้งนั้นเปนหน ที่สอง แตปูเลาวา ความรูสึกของปูตอการปฏิวัติพ.ศ. 2494 แตกตาง จากเมื่อตอนที่มีการปฏิวัติเมื่อ พ.ศ. 2490 อยางมากมาย เพราะ ตอน พ.ศ. 2490 นั้น เปนชวงเวลาที่ปูตกตํ่ าถึงขนาดหมดเนื้ อหมด ตัว ตองอาศัยนอนแผงขายของในตลาดเกา ปูวาการปฏิวัติคราว แรกไมวาใครจะสูญเสียหรือขึน ้ มามีอํานาจในบานเมืองก็ไมมีผล กระทบอะไรตอปูแมแตนอ ย แตสําหรับคราวหลังนี้ ปูตองคอยสดับ ตรับฟงขาวคราวตาง ๆ ตลอดเวลา เพราะฐานะของปูผิดไปไกลจาก เมื่อสี่ปท่แ ี ลว การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแมเพียงเล็กนอย ก็ อาจกอใหเกิดความเสียหายแกธุรกิจการคาที่มีมูลคามหาศาลอยาง คาดไมถึง พอเลาวา... เพราะมัวแตกังวลเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางการ เมือง มากเกินไป จึงทําใหปูเอาตัวเขาไปพัวพันกับนักการเมือง หรือ ผูมีอํานาจวาสนาในบานเมืองจนเปนผลเสียกับตัวเองอยูหลายครั้ง อานุชเกิดหลังพอสองป และในปท่อ ี านุชเกิดนั่นเอง ยาเหมยห ลิงลุงคนที่หนึ่ ง และลุงคนที่สองก็เดินทางมาเมืองไทย... ยาเนี ยม เลาวาตอนนั้นลุงคนที่หนึ่ งหรือลุงเทียนมีอายุไดสิบเจ็ดป และลุงคน ที่สองหรือลุงแอนดี้มีอายุไดสิบหกป และตึกใหญท่เี ราอยูกันเวลานี้ ก็สรางเสร็จในปเดียวกันนั้น
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ยาเนี ยมเลาวา เมื่อปูว่ง ิ เตนหาทางใหยาเหมยหลิงกับลูกชาย ออกมาจากแผนดินใหญต้ง ั แตตอนที่ปูเปนตัวแทนจําหน ายสินคา ฝรั่ง แตเพิ่งจะมาสําเร็จเอาในเวลาอีกหาหกปตอมา... ลุงเทียนและ ลุงแอนดี้เปนคนหนาตาดี ผิวขาวสะอาด รูปรางสูงใหญ แมตอนมา ถึงเมืองไทยใหม ๆ จะพูดภาษาไทยไมไดสักคํา แตก็มีสาว ๆ ทั้งไทย ทั้งจีนติดกันกรอ แตท้ง ั สองคนอยูเมืองไทยไดไมก่เี ดือน ปูก็สงใหไป เรียนตอดานการคาที่ฮองกง ปูเคยปรารภเลน ๆ วา ระหวางลูกชายใหญสองคนนั้น หาก เปรียบเทียบดานสติปญญาหรือความรูความสามารถแลวก็พอ ๆ กัน แตคนที่หนึ่ ง เหมือนจูกัดกิน ๋ คือรอบรูแมนยําทางตํารับตํารา และทฤษฎี สวนคนที่สอง เหมือนจูกัดเหลียง คือเกงดานปฏิภาณ ไหวพริบ โดยเฉพาะในเรื่องที่อยูนอกตําราตาง ๆ
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ลุงเทียนไปเรียนหนังสือที่ฮองกงไดพักเดียว ก็มีเรื่องชูสาวกับ นักเรียนหญิงลูกครึ่งจีน-ไทยที่เรียนอยูโรงเรียนเดียวกัน จนฝาย หญิงมีเด็ก... ปูโกรธมากถึงขั้นจะตัดเปนตัดตาย ไมยอมสงเงินไปให ใช แตยาเหมยหลิงและยาเนี ยมชวยกันปลอบโยนจนปูใจออน แตก็ มีขอแมใหลุงเทียนเรียนหนังสือใหจบกอนจึงจะอนุญาตใหแตงงาน และเดินทางกลับบานได ในระหวางที่อยูฮองกงใหลุงแอนดี้เปนคน ควบคุมดูแลดานเงินทองของลุงเทียน และใหสงหลานมาเมืองไทย ทันทีท่ค ี ลอด ยาเนี ยมเปนคนเลี้ยงดูพ่ร ี ะวี ลูกชายคนโตของลุงเทียนมา ตั้งแตพ่ร ี ะวียังแบเบาะ และเมื่อยามีอานนทในปตอมา ก็เลยเลี้ยงทั้ง หลานและลูกซึ่งมีอายุหางกันเพียงหนึ่ งปอยางกับลูกแฝด... พี่ระวี ติดยาเนี ยมมากจนกระทั่งเวลานี้ ก็ยังเรียกยาเนี ยมวา “แม” และ เรียกลุงเทียนกับปาทรงศรี ซึ่งเปนพอแมแท ๆ วา “เสี่ยใหญ” กับ “นาย”
งส อื
นํา ม
ปเดียวกับที่อานนทเกิดนั้นเอง ลุงเทียนกับปาทรงศรีก็มีลูกคน ที่สองคือพี่ดวงดาว แตปดขาวไมใหทางเมืองไทยทราบเรื่อง... ปา ทรงศรีตองลาออกจากโรงเรียนในตอนนั้น และไดงานทําเปนคน ขายของหนารานเล็ก ๆ ที่เกาลูน สวนลุงเทียนก็ว่ง ิ รอกทํางานสอง
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แหงตอนกลางคืน แมวาลุงเทียนจะลําบากมาก แตก็ไมเคยออก ปากขอความชวยเหลือจากลุงแอนดี้ ซึ่งเปนญาติคนเดียวที่มีอยูใน ฮองกงแมแตนอ ย และถึงลุงเทียนจะเอยปาก ลุงแอนดี้ก็คงไมสามารถชวยเหลือ อะไรได เพราะปูสงเงินใหท้ง ั สองคนใชอยางจํากัด และที่สําคัญไป กวานั้นก็คือตอนนั้นลุงแอนดี้เองก็มีความจําเปนตองใชเงินอยู เหมือนกัน เพราะกําลังติดพันปาเปกกี้ ลูกสาวคนเดียวของมหา เศรษฐีฮองกงอยู
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ลุงเทียนตรากตรําทํางานและเรียนหนังสือโดยไมมี เวลาพักผอนเพียงพอจนลมเจ็บลง ปูตัดสินใจเรียกลุงเทียนกลับ เพราะเห็นวารางกายและจิตใจของลุงเทียนไมพรอมที่จะเรียนตอ ประกอบกับปูกําลังจะเปดโรงงานทอผาเทโตรอนแหงใหมท่พ ี ระประ แดง จึงตองการคนที่จะมาชวยดูแลโรงงานนี้ ลุงเทียนกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง หลังจากที่ไปอยูฮองกงมา สองปแตเปนการกลับมาอยางเงียบ ๆ ปูเพียงแตสงรถไปรับที่ สนามบิน... ไมมีงานเลี้ยงตอนรับ ไมมีใครแสดงความตื่นเตนดีอก ดีใจ เหตุการณในตึกใหญดําเนิ นไปเชนปกติ ไมมีอะไรที่พิเศษแตก ตางไปจากวันอื่น ๆ ปูกับยาเหมยหลิงตอนรับลูกสะใภใหญอยางเย็นชา และไมได พูดถึงเรื่องการจัดการแตงงานใหลุงเทียนกับปาทรงศรีแตอยางใด ทั้งสิ้น มีคนเลาใหฉน ั ฟงวาระยะแรก ๆ นั้น ปาทรงศรีมีชีวิตอยู เหมือนนางถํ้า ไดแตเลี้ยงลูกสาวคือพี่ดวงดาวอยูในหองพักทั้งวัน ไมกลาโผลหนาออกไปใหพอผัวแมผัวเห็น นาน ๆ ยาเหมยหลิงจะ ใหคนมาอุมพี่ดวงดาวไปใหดูสักครั้ง และวันนั้นเมื่อลุงเทียนกลับมา จากที่ทํางานก็จะถูกยาเหมยหลิงเรียกตัวไปดุดาเรื่องการเลี้ยงลูก ของปาทรงศรี ยาเหมยหลิงหาวาปาทรงศรีเลี้ยงลูกไมเปน ปลอยปละละเลยไมดูแลเอาใจใส มิไยที่ลุงเทียนจะเพียรชี้แจงวา ลุง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เทียนกับปาทรงศรีเลี้ยงพี่ดวงดาวแบบสมัยใหม ปลอยใหเด็กชวย ตัวเอง ไดออกกําลังและทําอะไรอยางอิสระ ไมตองมาคอยอุมกัน ตลอดเวลาแบบสมัยกอน คนที่ทําหนาที่เดินสารระหวางปาทรงศรีกับโลกภายนอกใน ตอนนั้นก็คือพี่ระวีกับอานนท ซึ่งพอพี่เลี้ยงอุมไปวางตรงระเบียงก็จะ เดินเตาะแตะ ไปตบประตูหองปาทรงศรี บางครั้งก็มีขนมหรือ ขาวของอื่น ๆ กระจุกกระจิก ที่ยาเนี ยมฝากไปใหถือกระตุงกระติ้ง ไปดวย หรือถาปาทรงศรีตองการอะไรเปนพิเศษก็จะเขียนหนังสือ หรือฝากเงินมากับพี่ระวีหรืออานนทไปใหคนใชจัดหาให
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
แมวาตอนหลังปูจะคอยคลายความขึง ้ เคียดปาทรงศรีลงมาก แตยาเหมยหลิงก็ยังคงโกรธแคนลูกสะใภใหญอยูไมหาย เพราะถือ วาปาทรงศรีเปนคนทําลายอนาคตของลุงเทียน ทําใหกิจการคา หลายอยางของปูมาตกอยูกับพวกลูก ๆ ยาเนี ยม แทนที่จะเปนของ ลุงเทียนกับลุงแอนดี้ท่เี ปนลูกชายคนโตของตระกูล
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ลุงแอนดี้กลับมาเมืองไทยหลังครอบครัวของลุงเทียน หนึ่งป พรอมดวยประกาศนี ยบัตรเกียรตินิยมของโรงเรียนการคา ในฮองกง ที่บานเราตอนรับลุงแอนดี้อยางใหญโต ปูเชิญเพื่อนฝูงไป กินเลี้ยงตามภัตตาคารตาง ๆ หลายครั้ง เพื่อเปนการแนะนําลุงแอ นดี้ใหเพื่อน ๆ ของปูไดรูจักพรอมกับแตงตั้งใหลุงแอนดี้เปนผูชวย ผูจัดการโรงงานนัฐกิจการทอ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ยาเนี ยมเลาวา ตอนนั้นพวกพอสื่อแมชักเทียวเขาเทียวออก บานเราไมขาดสาย แตก็ตองผิดหวังกลับไปหมด เพราะหลังจาก เดินทางกลับมาไดเพียงสิบวัน ลุงแอนดี้ก็รบเราใหปูบินไปขอปา เปกกี้ท่ฮ ี องกง นั่นเปนการเดินทางออกจากเมืองไทยครั้งแรกในชีวิตของปู นับตั้งแตเหยียบยางเขามาเมื่อสิบเกาปท่แ ี ลว ...และใครจะคาดคิดวาอีกเพียงหนึ่ งปตอมา ปูจะตองเดินทาง
นฟ ร
้อ่า
าให
นํา ม
งส อื
รด อ
ี โป
นฟ รี โ ปร ดอ
าให ้อ่า
อื น ํ าม
หน ั งส
ย
นํา ไป
ี โป รด อย ่า
ย่า นํา ไป ขา
นฟ ร
อน ํ าม าให ้อ่า
ขา ย
ออกจากเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ ง และครั้งนี้ จากไปนานถึงหาหกป
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
3.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ตึกใหญทพ ี่ วกเราอาศัยอยูขณะนี้สรางมาตัง ้ แต พ.ศ. 2496 เมื่อปูอายุไดสามสิบสามป เปนปเดียวกับที่ยาเนี ยมมีอานุช และยาเหมยหลิงพาลุงเทียนกับลุงแอนดี้มาจากเมืองจีน ตึกหลังนี้ สูงสามชั้น แตละชั้นดานหนามีระเบียงยาวตลอด โครงสรางตัวตึกเทอะทะ ผนังดานนอกมีหินกอนโต ๆ แปะเปนแหง ๆ ซึ่งยาเนี ยมบอกชวนใหนึกถึงนิ ทานอาหรับราตรีท่ผ ี ัวเมียเข็ญใจคู หนึ่ งไดพรวิเศษใหขออะไรไดคนละอยาง อารามที่สวมรองเทาเกา ๆ ขาด ๆ มานานตาผัวก็อธิษฐานขอรองเทาคูใหม ยายเมียไดยินเขาก็ โกรธจัดดาตาผัววาไมมีความคิดและขอใหรองเทาลอยขึน ้ ไปแปะ บนหนาตาผัวหนาโงเสียเลย... แตส่ง ิ ที่พวกเราหลายคนลง ความเห็นวาน าเกลียดกวากอนรองเทาของยาเนี ยมก็คือ แปบนํ้า ขนาดใหญท่ท ี ําเปนเสาลําลองหนาประตูตึกชั้นลาง ไอแปบพวกนี้ บางครั้งก็ทาสีแดงแปรด บางครั้งก็ทาสีเขียวอื๋อ แตสวนมากแลว มักจะมีสีซีด ๆ ลอน ๆ ...เราไมรูวาใครเปนคนออกแบบตึกหลังนี้ แตพ่น ี ภิศก็ยืนยันวา มันเปนผลงานชิ้นโบแดงดานสถาปตยกรรม ผสมโศกนาฏกรรมรวมสมัยทีเดียว เมื่อแรกนั้น ตึกหลังนี้ อยูในเนื้ อที่เดียวกับโรงงานทอผา แต เมื่อปูยายโรงงานไปรวมกันไวท่พ ี ระประแดง บริเวณหนาตึกก็เลย กลายเปนลานโลง ๆ อาศัยเปนที่จอดรถของลูก ๆ หลาน ๆ บาง รถ บริษท ั หรือรถโรงงานที่เสีย ๆ บาง... ยาเนี ยมเลาวา บางทีก็มีใครไม
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
รูลากซากรถเกา ๆ เขามาทิ้งตรงลานนั้นดวย อาจจะคิดวาบานเรา เปนเชียงกงหรือปาชารถยนตก็ได แตตอนหลังอานงพงาเปนตัวตั้ง ตัวตีทําลานจอดรถเปน สนามเทนนิ สขนาดสี่คอรด พอเลิกงานตอน เย็น ๆ พวกพนักงานที่บริษท ั ก็จะแวะมาเลนเทนนิ สกันเปนที่ สนุกสนาน แตคนที่ไมสนุกดวยเห็นจะเปนอานิ รันดร สามีของอาน งพงาที่น่ังหนาตาบึง ้ ตึงอยูในหองคนเดียว ตึกสามชั้นของเรานั้น ถามองดูจากภายนอกก็เหมือนกับปอม ปราการอันแข็งแกรงแน นหนาของตระกูลสือพาณิชย และศูนย บัญชาการของบริษท ั ตาง ๆ ในเครือ “นัฐกิจโกศล” แตหากใครก็ ตามที่มีโอกาสไดเขามาสัมผัสอยางใกลชิดก็จะรูดีวา แทจริงตึกหลัง นี้ คือสมรภูมิแหงการตอตีอันดุเดือด และยอกยอนไปดวยพิชัยยุทธ อันลึกลํ้า
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ลุงแอนดี้แตงงานกับปาเปกกี้ทฮ ี่ องกงหลังจากวันหมัน ้ เพียงไมก่เี ดือน เผอิญตอนนั้นปูไมสบายตองนอนโรงพยาบาลอยู หลายอาทิตย ทั้ง ๆ ที่ทางโนนตระเตรียมงานทุกอยางเอาไว เรียบรอยแลว ยาเหมยหลิงกับลุงเทียนเลยตองทําหนาที่ผูใหญฝาย ชายแทนปู พอเลาวา งานแตงงานใหญโตมโหฬารมาก หนังสือพิมพท้ง ั ที่ฮองกงและเมืองไทยลงรูปและขาวกันเกรียว กราว... พอบอกวาปาเปกกี้สมัยสาว ๆ สวยเหมือนดาราหนังจีนที่ ชื่อ ไอวี่ หลินปอ ปาเปกกี้แตงตัวนําสมัย ชอบนุงกระโปรงบาน สวม เสื้อ ไหลล้ า ํ สวมถุงมือผาลูกไมบาง ๆ สีขาวยาวถึงขอศอก เวลาที่ ออกไปซื้อของแถวสะพานหันหรือตลาดเกาแตละที พวกพอคา แมคาจะตามดูกันเปนพรวน ปาเปกกี้เปนลูกคนเดียวของพอแม แมของปาเปกกี้ตายตั้งแต ตอนที่ปาเปกกี้ยังเล็ก ๆ พอเปนเจาของกิจการเดินเรือทะเล มีเรือ ขนสงสินคาหลายลํา เมื่อตอนที่ลุงแอนดี้แตงงานใหม ๆ พอของปา เปกกี้ตองการจะใหลุงแอนดี้มาดูแลกิจการการเดินเรือที่ฮองกง แต ปูไมยอมเลยทําใหปูกับพอของปาเปกกี้มึนตึงกันจนกระทั่งตายจาก
ขา ย
กัน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
พอของปาเปกกี้เปนเพื่อนสนิ ทกับเซอรรัน รัน ชอว ที่สราง หนังกําลังภายใน และเพราะเหตุน้ี หรือเปลาก็ไมรูท่ท ี ําใหพอของปา เปกกี้มีเมียนอยเปนดาราหนังฮองกงหลายคน... คนสุดทายมีฉายา วา “แมผีเสื้อนอย” อายุนอ ยกวาพอของปาเปกกี้เกือบยี่สิบป แม ผีเสื้อนอยเปนคนเจาอารมณ และกอเรื่องวุนวายใหกับพอของปา เปกกี้จนเปนขาวอื้อฉาวหลายครั้ง เมื่อพอของปาเปกกี้ตาย แม ผีเสื้อนอยหวังวาตนจะไดรับมรดกอะไรบาง แตปาเปกกี้ไมยอมแบง ใหแมแตสตางคแดงเดียว ก็เลยเปนเรื่องทะเลาะเบาะแวงถึงขั้นขึน ้ โรงขึน ้ ศาล... ปาเปกกี้ตองเทียวไปเทียวมาระหวางเมืองไทยกับ ฮองกงอยูพักใหญ แมจะเปนฝายชนะคดีความ แตก็ตองกลับมาแก ปญหาเรื่องลุงแอนดี้กับเลขานุการสาวตอ สวนแมผีเสื้อนอยนั้น ไดยินวากลับไปแสดงหนังใหมสองสามเรื่อง แตก็ไมประสบความ สําเร็จ ตอนหลังก็เลยหายเงียบไป ลุงแอนดี้กับปาเปกกี้มีลูกดวยกันคนเดียว คือพี่ชาญชัย ซึ่งวา กันวา ถอดเอาความหลอความงามมาจากพอกับแม และสติปญญา มาจากปูกับตา แตก็อาจจะมีอะไรบางอยางที่ไดมาจากใครสักคนที่ เราไมไดคิดถึงกัน และสิ่งนั้นตางหากที่มีอิทธิพลตอจิตใจของพี่ชาญ ชัยอยางมาก และทําใหชีวิตที่ควรจะโรยดวยกลีบกุหลาบนั้น ผันแปรไปอยางคาดไมถึง ยาเหมยหลิงเคยชื่นชมปาเปกกี้อยางมาก และหวังจะใหลุงแอ นดี้กับปาเปกกี้มีลูกดวยกันแยะ ๆ แตเมื่อปาเปกกี้บังคับใหลุงแอนดี้ ไปทําหมัน หลังจากที่มีพ่ช ี าญชัยเพียงคนเดียว เพราะเกรงวาการมี ลูกหลายคนจะทําใหรางกายทรุดโทรมไมคงความสวยสดงดงามไว ไดนาน ๆ ยาเหมยหลิงก็เกลียดลูกสะใภเล็กยิ่งเสียกวาเคยชิงชังลูก สะใภใหญ จากที่เคยดาทอปาทรงศรีวาเปนคนทําลายอนาคตของลุง เทียน ยาเหมยหลิงก็หันมาดาวาปาเปกกี้วาเปนคนเห็นแกตัว และ ทําลายลางวงศสกุลแกจนยอยยับ
ขา ย นํา ไป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
เมื่อมีใครขอใหเลาถึงจุดเริม ่ ตนความเปนมาของ อาณาจักรธุรกิจ “นัฐกิจโกศล” ใหฟง ปูจะเริ่มตนดวยนํ้าเสียงเนิ บ ๆ สีหนาสงบนิ่ งราวไม ยินดียินรายตอความสําเร็จอันน าชื่นชม... มี ก็แตดวงตาที่เริ่มฝามัวคูน้ันเทานั้นที่พลันทอประกายสุกใสเหมือน ดาวเหนื อซึ่งเจิดจรัสอยูบนทองฟา “เราเริ่มตนจากโรงงานทอผาดิบ... ที่เลือกทําผาดิบกอน ก็ เพราะตอนนั้นพวกญี่ปุน ไตหวัน หันไปทําผาใยสังเคราะหกันแลว มันก็ตองการโละเครื่องจักรสมัยสงคราม เพื่อเอาที่ไปตั้งเครื่องจักร ใหม ๆ ผลิตพวกโพลีเอสเตอรท่ข ี ายไดกําไรดีกวา... พูดไปแลว ไอท่ี วามันเอาเครื่องจักรมารวมลงทุนกับเรา ก็คือมันเอาเครื่องจักรที่มัน ไมใชแลวมาทิ้งที่เมืองไทย... แตเรามาคิดดูวาไอเครื่องจักรเกา ๆ พวกนี้ เครื่องยนตกลไกมันไมสูสลับซับซอนนัก การดูแลรักษาก็ทํา ไดงายและพอจะหัดคนขึน ้ มาคุมเครื่องได... ดานวัตถุดิบที่เปน ปญหาของญี่ปุน ไตหวัน เพราะมันปลูกฝายเองไมไดเราก็ไมตอง กังวล ในเมื่อเมืองไทยมีฝายพอปอนโรงงานตลอดทั้งป แมวาตอน นั้นเศรษฐกิจเมืองไทยจะยังไมสูดี ผูคนไมคอยมีสตางค แตสินคา ประเภทนี้ เมื่อผลิตออกมาแลว ก็อยูในราคาที่คนทั่วไปพอจะซื้อหา กันได”
ี โป
ปูหัวเราะหึ ๆ อยางอารมณดี
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
“ที่สําคัญก็คือ คนไทยใชผาดิบกันตั้งแตทําผาออมจนถึงหอศพ เรียกวาเราสามารถขายของของเราไดต้ง ั แตคนเกิดยันคนตาย” ยาเนี ยมเคยเลาใหฉน ั ฟงวา โรงงานแหงแรกของ “นัฐกิจการ ทอ” ที่ตรอกจันทน เปนโรงยาว ๆ ปลูกสรางอยางงาย ๆ ขนานไป กับแนวถนนพื้นเทซีเมนตหยาบ ๆ ฝาตีดวยแผนเซลโลกรีต หลังคา มุงสังกะสี เวลากลางวันในโรงงานจะทั้งรอนและอบอาว แตถาวัน ไหนฝนตกก็ตองสาละวนหาผาใบมาขึงกันนํ้าฝนที่ร่ว ั ลงมาจาก หลังคาไมใหหยดใสเครื่องจักร ปูจะตื่นแตเชามืดทุกวัน สวมกางเกงหูรูดขาสั้นสีน้ ําเงินลาย
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ทางเสื้อยืดคอกลมสีขาวมอ ๆ เดินลากเกีย ๊ ะโกรกกรากดูความ เรียบรอยของโรงงาน... ปูทํางานจิปาถะทุกอยางในโรงงานตั้งแต เช็คเครื่องจักร คุมสต็อก จนถึงวิ่งเตนขายผา สวนยาเนี ยม รับผิดชอบดานบัญชีกับมีหนาที่สําคัญอีกอยางคือ หุงขาวกระทะ ใหญและทําอาหารเลี้ยงคนงานวันละสองมื้อ แตถาวันไหนที่งานเรง ทํากันจนดึกจนดื่น ยาเนี ยมก็มีภาระตองหุงขาวตมอีกรอบ “องคประกอบสําคัญที่ทําใหกิจการของเรากาวหนามาจนถึง ทุกวันนี้ ก็คือคน...” ปูเลาดวยนํ้าเสียงเรียบ ๆ “...เครื่องจักรก็คงเปน เพียงแคแทงเหล็ก ถาไมมีคนงานคอยเดินเครื่อง คอยหยอดนํ้ามัน หรือปดสวิตช... เราถึงไดเลี้ยงดูคนงานของเราเหมือนคนใน ครอบครัว รูทุกข รูสุขของเขา ใหโอกาสเขาเจริญกาวหนา สนับสนุนใหตางคนตางแขงขันกันทํางาน”
นฟ รี โ ปร ดอ
ปูเชื่อวาการแขงขันกันทํางานเปนวิธีสรางคน และสรางความ เจริญใหแกบริษท ั และปูใชความเชื่อนี้ โดยไมเวนแมแตกับลูกหลาน
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“นัฐกิจการทอ” ถือกําเนิดและเติบโตขึ้นมาพรอม ๆ กับ อายุของลุงนัฐ เปนเหตุทําใหคนทั่วไปคิดวายาเนี ยมมีแผนจะฮุบ โรงงานทอผาใหตกอยูกับลูก ๆ สายนี้ จึงหาทางใหปูเอาชื่อลูกชาย คนโตของยามาตั้งเปนชื่อโรงงาน
หน ั งส
นฟ ร
เมื่อไดยินเรื่องทํานองนี้ ยาเนี ยมจะหัวเราะอยางนึ กสมเพช และยอนถามวาทําไมไมมีใครคิดกันบางวา ยาเอาชื่อโรงงานมาตั้ง เปนชื่อลูก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ลุงนัฐเปนคนอารมณดี มีเรื่องสนุกสนานเฮฮาไดท้ง ั วัน รูปราง เล็กและผิวคลํ้ากวาทุกคนในครอบครัว และเปนคนเดียวในบานที่ ไวหนวดทั้ง ๆ ที่ยาเหมยหลิงเคยเตือนวาหนวดไมเขากับโหงวเฮง ของลุงนัฐ ทําใหขัดลาภและชีวิตไมราบรื่น แตเจาตัวก็หัวเราะเฉย เสีย พอลับหลังยาเหมยหลิงก็จะบอกกับพี่ ๆ นอง ๆ วาดูอยางงิ้วซิ พวกแมทัพนายกองหรือ ตัวสําคัญ ๆเทานั้นถึงจะมีสิทธิม ์ ีหนวดมี
ขา ย
เครา ไอท่ห ี นาเลี่ยน ๆ เรียบ ๆ น ะ ลิ่วลอเขาทั้งนั้น
นํา ไป
คําอรรถาธิบายแบบนี้ เกือบทําใหลุงนัฐเปนแมทัพนายกองคน แรกนอกเวทีงิ้วที่ถูกลิ่วลอรุมตีตาย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
ลุงนัฐเปนลูกสายยาเนี ยมคนเดียวที่ใกลชิดสนิ ทสนมกับยา เหมยหลิง เพราะตอนที่ลุงเทียนกับลุงแอนดี้ไปเรียนหนังสือที่ ฮองกงนั้น ยาเหมยหลิงก็ไดลุงนัฐคอยวิ่งไปวิ่งมา ใชโน นใชน่ี แทน ลูกชายทั้งสองคนได ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นพอเลาวา ยาเหมยหลิงวางทา ปนปงยังกับพระนางซูสีไทเฮา แตอาศัยความชางพูดชางคุยที่เปน มาตั้งแตเด็ก ๆ ทําใหลุงนัฐกลายเปนมหาดเล็กคนโปรดไปอยาง งายดาย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ลุงนัฐเปนคนมีเพื่อนฝูงมาก ทั้งเพื่อนเกาสมัยอัสสัมชัญ และ เพื่อนใหมท่พ ี บกันในวงธุรกิจหรือวงเหลา ซึ่งถาปูหรือยาเนี ยมดุวา เรื่องกินเหลา ลุงนัฐก็จะยกเรื่องสามกกมาอางวา รอยทั้งรอยของ การเจรจาความเมืองตาง ๆ ในเรื่องสามกกสําเร็จในวงเหลา ยกเวนจากเรื่องชอบกินเหลาแลว ลุงนัฐก็ดูเหมือนจะไมมีขอ เสียเรื่องอื่นอีก และออกจะเปนคนที่มีความคิดริเริ่มแปลก ๆ ใหม ๆ มาใชในการทํางานอยูเสมอ จึงไมมีใครคัดคานเมื่อปูมอบหมายให ลุงนัฐดูแลบริษท ั “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ที่ไดลิขสิทธิผ ์ ลิตเสื้อผา สําเร็จรูปแบรนดตางประเทศสามสี่ตัวในตอนหลัง แตหากจะมีเรื่องที่ทําใหปูกับยาเนี ยมผิดหวังในตัวลุงนัฐแลว ละก็เรื่องนั้นก็คงเปนเรื่องที่จู ๆ ลุงนัฐก็ตัดสินใจจดทะเบียนแตงงาน กับปาอรโดยไมบอกเลาเกาสิบใคร และที่รายไปกวานั้นก็คือ เจาสาวของลุงนัฐอายุแกกวาฝาย ชายถึงหาป
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
4.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เรื่องราวของลุงนัฐกับปาอรมีคนเลาลือไปตาง ๆ นานา เปนหลายกระแส บางก็วาปาอรเปนพี่สาวของเพื่อนสนิ ทลุงนัฐ เมื่อ ลุงนัฐเทียวไปเทียวมาบานเพื่อนคนนั้นก็เลยเจอะกับปาอร บางก็วา ลุงนัฐกับปาอรพบกันในวงเหลาเลยถูกอกถูกใจประสาคอเดียวกัน และบางก็วาไปไกลถึงขั้นปาอรเคยเปนคนรักเกาของเพื่อนรุนพี่ลุง นัฐ เผอิญเพื่อนคนนั้นทิ้งปาอรไปแตงงานกับผูหญิงอื่น ลุงนัฐซึ่ง เปนคนขี้สงสารก็เลยคอยปลอบประโลมใจ ปาอร จนตางฝายตาง เห็นใจกัน... ลุง
อื น ํ าม
รด อ
มีก็แตยาเหมยหลิงเทานั้นที่เชื่ออยางมั่นคงสถานเดียววา นัฐถูกผูหญิงจับ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
แตไมวาใครจะพูดวาอยางไร ทั้งลุงนัฐและปาอรก็ไมเคย โตแยงหรือ ชี้แจงขอเท็จจริง คงปลอยใหเปนอาหารปากอันโอชะ ของใครตอใครอยูพักใหญ จนกระทั่งเรื่องคอยซาลงและคนเบื่อที่จะ พูดถึงไปเอง ลุงนัฐกับปาอรนั้นมีความแตกตางกันอยางสิ้นเชิง เหมือนพระ อาทิตยกับพระจันทร เหมือนนํ้ามันเบนซินซูเปอรกับนํ้ามันกาดตรา มงกุฎ...ในขณะที่ลุงนัฐเปนคนคลองแคลว ทันสมัย สนุกสนานเฮฮา และแตงตัวเนี้ ยบอยูเสมอ ปาอรกลับสมถะสมกับเปนครูโรงเรียน การเรือน ไมแตงเนื้ อแตงตัว ไมสุงสิงกับใคร เชาขึน ้ ขับรถเฟยตเกา ๆ ไปสอนหนังสือ ตกเย็นโรงเรียนเลิกก็แวะตลาดบางรักซื้อกับขาว
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
มาทําเองเสร็จ แลวก็น่ังอานหนังสือรายสัปดาหคอยลุงนัฐที่มักจะ เมากลับมาทุกคํ่ าคืน...แตตอใหเมาแสนเมาหรือดึกแสนดึกขนาด ไหน ลุงนัฐก็จะตองหิ้วทองมากินขาวเย็นที่นาจะเรียกวาขาวคํ่ าฝมือ ของปาอร อยางไรก็ตาม ในความแตกตางนั้นมีความเหมือนกันอยูอยาง หนึ่ ง นั่นคือเรื่องกินเหลา... แตในความเหมือนก็ยังมีความแตกตาง อยู คือลุงนัฐชอบกินเหลากับเพื่อนฝูง และดื่มแตบรั่นดีย่ห ี อที่ฉน ั เคยเห็นโฆษณาในทีวี สวนปาอรจิบแตยาดองลําพังคนเดียว... วา กันวาถาวันไหนปาอรจิบยาดองมาก วันนั้นกับขาวของแกจะอรอย เปนพิเศษ แตท่ฉ ี น ั เคยกินกับขาวฝมือปาอรก็เห็นวาอรอยดีทุกครั้ง... หรือบางทีอาจเปนเพราะแกจิบยาดองมาก ๆ ทุกมื้อก็เปนได
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
พอเลาวา ยาเนี ยมออกจะผิดหวังอยูไมนอ ยในเรื่องที่ลุงนัฐดวน ตัดสินใจแตงงานกับปาอร แตยาก็ไมเคยแสดงอะไรใหเปนที่กระทบ กระเทือนนํ้าใจลูกชาย มิไยที่ใครจะยุใหหาลูกสะใภใหม ยาเนี ยมก็ จะพูดเพียงวา “มันเปนบุญเปนกรรมของเขาที่ทํารวมกันมาแตชาติ กอน ธุระอะไรจะตองลากฉันไปกอเวรกอกรรมขึน ้ มาใหมในชาติน้ี ดวย” แมยาเนี ยมจะไมถึงขั้นเปนขมิ้นกับปูนกับปาอรอยางยาเหม ยหลิงกับปาทรงศรีและปาเปกกี้ แตท้ง ั คูก็เหินหางตางคนตางอยู ไมใกลชิดสนิ ทสนมเหมือนแมของฉัน... และแมจะอยูตึกเดียวกัน แตปาอรจะมาพบปะญาติพ่น ี อ งก็เฉพาะวันตรุษจีนหรือในโอกาส สําคัญ ๆ เทานั้น ลุงนัฐกับปาอรไมมีลูกดวยกัน ซึ่งยาเหมยหลิงวาเปนการดีท่ี จะไดเลิกกันงาย ๆ ไมมีหวงมีใย แตท้ง ั สองคนก็ไมมีทาจะเปนอยาง ที่ยาเหมยหลิงตองการใหเปน... แตท่น ี าแปลกใจคือเรื่องราว ระหวางลุงนัฐกับปาอร ปูไมเคยพูดจาวากลาวอะไรทั้งสิ้น ผิดจาก ตอนที่ลุงเทียนไดกับปาทรงศรีท่ป ี ูโกรธเหมือนจะเปนจะตาย พอวาบางทีอาจเปนเพราะปูผิดหวังในเรื่องครอบครัวของลุง เทียนกับลุงแอนดี้มามากพอแลว จึงทําใจไดในเรื่องของลุงนัฐ หรือมิ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เชนนั้นการที่ปูมีอายุมากขึน ้ ผานเรื่องราวทุกขสุขตาง ๆ โดยเฉพาะ ในชวงรายแรงที่สุด ซึ่งทําใหตองจากเมืองไทยไปอยูท่อ ี ่น ื เสียหลาย ป คงทําใหปูรูจักชีวิตดีขน ึ้ จนเลิกเคี่ยวเข็ญใหลูก ๆ มีชีวิตอยางที่ปู วาดหวัง ในระยะหลัง ๆ ถามีใครถามเรื่องลูก ปูจะบอกแตเพียงวา... “เราเหมือนชางตอเรือ เรือทุกลําก็ทําจนสุดฝมือ ติดหางเสือ ติดใบ เรือที่ดีท่ส ี ุดใหเทา ๆ กัน ตระเตรียมเสบียงอาหารใหเทากัน หลัง จากนั้นก็สุดแตวาเขาจะเอาเรือไปทําอะไรและแลนไปทางไหน... ไอ บางคนก็อาจบรรทุกสินคามีราคาแลนไปคาขายไกล ๆ ไดกําไร กลับมา บางคนก็อาจเอาไปจับปลาขายไดเงินดีไปอีกแบบหนึ่ ง หรือ บางคนอาจเอาไวแลนใบเลน นั่นก็สุดแทแตใจเขา” ปูถอนหายใจเบา ๆ กอนจะพูดตอไปวา
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
“เรื่องลูกเรื่องเมียก็เหมือนไตกง กัปตันเรือเขาก็ตองเลือกไตกง ที่เขาพอใจที่สุด รูใจเขาที่สุด... แตคนคนนั้นจะเปนไตกงที่ดีท่ส ี ุด หรือไมเราก็ตอบไมไดเหมือนกัน”
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
หากเปรียบชีวิตมนุษยเปนเชนเรืออยางทีป ่ ูวา ฉันก็เชื่อ วาเรือชีวิตของปูคงตองฝาฟนคลื่นลม และอันตรายรายแรงนับครั้ง ไมถวน กวาจะลอยลําเดนเปนสงาอยางเชนทุกวันนี้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ทุกครั้งที่เห็นปูน่ังอยูเงียบ ๆ ตามลําพัง ทอดสายตาเหมอลอย อยางไรจุดหมาย ฉันก็อดที่จะถามตัวเองไมไดวา ปูกําลังคิดถึงเรื่อง อะไร... อาจจะเปนชีวิตในบางซอกมุมที่ปูเก็บงําไวอยางมิดชิดโดย ไมมีใครเคยลวงรูมากอน อาจจะเปนความสมหวังหรือผิดหวังครั้ง ยิ่งใหญ ความทุกขหรือสุขสวนตัวซึ่งไมมีความหมายตอใครอื่น อาจเปนโครงการใหม ๆ มูลคานับพันลาน หรืออาจเปนเพียงเรื่องราวไรสาระสักเรื่องหนึ่ งเทานั้นเอง...
ขา ย นํา ไป
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
มีคําถามอยูขอหนึ่งทีม ่ ักจะมีคนถามปูอยูเสมอก็คือ คน ทีอ ่ ยูในฐานะอยางปูยังมีโอกาสไดจับเหรียญบาทบางหรือเปลา... ปูจะหัวเราะอยางอารมณดีกอนตอบวา แมทุกวันนี้ ปูจะไมไดจับจาย ใชสอยอะไรดวยตัวเอง ไมจําเปนตองพกเงินสกุลไหน ๆ แมกระทั่ง พวกเครดิตการดที่เรียกกันวาเงินพลาสติก เพราะเพียงลายเซ็นของ ปูในเศษกระดาษชิ้นเล็ก ๆ สักแผนก็อาจมีมูลคาหลายแสนหลาย ลานบาท แตปูก็ยังคงมีเหรียญบาทหนึ่ งเหรียญติดกระเปาตลอด เวลา เหรียญบาทเหรียญนั้นเปนเหรียญเงินสมัยรัชกาลที่ 6 ดาน หนาเปนพระบรมรูปผินพระพักตรเบื้องขวา ดานหลังเปนรูปชาง สามหัว แมจะผานกาลเวลามารวมแปดสิบป แตเนื้ อเงินก็ยังคงสุก ปลั่ง...
รด อ
าให ้อ่า
ปูมักจะหยิบเหรียญออกมาถูเลนในมือเสมอ เมื่อเวลาใช ความคิดตัดสินปญหาสําคัญ ซึ่งใครตอใครที่ไมรูความจริงมักจะพา กันคิดวาปูใชเหรียญนั้นเปนเครื่องเสี่ยงทายออกหัวออกกอย ทั้งที่ ความจริงแลวในชีวิตของปูไมเคยใชโชคลางหรือความเชื่อที่ไร เหตุผลเปนเครื่องชวยในการตัดสินใจแมแตครั้งเดียว
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
ยาเนี ยมเลาใหฉน ั ฟงวา ปูไดเหรียญบาทเหรียญนั้นมาตั้งแต เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทยใหม ๆ ในสมัยรัชกาลที่ 7 และที่ 8 นั้น มี แตเหรียญครึ่งสตางค หนึ่ งสตางค หาสตางค และสิบสตางค ที่ทํา ดวยทองแดงและนิ เกิลเจาะรูตรงกลางซึ่งเรียกกันวา สตางครู รวม ทั้งเหรียญ สลึงสองสลึง แตไมมีการผลิตเหรียญบาท พวกจับกังมัก จะเอาลวดรอยสตางคเปนพวงติดตัว ไมมีใครชอบเก็บธนบัตรที่เห็น วาเปนเพียงแผนกระดาษ หรือเหรียญสลึง สองสลึง ที่ไมมีรูซ่ง ึ พก ไปไหนไมสะดวกเพราะยังไมคอยมีใครใชกระเปาสตางคกัน
งส อื
ยาเลาวา แทนที่จะเก็บสตางครูอยางคนอื่น ๆ ปูกลับเอาเงินที่ อดออมไวไดในระยะแรกไปแลกเปนเหรียญสลึง เมื่อครบสี่สลึงก็ เอาไปแลกเปนเหรียญบาทเหรียญนี้ มิไยที่เพื่อน ๆ จะพากันหาวาปู
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
โงท่เี ก็บเงินเหรียญไวเหรียญเดียว สูพกสตางครูเปนพวง ๆ ก็ไมได แตปูกลับมองที่คุณคาของเนื้ อโลหะวาสตางครูเปนแคทองแดงหรือ นิ เกิล ซึ่งเมื่อหลอมออกมาแลวก็ไมมีราคาคางวดอะไร สวนเหรียญ บาทมีเนื้ อเงินผสมอยูต้ง ั เกาสิบเปอรเซ็นต ยิ่งวันราคาเงินก็มีแตสูง ขึน ้ ยาวาเหรียญบาทเหรียญนั้น นอกจากจะเตือนใหปูนึกถึงความ ยาก ลําบากแตหนหลังที่ตองทํางานอยางหลังขดหลังแข็ง และ กระเหม็ดกระแหมอยางเต็มที่แลว ยังเปนเครื่องเตือนใจใหปูไดนึก ถึงการตัดสินใจที่ถูกตองในครั้งกระนั้น
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ถึงทุกวันนี้ ฉน ั ก็เชื่อวา ปูยังคงใชเรื่องเหรียญบาทเปนแนว ความคิด ในการทําธุรกิจการคาอยู... นั่นคือบริษท ั ในเครือ “นัฐกิจ โกศล” จะไมลงไปจับตองธุรกิจดาด ๆ ที่คนอื่นกําลังเหอกัน แตจะ อดทนรอจนกวาจะใครครวญอยางรอบคอบ แมวากิจการนั้นอาจมี มูลคามหาศาลและทาทาย ความสามารถ แตก็จะเปนงานที่ใหผล ตอบแทนอยางคุมคาเสมอ
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
ในกระบวนลูก ๆ ของปูทง ั ้ หมด พอฉันไดช่ อ ื วาเปนลูก กตัญูประจําตระกูล จนเปนที่ลอกันวายาแกไอยี่หอชวนปวยปแป กอ น าจะเอารูปพอไปพิมพลงฉลากปดขวด
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ยาเลาวา พอเปนเด็กวานอนสอนงาย เรียนหนังสือเกง ขยัน ขันแข็งตั้งแตเล็กจนโต ไมเคยทําเรื่องอะไรใหพอแมไมสบายใจเลย พอเปนคนที่ถูกปูกําหนดตัวใหดูแลดานเครื่องจักรของโรงงาน ทอผาเมื่อเรียนจบชั้นม. 5 ก็ถูกสงไปฝกงานที่ญ่ป ี ุนทันที... พอเลา วา พอใชชีวิตชวงนั้นเหมือนคนงานโรงงานทั่วไป ไมมีสิทธิพ ์ ิเศษ อะไรทั้งสิ้น...ตองรีบตื่นแตเชามืดเพื่อขี่จักรยานสองลอจากที่พักไป ยังโรงงานซึ่งอยูหางกันเกือบสิบกิโลเมตร ไมวาอากาศจะหนาวเย็น หรือฝนจะตกหนักเพียงใดก็ตาม และนอกจากจะเขากะเชายืนพื้น แลว บางวันยังตองเขากะเย็นหรือกะกลางคืนเพิ่มขึน ้ อีกดวย
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พอเปนคนงานโรงงานอยูเกาเดือน จึงไดเลื่อนขึน ้ เปนผูชวย นายชางมีหนาที่ดูแลซอมบํารุงเครื่องจักรประเภทหยอดนํ้ามันขัน นอต หยิบ ๆ จับ ๆ อะไรนิ ด ๆ หน อย ๆ แตก็คอยสบายขึน ้ บาง เพราะมีท่พ ี ักอยูในบริเวณโรงงานไมตองเทียวไปเทียวมาเหมือน กอน แตก็ตองเตรียมตัวและเตรียมเครื่องมือใหพรอมตลอดยี่สิบสี่ ชั่วโมง เพราะหากเครื่องจักรเกิดขัดของขึน ้ มาเมื่อไหรก็ตาม พอจะ ตองไปเปนเบของนายชางไดทันที “พออยูญ่ป ี ุนเกือบสามป แตพูดภาษาญี่ปุนไมคอยได”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
พอชอบเลาเรื่องญี่ปุนใหพวกเราฟงดวยทาทางที่มีความสุข เมื่อหวนรําลึกถึงความหลังครั้งนั้น “ยิ่งกับผูหญิงยิ่งแลวใหญ พูดไมออกเอาจริง ๆ ทีเดียว... เวลา เงินเดือนออก พวกเพื่อน ๆ คนงานยกโขยงไปเที่ยวบารในเมือง พอ ก็ไดแตน่ังกินเบียรเงียบ ๆ อยูคนเดียว เพราะอาปากพูดทีไรกลาย เปนเรื่องนอต เรื่องเฟอง เรื่องเครื่องมือเครื่องไมไปหมด” “อยางนี้ พอน าจะจีบหุนยนตตัวเมียแทนสาว ๆ” พี่นภิศแหยขน ึ้ “สมัยนั้นยังไมมีหุนยนตน่ี ...” พอยกมือขยี้ผมลูกสาวคน โปรด...“ไมง้น ั แกอาจจะเปนลูกครึ่งคนครึ่งหุนไปแลวก็ได”
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“อาว ไดยังไง แลว จ.จูด ของลุงไมช็อตแยเหรอ” รินทร ลูกชายหัวแกวหัวขวัญของอานุชยื่นหนามาแซว
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
“ทะลึ่ง” พี่นภิศหันมาแยกเขี้ยวและผลักหนานายรินทรใหถอยกลับไป พวกเด็ก ๆ พากันหัวเราะอยางขบขัน พลอยใหพอหัวเราะตาม ไปดวย... แตหากใครสังเกตจะรูวา เสียงหัวเราะของพอนั้นปรา แปรงและไมเคยที่จะเต็มเสียงเหมือนคนอื่น ๆ บอยครั้งที่ฉน ั อดจะถามตัวเองไมไดวา พอตองเจ็บปวดและ สูญเสียอะไรไปมากมายเพียงใดกับการที่ไดช่ อ ื วาเปนลูกกตัญู อยางทุกวันนี้
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
5.
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พอใชเวลาเกือบสามปในญีป ่ ุนหรือพูดใหถูกคือใน โรงงานทีญ ่ ป ี่ ุนอยางคุมคา วากันวา พอรูจักเครื่องจักรทุกตัวใน โรงงานของเราดี ขนาดที่ถาถอดเครื่องจักรทุกเครื่องออกมากอง รวม ๆ กัน พอก็สามารถประกอบมันขึน ้ มาไดใหมภายในเวลาไมก่ี วัน โดยไมผิดพลาดแมแตนอตเล็ก ๆ สักตัวเดียว
รด อ
าให ้อ่า
พอถูกสรางใหมีชีวิตอยูกับเครื่องจักรและเหมือนเครื่องจักร... พอจะเปนคนแรกในบานที่ออกไปโรงงานแตเชามืด และกลับมา แทบจะเปนคนสุดทายถาไมนับลุงนัฐซึ่งแวะไปหาที่กินเหลาหลัง เลิกงาน
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
วันทั้งวันพอจะขลุกอยูในโรงงานทอผา... กับเครื่องปนดาย เครื่องยอมสี เครื่องฟอก เครื่องทอนับสิบ ๆ เครื่อง เสื้อผาเนื้ อตัว สกปรกดวยคราบนํ้ามันและเหงื่อไคล ผมเผายุงเหยิง ปลอยให ขี้เถาจากบุหรี่ซ่ง ึ คาบไวท่ม ี ุมปากแทบจะตลอดเวลารวงลงบนเสื้อที่ สวมอยูโดยไมแยแส
งส อื
เมื่อพอกลับมาจากญีป ่ ุนไดเพียงหกเดือน ปูกับยาก็ จัดการใหพอแตงงานกับแม... ไมมีใครรูวาปูกับยาคิดอยางไรใน เรื่องนี้ อาจจะเปนเพราะความผิดหวังในตัวลูกสะใภคนกอน ๆ หรือ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
อาจจะเปนเพราะตองการสรางความสัมพันธสวนตัวเพื่อเชื่อมโยงตอ ไปถึงความสัมพันธทางธุรกิจ... แตส่ง ิ ที่ไมมีใครรูหรือไมเคยคิดจะรูย่ง ิ ไปกวานั้นก็คือ ความ รูสึกนึ กคิดของพอที่มีตอเรื่องนี้ ... ปูอาจจะทําใหพอเปนเครื่องจักรอีกตัวหนึ่ งในโรงงานทอผาของ ปูไดสําเร็จ แตส่ง ิ หนึ่ งที่ปูลมเหลวก็คือ ปูไมไดถอดหัวใจแหงความ เปนมนุษยออกมาจากเครื่องเสียกอน “นภารูม้ย ั พี่นภ-พอแกน ะ เขามีแฟนอยูแลว...” อานุชเลาให ฉันฟงในวันหนึ่ ง เมื่อพอกับแมทะเลาะกันปงปง ...“พูดก็พูดเถอะ ฉัน วาปูกับยาแกนี่ ทําบาปทํากรรมไมเบาทีเดียว” นุชก็ไมนาเอาเรื่องนี้ มาเลาใหเด็กฟง” อาดอน สามีของอานุช ปรามมาจากเกาอี้นวมที่น่ังดูวิดีโออยู “นภามาดูหนังกับอามั้ย หรือจะเขาไปเลนวิดีโอเกมกับตาริ นทร” “ไมฮะ” ฉันปฏิเสธ
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“คุณก็รูวาผมเปนยังงี้มาแตไหนแตไร...” เสียงเอ็ดตะโรของพอ ดังขามมายังอีกฟากหนึ่ งของตึก “...ทําไมคุณถึงไมพยายามทําตัวให เขากับผมบาง เรื่องอะไรที่จะตองใหผมดัดจริตเปนผูลากมากดี ทั้ง ๆ ที่พอผมพอคุณก็ลงเรือจากเมืองจีนมารับจางเปนจับกังดวยกัน” “ฉันไมเขาใจคุณเลย” เสียงแมกรีด ๊ ขึน ้ ทําไมคุณถึงชอบแตจะ รื้อฟนไอเรื่องดึกดําบรรพขน ึ้ มาพูดอยูเรื่อย... ทําไมไมคิดบางวา เดีย ๋ วนี้ นะพอคุณเปนใคร พอฉันเปนใคร มีคนนับหนาถือตาขนาด ไหน” “เขานับถือเงินของเราตางหากละ”
งส อื
นํา ม
พอเยาะ “...และที่ผมพูดถึงเรื่องนี้ อยูเรื่อย ๆ ก็เพราะไมตองการใหเรา ลืมกําพืดเดิม เราคนคาขายก็อยูสวนเรา อยาไดเที่ยวแลนไปเสนอ
ขา ย
หนาใหเขาหัวเราะเยาะเลนเปลา ๆ”
นํา ไป
“ฉันจองโตะไวแลวนะ...” แมเสียงดังขึน ้ “...โตะตัวละสามหมื่น ใคร ๆ เขาก็ไปกันทั้งนั้น คุณจะใหฉน ั ดักดานอยูแตในตึกนี้ ไดยังไง”
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“คุณอยากไปก็ไปคนเดียวเถอะ หรือจะลากญาติพ่น ี อ งของคุณ ไปดวยก็ได แตไมตองมายุงมาเกี่ยวกับผมหรือคนตึกนี้ ” “คุณไมตองมาดาถึงพวกฉัน” แมกรีดรอง “ออ เดีย ๋ วนี้ มีพวกฉันพวกเธอแลวหรือ”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
สิ้นเสียงของพอ ก็มีเสียงพลงเพลงของเครื่องแกวที่ถูกกวาดลง มากองอยูกับพื้น... “เฮอ อะไรกันนักหนา” อาดอนลุกขึน ้ ไปปดเครื่องวิดีโอ และฉวยหนังสือพิมพบนหลัง ทีวีเดินเขาหองไป
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“พี่นภน ะเขามีแฟนอยูกอนแลว” อานุชพูดขึน ้ อีกครั้งเมื่ออาดอนลับตาไปแลว “ใครฮะอา” “อาก็ไมรูอะไรมาก...” อานุชถอดแวนสายตาออกวางบนแฟมที่ อานคางอยู “...ไดยินเขาพูดกันวา เปนลูกสาวชาวบานแถว ๆ โรงงานที่พระประแดง” อานุชเคาะเครื่องคิดเลขบนโตะเลน ราวจะทบทวนความทรง จํา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“ก็คงผูหญิงแบบที่เขาชอบนั่นแหละ... เรียบ ๆ งาย ๆ เปน แมบานแมเรือน ไมเจายศเจาอยาง” หางเสียงของอาอดไมไดท่จ ี ะประชดประชันอยูในที “แลวปูกับยาไมรูหรือฮะ” ฉันอดถามไมได “ใครเขาจะไปอยากรับรูเรื่องแบบนี้ ...” อานุชหัวเราะเบา ๆ
นํา ไป
ขา ย
“...ถึงยังไงลูกสาวใครก็สูลูกสาวนายขจรเกียรติ ไพศาลพันธกิจ ไม ไดหรอก เรือลมในหนองทองมันจะไปไหน” “พอไมวาอะไรบางหรือฮะ”
ี โป รด อย ่า
“จะไปวาอะไร... พี่นภน ะเขาลูกกตัญู พอแมวายังไงเขาก็วา ตาม ไมใชลูกนอกคอกนอกคูอยางอานี่ จะไดอาละวาดบานแตกจน พอแมออนใจไปเอง”
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ฉันนึ กถึงเรื่องราวของอานุชที่ลือลั่นจนเปนตํานานอันหนึ่ งของ ตึกหลังนี้ “แมรูเรื่องบางไหมฮะ” “พี่ศิรีเคยรูอะไรกับใครเขาที่ไหน... พูดไปก็เหมือนนิ นทาแมให ลูกฟง แตแมแกน ะรูอยูเรื่องเดียวคือ ที่ไหนเขาจะมีงานแฟชั่นโชว งานแสดงเครื่องเพชร หรืองานอะไรที่มีพวกคุณหญิงคุณนายไปกัน เยอะ ๆ” “นุช...” อาดอนโผลออกมาจากหองเมื่อไหรไมรู เลิกพูดถึงเรื่อง คนอื่นทีเถอะ เดีย ๋ วใครไดยินเขามันจะไมดี” อานุชรีบควาแวนตามาสวมและลงมือทํางานตอไป โดยไมพูด อะไรอีก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ฉันจําไดวาเมื่อตอนทีฉ ่ น ั ยังเล็ก ๆ ฉันชอบทีจ ่ ะอยูกับ แมมากกวาพอ... ความรูสึกของฉันที่มีตอแมเวลานั้น เหมือนแม เปนนางฟาหรือเทพธิดาในนิ ทานที่ยาเนี ยมชอบเลาใหฟง... แมจะแตงหนาแตงตัวสวยงามแทบจะตลอดเวลา ใสน้ ําหอม หอมฟุง เดินกรีดกรายไปมาอยูบริเวณที่เปนที่พักของเรา หรือไม เชนนั้นก็ขน ึ้ ไปคุยกับปาเปกกี้ครั้งละนาน ๆ ...แมเปนคนพูดเพราะ เสียงหวาน และรูจักการใชเสียงหนักเบา ทําใหเวลาแมพูดจะฟง เพลิดเพลินเหมือนเสียงดนตรี ฉันจําไดวาอานงพงาสมัยที่เปนวัยรุน หลงใหลแมมาก และแอบเรียกแมลับหลังวา “นกไนติงเกลแสน
ขา ย
สวย”
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
แมมักจะพาฉันกับพี่นภิศไปเที่ยวไหนตอไหนบอย ๆ ถาไมแถว ชายทะเลอยางบางแสน หัวหิน หรือชะอํา ก็เปนสวนสัตว หรือไมก็ บานคุณตาที่สนามบินนํ้า นนทบุรี... บานคุณตาแมจะเล็กกวาตึก ของเรา แตก็ทันสมัยและหรูหรากวา ตัวบานเปนทรงโรมัน มีเสา หินออนตนใหญอยูคูหนึ่ ง มีคนบอกวาเปนเสาหินออนแทงใหญท่ส ี ุด ในประเทศไทย พี่นภิศบอกวาคุณตาสั่งเสาคูน้ี มาจากอิตาลี ซึ่งหาก จริงอยางพี่นภิศพูด ฉันก็วาถาคุณตาไปซื้อที่ปลูกบานอยูอิตาลีเสีย เลยคงจะถูกกวาขนเอามาแตเสาแบบนี้
อน ํ าม าให ้อ่า
บานคุณตามีสนามหญากวางใหญ มีตนไมแปลก ๆ แพง ๆ เต็มไปหมด มีบอปลาคารปโตพอจะเลี้ยงปลาโลมาไดสักคูหนึ่ ง มี สระวายนํ้า และมีอะไรตอมิอะไรอีกหลายอยาง
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
แมวาฉันกับพี่นภิศจะชอบไปบานคุณตามาก แตถาพอรูพอมัก จะออกปากหามไมใหเราไปที่น่ันบอย ๆ “ไปทําไมกันเรื่อย ๆ บานเราก็มีไมรูจักจะอยู” “แตน่ันก็บานคุณตานะคะ” พี่นภิศเถียงเสียงออย ๆ
รด อ
“แกเปนคนตระกูลสือพาณิชย หรือวาไพศาลพันธกิจ...”
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
พอกระชากเสียงถาม “...ตราบใดที่แกยังคิดวาแกเปนคนในตระกูลสือพาณิชย แกก็ ตองฟงคําพูดฉัน และฉันไมตองการเห็นพวกแกทําตัวแบบพวก ไพศาลพันธกิจเปนอันขาด”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ฉันยอมรับวาตอนที่ยังเล็ก ๆ ฉันไมชอบพอเลย ถึงพี่นภิศเองก็ เหมือนกัน เรามีความเห็นวาพอเปนคนใจราย ดุ เสียงดัง พูดจา กระโชก โฮกฮาก และไมคอยจะตามใจพวกเรา หนําซํ้าหนาตาก็ บึง ้ ตึงไมคอยยิ้มแยม เนื้ อตัวเหม็นกลิ่นนํ้ามันเครื่อง ควันบุหรี่ และ เหงื่อไคล... และสิ่งที่เราสองคนพี่นอ งกลัวจนไมอยากใหพอเขาใกล หรือถูกเนื้ อตองตัวเรา ก็คือมือของพอ... ในกระบวนลูกทั้งหมดของปู พอออกจะอาภัพที่เกิดมาขี้เหร
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
กวาเพื่อน... พอมีโครงหนาที่เกือบเปนรูปสี่เหลี่ยม กรามใหญ ตา พอง จมูกโต และผิวคลํ้า แตส่ง ิ ที่ข้เี หรท่ส ี ุดในรางกายพอก็คือ มือทั้ง สองขางที่ใหญจน ผิดรูป นิ้ วเกร็งเหมือนจองตะครุบอะไรอยูตลอด เวลา เล็บทุกเล็บกุดจนเนื้ อที่ปลายนิ้ วบานออกและแข็งเปนไต ซอก เล็บมีแตคราบสกปรกของเครื่องจักรจับแน น และที่รายไปกวานั้นก็คือ นิ้ วชี้ขางขวาของพอขาดหายไปขอ หนึ่ งเพราะถูกเครื่องจักรหนี บสมัยที่ไปฝกงานที่ญ่ป ี ุนจนตองตัดทิ้ง ไป... เมื่อตอนที่ฉน ั กับพี่นภิศยังเล็ก ๆ เราสองคนตองคอยกระเถิบ ตัวหนี เมื่อพอยื่นมือมาใกลเรา ฉันเชื่อวาตั้งแตฉน ั จําความได ฉันก็ ไมเคยยอมใหพออุม และเอาแตรองไหโฮ ๆ จนยาเนี ยมตองมา ปลอบ และควักตัวฉันขึน ้ จากเปลไปอุมเสียเองจึงจะเงียบเสียง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ฉันรังเกียจและหวาดกลัวพออยางฝงใจอยูนาน จนกระทั่งเมื่อ โตขึน ้ ไดเรียนรูเรื่องราวตาง ๆ ที่เกิดขึน ้ กับพอ ไดรูจักจิตใจของพอ มากขึน ้ ฉันจึงเริ่มเขาใจพอ... และเมื่อมองยอนกลับไปถึงเหตุการณ ที่ผานมา ถึงความรูสึกที่ไมดีของตัวเองที่เคยมีตอพอ ถึงความรัก และหวังดีท่พ ี อมีตอฉัน และความเสียสละของพอตอปูยา วงศ ตระกูล และบริษท ั ฉันก็เริ่มรักพอ... ฉันรูวาความรักที่ฉน ั มีตอพอ แตกตางไปจากที่ฉน ั เคยมีตอแม เมื่อสมัยที่ฉน ั ยังเปนเด็กเล็ก ๆ ...แตไมวาจะเหมือนหรือแตกตางกัน ยิ่งโตฉันก็ย่ง ิ รักพอ และทุกวันนี้ ส่ง ิ ที่ฉน ั รอคอยอยูเสมอก็คือ มือของพอที่จะลูบหัว ฉันอยางเอ็นดูหรือโอบกอดดวยความรักที่ไมเคยเปลี่ยนแปลง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
6.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
สิง ่ แรกทีท ่ ุกคนจะมองเห็นเมื่อผลักประตูกระจก บานใหญเขาไปในหองโถงชั้นลางของตัวตึกบานเราก็คือ ภาพเขียน ดวยหมึกดําแบบจีนเปนรูปมดตัวใหญตัวหนึ่ งโดดเดนอยูบน กระดาษขาวที่ครํ่ าคราดวยกาลเวลา ถัดลงมาเปนตัวหนังสือภาษา จีนสีทองหวัด ๆ บนกระดาษแดง อานวา “หงี” หรือ “คุณธรรม” ...ทั้งภาพเขียนและตัวหนังสือใสกรอบไมสีดําสองกรอบ ติดอยูท่ี ผนังดานตรงขามกับประตู ยาเลาวา รูปมดและตัวหนังสือจีนติดอยูท่ต ี รงนั้นตั้งแตวันแรก ที่ตึกหลังนี้ สรางเสร็จ... ไมมีใครรูวาปูไดมันมาจากไหนหรือใหใคร เขียนให แตท่ร ี ูกันแน ๆ ก็คือ ปูใชภาพมดและตัวหนังสือเปน คติธรรมสําหรับตัวเอง และคนในครอบครัว “มดเปนสัตวท่ข ี ยันขันแข็ง มานะอดทน และบากบั่นพากเพียร ตอใหฝนตกแดดออกหรือไกลแสนไกลแคไหน มดก็ไมยอทอหรือ เหนื่ อยหน ายกับการออกไปหาอาหาร...” ปูเขี่ยใบชาที่ติดอยูปากถวยและเลาตอไปดวยเสียงเนิ บ ๆ “มดเปนสัตวสะอาด ทั้งความเปนอยูและการหากิน ซึ่งอันนี้ เรา ถือวามันมีชีวิตที่สุจริต... มันมีระเบียบวินัย และที่สําคัญคือรักพวก รักพอง ถึงมันจะตัวนิ ดเดียวแตถาใครมารังแก มันก็ชวยกันตอสู อยางไมกลัวตาย” “สําหรับ หงี...”
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ปูชายตาดูตัวหนังสือจีนที่สีทองเลือนรางหมนมัวไปตามอายุ ของมัน “...ถาไมมีคุณธรรมเปนสิ่งจรรโลงจิตใจ คนเราก็คงไมแตกตาง ไปจากสัตวปา... เราคงจะฉกฉวยแยงชิงสิ่งที่เราอยากได โดยไม คํานึ งวาสิ่งนั้นจะมีใครเปนเจาของครอบครองอยูแลวหรือไม ผูใหญ ก็ขมเหงรังแกผูนอ ยหรือคนที่ออนแอกวาตามอําเภอใจ ลูกหลานจะ ดูหมิ่นดูแคลนพอแมท่แ ี กเฒาใหไดรับความทุกขยากรอนใจ”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ปูถอนหายใจเบา ๆ “ไมรูนะ... เราอาจจะเปนคนเกาหรือมีความคิดลาสมัยที่ยัง ยึดถือในเรื่องคุณธรรม... แตเราถือวาผูนอ ยตองมีความนอบนอม ถอมตนและความกตัญู สวนผูใหญก็ตองมีส่ง ิ ที่พระอีเรียกวา พรหมวิหาร 4 ” “เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ไงละ...” ยาเสริมขึน ้ เมื่อเห็นคนรุนใหมมีสีหนางง ๆ
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“เมตตา คือความรัก ความตองการเห็นคนอื่นมีความสุข... กรุณาคือความสงสาร ชวยเหลือคนอื่นเมื่อเขามีทุกข... มุทิตา คือ ยินดีในความสุขความเจริญของคนอื่น... สวนอุเบกขา ก็คือการ วางใจเปนกลาง ไมโอนเอนเหลาะแหละ เลือกที่รักมักที่ชัง” ปูพยักหนาชา ๆ “เราวาสังคมใดที่ผูใหญมีพรหมวิหาร ผูนอ ยมีความออนนอม กตัญูสังคมนั้นก็มีแตความสุขความเจริญ... ในทางตรงกันขาม ถา สังคมใดขาด คุณธรรม ผูใหญไมมีความเมตตากรุณา อิจฉาริษยา กลั่นแกลงลูกนอง หูเบาชอบแตคนประจบสอพลอ ผูนอ ยก็ยอม เสื่อมคลายความเคารพนับถือผูใหญ เปนเหตุใหสังคมนั้นมีแตความ เดือดรอนวุนวายและเสื่อมโทรมลง”
งส อื
นํา ม
อยางไรก็ตาม ทุกครั้งที่เปดประตูใหญเขามาเห็นรูปมดและคํา วา “หงี” หรือ “คุณธรรม” ที่หองโถงชั้นลาง ฉันก็อดที่จะถามตัวเอง ไมไดวาทุกวันนี้ คนในตึกหลังนี้ ยังยึดถือในคติธรรมสองขอนั้นของปู อยูอีกหรือเปลา...
ขา ย นํา ไป
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
ยาเนียมมีลูกหาคน คือ ลุงนัฐ พอ อานุช อานนท และ อานันทนา... อานุชเปนลูกสาวคนแรกของครอบครัว และเกิดมาใน ตอนที่ปูมีฐานะมั่นคงแลว จึงไดรับการเลี้ยงดูดีกวาลูกคนกอน ๆ ประกอบกับอานุชเปนคนสวย น ารัก ชางพูดชางเอาใจมาตั้งแตเล็ก จึงทําใหปูยารักและตามใจมาแตไหนแตไร กระทั่งอานุชกลายเปน คนที่ติดจะเอาแตใจตัวเองและดื้อรั้นจนขึน ้ ชื่อ พอเลาวา ตอนที่อานุชเรียนหนังสือที่โรงเรียนมาแตร ปูซ่ง ึ ตอนนั้นไมไดอยูเมืองไทยก็ยังอุตสาหโทรศัพทขามประเทศมากําชับ ใหยาจัดรถไปรับ-ไปสง สวนลูกชายอยางลุงนัฐกับพอ ยาปลอยให ขึน ้ รถเมลไปกันเองตามลําพัง มีครั้งหนึ่ งพอซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ เกาหรือสิบขวบ กลิ้งตกจากรถเมลลงมาหัวแตก... ยาโกรธลุงนัฐ มาก หาวาไมดูแลนองใหดี และตีลุงนัฐ... พอเลาวา ครั้งนั้นเปนครั้ง แรกที่คนในบานเห็นคนอารมณดีอยางลุงนัฐระเบิดความคับแคนใจ ออกมา ลุงนัฐสงเสียงดังตอวาปูกับยาวาลําเอียง รักลูกไมเทากัน ถึงขั้นที่บอกใหยาลงไปดูตัวหนังสือ “หงี” ที่หองโถงชั้นลางเสียบาง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
พอเลาวา ตั้งแตเกิดมาไมเคยเห็นยาเนี ยมโกรธใครมากเทาที่ โกรธลุงนัฐวันนั้น... ยากระชากแขนลุงนัฐไวมือหนึ่ ง สวนอีกมือก็ ระดมตีดวยไมเรียวอยางไมย้ง ั จนกระทั่งยาเหมยหลิงตองเผนจาก ชั้นสามลงมาแผดเสียงหาม และเอาตัวลุงนัฐขึน ้ ไปเก็บไวในหองแก สวนยาเนี ยมก็ปดประตูหองอยูคนเดียวสองสามวันโดยไมพูดไมจา กับใคร... เมื่อเปดประตูหองออกมาอีกครั้ง ยาเนี ยมจึงออกคําสั่งใหรถที่ ไปรับ-ไปสงอานุช เลยไปรับ-ไปสงลุงนัฐกับพอดวยทุกวัน เมื่ออานุชเรียนจบชั้น ม.ศ. 5 นั้น ปูอยากใหอานุชมาชวยงานที่ บริษท ั อยางพี่ ๆ ทุกคน แตอานุชไมยอมเพราะอยากจะเรียนตอ มหาวิทยาลัย... พอเลาวา ทั้งปูและอานุชตางก็ด้ อ ื ดึงถือเอา ความคิดของตัวเองเปนใหญ ไมยอมฟงเหตุผลของกันและกัน ฝายปูก็เห็นวาบริษท ั กําลังขยายกิจการ ตองการใหอานุชเขา
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
มาชวยดูแล หนังสือหนังหาเรียนไปก็เทานั้น สูเอาเวลาที่จะตองเสีย ไปตั้งสามสี่ปมาลงมือทํางานใหเปนชิ้นเปนอันจะดีกวา ถาเรามีเงิน มาก ๆ ก็มีกําลังจางคนที่เรียนสูง ๆ มาเปนลูกจางสักกี่คนก็ได สวนอานุชมีความเห็นวาสมัยนี้ วิชาความรูแคจบชั้น ม.ศ. 5 ไม พอแลว ใคร ๆ เขาก็ตะเกียกตะกายเรียนตอมหาวิทยาลัยกันทั้งนั้น ยิ่งถาบริษท ั ขยายกิจการขึน ้ หรือจางคนที่มีความรูสูง ๆ มาทํางาน แตตัวผูบริหารเองกลับไมมีความรูเพียงพอที่จะรองรับการขยายตัว ของบริษท ั หรือควบคุมดูแลสั่งงานลูกจาง ก็จะเปนที่เยาะเยยของคน อื่นเปลา ๆ
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ทั้งคูมึนตึงกัน และอานุชก็แอบไปสอบเอนทรานซโดยไมบอก ใคร...ปูมารูเอาเมื่อลูกสาวเอนฯ ติดคณะบัญชีธรรมศาสตรแลว ตอนแรกปูจะไมยอมใหไปลงทะเบียนเรียน แตลุงแอนดี้เปนคน ไกลเกลี่ยเรื่องลงสําเร็จ โดยใหอานุชรับงานบัญชีของบริษท ั มาทํา หลังเลิกเรียน พอเลาวา อานุชเปนดาวมหาวิทยาลัย เคยเปนคนเชิญตรา ธรรมจักรในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร และมี หนังสือพิมพมาถายรูปเปนแบบปกหลายฉบับ มีหนุม ๆ เปลี่ยน หนามาติดพันชนิ ดที่หัวกระไดไมแหง จนปูเองชักจะขวางลูกสาวอยู บอย ๆ
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
พอเลาวา ปูหมายมั่นจะใหอานุชแตงงานกับลูกชายของเพื่อน คนหนึ่ งที่เปนเจาของโรงงานนํ้าปลาที่ระยองเมื่ออานุชเรียนจบ ถึง กับมีการพาฝายหญิงฝายชายไปดูตัวกันมาเรียบรอยแลว และเมื่อ ฝายนั้นรูวาปูกําลังมองหาที่ดินทําเลงาม ๆ สักแปลงหนึ่ งเพื่อเตรียม ไวทําฮวงจุย ก็ถึงกับขายที่ดินของตนที่หนาติดทะเลหลังติดภูเขาให ปูในราคาพิเศษ เมื่ออานุชรูความประสงคของปูก็อาละวาดแทบบานจะแตก...
งส อื
นํา ม
“หนูเปนคนนะพอ ไมใชวัวใชควายที่จะใหพอจูงจมูกไป ผสมพันธุ” “ตาย แมนุช...” ยาตบอกผาง นี่ แกเปนสาวเปนนางนะ จะพูด จะจาอะไรก็ระวังปากระวังคําบาง ใครเขามาไดยินเขาจะหาวา
ขา ย
ลูกสาวบานนี้ เปนยังไงกันแน ”
นํา ไป
“ก็หรือแมวาไมจริง” อานุชไมยอมลดราวาศอก อยู ๆ ก็จะมา จับหนูไปอยูกินกับใครที่ไหนก็ไมรู”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“เถาแกเลงพอนายสมพงษนะ อีเปนเพื่อนพอมาเปนสิบ ๆ ป นิ สัยใจคออีก็ดี ลูกชายอีก็ขยันขันแข็ง” ปูพยายามเอานํ้าเย็นเขาลูบ “เพื่อนพอก็เปนเพื่อนพอซิ เรื่องอะไรจะมาลากหนูไปเปนลูก สะใภเขาดวย... แมก็เห็นแลววาบานเขาที่ระยองเปนยังไง ฮึ บาน ทรงสเปนแตดันทาสีชมพูแปรดทั้งหลัง ชั้นลางมีคนงานนั่งกรอก นํ้าปลาเหม็นหึ่งขึน ้ ไปถึงขางบน ไอตาสมพงษอะไรนั่นก็เลี่ยมฟน ทองเหลืองออย สรอยคอเสนโตยังกะโซลามชาง แถมนุงกางเกงขา สั้นคีบรองเทาแตะฟองนํ้า ควบรถกระบะปุเลง ๆ” “ก็เขาคนทํามาหากิน จะใหเอาแตแตงเนื้ อแตงตัวกรีดกราย เปนพวกจิก ๊ โกเพื่อนเอ็งไดยังไง” “พอไมตองมาแขวะเพื่อนหนูนะ...” อานุชเอ็ดตะโรลั่น
รด อ
าให ้อ่า
“ยายนุชฟงพอเขาบางซิ...” ยาปราม
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
“...เถาแกเลงก็ไมใชคนอื่นคนไกลที่ไหน เคยเอื้อเฟอเกื้อกูลกัน มา ใจคอแกจะใหผูใหญเสียความสัมพันธ เสียคําพูดเพราะแกหรือ... เถาแกเลงน ะเขาเปนคนมีน้ ําใจ ถึงลูกชายเขาจะไมไดเลาไดเรียนสูง ๆ ไมโกหรูอยางคนอื่น แตแมก็เชื่อวาทั้งพอทั้งลูกเขาจะตองเลี้ยงดู แกอยางดี... ดูทีรึขนาดที่ดินราคาอยางเบาะ ๆ ก็เปนสิบลาน เขายัง ขายใหเราเหมือนยกใหเปลา ๆ” “ถึงยังไงหนูก็ไมมีวันที่จะแตงงานกับนายสมพงษ และหนูขอบ อกไวตรงนี้ วา ถาพอกับแมขืนบังคับใจหนู ไอท่ด ี ินแปลงนั้นน ะจะ ตองสรางฮวงจุยสําหรับหนูกอนคนอื่น ๆ”
ขา ย นํา ไป
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
คําขูของอานุชมีผลพอทีจ ่ ะทําใหปูและยาวางมือเรื่อง การหาคูใหลูกสาว แมจะเคืองแสนเคืองยังไง ปูกับยาก็ไดแตเก็บ ไวในอกไมกลาพูดอะไรออกมา... พอเลาวา เมื่อปูหมดหนทางที่จะ ใหอานุชแตงงานกับนายสมพงษได ปูก็เอาโฉนดที่ดินแปลงนั้นไป คืนเถาแกเลงโดยไมขอรับเงินคาที่ท่ไี ดจายไปแลว ปูเลาถึงเรื่องนี้ อยางซาบซึง ้ วาเถาแกเลงไมยอมรับโฉนดผืน นั้น “อีวา เรื่องของพอก็เรื่องของพอ เรื่องของลูกก็เรื่องของลูก ลื้อ อยาเอามาปะปนกัน ถึงจะไมไดลูกสาวลื้อมาเปนลูกสะใภ แตเราก็ ยังคงเปนเพื่อนกันอยูไมเปลี่ยนแปลง... อัว๊ ก็แกล้ อ ื ก็แกลงไปทุกวัน ถึงตอนนี้ อว ั ๊ ไมตองการอะไรอีกแลว นอกจากอยากจะเห็นฮวงจุย ของเราสองคนตั้งอยูบนที่ดินใกล ๆ กัน”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูลงมือสรางฮวงจุยสําหรับตระกูลเราเร็วกวาที่ต้ง ั ใจไวเดิม... อานิ รันดรเปนคนออกแบบกอสรางดวยตัวเอง มีเกงจีนหลังใหญท่ี สั่งใหชางที่เซี่ยงไฮสรางขึน ้ แลวถอดมาประกอบภายหลัง ตุกตาหิน รวมรอยตัว สวนดอกไม และลําธารที่ลัดเลาะไปตามเนิ นเขา แม มูลคาของฮวงจุยแหงนี้ จะไมถึงรอยลานบาทอยางที่หนังสือพิมพลง ขาว แตปูก็ไมยอมบอกวาหมดคากอสรางไปเทาไหร แตมีส่ง ิ หนึ่ งซึ่งปูเสียใจอยูจนบัดนี้ ก็คือ เถาแกเลงรถควํ่ าตายที่ บางละมุงกอนที่จะทันเห็นฮวงจุยของเราเปนรูปเปนราง และกอนที่ แกจะทันลงมือสรางฮวงจุยของตัวเอง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
7.
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พอเคยเลาใหฉน ั ฟงเลน ๆ วา สมัยทีเ่ มืองจีนมี “แกง ออ ฟ โฟร” บานเราก็มี “แกง ออฟ ไฟว” เหมือนกัน โดยมีอานุชเปน หัวโจก จนไดสมญาจากลุงเทียนและลุงแอนดี้วา “มาดามเจียง ชิง นอย” ...สมาชิกในแกงประกอบดวย พี่ระวี อานนท พี่ดวงดาว และ พี่ชาญชัย ซึ่งลวนแลวแตมีอายุรุนราวคราวเดียวกัน
รด อ
าให ้อ่า
“แกง ออฟ ไฟว” ในสมัยนั้น ออกโรงคัดคานในสิ่งที่ไมเห็นดวย อยางเปดเผย ทั้งเรื่องงานในบริษท ั และเรื่องในบานชนิ ดที่ไมเกรงใจ ปู รวมทั้งการเรียกรองอะไรตอมิอะไรหลายอยางซึ่งสมัยลุงเทียน ลุงแอนดี้ ลุงนัฐ และพอไมกลาแมแตจะคิด
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
พอเลาวา ตอนแรกปูโกรธหัวฟดหัวเหวี่ยง หาวาพวกอานุชไม เคารพยําเกรงและคิดจะลองดีผูใหญ... ปูสงอานนทกับพี่ระวีไปอยู ประจําที่อัสสัมชัญศรีราชา เพื่อเปนการลงโทษและตัดกําลังสมาชิก “แกง 5 คน” แตถึงกระนั้นปูก็ยังไมกลาแตะตองพี่ชาญชัย ซึ่งปาเปก กี้กางปกออกมาปกปองเต็มที่ หรือจัดการอะไรกับพี่ดวงดาวที่ลุง เทียนรีบสงไปอยูในความอารักขาของยาเหมยหลิง และโดยเฉพาะ อยางยิ่งคือปูไมใจแข็งพอที่จะลงมือกับอานุชที่เปนลูกสาวคน โปรด... “ก็ตามใจกันจนเหลิง แทบจะปลอยใหมันปนขึน ้ ไปถายบนหัว แลวลื้อจะมาโกรธมันไดยังไง” ยาเหมยหลิงเคยคอนปู เมื่อยอนพูดกันถึงเหตุการณในครั้งนั้น
ขา ย
“อันที่จริงลูกหลานเรามันก็ไมไดถึงกับเลวรายอะไรนักหนา...”
นํา ไป
ปูหัวเราะเกอ ๆ “...บางทีเราอาจจะผิดเองก็ได
ี โป รด อย ่า
ตน”
ที่ไมยอมฟงเสียงเด็กมันตั้งแต
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
พอเลาวา ปูกับอานุชตางก็แข็งเขาหากัน... อานุชไมยอมพูด กับปู ไมกินขาวบาน และเก็บตัวอยูในหองคนเดียว จนในที่สุดปูเอง ตองเปนฝายมางอ ยอมใหอานนทกับพี่ระวีกลับมาเรียนใน กรุงเทพฯ ตามเดิม และโอนออนผอนตามความประสงคของอานุช กับพวกหลายประการ ซึ่งบางขอก็เปนผลดีมาถึงรุนนอง ๆ หลาน ๆ เชนเรื่องการใหโอกาสที่จะเลือกเรียนตอตามที่แตละคนตองการ การดําเนิ นชีวิตหรือแมกระทั่งเรื่องคูครองโดยที่ปูไมไดเปนผู กําหนดวิถีชีวิต หรือขีดวงใหเดินเชนแตกอน
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
หากจะเรียกสิ่งเหลานั้นวาเปนชัยชนะของ “แกง ออฟ ไฟว” ก็ คงจะได ทั้ง ๆ ที่ชัยชนะซึ่งไดมาในคราวนั้นมีท้ง ั ผลดีและผลเสีย ติดตามมาอยางมากมายเกินกวาใครจะคาดถึง และสิ่งหนึ่ งซึ่งอาจจะไมมีใครทันคิดกันในตอนนั้นก็คือ ที่แท แลว “มาดามเจียง ชิง นอย” ตัวจริง ซึ่งกุมชัยชนะอยูเงียบ ๆ เบื้องหลัง “แกง 5 คน” ก็คือปาเปกกี้น่ันเอง
หน ั งส
นฟ ร
อานุชจะหัวเราะอยางขัน ๆ เมื่อมีใครพูดถึงเหตุการณ ในชวงนัน ้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“ไอตอนนั้น พวกเรามันก็ประเภทวัยสะรุน เลือดลมกําลังแรง ไมคอยคิดหนาคิดหลังเทาไหร ยิ่งมีคนใหทายดวยก็ย่ง ิ ไปกันใหญ มองวาคนรุนปูรุนพองุมงามครํ่ าครึเปนไดโนเสารเตาลานปไป โน น... เดีย ๋ วนี้ พออายุมากขึน ้ มีครอบครัว มีลูกมีเตา พอมองกลับไป ดูท่พ ี วกเราทํากันไวตอนนั้น ก็รูสึกวาเราเองก็ทําไมถูกไวเยอะ เหมือนกัน”
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ถึงตอนนี้ มีเสียงแซวจากอานนทวา “เจยอมรับแลวเหรอวา ตัวเองแก” “เออซิวะ...” อานุชหันขวับมาคอนนองชายวงเบอเรอ “...ฉันไม เหมือนแกนี่ อายุเขาไปตั้งสามสิบสี่สามสิบหาแลว ยังดัดจริตหิ้ว เอาะ ๆไปดิ้นในเธค ระวังเถอะจะหัวใจวายตายคาฟลอรสักวัน” “ผมเขาไปทํารีเสิรชตางหาก”
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
อานนทเถียงดวยสีหนายิ้ม ๆ “รีเสิรชบาบออะไรของแก”
อน ํ าม าให ้อ่า
“รีเสิรชเรื่องความรักตางมิติไงเจ... ประเภทพระเอกหลงมา จากสองสามทศวรรษกอน มาเจอนางเอกในโลกปจจุบัน แบบที่ตอน นี้ ท้ง ั หนังทั้งทีวีกําลังฮิตไงละ”
อานนททําคอยน
นฟ รี โ ปร ดอ
“เออดี ระวังอยาใหไปนั่งคอตกอยูในมิติตะราง เพราะขอหา หลอกเด็กก็แลวกัน คงงามหนาดีหรอกถาหนังสือพิมพพาดหัววา ‘จับดอกเตอรหนุมบากาม ทายาทมหาเศรษฐีหมื่นลาน’...”
ี โป
อื น ํ าม
“ผมไมไดหา...” อานนทยิ้มอยางมีเลศนัย และพยักพเยิดกับพี่ระวี
นฟ ร
“...แตดูทาเจก็รูตัวดีอยูแลวนี่ ”
หน ั งส
รด อ
าให ้อ่า
“ที่จริงเจเนี่ ยนะอะไร ๆ ก็ดีหมด เสียอยางเดียวอีตรงปาก นี่ แหละ ถาผมเปนพี่ดอน คงตองพาไปปรึกษาหมอฟนบางแลว” “อีตาบา...” อานุชกรีด ๊ แกหาวาฉันปากเหม็นยังงั้นเรอะ”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“มาพูดถึงเรื่องตอนนั้นตอดีกวา...” พี่ดวงดาวแทรกขึน ้ เมื่อเห็นวาวงสนทนากําลังจะเปลี่ยนสภาพ เปนสนามรบที่ฝายหนึ่ งมีเล็บยาว ๆ อีกฝายมีเบาะรองเกาอี้รับแขก เปนอาวุธ “...อันที่จริงถาเราไมทําอะไรลงไปบาง ปานนี้ หนูก็คงนั่งเลี้ยง ลูกตาตี่ ๆ เปนโขยง พี่ระวีกับอานนทก็อาจเปนขวัญใจสาวโรงงาน ทอผา”
นํา ไป
ขา ย
“ไอฉน ั ก็คงตองรวมหอลงโรงกับอีตาสมพงษ โอย พูดขึน ้ มาที ไรก็เห็นแตฟนทองเหลืองออยมาลอยอยูตรงหนา... แลวก็คงนั่ง กรอกนํ้าปลาเหม็นหึ่งอยูระยองโน น” อานุชทําทาขยักขยอน
นฟ ร
ย
อานนทย่ น ื หนาเขามากระเซาพี่สาว “แลวตาชาญชัยละอา”
ย่า นํา ไป ขา
ี โป รด อย ่า
“ไมไดพบพระเอกประเภทอาจารยมหาวิทยาลัยหนุมหลอ มาด เทแบบพี่ดอนใชไหมละ”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พี่ดวงดาวถามอยางทีเลนทีจริง “โอย...” อานุชรองลั่นเหมือนโดนเข็มตํามือ พูดถึงใครก็พูด เถอะ แตอยาพูดถึงไอหมอนี่ ใหฉน ั ไดยินเลย เวรกรรมอะไรก็ไมรู ตองเกิดมาเปน ญาติโกโหติกากับมันดวย”
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
คนทั้งสี่ท่ไี ดช่ อ ื วาเปนสวนหนึ่ งของ “แกง 5 คน” ในอดีตสบตา กันและมองเลยออกไปในความมืดเบื้องนอก มีเพียงเสียงถอนใจ อยางเหนื่ อยออนดังขึน ้ เบา ๆ แทนถอยคําสนทนาที่สนุกสนานเมื่อ ครู
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
หาก “นัฐกิจการทอ” เปนกาวแรกบนถนนสายธุรกิจที่ ยาวไกลของปู... “นัฐกิจหลักทรัพย” ก็นับไดวาเปนกาวสําคัญซึ่ง นําปูมาถึงจุดหมายปลายทางอยางภาคภูมิ แตเสนทางสายนี้ ของปู ก็ใชจะรมรื่นและราบเรียบ เหมือนเดินชมดอกไมในอุทยาน แทท่ี จริงแลวกลับเต็มไปดวยหลุมบอและขวากหนามจนเจียนจะเอาตัว ไมรอดเสียดวยซํ้า... พอเลาวา หลังการปฏิวัติ พ.ศ. 2494 จอมพล ป. พิบูลสงคราม กลับมาเปนนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง มีพลเอก เผา อธิบดีกรมตํารวจ กับจอมพล สฤษดิ ์ ผูบัญชาการทหารบก เปนกําลังสําคัญบนดุลถวง แหงอํานาจ ทําใหพอคาในสมัยนั้นตองวิ่งโรเขาหาฝายใดฝายหนึ่ ง
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เพื่อขอความพึ่งพาและความสะดวกตาง ๆ... ปูเองหลังจากที่ต้ง ั โรงงานทอผาดิบในป 2493 และโรงงานทอผาเทโตรอนในป 2498 แลว ปูก็มีความคิดที่จะตั้งโรงงานผลิตเสื้อยืดและกางเกงชั้นในผา ฝายเพื่อสงไปขายในยุโรป แตเงินสวนใหญยังจมอยูกับโรงงานเท โตรอนแหงใหม ปูจึงหาทางระดมทุนจากเพื่อนฝูงและบุคคลทั่วไป ดวยการตั้งบริษท ั การเงิน “นัฐกิจหลักทรัพย” ขึน ้ โดยเชิญนาย ตํารวจระดับอัศวินแหวนเพชรที่กําลังโดงดัง และเปนคนโปรดปราน ของทานอธิบดีเผา มาเปนประธานบริษท ั และมีนายตํารวจระดับรอ ง ๆ ลงไปอีกสองสามคนรวมเปนกรรมการ ซึ่งเมื่อประกอบกับฝมือ และความเชื่อถือที่ปูไดรับจากลูกคาแลว ก็ทําให “นัฐกิจหลักทรัพย” กาวหนาไปอยางรวดเร็ว จากตึกแถวสามชั้นแถวหลัง โรงหนังเฉลิม เขตรก็กลายเปนอาคารสูงสิบชั้นแถบสวนมะลิ จากเงินทุนขั้นตน เพียงสามลานกวาบาท ก็กลายเปนสินทรัพยหลายสิบลานบาท ภายในเวลาเพียงไมก่ป ี ทั้งยังแตกหน อออกไปเปนบริษท ั เล็กบริษท ั นอย ดําเนิ นกิจการตาง ๆ อีกหลายบริษท ั
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“หากเชื่อตามคติของฝรั่ง ชีวิตของคนเราก็เพิ่งจะเริ่มตนเมื่อ อายุส่ส ี ิบ” ปูเริ่มตนดวยนํ้าเสียงที่หมนเครือเมื่อพูดถึงเหตุการณในตอน นั้น “แตสําหรับเรา ชีวิตมันเริ่มมากอนหนานั้นนานนมแลว แตเมื่อ ถึงอายุส่ส ี ิบกลับเปนเวลาที่เราแทบจะหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอยาง กระทั่งเรียกไดวาไมมีแผนดินจะอยูทีเดียว”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ปูหัวเราะฮึ ๆ ในคอ เหมือนจะเยาะเยยโชคชะตาของตัวเอง “ก็เหมือนกับคนที่พอฝนตกลงมาซูหนึ่ งก็รีบตะลีตะลานโดดลง สระเด็ดใบบัวมารองนํ้า ครั้นฝนหายแลวจึงรูตัววา ไอใบบัวสักรอย สักพันใบที่เด็ดมานั้น ก็รองนํ้าไดจริง ๆ เพียงไมก่ห ี ยด ไมคุมกับ เหงาบัว ดอกบัวที่ถูกเหยียบยํ่ า ถูกทึง ้ จนเสียหาย... หากเราคิดได อยางนี้ เสียตั้งแตแรกก็สูรอวักนํ้าฝนที่ตกลงมาปริ่มสระกิน ถึงจะชา จะนานกวากันสักนิ ดสักหน อย แตก็คงไมถึงกับตองเสียบัวไปทั้ง สระ”
ขา ย
ปูถอนหายใจเบา ๆ ดวงตาที่เริ่มขุนมัวนั้นเหมือนจะหมองลงไป
นํา ไป
อีก
ี โป รด อย ่า
...ถึงปูจะคิดวาตัวเองไมควรรีบกระโดดลงไปในสระบัว แต พวกเราก็รูกันวาปูไมใชคนที่จะหักใบบัวมารองนํ้าทั้งทีแลวไดน้ ํา เพียงไมก่ห ี ยด และโดยเฉพาะอยางยิ่งปูจะไมมีวันทําใหบัวเสียไปทั้ง สระโดยเด็ดขาด
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
พอเลาวา “ความขัดแยงและชิงไหวชิงพริบระหวางบุคคลผูเปน ดุลถวงแหงอํานาจของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ไดนําไปสู เหตุการณปฏิวัติ วันที่ 16 กันยายน 2500 โดยจอมพล สฤษดิ ์ เปน ฝายชนะ พวกที่เคยไดช่ อ ื วาสนับสนุนหรือเขาขางอีกฝายหนึ่ ง ตางก็ ไดรับผลกระทบกระเทือนไปตาม ๆ กัน... สํานักงาน นัฐกิจ หลักทรัพย” ถูกตรวจคนและสอบบัญชียอนหลัง ปูเองถูกเรียกตัวไป สอบสวนหลายตอหลายครั้ง เพราะไมเชื่อวาความเจริญเติบโต อยางรวดเร็วของบริษท ั หลักทรัพยของเรา จะไมมีเรื่องลับลมคมใน อื่น ๆ อยูเบื้องหลัง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูยืนกรานโตแยงกับขอกลาวหาเหลานั้นอยางเต็มที่ และตั้งใจ จะพิสูจนความบริสุทธิข ์ องตัวเองใหถึงที่สุด แตเมื่อมีผูใหญแอบ กระซิบวาคณะปฏิวัติจะจับตัวพอคาใหญหลายคน ปูจึงตัดสินใจหนี ออกจากเมืองไทยไปฮองกง โดยมีเงินติดตัวไปแคหาพันบาทกับเสื้อ ผาเพียงชุดเดียว ปูจากเมืองไทยไปอยางกะทันหัน ไมมีเวลาสั่งเสียอะไร และทิ้ง กิจการตาง ๆ มูลคานับรอยลานบาท ใหอยูในความดูแลรับผิดชอบ ของยาเนี ยมซึ่งรูจักแตเรื่องบัญชี และลุงเทียนกับลุงแอนดี้ ซึ่งขณะ นั้นมีอายุเพียงยี่สิบและสิบเกาป
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
8.
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
หลังจากปูเดินทางออกจากเมืองไทยไดเพียงวันเดียว ลุงแอนดี้ก็มีคําสัง่ เปลีย ่ นแปลงพนักงานระดับสูงใน “นัฐกิจ หลักทรัพย” และ “นัฐกิจการทอ” รวมทัง ้ โรงงานทอผาทัง ้ สองโรงทันที ซึ่งกอใหเกิดปฏิกิริยาอยางกวางขวางในหมูพนักงาน และสรางความไมพอใจแกยาเนี ยมและลุงเทียนเปนอยางมาก
าให ้อ่า
“ไอต.ี ๋ ..” ลุงเทียนเอ็ดตะโรลั่นตึกทันทีท่บ ี ่ง ึ จากบริษท ั มาถึง บาน เรื่องอะไรมึงถึงยายคนงานตามใจชอบ ไมปรึกษากูกับคุณเนี ยมกอน”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“ถากูปรึกษาแลวมึงจะใหยายหรือเปลา” ลุงแอนดี้ถามขึน ้ ลอย ๆ โดยไมสนใจกับทาทีของพี่ชาย “ไม” ลุงเทียนปฏิเสธเสียงแข็ง คนพวกนั้นบางคนทํางานกับ เตี่ยมาตั้งแตตอนตั้งโรงงานทอผาดิบใหม ๆ กอนกูกับมึงจะมาจาก เมืองจีนดวยซํ้า จู ๆ มึงจะไปซี้ซ้ว ั ยายเขาไดยังไงวะ” “เห็นไหมละ ถากูปรึกษามึงหรือคุณเนี ยมก็ไมมีทางยายใคร ได” “ที่เทียนเขาพูดก็ถูกของเขาแลว...” ยาเนี ยมแทรกขึน ้ “...การจะโยกยายใครมันตองมีเหตุผลที่สมควร ไมใชทําอะไร เลนตามใจชอบ แลวอีกอยางเตี่ยของเธอสองคนก็มอบหมายใหเรา
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ชวยดูแลบริษท ั รวมกัน แอนดี้จะทําอะไรก็ควรจะบอกเลาเกาสิบกัน กอน ไมใชเอาแตพลการแบบนี้ มันเหมือนกับวา...” “รวบอํานาจไวคนเดียวใชไหม” ลุงแอนดี้ตอดวยนํ้าเสียงเรียบ ๆ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ยาเนี ยมถอนใจแทนคํารับหรือปฏิเสธ “ผมอยากใหคุณเนี ยมกับเฮียรูวาผมไมเคยมีความคิดอยางนั้น อยูในหัวเลย ผมเคารพนับถือคุณเนี ยมอยูตลอดเวลา แตบริษท ั เรา วันนี้ ไมเหมือนเมื่อวานแลว เมื่อไมมีเตี่ยอยู ทุกคนก็ตางจองดูวาเรา สามคนจะทํางานกันไปไดยังไง... ดังนั้นสิ่งแรกที่ผมจําเปนตองทําก็ คือ ใหพวกคนงานรูวาเรามีอํานาจเหนื อกวาที่เขาจะตองเชื่อฟง” “แลวแอนดี้คิดวาการสับเปลี่ยนโยกยายคนมันจะทําใหงาน เดินดีขน ึ้ อยางนั้นหรือ” “ถางานไมเดินหรือเดินไมดีเราก็เปลี่ยนมันใหมอีก แตถึงตอน นั้นพวกเขาก็คงจะรูกันดีแลววา เราสามคนไมไดเปนเพียงผูหญิงกับ เด็ก ๆ ไมประสีประสาเรื่องงานที่ใครจะมาดูหมิ่นได”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
การเปลีย ่ นแปลงตําแหนงหนาทีใ ่ นบริษท ั มีผลลุกลาม ใหญโต จนกระทั่งถึงขั้นยุยงใหคนงานโรงงานทอผาทั้งสองแหงนัด หยุดงาน... พอเลาวา แมตอนนั้นพอจะอายุเพียงหาหกขวบ แตก็ยัง จดจําเหตุการณในวันนั้นไดติดตา “พวกคนงานตรอกจันทนยกไปรวมกับคนงานพระประแดง ตั้งแตเชามืด สงเสียงเอะอะไมยอมใหใครเขาไปในโรงงาน ยากับลุง เทียนมาถึงในราวเกาโมงได พอเองก็มาดวย ยาพยายามพูดจา ปลอบโยนคนงาน แตไมมีใครยอมฟง... ยิ่งสายคนยิ่งเยอะ เหตุการณก็ทําทาจะรุนแรงขึน ้ มีการลอมรถเราไว ขวางปาโรงงาน และตะโกนดาทอยา ลุงเทียน ลุงแอนดี้ อยางหยาบ ๆ คาย ๆ” พอนิ่ งไปครูหนึ่ งอยางจะทบทวนความทรงจํา
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“พอกลัวแทบแย รถก็ไขกระจกขึน ้ หมด สมัยนั้นไมมีแอรอยาง เดีย ๋ วนี้ มันก็เลยทั้งรอนทั้งอึดอัดหายใจไมสะดวก ใจนึ กวาเราสาม คนคงถูกรุมตีตายแน ... พอซักสิบเอ็ดโมง ลุงแอนดี้ก็ขับรถจีป ๊ มาที่ โรงงานคนเดียว สั่งใหยามเปดประตูพรอมกับประกาศทางโทรโขง วา คนงานคนไหนที่กลับเขามาทํางานภายในเวลาครึ่งชั่วโมงจะขึน ้ เงินเดือนใหย่ส ี ิบเปอรเซ็นต และไมเอาผิดใด ๆ ทั้งสิ้น แตถาเลย เวลาไปแลวใครไมเขามาก็จะไลออกหมด” พอหัวเราะเบา ๆ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
“ไมนาเชื่อวาเพียงเวลาไมถึงครึ่งชั่วโมง ลุงแอนดี้สามารถแก ปญหา คนงานสไตรคไดอยางเรียบรอย... และพอเวลาลวงเลยมา สักพักจนคนลืมเรื่องในวันนั้นแลว ลุงแอนดี้ก็คอย ๆ หาเหตุปลดคน งานที่เปนหัวโจกกอเรื่องออกทีละคนสองคน”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
แตท่ส ี ําคัญไปกวาการควบคุมคนงานและลูกจางในบริษท ั ได อยางอยูมือก็คือ ลุงแอนดี้เปนผูกุมแตมในการดูแลกิจการในเครือ ของนัฐกิจเหนื อ กวายาเนี ยมและลุงเทียนโดยสิ้นเชิง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
นอกจากความสามารถสวนตัวแลว สิง ่ หนึ่งซึง ่ มีสวน สงเสริมสถานะของลุงแอนดี้ใหสูงเดนขึน ้ มาก็คือ การที่ปูไดรับ ความชวยเหลือจากพอของปาเปกกี้ ในชวงแรก ๆ ที่เดินทางไปถึง ฮองกง แมวาคนทั้งสองจะมึนตึงกัน เรื่องที่ปูไมยอมใหลุงแอนดี้ไป ทํางานในบริษท ั เดินเรือทะเลของพอปาเปกกี้ ตอนที่ลุงแอนดี้ แตงงานกับปาเปกกี้ใหม ๆ แตพอของปาเปกกี้ก็ไปรับปูถึงบันได เครื่องบิน จัดหาที่พักและอํานวยความสะดวกตาง ๆ ให ปูบันทึกเรื่องราวตอนนี้ ไวในหนังสือที่พิมพแจกตอนงานแซยิด เมื่อเกือบสิบปท่แ ี ลววา “เราจากบานมาครั้งแรกเมื่ออายุสิบเกาป ตอนนั้นถึงจะมีเมีย มีลูกชายถึงสองคน แตเราก็ไมไดรูสึกเศราใจที่ตองจากพวกเขามา อาจจะเปนเพราะเรามีความหวังอันยิ่งใหญท่ร ี อคอยอยูขางหนาวา
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
วันหนึ่ งเมื่อเราสรางตัวเอง มีเงินมีทองรํ่ ารวย เราก็จะรับพวกเขามา อยูดวย แตสําหรับการจากบานครั้งที่สองเมื่ออายุเขาวัยกลางคน เรามีความรูสึกที่แตกตางออกไปจากคราวแรก จิตใจของเราหมน หมองหดหู ไมมีความสุขความสนุกสนานแมแตสักขณะหนึ่ ง หวง นั่นหวงนี่ ไปตาง ๆ นานา เวลานั้นเราคิดแตวาคงไมมีโอกาสไดกลับ มาเมืองไทยอีกแลว ลูกหลานก็ลวนแตยังเล็กจะมีสติปญญาดูแล ทรัพยสมบัติท่เี ราสรางขึน ้ มาไดสักกี่น้ ํา ยิ่งคิดก็ย่ง ิ กลัดกลุมจนแทบ เปนโรคประสาท “รอเจอร เฟย มีน้ ําใจตอเรามาก ถึงแมกอนหนานี้ เรากับเขาจะ มีเรื่องเคืองใจกันเกี่ยวกับลูกชายคนรอง แตยามที่เราตกทุกขได ยากเขากลับยื่นมือเขาชวยเหลือ หาหองเชาใหอยูอาศัย พูดจา ปลอบโยน พาไปเที่ยวชมสิ่งสนุกสนานตาง ๆ ดวยหวังจะใหเรา คลายความเศราหมอง แตก็ไมอาจทําใหเรามีความสบายใจขึน ้ ได อยางจริง ๆ จัง ๆ นอกจากจะเพียงแคเคลิบเคลิ้มไปบางชั่วครูช่ว ั ยาม ครั้นพอรูสึกตัวก็ย่ง ิ มีแตความวิตกกังวลหนักขึน ้ ไปอีก”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูตกระกําลําบากอยูปกวา ๆ แตอาศัยความชวยเหลือของพอ ปาเปกกี้ก็สามารถตั้งบริษท ั “เนชันแนล ทรัสต” ขึน ้ มาได... “เนชัน แนล ทรัสต” เมื่อแรกตั้งเปนเพียงหองแถวคูหาเล็ก ๆ บนฝงเกาลูน เปดรับแลกเงินสดบาง ตัว ๋ แลกเงินบาง ตอมาเมื่อไดรับความเชื่อถือ จากลูกคามากขึน ้ จึงคอยดําเนิ นกิจการรับโอนเงินตราของพอคาจีน ในเมืองไทยกับฮองกงผานทาง “นัฐกิจหลักทรัพย” ที่กรุงเทพฯ อยางไรก็ตาม ความสัมพันธระหวางปูกับพอของปาเปกกี้ท่ี ทําทาจะดี ก็ตองมีอันหมางเมินไปอีกครั้งในเวลาตอมา เมื่อกิจการ ของ “เนชันแนล ทรัสต” เติบโตขึน ้ และปูตองการใหลูกชายรุนใหญ คนใดคนหนึ่ งมาชวยงาน ซึ่งพอของปาเปกกี้พยายามหวานลอม ชักจูงใหปูเรียกลุงแอนดี้มา ปูเขียนถึงเรื่องนี้ ไวในหนังสือที่แจกตอนงานแซยิดวา เมื่อพูดคุยกับรอเจอรถึงเรื่อง ‘เนชันแนล ทรัสต’ ทีไร เขามักจะ ยกเหตุผลตาง ๆ นานามาอาง เพื่อใหเราเห็นดีเห็นงามไปตาม ความคิดของเขาที่อยากใหลูกชายคนรองมาคุมบริษท ั ทรัสตท่ี
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ฮองกง บางครั้งถึงกับรับปากจะหาเงินทุนกอนใหญมาเพิ่มเติมให ซึ่งเราก็ไดแตปฏิเสธไปเพราะไมตรงกับใจของเราที่อยากจะให ลูกชายคนโตไดมีโอกาสแสดงฝมืออยางเต็มที่บาง เมื่อเห็นวาเราไม เออออไปดวย รอเจอรก็ไมพอใจ เลิกไปมาหาสูเราเหมือนกอน... ทุก วันนี้ เรายังนึ กเสียใจอยูเสมอที่ทําใหเขาตองเสียนํ้าใจ รวมทั้ง เสียดายมิตรภาพที่ไมอาจหวนทวนดีดังเดิม เพราะความที่เราเอา แตใจตัวนั่นเอง” แตถึงปูจะตองเสียใจอีกสักรอยครั้ง เราก็รูวาคนอยางปูเมื่อลง ตั้งใจวาจะทําอะไรแลว ไมมีวันที่จะยอมเลิกลมความตั้งใจงาย ๆ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ดังนั้นคนที่ถูกเรียกตัวใหไปดูแลบริษท ั “เนชันแนล ทรัสต” ที่ ฮองกงจึงเปนลุงเทียน ไมใชลุงแอนดี้ท่พ ี อของปาเปกกี้หมายมั่น ปูใหเหตุผลในการตัดสินใจครั้งนั้นวา เนื่ องจากเห็นวาลุงแอ นดี้สามารถดูแลบริษท ั ตาง ๆ ในกรุงเทพฯไดดีแลว หากเปลี่ยนมือ อีกก็เกรงวางานอาจจะชะงักได แตเปนที่รูกันในเวลาตอมาวา ปูไม ตองการใหลุงแอนดี้กุมอํานาจคนเดียวทั้งในบริษท ั ในเครือของนัฐ กิจที่กรุงเทพฯ และ“เนชันแนล ทรัสต” ที่ฮองกง ซึ่งมีอิทธิพลของพอ ปาเปกกี้หนุนหลังอยู
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
และบางทีส่ง ิ ที่ปูกังวลมากไปกวานั้นก็คือ กิจการตาง ๆ ทั้งหมดในเมืองไทยอาจถูกถายมือจากลุงแอนดี้มาสูพอของปาเปกกี้ ในภายหลัง ไมมีใครตอบไดวาปูกังวลไปจนเกินเหตุหรือไม และตัดสินใจ ถูกหรือไมท่เี ลือกลุงเทียนใหดูแล “เนชันแนล ทรัสต” ในครั้งนั้น
งส อื
นํา ม
ลุงเทียนกลับไปฮองกงอีกครัง ้ ในป พ.ศ. 2505 หลังจาก ทีจ ่ ากมาอยางนกปกหักเมื่อเจ็ดปกอน ไมมีใครลวงรูความรูสึกของ ลุงเทียนในตอน นั้นวาดีใจหรือไมเพียงไรที่ไดรับความไววางใจจาก ปูใหดูแล “เนชันแนล ทรัสต” เพียงลําพังโดยไมมียาเนี ยมหรือลุงแอ นดี้รวมรับผิดชอบดวยอยางบริษท ั ในเครือนัฐกิจที่เมืองไทย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ลุงเทียนไปฮองกงกับพี่ระวีลูกชายคนโต ซึ่งตอนนั้นอายุได แปดขวบโดยทิ้งปาทรงศรีกับพี่ดวงดาวไวท่ก ี รุงเทพฯ ตอนแรกลุง เทียนตั้งใจจะเอาพี่ระวีไปเขาโรงเรียนจีนที่น่ัน แตพอเรียนไดเพียง เทอมเดียวพี่ระวีก็รองกลับเมืองไทย เพราะคิดถึงยาเนี ยมที่ติดแจมา ตั้งแตเล็ก และอานนทซ่ง ึ เปนเหมือนคูแฝดที่ไมเคยพรากจากกันมา กอน... เมื่อสงพี่ระวีกลับแลวปูก็มีคําสั่งใหลุงแอนดี้สงพี่ชาญชัยมา อยูกับลุงเทียนแทน ซึ่งดูเหมือนจะเปนครั้งแรกที่ปูกับลูกสะใภคน รองมีความเห็นลงรอยกัน เพราะปาเปกกี้เห็นวา เปนโอกาสอันดีท่ี ลูกชายของตัวจะไดอยูใกลชิดทั้งปูและตาซึ่งกําลังวาเหว ในขณะที่ปู ตองการใชหลานชายเปนสะพานฟนฟูความสัมพันธกับพอของปา เปกกี้ รวมทั้งใหพ่ช ี าญชัยอยูภายใตการเลี้ยงดูของลุงเทียน โดย หวังวาแมลุงแอนดี้จะสามารถกุมอํานาจในบริษท ั ตาง ๆ ที่กรุงเทพฯ ได แตลุงเทียนก็อาจกําอํานาจเหนื อจิตใจลูกชายคนเดียวของลุงแอ นดี้ไวอีกชั้นหนึ่ ง เมื่อลุงเทียนจับงานตาง ๆ ไดคลองแลว ปูก็วางมือจาก “เนชัน แนลทรัสต” และออกเดินทางไปอเมริกากับเพื่อนชาวฮองกง เพื่อ ศึกษาลูทางการสงออกและนําเขาสินคาตาง ๆ ... ปูใชเวลา ทองเที่ยวและทําธุรกิจในอเมริกานานถึงหกเดือน จนกระทั่งมี โทรเลขดวนจากฮองกง เรียกตัวปูกลับไปตกลงเรื่องหนี้ สินของ “เน ชันแนล ทรัสต” กับผูเสียหายหลายราย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
9.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ลุงเทียนไปอยูฮองกงครัง ้ แรกเมื่ออายุสิบหกป ในสภาพ ของนักศึกษาทีเ่ พิง ่ เดินทางออกมาจากแผนดินใหญ มีชีวิต ความเปนอยูคอนขางกระเบียดกระเสียร เพราะปูไมตองการใหลูก ใชจายสุรุยสุราย พบปะผูคนในวงสังคมแคบๆ ไมมีโอกาสเที่ยวเตร สนุกสนาน ยิ่งตอนที่อยูกินกับปาทรงศรีก็ถูกปูลงโทษดวยการ จํากัดเงิน และใหเบิกจายผานทางลุงแอนดี้ ก็ย่ง ิ ทําใหเดือดรอนและ อึดอัดใจขึน ้ ไปอีก... จนกระทั่งมีพ่ด ี วงดาว ทั้งลุงเทียนและปาทรงศรี จึงตองดิ้นรนหางานทําจนเรียนหนังสือไมจบทั้งคู
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
แตเมื่อไปอยูฮองกงในครั้งหลัง สภาพแวดลอมตางๆ ได เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง คราวนี้ ลุงเทียนอยูในฐานะผูจัดการ บริษท ั “เนชันแนล ทรัสต” ที่มีกิจการใหญโต มีความเปนอยูหรูหรา และมีช่ อ ื เสียงในวงสังคมชั้นสูง จึงทําใหเพลิดเพลินไปกับการใชเงิน ทองซื้อหาความสําราญตางๆ ที่ไมเคยมีโอกาสพบพานมาแตกอน อยางเต็มที่... ยาเนี ยมเลาวาตอนนั้นลุงเทียนจัดงานเตนรําใหญโต แทบทุกอาทิตย เปลี่ยนคูควงไมซ้ า ํ หนา และเสียการพนันทีละเปน แสนๆ เหรียญฮองกง จนใครตอใครพากันใหสมญาวา “คุณชายเจา สําราญ”
งส อื
นํา ม
“ตอนแรกๆ เขาก็คงจะพอหมุนเงินบริษท ั มาใชจายได....” ยาเนี ยมเลาดวยนํ้าเสียงที่ปราศจากความรูสึกใดๆ “...แตครั้นนานเขา เงินมันก็เริ่มขาดมือ บริษท ั “เนชันแนล ทรัสต” ที่กําลังรุงเรืองก็
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
คอยๆ เสื่อมโทรมลงถึงขั้นเปนหนี้ เปนสินติดคางเงินลูกคาเปน จํานวนมาก จนพวกเจาหนี้ เขาชื่อกันจะฟองรอง” “คุณชายเจาสําราญ” หายหนาไปจากวงสังคม ไมมีงานเตนรํา ไมมีผูหญิงคนไหนมาเปนคูควง ไมมีเพื่อนฝูงที่จะมารวมสรวลเส เฮฮาเหมือนกอน”
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ทันทีทก ี่ ลับไปถึงฮองกง ปูก็ส่ง ั ใหลุงแอนดี้โอนเงินจํานวน รอยลานบาทจาก “นัฐกิจหลักทรัพย” ไปเขาบัญชี “เนชันแนล ทรัสต” ทามกลางเสียงคัดคานจากลุงแอนดี้และยาเนี ยม “ตอนนั้นทุกคนในเมืองไทยไมมีใครเห็นดวยกับเรื่องการโอน เงินรอยลานสักคน คิดดูซิไอบริษท ั ทรัสตท่ฮ ี องกงกําลังจะลมละลาย แทนที่จะหาทางยักยายถายเททรัพยสินที่พอมีหลงเหลือมาทาง เมืองไทย นี่ กลับเอาเงินจากเมืองไทยไปโปะ... เงินตั้งรอยลานบาท เมื่อยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปกอนมันนอยๆ เสียเมื่อไหร ถาเกิดผิดพลาด อะไรขึน ้ มา “นัฐกิจหลักทรัพย” และบริษท ั อื่นๆ ก็จะพลอยลมลงไป ดวย” ยาเนี ยมถอนหายใจลึกๆ เหมือนกับจะยังไมคลายความใจหาย ใจควํ่ า
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
เมื่อไดเงินจากกรุงเทพฯแลว ปูก็รีบคืนเงินที่ติดคางใหบรรดา เจาหนี้ และเชิญลูกคาของ “เนชันแนล ทรัสต” มางานเลี้ยงที่จัดขึน ้ อยางมโหฬาร ขณะที่ทุกคนกําลังเพลิดเพลินกับการกินเลี้ยงกันอยู ปูก็ขน ึ้ ไปบนเวทีกลาวคําขอบคุณลูกคาที่ใหความเชื่อถือและไว วางใจ “เนชันแนล ทรัสต” มาดวยดี พรอมกับขอโทษที่เกิด เหตุการณไมดีขน ึ้
งส อื
นํา ม
“หนังสือพิมพฮองกงลงขาวนี้ กันเกรียวกราว โดยเฉพาะคําพูด ของคุณเหลียงในคืนนั้น เปนที่กลาวขวัญกันมาก...” ยาเลาดวยสีหนาเจือรอยยิ้ม
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“…คุณเหลียงยอมรับผิดทุกอยางในเรื่องที่เกิดขึน ้ เพียงคน เดียว และขอโอกาสตัวเองกับลูกชายคนใหญทํางานแกตัวอีกสัก ครั้ง... แกวาแกคงไมบังอาจไปพบบรรพบุรุษในปรโลก หากถูก เพื่อนฝูงตราหนาวาเปนคนคดโกงและเลิกคบหาสมาคมดวย ทั้ง ลูกหลานในตระกูลที่ไมรูอิโหน อิเหน ก็จะตองพลอยหมดสิ้นอนาคต และหนทางทํามาหากินเพราะแก... คุณเหลียงขอรองวา หากมีใคร ยังถือโทษโกรธเคืองเรื่องนี้ อยู แกก็ขอเอาชีวิตตัวเองเปนเครื่องไถ โทษ เพียงแตวิงวอนใหทุกคนยกโทษและใหอภัยแกลูกหลานของ แกที่อยูขางหลัง”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
“เนชันแนล ทรัสต” ทีก ่ ําลังจะลมละลายกลับฟนตัวขึ้น มาอีกครัง ้ ราวปาฏิหาริยเพียงชัว ่ ขามคืนนัน ้ ... ปูโอนเงินรอย ลานบาทกลับมาให “นัฐกิจหลักทรัพย” ภายในเวลาสองอาทิตยตอ มา ปูบอกวา “คนเราเมื่อทําผิดแลวยอมรับผิด ยอมมีผูเมตตาใหอภัยเสมอ แตถาดื้อดึงถือทิฐิมานะหรือไมกลาพอที่จะยอมรับความจริง คนเชน นั้นก็มีแตจะตองทําความผิดเพิ่มขึน ้ เรื่อยๆ ไมรูจักจบจักสิ้น เพียง เพื่อจะกลบเกลื่อนปดบังความผิดอันแรกของตน” สวนเรื่องที่ยอมรับผิดแทนลุงเทียน ปูอธิบายวา “เราเปนผูใหญ เมื่อใชเด็กทํางานแลวเกิดความเสียหายขึน ้ มา จะไปกลาวโทษหรือโยนความผิดใหเด็กเสียทีเดียวก็ไมถูก เปรียบ เหมือนกับวาเราเปนเจาของฝูงมา ยอมตองรูกําลังและนิ สัยใจคอมา แตละตัวใหถองแท เมื่อขึน ้ ควบขี่ไมไดด่ง ั ใจ สมควรที่จะเฆี่ยนตีมา หรือตัวเรามากกวากัน” ปูยอนพูดถึงเรื่องเงินรอยลานในครั้งนั้นดวยสีหนาราบเรียบ “ไอเรื่องเงินนั่น ใชวาเราจะคิดไวลวงหนาวาตัวเองจะมีหนทาง
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
หามาคืนใหทางกรุงเทพฯไดรวดเร็วอยางนั้น จริงๆแลวก็มืดแปด ดานเหมือนกัน... แตเมื่อเราเปนหนี้ คนในฮองกงอยูก็ตองชดใช หนี้ สินเหลานั้นกอน ใครจะคาดเดาวา “เนชันแนล ทรัสต” จะฟนขึน ้ มาไดอีก มันอาจจะเจงไปเลยก็ได ดีไมดีก็พลอยให “นัฐกิจ หลักทรัพย” ลมลงไปอีกบริษท ั ดวยซํ้า... แตเราถือวาขาวของเงิน ทองเมื่อหมดไปแลว หากยังพอมีกําลังวังชาอยูก็อาจหาใหมทดแทน ได แตช่ อ ื เสียงและความไววางใจที่อุตสาหสรางสมมาหากสูญสิ้นลง แลว ชาติน้ี ท้ง ั ชาติก็คงไมมีทางสรางมันขึน ้ มาใหมไดอีก” อาจจะเพราะความที่เปนคนรักษาชื่อเสียงของตัวเองมาโดย ตลอดนี่ เอง ที่เปนสวนหนึ่ งซึ่งทําใหปูไดรับความเชื่อถือจากผูคน ทั่วไป จนสามารถพาตัวเองและกิจการคาผานพนวิกฤตการณตางๆ มาไดดวยดีจนถึงทุกวันนี้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
หากลุงเทียนไดฉายาวา “คุณชายเจาสําราญ” ตอนนัน ้ พีช ่ าญชัยก็ควรจะไดสมญาวา “คุณหนูบรมสุข” ...พี่ชาญชัยได อยูกับลุงเทียนและปูกับพอของปาเปกกี้ท่ฮ ี องกงเมื่ออายุไดเพียงหก ขวบ เปนหลานชายคนเดียวของตาที่รํ่ารวยมหาศาล และหลานปู คนเดียวที่ติดตามไปอยูดวยที่น่ัน ประกอบกับเปนเด็กหนาตาดี เฉลียวฉลาด ชางพูดชางคุย จึงทําใหท้ง ั ปูและตาหลงใหลไปตามๆ กัน วากันวาตอนนั้นพี่ชาญชัยนั่งรถโรลสรอยซสีดําคันใหญ มีคน ขับแตงเครื่องแบบสีขาวไปรับ-ไปสงที่โรงเรียน ถึงเวลาอาหาร กลางวันก็จะมีพ่เี ลี้ยงนําอาหารที่ปรุงพิเศษไปปอน และทุกครั้งที่เรือ สินคาของพอปาเปกกี้เขาเทียบทาเมืองฮองกง จะตองมีของเลนแปล กๆใหมๆจากญี่ปุน ยุโรป และอเมริกา ติดเรือมาฝากเสมอ ในวันที่ เรือเขา พอของปาเปกกี้จะใหหลานชายแตงชุดกะลาสีและพาลงไป ดูอะไรตางๆในเรือ เพื่อปลูกฝงนิ สัยใหรักอาชีพการเดินเรือ โดยหวัง วาเมื่อพี่ชาญชัยโตขึน ้ จะไดดูแลกิจการแทนตน แตส่ง ิ ที่พ่ช ี าญชัยได มากลับเปนนิ สัยนักเลงเกะกะเกเรซึ่งติดมาจากพวกลูกเรือ อยางไร
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ก็ตาม พี่ชาญชัยก็ฉลาดพอที่จะเก็บซอนนิ สัยเลวรายเหลานั้นไว ภายใตทาทางภายนอกที่ดูคลองแคลวและสุภาพเรียบรอย และอีกหลายปตอมา เมื่อสิ่งที่ถูกเก็บอยูภายในเปดเผยออกมา ก็สายเกินกวาที่ใครจะแกไขอะไรไดทัน
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ปูอยูฮองกงนานถึงหกป จนกระทัง่ จอมพล สฤษดิ ์ ถึงแก อสัญกรรม จึงไดเดินทางกลับมาเมืองไทย “เมื่อตอนที่จากเมืองไทยไป เราก็กลัววาจะไมมีโอกาสกลับมา เห็นหนาลูกหนาเมียอีก แตตอนที่กลับมาจากฮองกง เรายิ่งกลัวไป กวานั้น...” ปูสารภาพไวในหนังสือที่แจกงานแซยิดวา
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“หกปท่ห ี างบานไปไมใชเวลานอยๆ เวลาลวงเลยไป บานเมือง ก็เปลี่ยนแปลง ผูคนก็เปลี่ยนไป เราไมแน ใจวาจะปรับตัวเขากับใคร หรือใครจะปรับตัวเขากับเราไดไหม ลูกหลานก็เติบโตขึน ้ บางคน อาจจะไมเห็นเราในสายตาอีกตอไปก็ได” เปนที่รูกันโดยนัยวา “ลูกหลาน” ที่ปูกังวลนั้นคือลุงแอนดี้ ซึ่ง ปกครองบริษท ั ในเครือ “นัฐกิจ”มาตลอดหกปท่ผ ี านมา พอเลาวา
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
“ตอนนั้นลุงแอนดี้ก็กลัวเรื่องนี้ ไมนอ ยไปกวาปู ถึงกับเสนอให ปูกับลุงเทียนโอนสัญชาติเปนฮองกงเสียเลย เพื่อบริษท ั “เนชันแนล ทรัสต” จะไดไมมีปญหาทางกฎหมายกับทางการฮองกงใน ภายหลัง”
าให
เรื่องนี้ ปูเคยพูดไวในทํานองเปรียบเทียบวา
งส อื
นํา ม
“ฮองกงเปนเหมือนลําธารสายเล็กๆ ที่แมจะดูวารื่นรมย แตก็ เปนเพียงทางนํ้าสั้นๆ ที่ยอมมีวันเหือดแหงหรือเปลี่ยนทางได สวน เมืองไทยเปนเหมือนทะเลหลวงอันไพศาล... เราเคยเห็นก็แตแมน้ ํา ลําคลองไหลลงสูทองทะเล ยังไมเคยเห็นสักครั้งที่ทะเลไหลยอนขึน ้
ขา ย
ไปรวมกับแมน้ ําลําธาร”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
แตมีส่ง ิ หนึ่ งซึ่งสําคัญกวาคําเปรียบเทียบนั้นก็คือ แมเมืองไทย จะไมใช “บานเกิด” ของปู แตปูก็ย้ า ํ มาแตไหนแตไรวาที่น่ี คือ “เรือน ตาย” ...ปูวาสําหรับคนจีนแลวถือวาทั้ง “บานเกิด” และ “เรือนตาย” ลวนมีความสําคัญตอชีวิตมนุษยพอๆกัน และบางครั้งสิ่งหลังอาจมี ความสําคัญเหนื อกวาดวยซํ้า เพราะคนเราไมอาจเลือกที่เกิดได แต เราสามารถเลือกที่ท่เี ราจะใชชีวิตทํามาหากิน และที่ท่จ ี ะฝงเรือน รางของตัวเองเมื่อยามสิ้นลมหายใจได ปูวาเมืองไทยมีบุญคุณกับปู ทําใหปูมีกินมีใช มีกําลังเลี้ยงดู ลูกหลานมาตั้งแตตน แมตลอดเวลาปูจะยังคงถือวาตัวเองเปนคน จีน ไมพยายามแตงจริตทําตัวเปนคนไทยจนเกินเหตุเหมือน เพื่อนฝูงบางคน... แตปูก็ถือวาตัวเองเปนคนจีนที่ “กตัญู-รูคุณ ธรรม” และรําลึกถึงพระคุณของแผนดินที่กอรางสรางตัวมาอยูเสมอ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยไดไมนาน ปูก็ตง ั ้ สํานักงาน กลางเพื่อดูแลบริษท ั และกิจการทีม ่ ีอยูทง ั ้ หมด... คําวา “นัฐ กิจโกศล” และบริษท ั ในเครือจึงเริ่มเกิดขึน ้ ในตอนนั้น และเปนฐาน ที่ม่น ั ซึ่งปูใชในการแผก่ง ิ กานสาขา และรวบรวมอํานาจซึ่งกระจัด พลัดพรายไปอยูในมือลุงแอนดี้และคนอื่นๆ ใหกลับมาอยูในมือปูอีก ครั้ง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
10.
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พอเลาวา ตอนทีป ่ ูกลับมาจากฮองกงใหม ๆ “กิจการคา ทีส ่ ําคัญของครอบครัวเรามีเพียง นัฐกิจหลักทรัพย” กับ “นัฐกิจการ ทอ” ซึ่งทั้งสองอยางมีมูลคาหลายรอยลานบาท สวนนอกนั้นก็เปน บริษท ั เล็กบริษท ั นอย แตละบริษท ั ลวนมีทรัพยสินและเงินทุน หมุนเวียนตํ่ ากวาสี่หาลานบาท บางบริษท ั ก็เพียงลานเดียว และ บางบริษท ั ก็ดําเนิ นกิจการที่ใกลเคียงกันจนแทบจะเปนคูแขง แกงแยงลูกคากันเอง ความคิดในเรื่องตั้งบริษท ั เล็ก ๆ เหลานี้ สืบเนื่ องมาตั้งแตครั้ง ที่ปูทํา “นัฐกิจหลักทรัพย” ใหม ๆ โดยมีจุดประสงคสําคัญเพื่อ ระบายเงินที่บริษท ั หลักทรัพยมีอยูออกมาลงทุนในกิจการใหม ๆ บาง เพื่อลดความเสี่ยงในการทุมเทเงินลงทุนไปในกิจการใดกิจการ หนึ่ งเพียงลําพังบาง รวมทั้งเพื่อหลบเลี่ยงภาษีบางประเภท... แต เมื่อลุงแอนดี้เขาดูแลกิจการแทนในชวงที่ปูไมอยูเมืองไทย บริษท ั พวกนี้ ก็แตกแขนงมากยิ่งขึน ้ ทําการคานานาชนิ ดตั้งแตส่ง ั สินคา เขา ไปจนถึงรานแลกเปลี่ยนเงินตรา บางบริษท ั ก็ทํากิจการที่ไมมี ความสัมพันธกับกิจการหลักของครอบครัวเลย เชน โรงงานผลิตธูป หอม หรือบริษท ั ซื้อ-ขายเม็ดมะมวงหิมพานต เปนตน
งส อื
นํา ม
พอเลาวา ในชวงเวลาหาหกปท่ล ี ุงแอนดี้เกือบจะมีอํานาจ สิทธิข ์ าดแตผูเดียวในกิจการงานตาง ๆ นั้น ลุงแอนดี้พยายามที่จะ ตั้งบริษท ั ใหม ๆ ขึน ้ มากมาย เพื่อขยายกิ่งกานสาขาออกไปอยาง
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
กวางขวาง จนกระทั่งบางบริษท ั ก็แตกตัวเองออกไปอีก... ยิ่งแผ กระจายออกไปไดเทาไหร ก็ดูเหมือนวาอิทธิพลและความผูกพันที่ “นัฐกิจ” มีตอบริษท ั เล็ก ๆ เหลานั้นจะยิ่งแผวบางลง ในขณะที่บารมี ของลุงแอนดี้กลับทอแสงอยูเหนื อบริษท ั เกิดใหมพวกนั้นอยางเต็มที่ พอเองเชื่อวา นอกจากความลําบากยากจนแตหนหลังที่เปน แรงผลักดันใหลุงแอนดี้ทะเยอทะยานที่จะแผปกหางรวบทุกอยางไว ในอํานาจแลว ยาเหมยหลิงก็มีสวนสําคัญในการกระตุนเตือนให ลูกชายคนเล็กฉกฉวยกอบโกยสมบัติตาง ๆ ไวในมือใหมากที่สุด เพื่อจะไดไมตกลงมาถึงยาเนี ยม และลูก ๆ ฝายนี้
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
มีหลายคนเลาใหฉน ั ฟงวา ในยุคทีล ่ ุงแอนดี้ยง ิ่ ใหญเต็ม ทีน ่ น ั ้ ยาเหมยหลิงก็พลอยวางทาใหญโตราวกับนางพญา ทุกวันจะ แตงเนื้ อแตงตัวดวยเสื้อผาสวยงาม ประดับประดาเพชรพลอยทอง หยองแพรวพราวเดินถือพัดดามจิ้วกรีดกรายไปมารอบตึก ในขณะที่ ยาเนี ยมแตงตัวลวก ๆลก ๆ ออกไปทํางานที่บริษท ั ตั้งแตเชา กวาจะ กลับถึงบานก็มืด ๆ คํ่ า ๆ อยางไรก็ตาม คนที่ขวางหูขวางตายาเหมยหลิงอยางมากกลับ เปนลูกสะใภคนเล็กของแกเอง...
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
ปาเปกกี้กับยาเหมยหลิงมีเรื่องขุนของหมองใจกันมาตั้งแตปา เปกกี้ เคี่ยวเข็ญใหลุงแอนดี้ไปทําหมันหลังจากที่มีพ่ช ี าญชัย ทั้งที่ยา เหมยหลิงเคยหวังที่จะเห็นลูกชายของแกมีหลานใหช่ น ื ชมเยอะ ๆ เลยเปนเหตุใหยาเหมยหลิงเกลียดชังลูกสะใภคนนี้ และดาทอวาปา เปกกี้เห็นแกตัว หวงใยแตความสาวความงามมากกวาจะคิดสราง ลูกหลานไวสืบตระกูล
งส อื
นํา ม
เมื่อยาเหมยหลิงถือวาครอบครัวเราในตอนนั้นมีอยูมีกินอยาง สุขสบาย ไดเพราะบารมีลูกชายแก ขางปาเปกกี้ก็กลับถือวาที่ยา เหมยหลิงชูคอเชิดหนาใสใครตอใครได ก็เพราะความสามารถของ สามีตน และเทาความไปถึงเรื่องที่พอของตนยื่นมือเขามาชวยเหลือ
ขา ย
เมื่อปูล้ภ ี ัยไปอยูฮองกงใหม ๆ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
แมปูจะพรํ่ าสอนลูกหลานใหเปนคนกตัญูรูคุณ จนฉันจําคํา พูดของปูท่ว ี า “บุญคุณแมเพียงครั้งเดียว ชดใชคืนรอยปก็ไมหมด สิ้น” แตพวกเราก็รูกันวาปูคงจะอึดอัดใจไมนอ ย ในเรื่องที่ปาเปกกี้ ยังคงพูดในทํานองทวงบุญทวงคุณมาจนกระทั่งทุกวันนี้ และบาง ครั้งยาเนี ยมก็ถึงกับโพลงออกมาวา “สิ่งเดียวที่จะลบลางบุญคุณได ก็คือการลําเลิกบุญคุณ” พอบอกวา แมตอนนั้นลุงแอนดี้จะมีอํานาจมากทั้งในบานและ บริษท ั จนอาจลืมตัวไปบาง แตก็ตองนับวาลุงแอนดี้ยังเปนคนดีใน เรื่องที่ใหความเคารพนับถือยาเนี ยมอยางเสมอตนเสมอปลาย และ เลี้ยงดูนอ ง ๆ ทุกคนมาดวยดี ความดีขอนี้ ของลุงแอนดี้ แมแตยาเนี ยมก็ยังพูดในทํานอง ยกยองอยูเนื อง ๆ วา ลุงแอนดี้เปนชายชาติเสือ ที่แมจะดุรายเพียง ใด ก็ไมเคยคิดทําอันตรายลูกเสือที่เยาวกวา
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ความขัดแยงไมกินเสนกันระหวางยาเหมยหลิงกับปา เปกกี้ในตอนนั้น กลายเปนสงครามเย็นที่ตางฝายตางเปดแนวรบ กันอยางเงียบ ๆ เพื่อชวงชิงความเปนใหญในบาน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
พอเลาวา เมื่อยาเนี ยมตองออกไปทํางานที่บริษท ั อํานาจใน การปกครองบานจึงเปลี่ยนมาอยูในมือของยาเหมยหลิงโดยปริยาย และยาเหมยหลิงก็เปดฉากเลนงานลูกสะใภซ่ง ึ อยูไมติดบาน ดวย การหามไมใหคนใชเขาไปทําความสะอาดหองพักของลุงแอนดี้กับ ปาเปกกี้ อานุชเคยแอบเลาใหฉน ั ฟงวา แมวาปาเปกกี้จะเปนคนสวย แตงตัวเกง แตก็เปนผูหญิงอยางที่คนไทยเรียกกันวา “สวยแตรูปจูบ ไมหอม” เพราะสนใจแตเรื่องความสวยความงามของตัวเองมากกวา งานบานงานชอง... อานุชเลาวา เสื้อผาสวย ๆ ของปาเปกกี้เมื่อถอด ตรงไหนก็กองอยูตรงนั้น ถุงน อง ยกทรง กางเกงใน พาดเปะปะไป
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ทั่ว ที่หลับที่นอนไมเคยจัดเคยปูเอง ถาไมมีคนใชทําเตียงให เมื่อคืน นอนกันอยางไรคืนนี้ ก็ยังอยูในสภาพนั้น “พูดก็พูดเถอะ ตั้งแตจําความไดยังไมเคยเห็นพี่เปกกี้จับ ไมกวาดกวาดบานสักแอะหรือลางจานสักใบเลย” “แลวลุงแอนดี้ไมวาอะไรหรือฮะ” ฉันอดถามดวยความแปลกใจไมได เพราะแมฉน ั ที่อานุชมักจะ คอนวาเปนคนเจายศเจาอยาง แตเวลาที่อยูวาง ๆ แมก็ยังเอาไมขน ไกมาปดฝุนเครื่องลายครามหรือตุกตากระเบื้องออกบอย ๆ “โอย พี่เปกกี้นะเขาเปนอยางนี้ มาตั้งแตเกิด คนเขาโตมากับ กองเงินกองทอง ไอคนของเราโตมากับกองขยะจะกลาไปวาอะไร เขาได”
นฟ รี โ ปร ดอ
อานุชยิ่งเลาก็ย่ง ิ ออกรส “นุช...” อาดอนสงเสียงปรามมาจากโตะเขียนหนังสือ
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“...พูดเรื่องอื่นดีกวา ใครเขามาไดยินเขามันไมดี” อานุชแมจะยังคันปาก แตก็หยิบสมุดบัญชีขน ึ้ มาพลิกดูเปนเชิง ใหฉน ั รูวา วันนี้ คงจะไมมีการคุยเรื่องนี้ กันอีกแลว
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
เปนทีร ่ ูกันมาแตไหนแตไรวา ยาเหมยหลิงเลี้ยงดู ลูกชายทัง ้ สองคนมาดวยระบอบ “มารดาธิปไตย” ไมวาแกจะทํา อะไร ผิดหรือถูกอยางไรทั้งลุงเทียนและลุงแอนดี้ก็ไมกลาโตแยง หรือพูดจาทักทวง ไดแตปลอยใหแกทําไปตามใจชอบ
งส อื
นํา ม
และก็เปนที่รูกันโดยทั่วไปวา ลุงแอนดี้น้ันเกรงอกเกรงใจปา เปกกี้อยางมากจนไมเคยขัดใจในทุก ๆ เรื่อง... แมวานอกบานลุงแอ นดี้จะยิ่งใหญขนาดไหน แตเมื่ออยูในบานแกก็เปนเหมือนแมวเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ ง ยิ่งเมื่อตองมาตกอยูทามกลางความขัดแยงระหวางแมผู ใหกําเนิ ดกับเมียบังเกิดเกลา ลุงแอนดี้ก็พูดอะไรไมออก ไดแตเก็บ
ขา ย
ความอัดอั้นตันใจไวในอกเพียงลําพัง
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
เมื่อถูกโจมตีกอนเชนนี้ แมวาปาเปกกี้ไมมีอะไรที่จะตอง เกรงกลัวแมผัว แตแกก็ฉลาดพอที่จะไมพูดหรือทําอะไรใหลุงแอนดี้ ไมสบายใจหนักขึน ้ ไปอีก... พอเลาวา ปาเปกกี้ทําทาเหมือนไมมี อะไรเกิดขึน ้ ไมอาละวาดดุดาคนใชท่ถ ี ือคําสั่งยาเหมยหลิงอยาง เครงครัด จนไมยอมเก็บกวาดหองพักใหแก และก็ไมไดลงมือทํา ความสะอาดดวยตัวเอง แตกลับหวานลอมใหลุงแอนดี้แยกตัวออก ไปอยูกันตามลําพัง ซึ่งลุงแอนดี้ก็เห็นดีเห็นงามดวย แตเมื่อเรื่องรู ถึงหูยาเหมยหลิง แกก็ตีโพยตีพายวาลูกชายเห็นเมียดีกวาแม จะ ทอดทิ้งแกไปหาความสุขกันที่อ่ น ื ทั้ง ๆ ที่แกเองไมมีใครคอยดูแล... เรื่องนี้ อานุชแอบกระซิบใหฉน ั ฟงวา ที่แทแลวตอนนั้นยาเหม ยหลิงเปนหวงวาถาไมมีลุงแอนดี้อยูเปนหลัก ตึกหลังนี้ อาจตกอยู กับลูก ๆ สายยาเนี ยม โดยแกและลูกชายทั้งสองคนหมดโอกาสที่ จะครอบครองดวย ดูเหมือนปาเปกกี้ก็คงคาดการณไวลวงหนาแลววา ถึงอยางไร ยาเหมยหลิงก็คงไมยอมใหลุงแอนดี้ยายออกไปจากบาน แตแกก็ อาศัยความกระอักกระอวนพะวาพะวังของลุงแอนดี้กับความหวาด วิตกกังวลของยาเหมยหลิงใหเปนประโยชน ดวยการยื่นคําขาดวา หากจะใหแกอยูท่น ี ่ี ตอไป แกจะตองมีอํานาจในการดูแลบาน รวมทั้ง เปนคนถือเงินคาใชจายทั้งหมดของบาน... ตอนแรกยาเหมยหลิงก็ ยังอิด ๆ เอื้อน ๆ แตเมื่อปาเปกกี้ใชกลยุทธแกลงพาลุงแอนดี้ไปคาง แรมนอกบานเพียงสองสามคืน ยาเหมยหลิงก็ตาเหลือกยอมรับ เงื่อนไขของลูกสะใภคูแคนอยางงายดาย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
เมื่อไดอํานาจสิทธิข ์ าดในบานมาจากยาเหมยหลิงแลว ปาเปก กี้ก็เริ่มเลนงานแมผัวบาง ดวยการตัดทอนคาใชจายสวนตัว และดึง คนรับใชประจําตัวของแกกลับมาอยูสวนกลาง และมอบหมายใหปา ทรงศรีสะใภใหญท่ย ี าเหมยหลิงจงเกลียดจงชัง ชวยกํากับดูแล กิจการในบานอีกแรงหนึ่ ง แมชัยชนะของปาเปกกี้ในครั้งนั้นจะเปนชัยชนะเบ็ดเสร็จที่ทํา ใหยาเหมยหลิงพายแพอยางหมดรูป แตภาษิตหนังสือกําลังภายใน
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ที่วา “รอคอยเวลาแกแคนรอยปก็นับวายังไมสาย” ยังใชไดอยางดี ในกรณีแมผัวกับลูกสะใภคูน้ี
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
เมื่อปูตง ั ้ สํานักงานกลางเพื่อดูแลบริษท ั ในเครือ “ นัฐกิจ โกศล” ขึน ้ แลว ก็เริ่มลงมือสะสางกิจการของบริษท ั เล็กบริษท ั นอย ซึ่งกอตั้งขึน ้ ในชวงเวลาหาหกป ที่ปูไมไดอยูเมืองไทย ปูบอกวา “เมื่อเราแตกบริษท ั ออกมาแรก ๆ ก็หวังจะใหเปนหลักเล็กหลัก นอยชวยคํ้ายันบริษท ั ใหญ แตตอนหลังนี่ พวกหลักเหลานี้ กลับเปน สิ่งเกะกะรกรุงรัง พาใหบริษท ั แมซวนเซไปดวยซํ้า เราจึงตองมา เลือกดูวาหลักตนไหนสมควรเอาไว ตนไหนตองถอนทิ้งหรือปกแซม เขาไปใหม” พอเลาวา ปูยุบบริษท ั ที่เห็นทาวาจะไปไมรอดไปหลายบริษท ั สําหรับบริษท ั ที่มีทาวาจะเลี้ยงตัวเองไดแตทําธุรกิจที่ไมสัมพันธกับ กิจการหลักของ “นัฐกิจ” ปูก็เรียกผูจัดการหรือผูถือหุนมาสอบถาม วา ยังอยากจะทํางานในบริษท ั นั้นตอไปหรือไม ถาสนใจจะทําตอปูก็ ยกหุนสวนที่ “นัฐกิจ” ถืออยูใหโดยเลิกยุงเกี่ยวดวยอีก วากันวาในครั้งนั้นปูเสียเงินไปเปลา ๆ ไมใชนอ ย แตปูก็ดูจะ พออกพอใจกับการไดชวยใหคนหลายคนตั้งเนื้ อตั้งตัวขึน ้ มาได... และหากมีใครตําหนิ ลุงแอนดี้ในเรื่องที่แตกแขนงบริษท ั ใหม ๆ ออกไปอยางเปะปะ ปูก็จะตัดบทวา “คนหนุมก็เปนอยางนี้ ท้ง ั นั้น คิด เร็ว ทําเร็ว” และถึงแมวาปูพอจะรูเจตนาที่ซอนเรนของลุงแอนดี้ใน เรื่องนี้ แตก็ไมเคยมีสักครั้งที่ปูจะพูดถึงมันในทํานองที่รูทันลูกชาย ตลอดเวลาที่ผานมา ปูมีแตยกยองความสามารถของลุงแอนดี้ท่ี ดูแลกิจการตาง ๆ มาดวยดีในชวงเวลาที่ปูไมไดอยูในเมืองไทย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
11.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เมื่อปูกลับมาจากฮองกงตอนแรกนัน ้ ลุงเทียนกับพีช ่ าญ ชัยยังไมไดตามมาดวย ปูมอบหมายใหลุงเทียนดูแลบริษท ั “เนชัน แนล ทรัสต” รวมกับเพื่อนชาวฮองกงของปูคนหนึ่ ง ซึ่งดูเหมือนจะ ชื่ออาหวางหรืออะไรทํานองนี้ ฉันไมเคยพบเพื่อนของปูคนนี้ เปนแต พวกอา ๆ เคยเลาใหฟงวา อาหวางเปนคนรูปรางใหญโตราวกวนอู หนาก็แดงอยูตลอดเวลาดวยฤทธิเ์ หลาจีน แตก็ไมเคยมีใครเห็นแก เมามาย ยิ่งกินเหลามากก็ย่ง ิ อารมณดี สมองแลน ทําการงาน รวดเร็วไมมีขาดตกบกพรอง ดังนั้นแมวาปูจะไมชอบใหลูกหลาน หรือลูกนองกินเหลา แตสําหรับอาหวางตองถือเปนกรณีพิเศษ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
อาหวางเคยมาเมืองไทยสองสามครั้ง ตอนนั้นแท็กซี่ใน กรุงเทพฯ สวนใหญใชรถออสตินแวนกับรถมอริสคันเล็ก ๆ เวลาไป ไหนมาไหนตามลําพังอาหวางจะตองเลือกเรียกแตรถออสตินเพราะ ตัวแกใหญน่ังรถมอริสไมถนัด ความสามารถพิเศษอีกอยางหนึ่ งของอาหวางไดแกเรื่องคิด เลข วากันวาแกคํานวณเลขบวก-ลบ-คูณ-หาร ถึงหกเจ็ดหลักในใจ ไดรวดเร็วและ แมนยําไมมีผิดพลาด ขนาดเคยทาแขงกับนักลูกคิด ไดเหลามากินฟรี ๆ เสียนักตอนัก ถาแกมีอายุยืนมาถึงทุกวันนี้ ก็คง จะไดทาแขงกับเครื่องคิดเลข หรือคอมพิวเตอรบางเปนแน ยาเนี ยมเลาวา เมื่อมีอาหวางชวยกํากับดูแลบริษท ั ทรัสตท่ี ฮองกงอีกแรงหนึ่ ง ก็ทําใหปูวางใจกลาทิ้งงานมาอยูเมืองไทยได
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เพราะถึงแมตอนนั้นลุงเทียนจะสามารถดําเนิ นงาน “เนชันแนล ทรัสต” ไปได แตดูเหมือนปูยังไมคอยจะเชื่อมือลูกชายคนใหญเสียที เดียว ประกอบกับงานบริษท ั ทรัสตเปนงานที่ตองอาศัยความศรัทธา และไวเนื้ อเชื่อใจเปนพื้นฐานสําคัญ ลําพังแตลุงเทียนคนเดียวคงไม สามารถเรียกความไววางใจจากลูกคาไดเพียงพอ ปูจึงตองพึ่งอาห วางอีกแรงหนึ่ ง การที่ปูกับอาหวางพบปะกันครั้งแรกนั้น ถือไดวาเปนเรื่อง ประหลาดที่ปูมักจะเลาใหใครตอใครฟงอยูเสมอ ปูเลาวา...
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“ตอนนั้นเราเพิ่งตั้ง ‘เนชันแนล ทรัสต’ ใหม ๆ วันหนึ่ งออกไป กินขาวกลางวันที่รานอาหารเล็ก ๆ ฝงเกาลูนกับลูกคาคนหนึ่ ง อยู ๆ ผูชายที่น่ังกินเหลาอยูโตะขาง ๆ ก็ลุกจากโตะตัวเองมามองหนา เราแลวก็เดินกลับไปกินเหลาตอ สักพักก็ลุกมาจองมองเราอีก เรา จะพูดอะไรออกไปก็ไมกลาเพราะตัวอีใหญเหลือเกิน กําปนแตละ ขางโตเทากับชามขาวเห็นจะได ลําพังแคทุบเราเบา ๆ ก็คงกระดูก หักเปนทอน ๆ”
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูหัวเราะเบา ๆ กับภาพแหงความหลังที่ไมเคยพราเลือนไป จากความทรงจํา “จองหนาเราเสร็จอีก็เดินกลับไปที่โตะ นึ กวาจะจบเรื่องแลว ที่ไหนได คราวนี้ อีกลับลากเกาอี้แถมหิ้วขวดเหลามาที่โตะเรา พอ นั่งลงไดก็รินเหลาใสแกวยกขึน ้ ดื่มอัก ๊ ๆ แลวพูดเสียงดังบอกวา เรา โหงวเฮงดี ถึงแมตอนนี้ ราศีจะหมนหมอง แตอีกไมนานก็จะคอย สบายขึน ้ เอง พูดจบก็ชวนเราดื้อ ๆ ใหไปทํางานกับเขา ไอเราตอน นั้นก็นึกสนุกพอกินขาวเสร็จก็ขอโทษลูกคา แยกทางตามผูชายคน นั้นไปที่โรงงานของเขา...” ดวงตาของปูเปนประกายสดใสขึน ้
งส อื
นํา ม
“โรงงานที่วานั่น ที่แทแลวมีเพียงเขงใสขนไกส่ห ี าใบวางแอบ ๆ อยูริมทางเดินในซอยแคบ ๆ มีคนแกสองสามคนนั่งทําไมกวาด ขนไกอยูเงียบ ๆ ...เราก็ถามเขาวาจะใหเรามานั่งทําไมกวาดอยาง คนแกพวกนี้ นะหรือ เขาก็ส่น ั หนาบอกงานที่เขาจะใหเราทําดีกวานี้
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
คือเปนคนหอบไมกวาดไปตระเวนขายตามอพารตเมนต... เราก็เลย เปนฝายชวนใหเขามาทํางานกับเราแทน เพราะตามที่เราดู ๆ แลว โหงวเฮงอีก็อยูในขั้นดีทีเดียว ถึงจะเปนคนประหลาด ๆ อยูสักหน อย ก็ตาม” เจาของโรงงานไมกวาดขนไกคนนั้นหรืออาหวาง ตกลงใจตาม คําชวนของปูแทบจะในทันทีทันใด... ตอนแรกปูก็มอบหมายหนาที่ เล็ก ๆนอย ๆ ใหทํา มาตอนหลังเมื่อรูวาแกมีพรสวรรคในเรื่อง คํานวณ จึงไดใหทําดานบัญชีจนเลื่อนขึน ้ เปนสมุหบัญชีและผูชวย ผูจัดการในที่สุด
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
อาหวางเปนกําลังสําคัญของปูสําหรับ “เนชันแนล ทรัสต” ใน ระยะเวลาตอมา ซึ่งนับวาปูเลือกคนไมผิด ทั้ง ๆ ที่วิธีการคัดเลือก คนเขาทํางานในบริษท ั หรือแมแตการติดตอคบคาสมาคมกับบุคคล ตาง ๆ ปูอาศัยเพียงหลักโหงวเฮงกับสัญชาตญาณบางอยางเปน เครื่องพิจารณา อยางไรก็ตาม วิธีของปูดูจะไมไดรับการยอมรับนับถือจากคน หัวสมัยใหมอยางอานนท ซึ่งสําเร็จวิชาบริหารธุรกิจมาจากอเมริกา และนิ ยมใชมาตรฐานและหลักการสมัยใหมเปนเครื่องประเมินคน
พอของปาเปกกี้ก็มี
นฟ ร
ี โป
เมื่อปูกลับมาเมืองไทยไดสักสองป เรื่อง...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
พอเลาวา ตอนนั้นพอของปาเปกกี้อยูกินกับดาราสาวของชอว บราเดอรส ที่มีฉายาวา “แมผีเสื้อนอย” ซึ่งอายุออนกวากันเกือบยี่ สิบเอ็ดป และเปนคนเจาอารมณ ชอบกอเรื่องวุนวายตาง ๆ นานา ไมไดหยุดหยอน...ถึงแมวาพอของปาเปกกี้ออกจะเปนคนเจาชู มี ผูหญิงมากหนาหลายตา แตก็ไมเคยเลี้ยงดูใครเปนตัวเปนตนนับ ตั้งแตแมของปาเปกกี้ตายไป แตสําหรับ “แมผีเสื้อนอย” ดูจะแตก ตางไปจากคนอื่น ๆ... ฉันจําไดวา แมเคยชี้ใหฉน ั กับพี่นภิศดูรูปของ ผูหญิงคนนี้ ครั้ง หนึ่ งในหนังสือดาราหนังฮองกง รูสึกวาแกจะแตง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ชุดวายนํ้าชะเวิกชะวากแตเกลาผมสูง แตงหนาทาปาก แลวก็ใส แผงขนตาปลอมงอนเชง คงจะเพราะความที่เปนคนสวยที่ชอบหวานเสน หของตัวเองอยู ตลอด เวลา ก็เลยทําใหพอของปาเปกกี้หัวปน คอยตามหึงตามหวง มีเรื่องทะเลาะเบาะแวงกับเมียนอยคนนี้ อยูเปนประจํา วากันวาบาง ครั้งในงานเลี้ยงใหญ ๆ โต ๆ “แมผีเสื้อนอย” ก็ยังแกลงยั่วสามีดวย การทําทาอีอ ๋ อคลอเคลียกับผูชายอื่น ทําใหพอของปาเปกกี้ตองรีบ ลากตัวกลับบาน บางครั้งก็ถึงกับตบตีกันตอหนาผูคน เสร็จแลวพอ ของปาเปกกี้ก็ตองเปนฝายงอนงอ ซื้อเครื่องเพชรแพง ๆ มาปลอบ ขวัญเมียสาว ตอนที่จะเกิดเรื่องราวขึน ้ นั้น บริษท ั หนังฝรั่งยกกองมาถาย หนังเรื่อง หนึ่ งที่ฮองกง ครั้งแรกนั้นดูเหมือนผูกํากับก็สนใจจะจาง “แมผีเสื้อนอย” เลนหนังเรื่องนี้ มีบางคนบอกวา จะใหเลนเปนตัว นางเอกดวยซํ้า แตไมรูวาเกิดอะไรขึน ้ ทําใหเปลี่ยนเอาแนนซี่ ก วาน เปนนางเอกแทน และ “แมผีเสื้อนอย” ก็ไมไดรวมแสดงดวย เมื่อหนังถายทําที่ฮองกงใกลจะเสร็จ ทางกองถายก็จัดเลี้ยง ขอบคุณ ผูใหความรวมมือในการถายบนเรือสําราญโดยเชิญผู กํากับ และดาราหนังฮองกงหลายคนไปรวมในงาน ระหวางที่เรือ แลนออกไปจากฝงไดครูเดียว “แมผีเสื้อนอย” ก็เปลื้องเสื้อผาเหลือ เพียงสรอยคอเพชรเสนเดียว แลวกระโดดลงไปในทะเล ทําให โกลาหลไปทั้งลํา เมื่อชวยขึน ้ มาบนเรือได “แมผีเสื้อนอย” ก็โผเขา กอดวิลเลียม โฮลเดน ดาราหนังอเมริกันที่เลนเปนพระเอกเรื่องนั้น รองไหสะอึกสะอื้นราวกับมีเรื่องลับลมคมในกันอยู รุงเชาหนังสือพิมพทุกฉบับในฮองกงพากันตีพิมพภาพเปลือย ของ “แมผีเสื้อนอย” ที่กําลังกอดรัดพระเอกหนังฝรั่ง ทั้งพาดหัวขาว ในทํานองชูสาว พอของปาเปกกี้ซ่ง ึ กําลังทําธุรกิจอยูท่เี กาหลีใต ตองทิ้งงานเดินทางกลับฮองกงทันที ทั้งคูทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้น พอของปาเปกกี้ขับไลไสสง “แมผีเสื้อนอย” ใหออกไปจากบาน และ “แมผีเสื้อนอย” ประทวงสามีดวยการกินยาตาย แตโชคดีท่ค ี นใชพา ตัวสงโรงพยาบาลไดทันเวลา
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เมื่อ “แมผีเสื้อนอย” เขาโรงพยาบาล พอของปาเปกกี้ก็อด สงสารไมไดและหวนกลับมาคืนดีใหม เรื่องทั้งหมดทําทาจะจบลง ดวยดี ถาเผอิญคืนหนึ่ งพอของปาเปกกี้จะไมแวะมาเยี่ยมเมียสาวใน ตอนดึกคืนหนึ่ งหลังจากกลับจากงานเลี้ยง แลวพบวา “แมผีเสื้อ นอย” กําลังประจอประแจอยูกับหมอหนุมที่เขาเวรในคืนนั้น ลุงเทียนซึ่งอยูท่ฮ ี องกงในตอนนั้นเลาวา คืนนั้นกําลังจะเตรียม ตัวเขานอน ก็พอดีไดยินเสียงคนกดออดที่หนาอพารตเมนต เมื่อลง ไปดูก็เห็นพี่ชาญชัยยืนอยูคนเดียว บอกวาอากงไปปลุกมาจากที่ นอนเอาตัวมาสงที่น่ี แลวก็ขับรถออกไปไหนไมรู...
อน ํ าม าให ้อ่า
หลายวันตอมา ตํารวจฮองกงถึงไดพบศพของพอปาเปกกี้ท่ต ี ิด อยูในซากรถยนต ซึ่งคาดวาเจาตัวคงจงใจขับดิ่งลงมาจากหนาผา
นฟ รี โ ปร ดอ
พอเลาวา ปูถึงกับช็อกเมื่อไดขาวนี้ จากลุงเทียน และคิดไมถึง วาคนที่เฉลียวฉลาด มีความสามารถ ผานชีวิตมากมาย และมั่งมี เงินทอง พอที่จะซื้อหาความสุขไดอยางเต็มที่ จะตองมาจบชีวิต ตัวเองลงเพียงเพราะผูหญิงที่แทบจะไมมีคาอะไรเลยจนนิ ดเดียวคน หนึ่ ง...
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“ดู ๆ ก็เหมือนเรื่องไรสาระ...” ปูเขียนถึงเรื่องนี้ ไวเพียงสั้น ๆ ในหนังสือที่พิมพแจกในงานแซยิด “...แตมีใครบางเลาที่ไมเคยทํา สิ่งที่ไรสาระเลยในชั่วชีวิตหนึ่ ง ถึงอยางไรการเกิดและการตายของ มนุษยทุกคนนั้น ลวนเปนสิ่งที่ย่ง ิ ใหญและมีความสลักสําคัญ เกี่ยวโยงกับผูอ่ น ื และความเปลี่ยนแปลงตาง ๆ อยูเสมอ เมื่อคํานึ ง ถึงจุดนี้ เรื่องราวที่เราคิดวาไรสาระก็คงใชจะไรซ่ง ึ สาระเสียเลยที เดียว”
นํา ม
าให
้อ่า
สิ่งที่ปูเขียนไวน้ี นับไดวาเปนสิ่งที่ถูกตอง โดยเฉพาะสิ่งที่เชื่อม โยงเกี่ยวพันตอมาถึงปาเปกกี้หลังการตายของพอเธอ
งส อื
พอเลาวา เมื่อพอของปาเปกกี้ตายแลว “แมผีเสื้อนอย” ก็รีบเขาไปยึดครองบานชองและขาวของตาง ๆ ของสามี ทําตัวเปน
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เจาเขาเจาของอยางเต็มที่ เมื่อปาเปกกี้เดินทางไปจัดการงานศพพอ “แมผีเสื้อนอย” ก็ทําทาเหมือนกับวาปาเปกกี้อยูในฐานะลูกเลี้ยง ของแก และเจากี้เจาการออกหนาทุกอยางคนเดียว ปาเปกกี้อดทนกับแมเลี้ยงสาววัยไลเลี่ยกับเธอไดเพียงสามวัน พอถึงเชามืดวันที่ส่ี เธอก็ส่ง ั ใหพวกคนใชขนขาวของทรัพยสมบัติ ของ “แมผีเสื้อนอย” มากองที่สนามหญาหนาบาน ราดนํ้ามันแลว จุดไฟเผาดวยตัวเอง วากันวาตอนนั้น “แมผีเสื้อนอย” เหลือสมบัติ เพียงชุดนอนบาง ๆ ที่สวมอยูเพียงตัวเดียว หลังจากนั้นก็ใหคนชวย กันจับแมเลี้ยงโยนออกมาจากบาน ลั่นกุญแจประตูร้ว ั และหองหับ ตาง ๆ ทุกบาน พรอมกับติดประกาศขายบานหลังนั้นทันที พอของปาเปกกี้ตายไปโดยกะทันหัน ไมไดทําพินัยกรรมไวให เรียบรอย แมปาเปกกี้จะเปนลูกสาวคนเดียว แต “แมผีเสื้อนอย” ก็ อางสิทธิใ์ นฐานะภรรยาที่อยูกินกันโดยเปดเผย ถึงจะไมมีการจด ทะเบียนสมรสกันตามกฎหมายก็ตาม ดังนั้นหลังจากที่จัดการเรื่อง พิธีศพพอ และพาลูกชายเดินทางกลับเมืองไทยไดสักสองอาทิตย ปาเปกกี้ก็ไดรับโทรเลขจากทนายของ “แมผีเสื้อนอย” เรียกรอง สวนแบงจากทรัพยมรดก เมื่อปาเปกกี้ไมยอมเจรจาดวย ฝายนั้นก็ นําเรื่องขึน ้ ฟองรองตอศาลฮองกง ทําใหปาเปกกี้ตองเทียวมาเทียว ไประหวางเมืองไทยกับฮองกงอยูพักใหญ จนแทบจะไมมีเวลาอยูกับ ลุงแอนดี้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
แลวดูเหมือนวายาเหมยหลิงก็แอบรอคอยเวลาอยางนี้ มานาน นักหนาแลว ดวยเพลิงแหงความเหลือแคนและแสนชังลูกสะใภคน เล็กที่สุมแน นอยูในอกของแก
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
12.
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พีน ่ ภิศเคยบอกวาในโลกนี้ไมมีอะไรนากลัวเทากับ “ความแคนของเสือสมิงกับหญิงแก” เพราะเสือสมิงเมื่อเวลาที่มัน โกรธแคนก็สามารถแปลงตัวไปไดตาง ๆ นานา เพื่อลอหลอกแก แคนคนที่ทํารายมัน สวนหญิงแกน้ันก็ใชยอย ถึงจะไมมีเวทมนตร คาถาอยางเสือสมิง แตก็ยังมีเลหกลจริตมารยาทําอะไรตอมิอะไรได สารพัดสารพันอยาง โดยไมคํานึ งถึงศีลธรรมและความถูกผิดใด ๆ ทั้งสิ้น หากไมเชื่อก็ดูไดจากกรณีของยาเหมยหลิงกับปาเปกกี้...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ยาเหมยหลิงผูกใจเจ็บลูกสะใภคนเล็กมาตัง ้ แตตอนที่ แกถูกปาเปกกี้แกเผ็ดลิดรอนอํานาจในบาน สมัยลุงแอนดี้มี สิทธิข ์ าดในการดูแลกิจการคาของครอบครัวเราชวงที่ปูล้ภ ี ัยไปอยู ฮองกง และเพิ่งจะมาสบโอกาสดีระยะที่ปาเปกกี้มีเรื่องตองเดินทาง ไปขึน ้ โรงขึน ้ ศาลที่ฮองกงในคดีความกับ “แมผีเสื้อนอย” ทําใหไมมี เวลาอยูใกลชิดกับลุงแอนดี้ไปพักใหญ แมปาเปกกี้จะเปนคนสวย แตงตัวเกง และรํ่ ารวย แตส่ง ิ ที่ปา เปกกี้ขาดไปก็คือความออนหวาน และคุณสมบัติของแมบาน แมเรือนที่ดี ซึ่งถึงอยางไรผูชายแทบทุกคนก็ยังตองการสิ่งเหลานี้
ขา ย
จากภรรยาของตนอยู
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ถึงยาเหมยหลิงจะไมคอยไดออกจากบานไปไหนมาไหน แต แกก็คอยเงี่ยหูสดับตรับฟงขาวคราวตาง ๆ ทั้งเรื่องที่บริษท ั และ ความเปนไปของทุกคนในบานอยูเสมอ และความสามารถพิเศษ อยางหนึ่ งของแกก็คือ การปะติดปะตอเรื่องตาง ๆ เขาดวยกัน ซึ่ง แมบางครั้งจะเปนประเภท “คนละเรื่องเดียวกัน” หรือ “ไปไหนมา สามวาสองศอก” แตสวนใหญแลว ตองนับวาแกก็จับเรื่องที่ประมวล ขึน ้ เองไดคอนขางถูกตองและรวดเร็ว ไมมีใครรูวายาเหมยหลิง “จับ” เรื่องพนักงานสงเสริมการ ตลาดคนใหมของ “นัฐกิจหลักทรัพย” ที่ช่ อ ื วิไลรัตนไดอยางไร พอวา บางทีอาจจะเปนเพราะลุงแอนดี้เองที่เผลอเลาถึงความคลองแคลว ขยันขันแข็งและความเรียบรอยของพนักงานคนนี้ ใหยาเหมยหลิง ฟงดวยความชื่นชม แตพอก็ไมรูวายาเหมยหลิงทําอยางไรในการ สงเสริมใหพนักงานคนนั้นสามารถเขานอกออกในบานเรา และได เลื่อนตําแหน งเปนเลขานุการสวนตัวของลุงแอนดี้ในเวลารวดเร็ว พอเลาวา แมวิไลรัตนตอนนั้นอายุในราวสิบเจ็ดสิบแปด เปน คนหนาตาดี ชางเอาอกเอาใจ และทําขนมเกง โดยเฉพาะอยางยิ่ง คือพวกขนมฝรั่งอยาง เคก คัสตารด พาย หรือคุกกี้ ทุกครั้งที่มา บานจะตองมีขนมพวกนี้ มาฝากปู ยาเหมยหลิง ยาเนี ยม และพวก เด็ก ๆ เสมอ พอบอกวาขนมของวิไลรัตนท่ย ี ังจําไดติดอกติดใจจนถึง ทุกวันนี้ ก็คือพายมะมวงกับฟรุตเคก ที่ใชผลไมไทยอยางมะขามปอม ตะลิงปลิงแชอ่ม ิ แทนผลไมเชื่อมของฝรั่ง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
มีคนบอกวา ลุงแอนดี้แอบซื้อบานแถวฝงธนฯ ไวหลังหนึ่ ง และหลบไปคางกับวิไลรัตนเวลาที่ปาเปกกี้เดินทางไปฮองกง โดย ยาเหมยหลิงรูเห็นเปนใจดวย แตเรื่องบานที่วาไมมีใครยืนยันวาเท็จ จริงอยางใด แตท่แ ี น ๆ ก็คือ ยาเหมยหลิงโปรดปรานสะใภลับคนนี้ มาก ถึงขั้นถอดกําไลงาเลี่ยมทองที่ใสติดตัวให ซึ่งกลายเปนพยาน วัตถุใหปาเปกกี้ยอนกลับมาถอนหงอกแมผัวไดในตอนหลัง ชนิ ดที่ ยาเหมยหลิงไมมีทางดิ้นหลุด ยาเนี ยมเลาวา ยาเหมยหลิงดูจะกระหยิ่มยิ้มยองในการที่
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
กําจัดลูกสะใภคูแคน หรืออยางนอยก็ทําใหปาเปกกี้น้ ําตาตกในได แตยาเหมยหลิงลืมคิดไปอยางหนึ่ งวา ลูกชายเล็กของตัวนั้นเกรง เมียเหมือนหนูกับแมว และที่หนูจะระเริงไดก็แตในยามที่แมวไมอยู เทานั้น เมื่อแมวมาเมื่อไหรหนูอยางลุงแอนดี้ก็ไดแตเผนหนี จน หลังคาเปง... ยาเลาวา ตอนนั้นปาเปกกี้เดินทางไปมาระหวางกรุงเทพฯ กับ ฮองกงเปนวาเลน และงานในบริษท ั ก็กําลังวุนไมมีใครมีเวลาสนใจ ใคร... วันที่ปาเปกกี้เดินปง ๆ เขาไปใน “นัฐกิจหลักทรัพย” นั้น ยา เนี ยมก็กําลังติดตองานทางโทรศัพทกับลูกคาอยู เพียงแตเงยหนา ขึน ้ มองแวบหนึ่ งเพราะไมทันคิดวาปาเปกกี้เพิ่งขึน ้ เครื่องบินไป ฮองกงเมื่อคืนนี้ เอง มานึ กไดอีกทีก็ตอนที่มีเสียงปนดังจากหองลุง แอนดี้สองสามนัด และวิไลรัตนเผนหนาตื่นออกมาจากหองนั้น ไลหลังมาดวยปาเปกกี้ท่ม ี ือหนึ่ งถือปนพกอีกมือฉุดขอมือลุงแอนดี้ท่ี ยังตัวสั่นงันงกมากลางบริษท ั และประกาศลั่นใหพนักงานที่ออเขา มาดูไดยินทั่วกันวา
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“นี่ ผัวกู... จําไวนะวาถาขืนผูหญิงคนไหนมายุงดวยกูจะยิงไม ไวหนา” นับแตน้ันมา คําประกาศของปาเปกกี้ก็กลายเปนขอบังคับของ บริษท ั ในเครือ “นัฐกิจโกศล” อีกขอหนึ่ งไปโดยปริยาย และ ดูเหมือนวาจะทรงไวซ่ง ึ ความศักดิส ์ ิทธิย ์ ่ง ิ กวากฎขอบังคับใด ๆ ทั้งสิ้น
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หลังจากทีต ่ อตีแมวิไลรัตนแตกกระเจิงและกําราบลุง แอนดี้จนราบคาบแลว ปาเปกกี้ก็บุกเดี่ยวเขาไปเหยียบถํ้าเสือบน ชั้นสามของตัวตึก บานเรา ทั้ง ๆ ที่รอยวันพันปไมเคยที่จะยางกราย เขาไปใกล ลุงนัฐซึ่งอยูในเหตุการณครั้งนั้นดวย มักจะทําทาทางลอเลียน ยาเหมยหลิงเมื่อเวลาที่แกเมาจนไดท่ี
ขา ย
“นี่ ๆ อามาอีวายังงี้...”
นํา ไป
ลุงนัฐเรียกยาเหมยหลิงวา อามา และเรียกยาเนี ยมซึ่งเปนแม แท ๆ วา “แมจา”
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“อัว๊ มายรุ อัว๊ มายเห็ง” ลุงนัฐดัดเสียงแบบยาเหมยหลิงพลางเชิดหนา และตะแคงขาง ใหคนฟง มือทั้งสองขางที่ประสานกันอยูก็บิดไปบิดมา “ขางพี่เปกกี้ก็กระทืบเทาเรา ๆ ชี้หนาดาแมผัวเสียงดัง... ลื้อไม ตองมาตอแหล หน็อยไมรูไมเห็น แลวใครกันวะที่เปนเจากี้เจาการ ใหอีน่ันแวะเวียนมาหาแอนดี้ถึงบานนี้ ใครกันวะที่เขาลือกันใหแซด วาควักกระเปาออกเงินออกทองใหลูกชายซื้อบานใหเมียนอย...” “ลื้ออยามาซี้ซ้ว ั ตา”
นฟ รี โ ปร ดอ
ลุงนัฐเชิดหนาขึน ้ ไปอีก
รด อ
าให ้อ่า
“เอา งั้นลองตอบอัว๊ ซิวา กําไลของลื้อไปอยูท่อ ี ีนังคนนั้นได ยังไง... พี่เปกกี้แกไมพูดเปลา ๆ นะ ทิ่มกําไลเขาไปเกือบกระแทก ดั้งจมูกอามาแน ะ ดีนะที่อามาแกจมูกออกจะบี้ ๆ อยูแลว ไมง้น ั ก็คง ดั้งยุบคราวนั้นแน ” “แลวอามาตอบวายังไง” คนฟงที่ใจรอนอดถามขึน ้ ไมได
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
ลุงนัฐทําทาปรายตามองแลวสะบัดหางตาตามสไตลของยา เหมยหลิงกอนบีบเสียงสูง “กําลงกําไลของใครที่ไหนอัว๊ ไมรูจัก” “ดีละ...” ลุงนัฐเปลี่ยนเสียงเปนปาเปกกี้ “...เมื่อไมใชของของ ลื้อก็แลวไป อัว๊ จะไดเอาไปผูกคอหมาเสียเลย” แตก็ไมมีหมาตัวไหนโชคดีไดใสกําไลงาชางเลี่ยมทอง เพราะ พอวันรุงขึน ้ ลุงแอนดี้ก็แบกหนาแทนแมไปขอกําไลอันนั้นคืนมาจาก ปาเปกกี้ โดยมีของแถมเปนคํากระทบกระเทียบเปรียบเปรยจากปา เปกกี้ฝากไปถึงยาเหมยหลิงอีกหลายสิบคํา ซึ่งแมจะเปนการตีวัว กระทบคราด แตก็ทําใหท้ง ั วัวทั้งคราดน วมไปตาม ๆ กัน
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
และจะเปนเพราะเรื่องลุงแอนดี้กับวิไลรัตนหรือเปลาก็ไม ทราบ ที่ทําใหปาเปกกี้ตัดสินใจขายกิจการเดินเรือทะเลของพอที่ ฮองกงหลังจากชนะคดีกับ “แมผีเสื้อนอย” แลว และขนเงินมา ปกหลักที่เมืองไทย ไมยอมใหลุงแอนดี้คลาดสายตาไดอีกเลย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
เรื่องราวของครอบครัวเราคงจะขาดตกบกพรองไป อยางมาก หากฉันไมเลาถึงอานันทนา แมวาจะเปนเรื่องที่ไมมีใคร ในบานเราอยากพูดถึงเลยก็ตาม อานันทนาเปนลูกสาวคนสุดทองของยาเนี ยมซึ่งเกิดหลังจากที่ ปูกลับมาจากฮองกงไดปเดียว พอเลาวา ตอนที่รูวาลูกคนนี้ เปน ผูหญิงนั้นปูดีใจมาก เพราะทางจีนถือวาครอบครัวที่มีลูกชายหา ลูกสาวสองเปนจํานวนที่ดีนํามาซึ่งความเจริญมั่งคั่ง และตอนนั้นปู ยังมีลูกสาวคืออานุชเพียงคนเดียว ในขณะที่มีลูกชายคือลุงเทียน ลุง แอนดี้ ลุงนัฐ พอและอานนท ครบหาคนแลว ในระหวางลูกสาวสองคนนี้ อานุชเกิดมาในตอนที่ปูกับยามี ฐานะมั่นคงแลว จึงไดรับการเลี้ยงดูดีกวาลูกคนกอน ๆ ประกอบกับ อานุชเปนคนสวย น ารัก ชางพูดชางเอาใจมาตั้งแตเล็ก จึงทําใหปู ยารักและตามใจมาแตไหนแตไร กระทั่งกลายเปนคนเอาแตใจ ตัวเองและดื้อรั้นจนขึน ้ ชื่อ... สวนอานันทนาเกิดมาในตอนที่ปูกับยา มีอายุมาก และกําลังวุนวายกับธุรกิจการคาจนไมมีเวลามาเอาใจใส ใกลชิด พี่ ๆ ก็ลวนแตโต ๆ กันหมดแลว กับอานนทซ่ง ึ เปนพี่คนเล็ก ที่สุดก็ยังอายุหางกันแปดเกาป จึงทําใหอานันทนาเปนคนวาเหว ที่สุดในกระบวนพี่นอ ง อานุชกับอานันทนาจัดไดวาเปนคนสวยทั้งคู แตก็เปนความ สวยคนละแบบกัน กลาวคือ อานุชสวยสะดุดตาแบบที่เรียกตาม สํานวนอานนท วา “ดีจัง ดังจัด เหมือนประทัดตรุษจีน” ซึ่งเปนที่ลอ กันวาไอตรงที่เหมือนประทัดตรุษจีนนี่ ก็คือตอนที่อานุชพูดนั่นแหละ เพราะทั้งเสียงดังทั้งรัวติดกันเปนชุด... สวนอานันทนาสวยเรียบ ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เงียบ ๆ ออนแอนแบบบางทั้งรางกายและจิตใจ มีบางคนบอกวาอา นันทนาหนาตาทาทางเหมือนผูหญิงไทยสมัยโบราณมากกวาจะ เปนลูกคนจีนยุคปจจุบัน พอเลาวา ตอนที่อานันทนาเกิดใหม ๆ นั้น ปูอยากใหช่ อ ื วา “นัยนา” ซึ่งไมมีใครรูวาปูไปเอาชื่อนี้ มาจากไหน ทั้งแปลความหมาย ไดเสร็จสรรพวาหมายถึงแกวตาของพอแม แตเมื่อไปใหหลวงตาที่ วัดสุทัศนฯ ตั้งชื่อให และทานตั้งวา “นันทนา” ยาก็เรียกลูกสาวคน เล็กวานันทนา ไมยอมใชช่ อ ื ที่ปูคิดขึน ้ มาเอง บางครั้งฉันก็อดคิดไมไดวา หากปูกับยาใหช่ อ ื ลูกสาวคนนี้ วา นัยนาตามเดิม ปูคงจะเจ็บปวดจิตใจมากกวาทุกวันนี้ ก็ได เมื่อลูกที่ คิดหวังวาจะเปนแกวตาของพอแมน้ัน ที่แทแลวกลับมาทําใหดวงตา ของพอแมแทบจะมืดบอด ดวยนํ้าตาที่ไหลเปนสายเลือด
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
13.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
สํานักงานกลางซึง ่ ทําหนาทีด ่ ูแลกิจการของบริษท ั ใน เครือ “นัฐกิจโกศล” หากฟงแตช่ อ ื ก็คงชวนใหคิดวา น าจะเปนหน วย งานที่หรูหราและทันสมัยสมกับที่มีอํานาจอยางกวางขวางในการ สอดสองตรวจตราการดําเนิ นงานของบริษท ั ตาง ๆ ในเครือ แตแทท่ี จริงแลวกลับเปนเพียงหองเล็ก ๆ หองหนึ่ งบนชั้นเจ็ดของตึก “นัฐกิจ หลักทรัพย” ที่สวนมะลิ สภาพของสํานักงานออกแบบตบแตงอยาง เรียบงายไมมีอะไรวิจิตรพิสดาร เมื่อเปดประตูหองเขาไป สิ่งแรกที่ มองเห็นก็คือ พนักงานสูงอายุส่ห ี าคนที่น่ังทํางานกันอยาง เครงเครียด พอบอกวาพนักงานเหลานี้ ลวนเปนคนเกาคนแกท่ี ทํางานกับเรามานับเปนสิบ ๆ ป แตละคนมีความรูความเชี่ยวชาญ แตกตางกันไป ทั้งดานบัญชี กฎหมาย การคา และการผลิต พอ บอกวาเพียงดูจากตัวเลขบางตัวหรือตัวหนังสือบางบรรทัด พวกเขา ก็สามารถบอกใหปูรูไดทันทีถึงความเปลี่ยนแปลง ทั้งทางที่ดีขน ึ้ หรือเลวลงของบริษท ั นั้น ๆ หรือเลหเหลี่ยมพลิกแพลง ตลอดจน ความผิดพลาดของผูบริหารบริษท ั ความเกงกาจของพนักงานพวกนี้ เปนที่ครั่นครามทั่วไป และผูบริหารหลายคนแมกระทั่งญาติพ่น ี อ ง ของฉันบางคนก็แอบตั้งฉายาใหพนักงานเหลานี้ วา พวกปศาจพัน ตา” ...แตวาอันที่จริงแลว “ปศาจพันตา” ตัวจริง ก็คือคนที่น่ังอยูใน หองดานในหลังประตูท่ก ี รุดวยกระจกฝาบานใหญน่ันตางหาก
ขา ย นํา ไป
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นับแตตง ั ้ สํานักงานกลางขึ้นมาแลว ปูมักจะใชเวลาชวง เชาขลุกอยูในหองทํางานดานในของสํานักงาน เมื่อมองจาก ภายนอกเขาไปจะเห็นเพียงแสงไฟเรือง ๆ จากดวงโคมลอดผาน บานประตูกระจกฝา... ปูจะนั่งอยูหลังโตะทํางานตัวใหญท่เี ต็มไป ดวยขาวของนานาชนิ ด นับตั้งแตแฟม เอกสาร สมุดบัญชีเลมโต ๆ กองจดหมาย ลูกคิดหนึ่ งรางใหญ หนังสือพิมพภาษาจีนที่ซอนกัน เปนตั้งใหญ และที่ขาดเสียมิไดคือปานและถวยนํ้าชา กับกระติกนํ้า รอนของจีนแดงที่พันดวยตนกกหรือตนหญาแหง บนฝาผนังดาน หลังประดับดวยภาพทิวทัศนเมืองจีนซึ่งประกอบขึน ้ จากเศษหินและ เปลือกหอยบานใหญในกรอบไมมะเกลือสลักลวดลายแบบจีน... ใน หองนั้นทั้งหองมีเกาอี้อยูเพียงสองตัว คือตัวที่ปูน่ังตัวหนึ่ งกับตัวที่ วางอยูหนาโตะปูอีกตัวหนึ่ ง หากมีใครเขามาในหองมากกวาหนึ่ งคน คนที่เหลือจะตองเปนฝายยืนจนกระทั่งเสร็จธุระ ปูวา...
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“ที่น่ี ไมใชหองนั่งเลน ถามีเกาอี้มีโตะรับแขกสบาย ๆ คนก็จะ แวะเวียนเขามาพูดคุยไมไดหยุดไดหยอนจนไมเปนอันทําอะไร หาก เขามีเรื่องมีราวจะพูดคุยกับเราก็ควรเปนที่อ่ น ื ไมใชในหองนี้ เพราะ เราตองการเวลาที่จะทํางาน” อาจจะเปนเพราะวิธีการดังกลาวก็ได ที่ทําใหหองทํางานของปู ในสํานักงานกลางแหงนี้ กลายเปนสถานที่สวนตัวของปูซ่ง ึ ไมมีใคร กลามารบกวน ทําใหปูมีเวลาทํางานอยางเต็มที่ โดยไมตองสูญเสีย ไปกับเรื่องไมเปนเรื่อง หรือการพูดคุยที่ไรสาระตาง ๆ
งส อื
ปูเปนคนเรียบ ๆ งาย ๆ มาแตไหนแตไร สมัยกอนเคย เปนเชนไรสมัยนี้ ก็เปนเชนนั้น... ตั้งแตฉน ั จําความไดก็เห็นแตปู แตงตัวดวยเสื้อแขนสั้นหลวม ๆ สีขาวสะอาด กางเกงสีครีมรีดเรียบ
ขา ย
กริบ ตอไปงานสําคัญปูถึงจะผูกเนกไทใสเสื้อนอกสีเทาตัวโปรด
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ปูมักจะกินขาวกลางวันนอกบานเสมอ และรานที่ปูชอบไปเปน ประจําหากไมใช “หอยเทียนเหลา” ก็มักจะเปน “กกจี่เหลา” “นิ วสมอ ยาง” หรือรานอาหารจีนแถว ๆ ราชวงศ... ปกติปูจะออกจาก สํานักงานกลางไปทานขาวกลางวันเพียงลําพัง แตเมื่อถึงที่รานหาก เจอใครที่รูจักมักคุนดวย ปูก็มักจะเรียกมารวมโตะเสียทุกครั้งไป พอ เคยเลาใหฉน ั ฟงวา แตกอนปูมีเพื่อนที่รักมากคนหนึ่ ง เรียกกันวา “หลงจูบุน” ...หลงจูอายุมากกวาปูรวมสิบป ไวหนวดเครายาว เหมือนเซียนในรูปภาพตามศาลเจา พอเลาวา หลงจูเคยทํางานใน รานขายสงแถวถนนทรงวาด เมื่อตอนที่ปูยังขายกาแฟอยูในซอก ตึกแถวที่ทานํ้าราชวงศ และหลงจูไดเมตตาสั่งสอนปูเกี่ยวกับเรื่อง การคาไวหลายอยาง ในตอนหลังแมวาหลงจูจะลาออกจากงาน เพราะความชรา และลูกหลานตางก็ไดดิบไดดีมีงานการทําเปน หลักเปนฐานกันทุกคน แตทุกวันเวลาเที่ยงหากไมติดงานที่ไหน หลงจูก็จะตองมาคอยทานขาวกลางวันกับปูตามรานอาหารจีนที่ นัดหมายกันไว ซึ่งก็วนเวียนอยูเพียงไมก่ร ี าน... พอเลาวา เปนภาพ ประทับใจมากสําหรับพอ ที่เห็นเพื่อนเกาเพื่อนแกสองคนนั่งกินขาว กลางวันกันอยางเอร็ดอรอย และพูดคุยกันถึงเรื่องราวในครั้งอดีต อยางมีความสุข พอเลาวา จู ๆ หลงจูบุนก็หายไปพักหนึ่ ง ปูเฝารอดวยความ กระวน กระวายและเปนหวงเปนใย แรก ๆ ก็คิดวาแกคงจะเจ็บไข ไดปวยไปตามประสาคนแกคนเฒา หรือมีกิจธุระไปตางจังหวัด จน กระทั่งวันหนึ่ งเมื่อปูไปทานขาวกลางวันที่ราชวงศก็พบเด็กหนุมคน หนึ่ งนั่งรออยูกอนแลว เด็กหนุมคนนั้นบอกกับปูวาตนเปนหลาน ของหลงจูบุน ปูถึงไดรูเรื่องวาที่แทแลวหลงจูปวยหนักอยูเกือบ อาทิตยพูดจาอะไรไมได แตทันทีท่อ ี าปากไดหลงจูก็ขอใหหลานชาย ชวยไปขอโทษปูท่ค ี อยแกเกออยูหลายวัน...ปูรีบตามเด็กหนุมคนนั้น ไปเยี่ยมหลงจูบุน แตก็ไมทันไดดูใจเพื่อนเกา พอเลาวา ปูน่ังกินขาวกลางวันคนเดียวอยางหงอยเหงาอยู แรมเดือนกวาจะมีกะจิตกะใจรวมวงกับคนอื่นได
ขา ย นํา ไป
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
หลังอาหารกลางวันแลว ปูจึงจะใชเวลาในชวงบาย ตระเวน ไปตามบริษท ั ในเครือ ซึ่งในชวงที่ปูกลับจากฮองกงระยะ แรกก็มีเพียง “นัฐกิจหลักทรัพย” กับ “นัฐกิจการทอ” และที่แตก แขนงออกไปเปนบริษท ั ฟอกยอม บริษท ั ปนดาย พิมพผา ฯลฯ ซึ่งปู มักใชเวลาเหลานั้นในการพูดคุยหรือสอบถามเรื่องราวบางอยางกับ ผูบริหารหรือพนักงานในบริษท ั ตาง ๆ มากกวาจะเปนการลงมือ ทํางานจริง ๆ จัง ๆ เหมือนชวงเชาที่สํานักงานกลาง และปูก็จะไมมี หองสวนตัวอยูในบริษท ั พวกนั้น บางครั้งก็ยืนพูดกันหรือเดินเขาไป หาเจาหนาที่ตามโตะของพวกเขา แตถาหากเปนเรื่องที่จําเปนตอง ซักไซไลเลียงหรือพูดอะไรกันยาว ๆ ปูก็จะใชวิธีลากเกาอี้ตัวหนึ่ งตัว ใดที่วางอยูเขาไปตั้งที่หนาโตะเจาของเรื่อง ที่นาประหลาดใจอยางมากสําหรับฉันก็คือ เรื่องความจําของ ปู...ถึงแมจะมีงานผานเขามาหลายตอหลายเรื่องในแตละวัน ตอง พบปะผูคนมากหนาหลายตา และพูดคุยดวยเรื่องราวตาง ๆ บาง ครั้งก็เกี่ยวของกับชื่อเฉพาะ ชื่อทางเคมี ชื่อชาวตางประเทศ หรือ ตัวเลขมากมายกายกอง แตปูก็ไมเคยมีสมุดจดบันทึก หรือแมแต เครื่องคิดเลขสําหรับชวยความจําหรือการคํานวณ จนกระทั่งทุกวัน นี้ แมจะอายุยางเขาเจ็ดสิบป แตปูก็ยังมีความจําที่แจมใส สามารถ สั่งงานหรือพูดคุยเรื่องตาง ๆ ที่เกี่ยวกับกิจการของบริษท ั ไดอยาง ทันทีทันใดและไมมีท่ผ ี ิดพลาด ทั้ง ๆ ที่นอกจากภาษาจีนแลวปูอาน หรือเขียนภาษาใด ๆ ไมไดเลย และที่นาประหลาดใจ ยิ่งไปกวานั้น ก็คือ ถึงแมบริษท ั และโรงงานของเราจะเต็มไปดวยเครื่องมือ เครื่อง ใชและอุปกรณทันสมัยตาง ๆ นานา แตปูก็ดูจะไมถูกโรคกับเจา เครื่องมือพวกนั้นเอาเสียเลย แมแตเวลาจะถายเอกสารหรือกด เครื่องโทรศัพทภายในสํานักงาน ปูก็ยังตองเรียกคนอื่นมาทําใหทุก ครั้งไป ถายิ่งเครื่องคอมพิวเตอรดวยแลว ปูแทบจะไมเคยแตะเอา เลยดวยซํ้า จนลุงนัฐแอบลอวาถึงอยางไรบริษท ั ของเราก็รับรองได วา จะไมมีปญหาเรื่องการปลดคนงานเพื่อใชเครื่องจักรแทนอยาง แน นอน เพราะหากเปนเชนนั้นเมื่อไหร ปูเองคงจะเปนคนแรกใน
นํา ไป
ขา ย
บริษท ั ที่ลงมือประทวงเรื่องนี้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
แมวากิจการสวนใหญของบริษท ั ในเครือ “นัฐกิจโกศล” จะสอดคลองและเกื้อกูลกัน แตก็ใชวาในการดําเนิ นงานระหวาง บริษท ั เหลานั้นจะไมมีปญหาดานผลประโยชนของแตละบริษท ั เสีย เลยทีเดียว ในบางครั้งพี่ ๆ นอง ๆ ซึ่งดูแลกิจการคาคนละแหงก็ตอง มาถกเถียงกันหนาดําหนาแดงในเรื่องที่ดูเหมือนจะไมนาเปนเรื่อง... ฉันจําไดวาครั้งหนึ่ งลุงเทียน ซึ่งเปนประธานบริษท ั ปนดายขัดเคือง ลุงแอนดี้ซ่ง ึ เปนประธานบริษท ั นัฐกิจการทอ ดวยเรื่องที่หาวานัฐ กิจการทอกดราคาดายและเสนใยสังเคราะหของนัฐกิจปนดาย หรือ อีกครั้งที่ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ของลุงนัฐแทบจะตัดเปนตัดตายไมซ้ อ ื ผาจากโรงงานนัฐกิจการทอ เพราะมีราคาสูงกวาผาจากโรงงานอื่น ทั้ง ๆ ที่หากมองอยางผาด ๆ แลว ก็คลายกับเปนการควักเงินจาก กระเปากางเกงขางซายมาใสกระเปาขางขวา แตพอบอกวาความ จริงแลวมันไมใชเรื่องเล็ก ๆ หรือเรื่องไรสาระอยางที่ฉน ั เคยคิด เพราะตนทุนการผลิตก็ดี ยอดจําหน ายก็ดี มีผลอยางมากตอผล กําไรของบริษท ั นั้น ๆ ตลอดรวมไปถึงการแขงขันกันเองในหมูพ่ี ๆ นอง ๆ วาใครจะมีความสามารถในการบริหารงานไดดีกวากัน ทํา กําไรไดสูงกวากันในแตละป เมื่อมีคนถามวา ปูจะวางตัวอยางไรในปญหาทํานองนี้ ปูก็จะ ตอบดวยสีหนาที่มีรอยยิ้มเจืออยูบาง ๆ วา... “มันก็เหมือนกับนักไตลวดนั่นแหละ ถาวางนํ้าหนักตัวที่ขาใด ขาหนึ่ งมากไป มันก็ตองตกลงมา เราเองถือวาทุกบริษท ั มีความ สําคัญเทากัน หนักนิ ดเบาหน อยก็ตองคอยประคับประคองกันเอาไว อยาใหพลัดตกลงมาจากลวดเปนใชได” คําตอบของปูฟงดูเหมือนกับเปนสิ่งที่งายดาย แตถาหากใครก็ ตามที่ขน ึ้ ไปอยูบนเสนลวด ก็คงจะตระหนักดีวามันไมใชเปนเรื่อง งายเหมือนอยางที่พูดเลย
ขา ย นํา ไป
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
ปูเปนคนทีใ ่ ชชีวิตอยูกับงาน... วากันวาปูทํางานวันละยี่ สิบหาชั่วโมงสัปดาหละแปดวัน และปละสิบสามเดือน ซึ่งเมื่อไดยิน คําลอเลียนเชนนี้ ปูก็มักจะตอบดวยสีหนาเครงขรึมวา นั่นยังถือวา เราทํางานนอยไปดวยซํ้า ฉันไมเคยเห็นปูพักผอนอยางเปนเรื่องเปนราว หรือหาความ สําราญใสตัวเองอยางเพื่อนฝูงรุนราวคราวเดียวกัน ที่มักจะเลน กอลฟ ตกปลา เลนไพนกกระจอก หรือไปเที่ยวไหนตอไหน สําหรับ ปูแลวสิ่งเหลานั้นดูจะเปนของฟุมเฟอยในชีวิตไปเสียดวยซํ้า... นอกจากจะไมมีเวลาใหกับเรื่องเหลานี้ แลว ปูยังไมกินเหลา ไมสูบ บุหรี่ ไมดูโทรทัศน หรือทําอะไรที่เปนเหตุใหเสียเวลาการทํางาน เลย... ดังนั้นจึงไมใชเรื่องน าประหลาดใจที่ในยุคซึ่งใครตอใครพากัน คลั่งไคลติงลี่แหง “เจาพอเซี่ยงไฮ” หรือ “โอชิน” ปูจึงเงยหนาจาก กองเอกสารขึน ้ มาถามดวยสีหนางง ๆ วา คนสองคนนี่ ทําการคา อะไรกันถึงไดขายดิบขายดีมีช่ อ ื ติดปากคนทั้งเมือง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
อยางไรก็ตาม ยังมีส่ง ิ หนึ่ งซึ่งถือไดวาเปนความสุขสวนตัวของ ปูน่ันก็คือ การที่ปูมียามาลัยหรือที่พวกเด็ก ๆ เรียกกันวา “ยาเล็ก” ซึ่งมีอายุเทากับลุงนัฐ เปนเมียคนที่สาม และมีลูกดวยกันถึงสองคน คือ อานงพงากับอานรากร แมวาทั้งยาเหมยหลิงและยาเนี ยมจะไมเคยมีปฏิกิริยาใด ๆ ใน เรื่องนี้ และในทางตรงกันขามยาเหมยหลิงกลับดูกระตือรือรน และ ถือเปนหนาที่ของเมียใหญท่จ ี ะหาเมียนอยใหสามี สวนยาเนี ยมแอบ มีความสุขเล็ก ๆ กับการที่เห็นปูมีความสุข แตคนที่ขุนเคืองและเปน ตัวตั้งตัวตีคัดคานเรื่องนี้ มาตั้งแตตนกลับเปนอานุช ซึ่งอานุชก็พูด เสมอวา สาเหตุน้ันไมไดเกี่ยวของกับตัวยามาลัย แตไมเห็นดวยกับ พฤติกรรมของปูตอเพศหญิง... อานุชหาวาปูดูถูกกดขี่ผูหญิง ที่มี เมียคนแรกคือยาเหมยหลิง ก็เพียงเพื่อจะเอาใจปูทวดยาทวดใหแก สบายอกสบายใจวาลูกชายจะไมไปหลงเสน หผูหญิงตางเมืองจนลืม บานเกิดเมืองนอน สวนที่แตงงานกับยาเนี ยมก็เพื่อผลประโยชน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ของตัวเองดานการถือครองที่ดิน แตการที่ไดยามาลัยนั้นอานุชมอง ไมเห็นเหตุผลอื่น นอกจากปูมุงหวังจะหาความสุขทางเพศกับเด็ก สาวเหมือนพวกอาเสี่ยทั่ว ๆ ไป
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
14.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ยามาลัยเปนคนทางเหนือ แตฉน ั ไมแนใจวาจะเปน ลําพูนหรือเชียงราย แกเปนคนตัวเล็ก ผิวผอง ไวผมยาวแตชอบ เกลามวยไวท่ท ี ายทอย หนาตาแปน ๆ ไมจัดอยูในขั้นที่เรียกไดวา สะสวย แตก็ไมถึงกับขี้ริ้วขี้เหร และเปนคนประเภทเงียบ ๆ หงิม ๆ นอกจากบางครั้งบางคราวที่มีพ่น ี อ งเพื่อนฝูงจากเมืองเหนื อมา เยี่ยมเยือน ถึงจะไดยินยามาลัยอูคําเมืองเสียงแจว ๆ เหตุท่ป ี ูจะไดกับยามาลัยนั้น ฉันแอบไดยินพวกคนใชรุนเกา เลาสูกันฟงวา มีเพื่อนเจาสําราญของปูบางคนเปนตนความคิดจะหา เด็กสาวบริสุทธิใ์ หปูไดเสพสุขดวยสักคนหนึ่ ง ตอนแรกก็คงจะ หยั่งเสียงปูในทํานองทีเลนทีจริง แตครั้นเรื่องนี้ ลวงรูไปถึงหูยาเหม ยหลิง ปรากฏวาแกกลับเปนตัวตั้งตัวตีนับแตการเรียกเด็กสาวคน นั้นมาดูตัว จนกระทั่งจัดการใหปูไดรวมหอลงโรงดวย... ไมมีใคร เขาใจเจตนาของยาเหมยหลิงในเรื่องนี้ อยางแจมชัด บางก็คาดวา แกคงถือความคิดแบบผูหญิงจีนสมัยเกาที่ชอบเจากี้เจาการหาเมีย เล็กเมียนอยใหสามี เมื่อตัวเองไมสามารถจะใหความสุขกับสามีได เต็มที่เหมือนเดิม บางก็เดาวาแกคงเห็นปูทํางานหนักมามากจึง อยากใหปูไดผอนคลายความเครงเครียดเหน็ดเหนื่ อย มีเพียงลุงนัฐคนเดียวที่พูดถึงเรื่องนี้ ดวยนํ้าเสียงที่เหมือนจะ รูเทาทันความคิดของยาเหมยหลิงในบางครั้งที่เมาจนไดท่ว ี า “อามาแกคงดูงิ้วเรื่องสามกกมาเยอะ ถึงไดจํากลยุทธ ‘คบซุนตี
นํา ไป
ขา ย
โจ’ มาใช... เมื่อเห็นวารบรากับแมจามาหลายปดีดักไมมีทางเอา ชนะไดสักทีจึงหันไปยืมมือมาลัยมาชวยอีกแรง...” ลุงนัฐหัวเราะหึ ๆ ในคอ
ย
ี โป รด อย ่า
“อามาแกคงไมรูวาถึงมาลัยอาจจะไมรูเรื่องสามกก แตเขาก็ติด ละครวิทยุประเภทเมียนอยเมียหลวงงอมแงม ทําไมเขาจะไมรูวาถา ไมมีแมจาเมื่อไหร อามาก็คงหันมาเลนงานเขาแทน” ลุงนัฐเทนํ้ามังสวิรัติเขาปาก
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
“...ถึงตอนนี้ อามาอีคงสะอื้นอยูคนเดียววา กูหนอกู อยูดีไมวาดี ดันหาตัวหารมาเพิ่มใหสมบัติถูกแบงถูกทอนลงไปเปลา ๆ ปลี้ ๆ”
สําหรับปูนน ั้ แมจะถูกอานุชกระทบกระแทกแดกดันใน เรื่อง ยามาลัยมาตั้งแตตน แตปูก็เอาหูไปนาเอาตาไปไรไมสนใจกับ คําพูดของลูกสาวหัวแกวหัวแหวน ปูวา...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“คนเราตางคนก็ตางความคิด จะเอาความรูสึกนึ กคิดของ ตัวเองไปเที่ยวตัดสินการกระทําของคนอื่นที่ไมตรงกับใจเราก็คงจะ ไมถูกนัก...การดําเนิ นชีวิตของแตละคนมันก็ยอมที่จะแตกตางกัน ออกไป เหมือนกับการเลนตนไมน่ันแหละ ไมบางตนตองเลี้ยงใน กระถางเล็ก ๆ ปลอยใหอดนํ้าอดทาจนแคระแกร็นจึงจะถือวางาม แตไมบางตนตองปลูกลงดินใหเขา ไดแผก่ง ิ กานสาขาออกดอกผล เต็มที่จึงจะถือไดวางาม... ตัวเราเองเปรียบเหมือนตนไมใหญท่ป ี ลูก อยูกลางแจง ทุกวันนี้ ท้ง ั ใบและกิ่งกานก็งอกงามดีอยูแลว หาก ยืนตนเหี่ยวแหงไรดอกผลดกดื่นที่จะขยายพืชพันธ◌◌ุใหย่ง ั ยืนสืบ ตอไปในภายหนา ก็นับวาน าเสียดายยิ่งนัก” อานงพงาเกิดหลังจากที่ยามาลัยอยูกับปูไดสิบเดือน... ยาเนี ยมเลาวา อานงพงาเกิดกอนครบกําหนด เมื่อคลอดใหม ๆ ตัวเล็ก เหมือนลูกแมว และตองอยูในตูอบที่โรงพยาบาลตั้งหลายเดือน เมื่อ
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
กลับมาอยูบานยามาลัยก็ไมมีน้ ํานมแลว อานงพงาจึงกินแตนม กระปองมาตลอดโดย ไมเคยไดกินนมแม ซึ่งเปนเหตุใหถูกคอนใน ภายหลังวาดื้อดานเพราะกินแตนมวัวนมควาย อานงพงาไมใชคนสวย โดยเฉพาะเมื่อประชันโฉมกับพี่สาวตาง แมท้ง ั สองคน แตอานงพงาเปนคนคลองแคลวชนิ ดที่วากันวา คนไม มีเวลาที่จะทันพิจารณาหนาตา และเปนคนที่ตัดสินใจอะไรรวดเร็ว เสมอแมแตในเรื่องของความรัก อานงพงาเปนลูกสาวคนเดียวของปูท่ไี ดไปเรียนตอที่เมืองนอก ซึ่งไมใชเพราะเรียนหนังสือเกงกวาอานุชหรืออานันทนา หรือปูไวใจ กวาลูกสาวอีกสองคน แตเปนเพราะความที่เปนคนพูดคลองจนปู เคลิ้ม กวาจะทันรูเรื่อง อานงพงาก็บินปรอไปอเมริกาเรียบรอยแลว ไหนก็ไหน ๆ แลว ปูเลยตองตกกระไดพลอยโจนยอมใหลูกสาวคน เล็กเรียนวิชาประชาสัมพันธตามที่ใจชอบ ทั้ง ๆ ที่ไมเคยเห็นดวยแม จนกระทั่งทุกวันนี้ หลังจากที่มีอานงพงาไดส่ป ี ปูก็มีลูกชายอีกคนหนึ่ งกับยา มาลัยคืออานรากร ซึ่งเปนลูกคนสุดทองของปูเชนกัน
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
มีนิสิตคณะเศรษฐศาสตร จุฬาฯ เคยวิจัยบริษท ั เราไว ในวิทยานิ พนธเรื่อง “บริษท ั ธุรกิจไทยในปจจุบัน” โดยแบง “นัฐกิจ โกศล” ออกเปนสามยุคคือ ยุคแรก ตั้งแต พ.ศ. 2492 - พ.ศ. 2506 อันถือเปนยุคบุกเบิกและฟนฝามรสุมตาง ๆ ธุรกิจที่สําคัญของ บริษท ั ในยุคแรกนี้ มีเพียงกิจการทอผากับบริษท ั เงินทุนหลักทรัพย ขนาดกลาง ผูมีอํานาจตัดสินใจก็มีแคปูกับลูกชายรุนใหญอีกสองคน มีความผูกพันกับผูบริโภคในวงจํากัด
งส อื
นํา ม
ยุคที่สอง นับจาก พ.ศ. 2507 - พ.ศ. 2516 อันเปนปท่ป ี ระเทศ ตาง ๆ ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ประสบปญหาดานวิกฤตการณ นํ้ามัน เปนเหตุใหบริษท ั ธุรกิจหลายแหงพากันซวนเซ หรือถึงกับ ลมลุกคลุกคลาน ในขณะที่ “นัฐกิจโกศล” ซึ่งยางกาวมาอยาง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เชื่องชาและระมัดระวังตัวกลับเติบโตพรวดพราดขึน ้ มาอยูในระดับ แนวหนา และแตกกิ่งกานสาขาออกไปอยางกวางขวาง จนกลาย เปนบริษท ั ที่ทรงอิทธิพลบริษท ั หนึ่ งในตลาดเครื่องอุปโภคบริโภค เปนยุคที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารงาน โดยลูกหลาน รุนรองลงมาเขามามีสวนรวมรับผิดชอบ ยุคหลัง คือตั้งแตป พ.ศ. 2517 จนถึงปจจุบัน ที่บริษท ั ในเครือ นัฐกิจฯไดปรับปรุงรูปแบบและการดําเนิ นงานใหสอดคลองกับ สภาพการณย่ง ิ ขึน ้ มีการเปลี่ยนแปลงโครงสรางการบริหารงาน จากระบบครอบครัวมาสูการจัดการที่ทันสมัย ทั้งยังระดมกําลังทุน และกําลังความคิดจากภายนอก เขามาเสริมสรางความยิ่งใหญ จน ทําใหกลายเปนบริษท ั ธุรกิจสมัยใหมช้น ั นํา ไมวาใครก็ตามที่ไดอานบทวิจัยชิ้นนี้ แลวก็มักที่จะอดแสดง ความชื่นชมยินดีกับความสําเร็จของ “นัฐกิจโกศล” กับปูไมได แตฉน ั วาปูก็คงจะมีความคิดเหมือน ๆ กันกับฉัน คือไมคอยจะเขาใจหรือ ซาบซึง ้ กับสิ่งที่คนเขียนอุตสาหรวบรวมคนควา และวิเคราะหวิจัย บริษท ั เราสักเทาไหร ปูมักจะพูดเสมอวา “นัฐกิจฯ” เพิ่งมีอายุเพียงสี่ สิบกวาป นับวายังเยาวนัก และจําเปนที่จะตองเรียนตองรูส่ง ิ ตาง ๆ อีกมากมาย... สําหรับปู ปูแบงชวงชีวิตของตัวเองออกเปนสามยุค คือยุคสรางตัว ยุคสรางงาน และยุคสรางคน “ปูวายุคสรางตัวนั้น เริ่มตั้งแตปูลงเรือมาจากเมืองจีนจนถึงกอตั้งโรงงานทอผาขึน ้ เปน รูปเปนราง ยุคสรางงานอยูในระยะที่ “นัฐกิจโกศล” ขยายกิจการ ตาง ๆ ออกไปอยางมากมาย สวนยุคสรางคนอยูในชวงหลัง ที่ปูเริ่ม ถอนตัวออกมาจากการบริหารงานในบริษท ั ปลอยใหลูกหลานและ คนภายนอกเขามารับหนาที่แทน และหากถามวาปูพึงพอใจยุคไหนในชวงชีวิตมากที่สุด ปูก็จะ ตอบทันทีวา... ยุคสรางคน ปูวาสิ่งที่นับไดวาเปนความสําเร็จอันแทจริง และยิ่งใหญท่ส ี ุด ในชีวิตของคนเราก็คือ การที่ไดเห็นสิ่งที่ตนทุมเทแรงกายแรงใจ สรางขึน ้ มากับมือ มีคนรุนใหม ๆ รับชวงสืบทอดตอไปรุนแลวรุนเลา เหมือนกับดวงอาทิตยท่โี ผลพนขอบฟาทุกรุงอรุณโดยไมมีวันคลาด
นํา ไป
ขา ย
คลา
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
เมื่อเล็ก ๆ ฉันเคยไดยินเรื่องทีเ่ ลาลือถึงเจาสัวคนหนึ่ง ซึง ่ แมภายหลังจะมีฐานะอยูในขั้นรํ่ ารวยมหาศาล แตก็ไมเคยลืม อาชีพดั้งเดิมที่เคยหาบนํ้าขายมากอน ทั้งยังไมอายที่จะนําไมคาน อันนั้นมาปดทองคําเปลวแลวประดับไวในหองรับแขก ใหคนที่ไปมา หาสูไดรูไดเห็นโดยทั่วกัน แมวาบานเราจะไมถึงกับมีหมอกาแฟสมัยที่ปูยังขายกาแฟอยู ที่ทานํ้าราชวงศมาตั้งไวในหองรับแขก แตปูก็มักจะเลาถึงเรื่องราว ในสมัยนั้นใหลูกหลานไดฟงอยูเสมอ ราวกับจะยํ้าเตือนใหทุกคนไม หลงลืมตัว... ปูมักจะเนนเสมอวา ความสุขสบายที่พวกเราไดรับกัน อยูในทุกวันนี้ ลวนเริ่มตนมาจากการที่ปูอาบเหงื่อตางนํ้า รับจาง เปนจับกังขนของ ซึ่งกวาจะไดเงินสักสตางคสองสตางคก็ตองเอา แรงงานเขาแลกเหนื่ อยยากแทบสายตัวจะขาด ดังนั้นหากลูกหลาน ใชจายเงินทองอยางสุรุยสุรายโดยไมคํานึ งถึงความลําบากลําบน ของปูแตหนหลัง ก็เปรียบเสมือนกับคนอกตัญู
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
พอวาปูกับยาเนี ยมเปนคนที่ยึดถือคุณธรรมเรื่องความกตัญู เปนอยางมาก สมัยที่ลุงนัฐ พอ และอานุชยังเล็ก ๆ หากมีเวลาวาง ปูจะเรียกลูกทั้งสามคนมานั่งใกล ๆ และเลาเรื่อง “ยี่จับสี่เหา หรือ ตํานานของผูมีความกตัญูย่ส ี ิบสี่คนใหฟง... พอเลาวา พอจําได เพียงเรื่องเดียวคือ “ลูกเจก” ที่เปนเด็กเฉลียวฉลาดจนเจาเมืองเชิญ ใหไปรวมในงานเลี้ยง แตลกเจกนึ กถึงแมของตนซึ่งนอนปวยอยูท่ี บาน จึงขโมยสมใสอกเสื้อ เมื่อเวลาที่คํานับเจาเมืองตอนจะลากลับ สมก็หลนออกมา และที่พอจําเรื่องนี้ ไดแมนก็เพราะในหนังสือเรียน เรื่องสามกก ตอนโจโฉแตกทัพเรือที่ยาเนี ยมชอบใหพออานใหฟงบอ ย ๆ นั้น ตอนที่ขงเบงพบกับลกเจกซึ่งเปนที่ปรึกษาคนหนึ่ งของซุนก วน ขงเบงก็เยาะเยยลกเจกวา “ทานนี้ หรือชื่อลกเจก เมื่อเล็ก ๆ ลัก สมไปใหมารดา”
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พอวาแมในชวงที่ปูไมไดอยูเมืองไทยจะไมมีใครเลาเรื่อง “ยี่จับ สี่เหา” อีก แตยาเนี ยมก็ชอบพาลูก ๆ และหลาน ๆ คือพี่ระวีกับพี่ ดวงดาว ไปดูรูปเขียนพระเจาสิบชาติท่ร ี าน ส.ธรรมภักดี สี่แยก ถนนตะนาว และภาพชาดกที่ยาเนี ยมชอบมากที่สุดคือ เรื่องสุวรรณ สาม ผูไดช่ อ ื วาเปนยอดแหงความกตัญู เอาพอแมท่ต ี าบอดใส ตะกราหาบไปไหนมาไหน พอวาในกระบวนลูกหลานทั้งหมดในยุคนั้น มีพ่ช ี าญชัยเพียง คนเดียวที่ไมเคยไดอยูใกลชิดกับปูและยาเนี ยม และคงจะเปนคน เดียวที่ไมเคยไดฟงเรื่อง “ยี่จับสี่เหา” หรือสุวรรณสาม รวมทั้งไมตอง เปนกังวลกับการจะถูกกลาวหาวาเปนคนอกตัญู เพราะปาเปกกี้ ใหเงินทองพี่ชาญชัยจับจาย ใชสอยอยางเหลือเฟอโดยไมไดแตะตอง เงินของปูแมแตสตางคแดงเดียว
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
และบางทีส่ง ิ ตาง ๆ ในวัยเด็กเหลานี้ น่ี เอง ที่สงผลมาถึง ความคิดและนิ สัยใจคอของพี่ชาญชัยบางเรื่อง อยางการที่ไมเคย คํานึ งถึงคุณธรรมเรื่อง ความกตัญูเลยแมแตนอ ย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
15
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ในกระบวนชัน ้ หลานของปูทง ั ้ หมด พีช ่ าญชัยเปนคนที่ รับเอาสวนที่เดนของสายพอและแมไวมากที่สุด ไมวาจะเปนรูปราง หนาตาผิวพรรณหรือสติปญญา...สมัยที่ลุงแอนดี้ยังหนุม ๆ นั้น ก็ เปนที่เลื่องลือกันวารูปงามอยางหาตัวจับไดยาก แตทุกคนก็พากัน พูดเปนเสียงเดียวกันวาพี่ชาญชัยมีความหลอเหนื อกวาลุงแอนดี้ ทั้งนี้ คงเปนเพราะไดความสวยของปาเปกกี้เขามาชวยเสริม โดย เฉพาะนัยนตาที่ดําขลับคมวาว จมูกโดงเปนสัน และริมฝปากบางมี รอยหยักไดรูป ซึ่งทําใหมองดูเหมือนกับเปนคนที่มีรอยยิ้มอยูใน สีหนา
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
แมวาพี่ชาญชัยจะไมใชคนปราดเปรียวอยางลุงแอนดี้ มีหัวคิด ริเริ่มแปลก ๆ ใหม ๆ อยางลุงนัฐ หรือเอาการเอางานอยางพอของ ฉัน แตก็เก็บเอาลักษณะรวม ๆ ของคนในตระกูลสือพาณิชยไวในตัว เกือบทั้งหมด...หากมองดวยสายตาของคนภายนอกอาจจะเหมาวา พี่ชาญชัยมีทาทางเปนคนเจาสํารวย หยิบหยง และคอนขางเขาใจ ยาก
งส อื
นํา ม
าให
การมองเชนนั้นอาจจะมีสวนถูกอยูบาง แตก็ไมท้ง ั หมด... เพราะถึงแมพ่ช ี าญชัยจะดูเปนคนเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ที่ดีแตแตงตัวโก เดินฉายไปฉายมาในบริษท ั แตสายตาที่คมกริบนั้นก็ไมเคยที่จะ ปลอยใหอะไรผานเลยไปอยางงาย ๆ สีหนาที่เหมือนจะยิ้มอยูในที นั้น ก็เคยทําใหหลายตอหลายคนเย็นวาบเขาไปถึงไขสันหลังมา
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แลว และเมื่อถึงคราวจําเปน คนสํารวยสวยกรากอยางพี่ชาญชัย ก็ พรอมที่จะถลกแขนเสื้อเชิ้ตจากอิตาลีลงมือถอดนอตเครื่องจักรทอ ผากับพอของฉัน โดยไมกังวลถึงนํ้ามันเครื่องที่จะกระเซ็นมา เปรอะเปอน แมพอซึ่งเปนคนเรียบงายและสมถะ จะไมคอยชอบการดําเนิ น ชีวิตและนิ สัยใจคอของหลานชายคนนี้ เทาไหรนัก แตพอก็พูดอยาง เปนกลาง ๆ วา พี่ชาญชัยเหมือนกับมีดคมเลมหนึ่ ง ใครจะหยิบใช หยิบสอยก็ควรที่จะตองรูจักระมัดระวัง หากพลาดพลั้งเกิดบาดไม บาดมือเขาจะไปกลาวโทษวา มีดมันผิดแตฝายเดียวก็คงไมถูก
อน ํ าม าให ้อ่า
สําหรับแมน้ัน ฉันเคยไดยินแมพูดถึงพี่ชาญชัยกับคุณตาวา นับวาเปนทั้งบุญและทั้งกรรมของตระกูลสือพาณิชยท่ไี ดคนอยางพี่ ชาญชัยมารวมวงศวาน
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ถึงแมวาแมจะสนิ ทสนมชอบพอกับปาเปกกี้มากกวาญาติ พี่นอ งของพอคนอื่น ๆ ในบาน แตกับพี่ชาญชัยแมดูเหมือนจะไม พยายามใกลชิดดวยมากนัก... ยิ่งพี่นอ งรุนราวคราวเดียวกันแลวยิ่ง ไมมีใครชอบพี่ชาญชัยเอาเลย จะเวนเสียก็แตอานันทนาเพียงคน เดียวที่ไมเคยมีใครเดาความรูสึกที่แกมีตอหลานชายซึ่งแกวัยกวา ไดถูก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ลุงนัฐเคยพูดอยางทีเลนทีจริงวา พีช ่ าญชัยเปนคนทีเ่ กิด มาทามกลางความขัดแยง และถูกใชเปนเครื่องมือทางการเมืองของ ใครตอใครมาตั้งแตยังไมทันลืมตาดูโลก... กอนที่จะมีพ่ช ี าญชัยนั้น ปูกับยาเหมยหลิงมีพ่ร ี ะวีกับพี่ดวงดาว เปนหลานคูแรก ซึ่งก็ไมไดรับความรักใครไยดีมากนัก เพราะปู โกรธที่ลุงเทียนกับปาทรงศรีชิงสุกกอนหามถึงขั้นจะตัดเปนตัดตาย กับลูกชายคนหัวป สวนยาเหมยหลิงก็เกลียดชังลูกสะใภใหญ เพราะถือวาเปนคนทําลายอนาคตของลุงเทียน ทําใหกิจการคา หลายอยางของปูตองมาตกอยูกับพวกลูก ๆ สายยาเนี ยม แทนที่จะ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เปนของลุงเทียนหรือลุงแอนดี้ซ่ง ึ เปนลูกชายคนโตของตระกูล... ดังนั้นเมื่อปาเปกกี้มีพ่ช ี าญชัย ยาเหมยหลิงก็หมายมั่นปนมือวา หลานชายคนนี้ จะเปนตัวแกความเพลี่ยงพลํ้ายกแรกของแกที่เกิด จากการกระทําของลุงเทียนและปาทรงศรี แตเมื่อแกเกิดเบาะแวง กับลูกสะใภคนเล็กเรื่องที่ปาเปกกี้บังคับใหลุงแอนดี้ไปทําหมัน ปา เปกกี้ก็เก็บลูกชายคนเดียวไวเปนสมบัติสวนตัว ไมยอมใหยาเหม ยหลิงเขาไปมีสวนยุงเกี่ยวดวย พี่ชาญชัยถูกใชเปนเครื่องมือทางการเมืองครั้งสําคัญอีกคราว หนึ่ งก็เมื่อตอนที่ปูไปอยูฮองกงและตั้งบริษท ั “ เนชันแนล ทรัสต” ขึน ้ ... ซึ่งตอนนั้นพอของปาเปกกี้ตองการที่จะใหลูกเขยของตนมา ชวยปูดูแลบริษท ั ทรัสต แตปูกลับเลือกลูกชายคนใหญแทน ดังนั้น เพื่อเปนการประนี ประนอมกับพอของปาเปกกี้ ปูก็ส่ง ั ใหลุงแอนดี้สง ลูกชายคือพี่ชาญชัยไปอยูกับลุงเทียน ทั้งยังหวังวาแมตอนนั้นลุงแอ นดี้จะสามารถควบคุมอํานาจในบริษท ั ตาง ๆ ทางกรุงเทพฯ ไวได แตลุงเทียนก็อาจจะกําอํานาจเหนื อจิตใจของพี่ชาญชัยไวอีกชั้นหนึ่ ง
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ไมมีใครตอบไดวา ความคิดของปูในครั้งนั้นถูกหรือผิดที่เอา เด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ งไปไวในมือของคนแกท่ว ี าเหวสองคน และคน หนุมที่กําลังหลงระเริงกับชีวิตสําราญอีกคนหนึ่ ง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
เมื่อปูเดินทางกลับเมืองไทย และพอของปาเปกกี้ฆาตัว ตายในเวลาตอมา ปาเปกกี้ก็สงพี่ชาญชัยเขาโรงเรียนประจําที่ ฮองกงจนจบระดับเซกันดารี จึงไดกลับมาอยูกรุงเทพฯ ชั่วระยะ เวลาหนึ่ ง ซึ่งเปนระยะเดียวกับที่พวกอานุช พี่ระวี อานนท และพี่ ดวงดาว กําลังรวมหัวกันเรียกรองสิทธิเสรีภาพจากปู และคัดคาน ในเรื่องตาง ๆ ที่ไมเห็นดวยทั้งเรื่องงานในบริษท ั และเรื่องภายใน บานอยางเปดเผย เหตุการณในชวงนั้นใกลเคียงกับยุคที่ “แกง ออฟ โฟร” เรือง อํานาจอยูในเมืองจีน เมื่อพี่ชาญชัยมารวมสมทบกับกลุมของอานุช
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ดวยอีกคน พวกผูใหญจึงเรียกเด็กวัยรุนกลุมนี้ ดวยความหมั่นไส แกมประชดประเทียดวา “แกง ออฟ ไฟว” และตั้งฉายาอานุชวา “มา ดามเจียงชิงนอย” พอเลาวา “แกง ออฟ ไฟว” มีอานุชเปนหัวโจกที่ออกหนาออก ตาเต็มที่ ดวยถือตัววาเปนลูกสาวที่ปูรักมาก สวนคนอื่น ๆ ก็ไดแต ลุนอยูขางหลัง แตในบรรดาสมาชิกรวมแกงทั้งหมด คนที่ไดช่ อ ื วา เปนเสนาธิการวางแผนการเรียกรอง รวมทั้งสรรหาถอยคําใหอา นุชใชตอบโตกับปูอยางคมคายทั้งอังกฤษและจีนนั้นก็คือ พี่ชาญชัย ซึ่งแมจะเปนที่รูกันเปนนัย ๆ ในภายหลังวา ที่แทแลวคนที่อยู เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของพวกเด็ก ๆ ในครั้งนั้นคือปาเปกกี้ แต คนที่ลงมือทําใหแผนยืมมือเด็กลิดรอนอํานาจคนแกของปาเปกกี้ ประสบความสําเร็จในระดับหนึ่ ง ก็คือพี่ชาญชัยอีกเชนกัน
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
หลังจากที่เสร็จสิ้น “ภารกิจทางการเมือง” ชิ้นนี้ แลว ปาเปกกี้ก็ สงพี่ชาญชัยไปเขาไฮสกูลที่อังกฤษ และเรียนวิชาการจัดการกิจการ อุตสาหกรรมตอที่วิทยาลัยที่มีช่ อ ื เสียงแหงหนึ่ งในเมืองลิเวอรพูล
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
ฉันจําไดวาเคยมีคนเปรียบเปรยบริษท ั ของเราในสมัย กอนไววาเปนแหลงชุมนุมพวกตัวประหลาดจากหนังสือกําลัง ภายใน... ยกตัวอยางเชน พนักงานบัญชีระดับสูงคนหนึ่ งหนาผาก โหนกนูนออกมาเหมือนลูกทอ นายชางใหญอีกคนหนึ่ งมีจมูกใหญ เบอเรอเบอรา แถมหัวโตอยางเห็นไดชัด... ที่เปนเชนนี้ ก็เพราะปู อาศัยหลักโหงวเฮงเปนเครื่องพิจารณาในการรับคนเขาทํางาน รวม กับสิ่งที่ปูเรียกวาสัญชาตญาณพิเศษ... ปูวาคนเราทุกคนมีธาตุแหง ความดี ความชั่ว ความซื่อสัตย ความคดโกง ความฉลาด ความโง ความกลาหาญ หรือขี้ขลาด อยูในตัวเหมือนกับบรรดาแรธาตุตาง ๆ ที่จมอยูในดิน หากธาตุชนิ ดไหนมีพลังแรงกวาหรือมีปริมาณมาก กวา ก็จะสงสัญญาณนั้น ๆ ออกมาภายนอก ปูวาการที่คนสองคนจะ คบหากันไดก็เพราะมีธาตุท่ต ี องกัน เชนธาตุแหงความซื่อสัตยกับ ธาตุแหงความยุติธรรม หรือธาตุแหงความกลาหาญกับธาตุแหง
ขา ย
ความเขมแข็งอดทน
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ปูเปนคนที่ไมคอยเชื่อถือวิธีการคัดเลือกคนตามหลักการสมัย ใหมเชนสอบแขงขันหรือวุฒิการศึกษา ปูวาปริญญาหรือ ประกาศนี ยบัตรเปนเพียงกระดาษแผนเดียว ไมมีอะไรที่ค้ า ํ ประกัน ความเลวความดีของคน และคนบางคนอาจจะเกงแตเรื่องตํารับ ตํารา แตเอาเขาจริง ๆ กลับทํางานไมไดดี ซึ่งปูวาไมเหมือนกับการ พิจารณาลักษณะโหงวเฮงซึ่งสามารถบอกสิ่งตาง ๆ ภายในตัวของ คนไดอยางแจมชัดโดยที่เจาตัวไมมีทางปดบังอําพรางได แตถึงแมปูจะไดช่ อ ื วาเชี่ยวชาญในการดูโหงวเฮง แตปูก็ไมเคย ปริปากวิจารณลักษณะของลูกหลานคนหนึ่ งคนใด ปูวา... “ลูกหลานก็เหมือนกับตาไมท่แ ี ตกจากลําตนของเรา จะชั่วหรือ ดีอยางไรก็ตัดกันไมตาย ขายกันไมขาด ไดแตต้ง ั หนาเลี้ยงดูกันจน สุดกําลัง”
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ดังนั้นที่ใครบางคนพูดในทํานองเยาะ ๆ ปูเรื่องพี่ชาญชัย วาปูดี แตเที่ยวดูโหงวเฮงคนอื่นโดยไมพิจารณาลูกหลานตัวเอง จึงเปน เรื่องที่พวกเราไมเคยเก็บมาเปนอารมณ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
พีช ่ าญชัยกลับมาจากอังกฤษหลังพีร ่ ะวีหนึ่งหรือสองป และกอนอานนทดูเหมือนจะสักสามป... ทั้งอานนทและพี่ระวีปูสง ไปเรียนตอที่อเมริกา แตอานนทขอทําปริญญาเอกตอจึงกลับมา หลังคนอื่น ตอนที่พ่ช ี าญชัยกลับมานั้น ปาเปกกี้จัดงานเลี้ยงตอนรับ ลูกชายคนเดียวของแกอยางใหญโตมโหฬาร ฉันยังจําภาพโตะจีน หลายสิบโตะที่ต้ง ั เรียงรายอยูตรงลานหนาตึก ไฟราวที่สวางไสว ราวกลางวัน วงดนตรีวงใหญท่บ ี รรเลงเพลงทั้งไทยและจีนอยาง สนุกสนาน และลูกโปงสีสันสดใสนับรอย ๆ ลูกที่กวัดไกวไปตาม
ขา ย
แรงลม...
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ฉันจําไดวาวันนั้นแมสวมกระโปรงยาวผาไหมอิตาลี หรือผา อะไรสักอยางที่ล่ น ื ๆ แลวปกเลื่อมเปนชั้น ๆ ยามที่แมลุกขึน ้ เดิน กรีดกราย ชวนใหฉน ั กับพี่นภิศนึ กถึงนางฟาที่เราเห็นในหนังสือ นิ ทานภาษาอังกฤษ... พอนั่งดื่มเหลาเงียบ ๆ อยูคนเดียว สวนลุงนัฐ เมาสงเสียงลั่น ดูเหมือนจะเลาเรื่องโจกอะไรสักอยาง เพราะเสียง หัวเราะแบบที่เรียกกันวางอหายของคุณสุวรรณา-ผูชวยฝายบุคคล ยังติดหูฉน ั อยูไมหาย คุณสุวรรณา แกเปนคนอวนมอตอ แตชอบทําผมฟู ๆ ตั้งแต สาวจนแก เสียงของแกแหบหาวผิดจากผูหญิงทั่ว ๆ ไป ยิ่งเวลาที่ แกระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ฟงดูท้ง ั น ากลัวและน าขันอยาง ประหลาด... แตหลังจากคืนนั้นแลว ฉันก็ไมเคยเห็นคุณสุวรรณา หัวเราะอยางเต็มที่แบบนั้นอีกเลย
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ฉันพยายามทบทวนความจําอยูหลายครัง ้ แตก็นึกไม ออกวาในงานเลี้ยงคราวนั้น ลุงเทียนกับลุงแอนดี้ทะเลาะกันเรื่อง อะไร จําไดแตลุงเทียนโกรธจนหนาแดงกํ่ าตัวสั่นเทิ้ม และเอามือปด ขวดเบียรกับแกวบนโตะตกแตกเปรื่องปราง จนยาเหมยหลิงตอง รีบวิ่งตุมตะตุมตุยเขามาหาม สิ่งที่ติดตาฉันอยูอีกอยางก็คือ ภาพของพี่ชาญชัยแตงชุดทักซี โดสีดําเยื้องกรายไปตามจังหวะเพลงเตนรํากับอานันทนา ทั้งคูแผว พลิ้วเหมือนลองลอยอยูบนฟองเมฆแบบเจาหญิงเจาชายในบัลเลตท่ี แมชอบพาฉันกับพี่นภิศไปดู ทามกลางเสียงปรบมืออยางชื่นชมของ อานุช อาดอน อานงพงา พี่ระวี พี่ดวงดาว และพี่ ๆ นอง ๆ คนอื่น ๆ
งส อื
นํา ม
ฉันมีความรูสึกที่ฝงใจอยูเสมอวา งานเลี้ยงคืนนั้นชาง สนุกสนานและเนิ่ นนานจนเหมือนจะไมมีเวลาสิ้นสุด... ทั้ง ๆ ที่ท่แ ี ท แลวมันเพิ่งเปนการเริ่มตนแหงฝนรายในชีวิตของหลาย ๆ คน เทานั้นเอง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
16.
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เมื่อตอนทีพ ่ ช ี่ าญชัยกลับมาจากอังกฤษใหม ๆ ปาเปกกี้ คิดจะตั้งบริษท ั ใหลูกชาย โดยแยกตัวเปนเอกเทศจาก “นัฐกิจโกศ ล” ...เมื่อความคิดนี้ รูไปถึงปู แมจะไมพอใจอยางมาก แตปูก็เพียงให คนเชาเรือใหญลําหนึ่ ง แลวขนลูกหลานลงเรือแลนออกไปนอก ปากนํ้า เปนทีจัดฉลองปริญญาใหพ่ช ี าญชัย ระหวางที่กินเลี้ยงกัน อยูปูก็เริ่มตนเลาถึงสมัยที่ลงเรือจากเมืองจีน เขามาเสี่ยงโชคที่เมือง ไทย ดวยนํ้าเสียงเรียบ ๆ “ตอนนั้นเรายังอายุนอ ยไมคิดหนาคิดหลัง เมื่อตั้งใจวาจะมา แลวก็ตองมาใหได ใครทัดทานเทาไหรก็ไมฟง เราเองไมเคยลงเรือ ไกล ๆ มากอน มองไปทางไหนก็เห็นแตน้ ํากับฟา ชวนใหวังเวง คลื่นลมหรือก็รุนแรงจนน ากลัววาจะพัดเรือลมลงเสียในเวลาใด เวลาหนึ่ งกอนที่จะทันถึงที่หมาย... เวลานั้นเราทั้งเมาคลื่น ทั้งกลัว วาเรือจะแตก และทั้งคิดถึงบานที่เมืองจีนเปนที่สุด เลาอยางไมอาย ตอหนาลูกหลานวาเราถึงกับรองไหทุกวัน...”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ปูกราดสายตาที่ออนโยนผานพวกเราทุกคนที่น่ิ งฟงอยางตั้งใจ “มีคนเรือคนหนึ่ งคงจะเวทนาเราอยู อีก็ถามวาอาตีเ๋ อย ลื้อ ทําไมเอาแตรองไหทุกวี่ทุกวัน เราก็ตอบไปตามตรงวา ทั้งเมาคลื่น จนหมดกําลังใจแลวก็ท้ง ั กลัวเรือจะแตกและยังคิดถึงบานอีก... อีก็ ถามวา ทั้งสามเรื่องนี่ อะไรทําใหล้ อ ื รองไหมากที่สุด เราก็ตอบวา กลัวเรือแตกซิ คนเรือก็พยักหนาแลวบอกวา ถาเปนเรือใหม ๆ ที่
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แรกออกทะเล เรื่องเรือแตกก็เปนสิ่งที่นากลัว แตเรือเกา ๆ อยางลํา นี้ คนเรือทุกคนนับแตนายเรือลงมาถึงลิ่วลอ นอกจากจะรูจักงานใน หนาที่ของตนเปนอยางดีแลว ก็ยังรูจักที่จะทํางานรวมกับคนอื่น ๆ อยางเปนนํ้าหนึ่ งใจเดียว ถาเรือเปนเพียงไมหรือเหล็กทอนหนึ่ งแลว แมเพียงคลื่นลมแผวเบาก็อาจลมเรือใหญลงได แตถาเมื่อใดที่จิตใจ ของคนหลอหลอมกันขึน ้ เปนเรือไดสําเร็จ แมจะเปนเพียงเรือ กระดาษลําหนึ่ งก็สามารถจะฟนฝามรสุมได” ปูมองหนาปาเปกกี้กับพี่ชาญชัย แลวก็พูดดวยนํ้าเสียงที่ เครียดขึน ้
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“ทุกวันนี้ ‘นัฐกิจโกศล’ ก็เหมือนเรือลําหนึ่ งที่เราปรารถนาจะ บรรทุก ลูกหลานขามนํ้าขามทะเลไปใหถึงจุดหมายปลายทาง แม วาเรือมันจะเกาหรือเทอะทะไมนาดูอยูบาง แตคนเรือทุกคนก็ทุมเท จิตใจใหกับมัน และเราเชื่อมั่นวาเรือลํานี้ จะไมมีวันลมลงงาย ๆ “ตราบเทาที่ลูกหลานทุกคนรวมแรงรวมใจกันประคับประคองมัน ตามความรูความสามารถ” คําพูดของปูในเรือวันนั้นทําใหปาเปกกี้ตองระงับความคิดเรื่อง ตั้งบริษท ั ใหม ทั้ง ๆ ที่ภายในจิตใจของแกมิไดเคยเลิกลมความตั้งใจ ในเรื่องนี้ เลยแมแตนอ ย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ถึงแมพช ี่ าญชัยจะจบมาจากเมืองนอกเมืองนา และ เปนลูกหลานเจาของบริษท ั แตเรื่องการทํางานแลวก็ตองเริ่มตน จากงานระดับเสมียนพิมพจดหมายโตตอบ กรอกขอความในแบบ ฟอรมตาง ๆ สํารวจสตอก วิ่งเตนเอกสารกับหน วยราชการที่ เกี่ยวของ ตอนเที่ยงถาไมออกไปติดตอธุระขางนอก ก็ตองนั่งกินขาว กงสีกับพวกพนักงานดวยกัน ไมมีสิทธิพิเศษอะไรทั้งสิ้น แมแตรถ เบนซสปอรตที่ปาเปกกี้ส่ง ั จากเยอรมนี มาให ปูก็หามพี่ชาญชัยขับ ไปทํางาน จะใชไดก็แตเฉพาะวันหยุดหรือชวงหลังเวลางาน ตอน เชาตองรีบตื่นและแตงตัวลงมาคอยรถรับ-สงคนงานที่จะมารับที่
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
หนาบาน สวนตอนเย็นก็ติดรถกลับมาพรอมกับลุงเทียน ลุงแอนดี้ หรือพี่นอ งคนอื่น ๆ “ฉันไมเขาใจจริง ๆ วาทําไมพอคุณถึงไดทรมานทรกรรมนาย ชัยขนาดนี้ หลานชายตัวเองแท ๆ แตทรีตยังกับมันเปนพวกคนงาน พะจับรุม ใชงานกันแทบไมมีเวลาหายใจหายคอ” ปาเปกกี้ระเบิดอารมณใสลุงแอนดี้อยางไมเกรงวาจะไดยินไป ถึงหูใคร “ไมเอาน า...” เสียงลุงแอนดี้ปลอบเมีย “...อยาเอาแตโวยวายซิ ผมเองก็ยังไมเห็นวาเตี่ยแกจะทําอะไรถึงขนาดนั้น”
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“คุณก็มัวแตคอยมองนังพวกสาว ๆ ที่บริษท ั จะเหลือหูเหลือตา ไวดูแลลูกไดยังไง... มีอยางที่ไหนปลอยใหลูกไปกินไปอยูปะปนกับ คนงาน นี่ ถาพอฉันยังอยูคงไมปลอยใหหลานชายตกตํ่ าถึงขนาดนี้ รถราฉันก็ควักกระเปาซื้อเองแท ๆ ยังไมยอมใหใช ไปติดตองาน ที่ไหนก็ตองนั่งรถโทรม ๆ ของบริษท ั คนอื่นเห็นเขาจะพากันคิดวา ยังไง... โอย นี่ ถาลงฉันไมมีทรัพยสมบัติหรือมรดกพกหอ ปานนี้ คง ถูกไลไปเปนจุมโพหุงขาวเลี้ยงพวกคนงานที่บริษท ั แลว” “ไมเอาน า...” ลุงแอนดี้ไดแตปลอบโยนเสียงออย ๆ “...เตี่ยแก คงอยากจะใหไอชัยมันเปนงาน พวกเราทุกคนก็ตองเริ่มตนแบบนี้ ทั้งนั้น”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
“นั่นพวกคุณไมใชพวกฉัน...” ปาเปกกี้แวด “...ถาสมัยเพิ่งมา จากเมืองจีนใหม ๆ ก็ไปอยาง แตเวลานี้ บริษท ั ออกใหญโตมโหฬาร ไมจําเปนตองใหลูกหลานมาลําบากลําบนไมเขาเรื่อง... จะบอกใหรู วาสมัยที่พอฉันเลี้ยงฉันมา งานการสักนิ ดก็ไมยอมใหแตะตอง เรา เรียนหนังสือหนังหามาสูง ๆ ก็เพื่อเปนเจาคนนายคน ไมใชมา ทํางานเสมียนงานจับกัง” ไมมีใครรูวาปูไดยินที่ปาเปกกี้เอะอะเอ็ดตะโรใสลุงแอนดี้ในคืน นั้นหรือไม แตอีกสองสัปดาหตอมา พี่ชาญชัยก็ถูกยายจากงาน เสมียนไปทําหนาที่เลขานุการของปูท่ส ี ํานักงานกลาง แตยังคงไม ไดรับอนุญาตใหใชรถยนตสวนตัวในเวลางาน
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตําแหน งใหมของพี่ชาญชัยฟงดูใหญโตโกหราน แตแทจริงแลว แทบไมไดหยิบไดจับอะไรเปนเรื่องเปนราว นอกจากนั่งดูพวก “ปศาจพันตา” ทํางาน กับไปเปนเพื่อนปูเวลาที่ปูออกไปกินขาว กลางวันกับเพื่อน แมวาการโยกยายงานของพี่ชาญชัยจะไมไดทําความพึงพอใจ ใหกับเจาตัวนัก แตก็กอปฏิกิริยาและกระแสคลื่นใตน้ ําขึน ้ ในหมูพ่ี ๆ นอง ๆ ที่ทํางานอยูในบริษท ั ซึ่งมีความรูสึกวาพี่ชาญชัยอาศัย อิทธิพลของปาเปกกี้ มาบีบบังคับปูทางออม ทําใหไดรับอภิสิทธิท ์ ่ี พี่นอ งคนอื่น ๆ ไมเคยไดมากอน เชนการทํางานในระดับพื้นลาง เพียงชั่วเวลาอันสั้น หรือการกาวพรวดขึน ้ ไปกินตําแหน งเลขาฯ ของปูอยางขามหนาขามตาใครตอใคร โดยเฉพาะพี่ระวีซ่ง ึ กลับจาก อเมริกามาทํางานในบริษท ั ไดพักใหญ โดยตั้งตนจากหนาที่ พนักงานบัญชี และยังไมไดรับการเลื่อนตําแหน งหรือเปลี่ยนแปลง งานเลย และคนที่เปนเดือดเปนแคนเรื่องนี้ มากที่สุด เห็นจะไดแกลุง เทียนกับอานุช ซึ่งตอนนั้นเปนผูชวยหัวหนาฝายบัญชีของนัฐกิจ เท โตรอน อันเปนสวนหนึ่ งของนัฐกิจการทอ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“เรามันพวกเปด...” ลุงเทียนลงจากหองพักมาระบายความ อัดอั้นกับนองสาว “...ไดแตดํานํ้าจับปลาจับหอยกินไปตามเรื่อง จะ ขันใหคอแตก ยังไงก็ไมมีใครสนใจฟงเหมือนพวกไกขนสวย ๆ ที่ วางทาโกงคอขันตอนเชา ๆ” “นี่ หนูพูดอยางไมเขาใครออกใครนะ” อานุชพูดเสียงดังฟงชัด “ระวีมันเขามาบริษท ั กอน งานการก็ไมมีอะไรเสียหาย น าที่จะเลื่อน มันไดแลว... นี่ อะไรกันอีกคนกลับมาแผล็บ ๆ นั่งทํางานเกาอี้ยังไม ทันรอน ก็เลื่อนปรูดปราดยังกะใชน้ ํามันออกซเทนแรงสูง ขามหัว ชาวบานชาวชองหมด” “บอกแลวไงวาเรามันพวกเปด เสียงมันไมไพเราะเพราะพริ้ง เหมือนไกฟาพญาลอ ใครเขาจะคอยเงี่ยหูฟง ใครเขาจะมาใสใจอะไร ดวย” นํ้าเสียงของลุงเทียนเต็มไปดวยความนอยเนื้ อตํ่ าใจ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“ถาหนูเปนเฮียนะ หนูจะเดินเขาไปจับเขาพูดกับพอแลว... จะ เปดจะไกยังไงมันก็ออกมาจากไขเหมือน ๆ กัน บอกตรง ๆ วาหนูทน ไมคอยไดกับเรื่องอะไรที่มันไมเปนธรรม... เฮียก็คงจําไดวา ตอนที่ หนูเรียนธรรมศาสตรนะ ยังตองหอบบัญชีบริษท ั มาทําที่บานตอน เย็น ๆ ทุกวัน ขนาดนั้นเมื่อเรียนจบแลวเขาทํางานในนัฐกิจฯ ยัง ตองเริ่มตนจากพนักงานบัญชีข้น ั ตนอยูเปนป ๆ กวาจะไดเลื่อนชั้น เลื่อนขั้น” “บางทียุคสมัยมันอาจเปลี่ยนไปแลว...” ลุงเทียนหัวเราะ ขื่น...แลวอีกอยางไอระวีมันก็ลูกนายเทียนกับนางทรงศรี จะไป เปรียบเทียบกับลูกคุณแอนดี้คุณเปกกี้เธอไดยังไง” “จะยังไงก็ชางเถอะ... พรุงนี้ เชาหนูจะทําบันทึกขอเลื่อน ตําแหน งระวีเสนอเฮียผานหัวหนาฝายบัญชี เฮียก็ชวยเซ็นอนุมัติ แลวสงตอไปสํานักงานกลางที... หนูบอกเฮียไวตรงนี้ เลยวา ถาพอ ไมเลื่อนตําแหน งใหระวีละก็ งานนี้ หนูเลนไมเลิกจริง ๆ ดวย”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
หากพีช ่ าญชัยจะเปนคนทีร ่ วมเอาสวนเดนของตระกูลไว ในตัวมากที่สุด พี่ระวีก็คงเปนคนที่รวบรวมสวนดอยไวมากที่สุดเชน กัน...รูปรางหนาตาของพี่ระวีคอนไปทางปาทรงศรี คือ ตัวเตี้ย ผิว คลํ้า ใบหนาแปน ๆ สวนหลังที่คอมลงตั้งแตวัยหนุมนั้นคงจะไดไป จากปู ดานสติปญญาก็ไมปราดเปรื่องเทาพี่ชาญชัยหรืออานนท แต เพราะรูวาตัวเองไมใชคนหลักแหลม จึงคอนขางจะระมัดระวังตัว มากในการตัดสินใจตาง ๆ ซึ่งบอย ครั้งที่เฝาแตคิดแลวคิดอีก หรือ เปลี่ยนกลับไปกลับมาเหมือนคนที่โลเลไมมีความมั่นใจในตัวเอง พี่ระวีคอนขางจะขี้ระแวงและมองคนในแงรายเอาไวกอน แตมี เพียงคนเดียวที่พ่ร ี ะวีจะเชื่อฟงความคิดเห็นตาง ๆ โดยไมตองเสีย เวลาไตรตรอง... คนคนนั้นก็คืออานนท ซึ่งถูกยาเนี ยมเลี้ยงคูกันมา เหมือนคูแฝดตั้งแตลุงเทียนกับปาทรงศรียังเรียนหนังสืออยูท่ี ฮองกง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พี่ระวีกับอานนทเปนพี่นอ งที่รักกันมาก และแทบจะไมเคย พรากจากกัน แมแตตอนที่ปูเรียกลุงเทียนไปชวยงาน “เนชันแนล ทรัสต” ที่ฮองกง แมตอนแรกจะสั่งใหลุงเทียนเอาลูกชายไปอยูดวย แตพ่ร ี ะวีซ่ง ึ ตอนนั้นอายุไดแปดขวบ ไปเรียนหนังสือโรงเรียนจีนได เทอมเดียวก็รองไห คิดถึงยาเนี ยมและอานนท จนปูตองสงตัวกลับ และเอาพี่ชาญชัยไปอยูแทน อาจจะเปนเพราะเหตุน้ี ที่ทําใหปูสงอานนทและพี่ระวีไปเรียน ตอที่อเมริกาดวยกัน... ฉันเคยไดยินคนพูดกันวา ตอนนั้นพี่ระวีติด อานนทแจ และคอยกันทาบรรดาสาว ๆ ที่มาตามจีบอานนท จนใคร ตอใครหาวาพี่ระวีเปนพวกแอบจิต หรือมีอะไรพิลึกพิสดารกับ อานนท แตท่จ ี ริงแลวพี่ระวีคงกลัววาหากอานนทเกิด “ปง” กับใคร ขึน ้ มาก็จะปลอยใหแกอยูโยงเฝาหอพักคนเดียว หรือไมมีเวลาติว หนังสือใหซ่ง ึ อาจจะทําใหแกสอบไมผาน แมจะเรียนพรอม ๆ กัน แตอานนทก็จบปริญญาตรีกอนพี่ระวี หนึ่ งป และทําโทและเอกตอ ปลอยใหพ่ร ี ะวีเดินทางกลับมาเมือง ไทยเพียงลําพัง ซึ่งไมมีใครรูวาเมื่อไมมีคนทําหนาที่เปนทศกัณฐ คอยกันทาอยูแลว อานนทจะปงกับสาว ๆ สักกี่คน... แมจะมีเสียง รํ่ าลือถึงความเปนเพลยบอยของอานนทดังมาถึงกรุงเทพฯ อยูบอย ๆ แตอานนทก็สามารถเรียนจบตามเวลาที่กําหนด และเปน ดอกเตอรคนแรกของตระกูลสือพาณิชย อยางไรก็ตาม การที่พ่ร ี ะวีเชื่อฟงความเห็นของอานนทราวจะชี้ นกเปนไม ไดนํามาซึ่งการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งสําคัญในชีวิต ที่ พลิกผันโชคชะตาของพี่ระวีและคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวของ รวมทั้งเปน สาเหตุใหพ่น ี อ งที่ไดช่ อ ื วารักกันมากที่สุด ตองมาแตกแยกกันอยาง ยากที่จะประสานรอยราว
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
17.
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
มีหลายคนโยนเรื่องพีร ่ ะวีใหเปนบาปของลุงเทียน โดย ยกเรื่องที่ลุงเทียนลักลอบไดเสียกับปาทรงศรีต้ง ั แตตอนที่ยังเรียน หนังสืออยูจนมีพ่ร ี ะวีขน ึ้ มาเปนสาเหตุ เพราะการกระทําของลุง เทียนในครั้งนั้นเปรียบไดกับลูกอกตัญูท่ท ี ําใหปูกับยาเหมยหลิง ผิดหวัง และเสียอกเสียใจอยางมาก ซึ่งบาปกรรมนั้นสงผลใหลุง เทียนตองพบกับความผิดหวังในตัวลูกชายคือพี่ระวีเหมือนที่ปูเคย ประสบมา แตทุกทีท่ไี ดยินคําพูดทํานองนี้ ฉันก็อดที่จะถามตัวเองไมไดวา แลวปูเลาเคยสรางบาปสรางกรรมอะไรไวกับทวด ผลกรรมนั้นจึง สนองใหปูตองมาเดือดเนื้ อรอนใจ และเปนทุกขเพราะลูกหลาน อยางเชนทุกวันนี้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ในกระบวนลูกชายใหญสองคน ปูเคยพูดเลน ๆ วา หาก จะเปรียบเทียบดานสติปญญาหรือความรูความสามารถแลวก็คงจะ พอ ๆ กัน แตคนที่หนึ่ งคือลุงเทียน เหมือนจูกัดกิน ๋ ซึ่งรอบรูแมนยํา ทางตํารับตํารา สวนคนที่สองคือลุงแอนดี้น้ัน เปรียบไดกับจูกัดเหลี ยงซึ่งเต็มไปดวยปฏิภาณไหวพริบ... ฉันเชื่อวาใครก็ตามที่รูจัก มักคุนกับครอบครัวเราคงจะตองยอมรับคําพูดของปูในเรื่องนี้ อยาง
ขา ย
แน นอน
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
อยางไรก็ตาม เปนที่รูกันโดยทั่วไปวา จูกัดกิน ๋ อยางลุงเทียนจะ พลันหลงลืมตํารับตําราทุกอยางจนหมดสิ้น และเอาแตเพลิดเพลิน กับความสนุกสนานโดยไมคิดหนาคิดหลังทุกครั้งที่มีโอกาสใชชีวิต อยูเพียงลําพังหางไกลจากสายตาของปู... สวนจูกัดเหลียงอยางลุง แอนดี้ก็จะกลายเปนแมวเซื่อง ๆ ที่ไรเขี้ยวเล็บทันทีท่ป ี าเปกกี้สง เสียงแหวขึน ้ มา แตถึงกระนั้น ระหวางลุงเทียนกับลุงแอนดี้... ลุงเทียนก็เปน คนที่กอเรื่องใหปูตองตามแกไขตั้งแตหนุมจนแกมากมายกวานอง ชาย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
เมื่อปูกลับจากฮองกงในป พ.ศ. 2507 หลังจากทีต ่ อง ระเห็จจากเมืองไทยไปหลายปน้ัน ปูมอบหมายบริษท ั “เนชันแนล ทรัสต” ซึ่งเปนกิจการที่ปูทําในระหวางที่อยูท่น ี ่ัน ใหอยูในความดูแล ของลุงเทียน โดยมีเพื่อนของปูท่ช ี ่อ ื อาหวางเปนคนคอยชวยเหลือ ประคับประคองอยางใกลชิด... แมวาตอนนั้น “เนชันแนล ทรัสต” จะ ฟนตัวขึน ้ มาไดหลังจากเกิดเรื่องราวใหญโต เพราะการที่ลุงเทียนใช ชีวิตอยางเจาสําราญจนบริษท ั แทบจะลมละลายในชวงที่ปูเดินทาง ไปหาลูทางคาขายในอเมริกา จนปูตองแกไขสถานการณดวยการ เรียกระดมเงินจากกรุงเทพฯ ไปชวยคํ้าจุนก็ตาม แตลูกคาก็ยัง เชื่อถือลุงเทียนไมสนิ ทใจ ปูจึงจําเปนตองพึ่งพาอาหวางอีกแรงหนึ่ ง โดยที่ลุงเทียนแอบซอนความไมพอใจในเรื่องที่ตนถูกบั่นทอน อํานาจ และลดบทบาทความสําคัญไวภายใตสีหนาที่ยิ้มแยม และ ทาทีท่น ี อบนอมตออาหวาง ปูกลับมาเมืองไทยตอนนั้นดวยความไมม่น ั ใจสถานะของ ตัวเอง เพราะไมรูแน วาตลอดระยะเวลาที่ผานมาจะมีความ เปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึน ้ ใน “นัฐกิจการทอ” และ “นัฐกิจหลักทรัพย” บาง... สิ่งที่ปูหวาดกลัวอยูลึก ๆ ก็คือ ลุงแอนดี้จะยึดครองกิจการ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ทั้งหมดของนัฐกิจฯ ไวในมือของตนเพียงลําพัง และไมเห็นปูอยูใน สายตาอีกตอไป... ซึ่งเรื่องนี้ พอและลุงนัฐมีความเห็นตรงกันวา ปูไม ไดกลัวอะไรจนเกินเลยไป ทั้งนี้ เพราะถึงแมปูจะเปนพอบังเกิดเกลา ของลุงแอนดี้ แตก็ไมไดอุมชูเลี้ยงดูลูกเหมือนพอคนอื่น ๆ และ ทอดทิ้งมาตั้งแตลูกยังจําความไมได มาเจอกันอีกทีก็เมื่อเวลา ลวงเลยไปสิบกวาป และอยูรวมกันชั่วประเดีย ๋ วประดาวก็ตอง พลัดพรากจากกันไปอีก ปลอยใหลุงแอนดี้อยูกับยาเหมยหลิงและ ปาเปกกี้ ซึ่งลวนแตเปนคนทะเยอทะยานและมีอิทธิพลอยางสูงตอ ชีวิตของผูชายอยางลุงแอนดี้
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ปูใชเวลาพักใหญในการถายเทอํานาจจากลุงแอนดี้กลับมาสู ตัวเอง เริ่มดวยการตั้งสํานักงานกลางควบคุมกิจการตาง ๆ ของ บริษท ั ในเครือ “รวบรวมบริษท ั นอยใหญเขาเปนอันหนึ่ งอันเดียวกัน ในอาณาจักรของ “นัฐกิจโกศล” ยุบบริษท ั เล็กบริษท ั นอยที่ลุงแอนดี้ ตั้งขึน ้ เพื่อขยายอิทธิพลของตน... กวาเรื่องราวทางเมืองไทยจะเขาที่ ก็พอดีกับที่เหตุการณทางฮองกงสุกงอม
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
ขณะทีป ่ ูมัวแตจัดการสะสางเรื่องราวของ “นัฐกิจ” อยู ทีเ่ มืองไทยนั้น... ที่ฮองกงความขัดแยงระหวางลุงเทียนกับอาหวาง ก็ทวีความรุนแรงขึน ้ อยางเงียบ ๆ ยาเนี ยมเลาวา ลุงเทียนยกเรื่อง ชอบกินเหลาของอาหวางขึน ้ มาเปนประเด็นในการแอบใสไฟโจมตี อาหวางกับลูกคา ทําใหคนที่ไมรูจักอาหวางดีพอ เสื่อมคลายความ เชื่อถือในตัวอาหวาง และในระยะหลัง ๆ ลุงเทียนถึงกับกลาเรียก ขานเพื่อนของปูอยางเยยหยันวา “ปศาจสุรา” บาง “ตาเฒาขี้เมา” บาง ซึ่งทําใหอาหวางไดรับความอับอาย แตแกก็เปนผูใหญพอที่จะ ไมกลาวโทษฟองรองมาทางปู เพราะถือวาเมื่อปูไดใหความไววางใจ ตอแกอยางมากแลว ก็ไมควรที่จะหาเรื่องรอนหูรอนใจมาใหปูอีก ซึ่ง ความคิดของอาหวางดังกลาวนับวาเปนสิ่งที่ผิดพลาด เพราะทําใหปู ไมไดรับรูเหตุการณท่เี กิดขึน ้ ตามความเปนจริง และหาทางแกไข เหตุการณเสียแตเนิ่ น ๆ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ยาเนี ยมเลาวา ระยะนั้นอาหวางมาเที่ยวเมืองไทยสองสาม ครั้ง แตทุกครั้งก็คุยกันแตเรื่องสนุกสนานและกลาวถอยคําชมเชย ลุงเทียนอยูเสมอ จนปูวางใจวา “เนชันแนล ทรัสต” ที่ฮองกงคงจะ เรียบรอย แมปูจะสังเกตเห็นวาในชวงหลัง ๆ อาหวางดื่มเหลาหนัก ขึน ้ กวาเดิม ยาเนี ยมเลาวา อาหวางชอบบางแสนเปนอยางมาก เมื่อไหรท่ี มาเมืองไทยแกจะตองไปเชาบังกะโลอยูเปนอาทิตย และใชเวลา หมดไปกับการนั่ง ๆ นอน ๆ อยูบนเกาอี้ผาใบริมหาด แลวก็ด่ ม ื เหลา แกลมดวยปลาหมึกยาง... พอเลาวา บางครั้งอาหวางก็จะชักชวน เด็ก ๆ อยางอานนท หรือพี่ระวีไปคางดวยกัน พอตกดึก ทั้งผูใหญ ทั้งเด็กก็จะออกเดินทอม ๆ แถวชายหาด จับปูลม หรือเก็บลิ้นทะเล ซึ่งอาหวางจะเอาไปบดทํายารักษาโรคพุพอง หรือเปนอาหารเสริม ใหนกหงสหยกที่แกเลี้ยงไวหลายคูท่ฮ ี องกง... และสิ่งที่อานนท ประทับใจในตัวอาหวางมากที่สุดก็คือ ความสามารถในการคํานวณ ของแก ซึ่งนอกจากคิดเลขหลาย ๆ หลักในใจอยางรวดเร็วโดยไมมี ผิดพลาดแลว บางครั้งแกก็ยังสามารถคํานวณระยะทางของเรือที่ จอดอยูในทะเลวาหางจากฝงเทาใด หรือความยาวของถนน ความ สูงของอาคารไดอยางใกลเคียง ไมวาแกจะดื่มเหลาเขาไปมากมาย เพียงไรก็ตาม
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
อาหวางเปนคนรักเด็ก เมื่อมาเที่ยวเมืองไทยก็จะขนขนมนม เนยและของเลนมาฝากลูก ๆ หลาน ๆ ของปูทุกคน และบานแกที่ ฮองกงก็เปนสถานที่ท่พ ี ่ช ี าญชัยมักจะไปขลุกอยูเสมอในชวงที่ โรงเรียนหยุด... ฉันเคยไดยินวา ในตอนนั้นปาเปกกี้คิดที่จะใหเงิน อาหวางไปลงทุนทํากิจการอะไรบางอยางที่ฮองกง โดยมีขอแมวา ตองลาออกจาก “เนชันแนล ทรัสต” แตอาหวางปฏิเสธขอเสนอดัง กลาวอยางไมไยดี พี่ชาญชัยเคยเลาไวครั้งหนึ่ งวา ที่บานของอาหวางที่ฮองกงมี แทนบูชารูปกวนอูขนาดใหญอยูรูปหนึ่ ง ซึ่งอาหวางเคยชี้ใหพ่ช ี าญ ชัยดูแลวบอกวา ที่แกเคารพนับถือกวนอูน้ัน ไมใชในฐานะที่เปน เทพเจาหรือนักรบที่เกงกลาสามารถ หากแตในฐานะที่เปนคนมี นํ้าใจเด็ดเดี่ยวมั่นคงตอมิตร แกวาลูกผูชายนั้นมีเพียงชีวิตเดียว แต
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
หากถึงคราวจําเปนก็ยอมสละชีวิตเพื่อมิตรดีกวาจะหลบหนี เอาตัว รอดใหผูคนสาปแชงไปถึงชั้นลูกชั้นหลาน ถึงแมพ่ช ี าญชัยจะมีโอกาสไดอยูใกลชิดกับอาหวางอยูระยะ หนึ่ ง แตก็เปนที่นาเสียใจที่พ่ช ี าญชัยดูเหมือนจะไมเคยใสใจ หรือคิด ที่จะยึดถือแนวความคิดของอาหวางในเรื่องเพื่อนนํ้ามิตรเลยแมแต นอย
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พอเลาวา ครัง ้ สุดทายทีอ ่ าหวางมาเมืองไทยนัน ้ พอเปน คนไปรับที่สนามบินดอนเมือง โดยเอารถจีป ๊ ที่โรงงานทอผาไป เพราะอาหวางเปนคนรูปรางใหญโตนั่งรถเกงคันเล็ก ๆ ไมสะดวก... พอวาอาหวางพูดคุย เรื่องตาง ๆ กับพอหลายตอหลายเรื่อง แตจํา รายละเอียดไมได เพราะใจหนึ่ งพอหวงเรื่องจะไปดูฟุตบอลนัด สําคัญที่สนามกีฬาในตอนเย็นวันนั้น สวนอีกใจหนึ่ งก็คิดวาอาหวาง แกคงจะพูดพลามไปตามประสาคนเมา เพราะไดกลิ่นเหลาฉุยไปทั้ง ตัว
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
อาหวางใหพอพาตรงดิ่งไปพบปูท่ส ี ํานักงานกลาง แตเผอิญวัน นั้นปูมีนัดทานขาวกลางวันกับตัวแทนบริษท ั ฝรั่ง จึงออกจากที่ ทํางานไปกอนเที่ยง อาหวางก็อุตสาหตามไปที่โรงแรมนารายณ และเรียกปูใหลุกออกมาจากโตะอาหาร ทั้งสองคนพูดจาโตเถียง อะไรกันอยูหลายคํา ในที่สุดอาหวางก็ผลุนผลันออกมาจากหอง อาหารสั่งใหพอเอารถบึ่งกลับไปสนามบิน และจับเครื่องบินกลับ ฮองกงในบายวันนั้นทันที
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หลังจากนั้นอีกเพียงสี่หาวันตอมา ปูก็ไดรับโทรเลขดวนจาก ฮองกง แจงเรื่องอาหวางถูกตํารวจจับในขอหาฉอโกงเงินลูกคา “เน ชันแนล ทรัสต” หลายแสนเหรียญฮองกง... ในขณะที่ปูยังตกตะลึง และจับตนชนปลายไมถูก ก็มีโทรเลขอีกฉบับจากลุงเทียนแจงขาว วา อาหวางผูกคอตายในหองขัง ปูเดินทางไปฮองกงในวันเดียวกับที่ไดรับโทรเลขฉบับหลัง ไม
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
มีใครทางเมืองไทยทราบวาเรื่องราวที่เกิดขึน ้ ที่ฮองกงเปนเชนไร เพราะปูไมเคยปริปากพูดอะไรทั้งสิ้นมาจนตราบเทาทุกวันนี้ ... ยา เนี ยมเลาวา ปูจัดการงานศพของอาหวางอยางใหญโต หมดเงิน จํานวนมากไปกับคาที่ดิน และคากอสรางฮวงจุยของอาหวางบนฝง เกาลูน รวมทั้งทิ้งเงินกอนหนึ่ งไวใหครอบครัวของเพื่อนรักที่พอจะ อยูพอกินไปไดตลอดชีวิตโดยไมเดือดรอน ปูใชเวลาอยูท่ฮ ี องกงประมาณเกือบเดือน เมื่อเสร็จเรื่องอาห วางแลว ปูก็ลมเลิกกิจการ “เนชันแนล ทรัสต” ที่ดําเนิ นธุรกิจมา รวมสิบปและพาลุงเทียนกลับมากรุงเทพฯ มอบหมายหนาที่ใหดูแล โรงงานทอผาที่พระประแดงรวมกับลุงแอนดี้
าให ้อ่า
อานนทเคยพูดถึงสิง ่ ทีแ ่ กเรียกวา “ปรัชญาทางการคา” ไววา “แทท่จ ี ริงแลวคนขายไมไดขายอะไรนอกจากอิมเมจ และคน ซื้อก็ไมไดซ้ อ ื อะไรนอกจากอิมเมจ” และมักจะพูดอยูบอย ๆ วา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“ในโลกนี้ ไมมีใครที่ขาดทุนหรือไดกําไรอยางเต็มเม็ดเต็มหน วย เพราะขณะที่ย่ น ื มือหนึ่ งออกไปรับ มืออีกขางหนึ่ งก็ตองควักกระเปา จายออกไปไมวาจะในรูปหนึ่ งรูปใด” แตท้ง ั นี้ อานนทสรุปวา “คนที่จะไดกํารี้กําไรสูงสุดในบั้นปลาย ก็คือคนที่สามารถสราง อิมเมจใหกับตัวเองไดอยางสูง ไมวาเขาจะขาดทุนในทางอื่นอยางไร ก็ตาม” ฉันไมรูวาปูจะเขาใจปรัชญาการคาและไอตัว “อิมเมจ” ที่ อานนทพูดถึงมากนอยเพียงไร แตปูก็ยึดถือวา ชื่อเสียงและความไว วางใจเปนสิ่งที่มีความสําคัญที่สุดในเรื่องการคาขาย และเมื่อถึงตอนนี้ ฉน ั ก็คิดวาที่ปูยอมสละ “เนชันแนล ทรัสต” ที่
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ฮองกง ซึ่งเคยทําผลกําไรใหอยางมากลงงาย ๆ นอกจากเพื่อตัด ปญหาตาง ๆ แลว ก็คงเพื่อตองการรักษาสิ่งที่อานนทเรียกวา “อิมเมจ” นั่นเอง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
18.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
มีคํากลาวทีต ่ ิดปากยาเหมยหลิงอยูคําหนึ่งคือ “พูดถึง โจโฉ โจโฉก็มา” ...สําหรับฉันแลวรูเพียงแตวา โจโฉเปนชื่อของตัว กังฉิ นในเรื่องสามกก เปนศัตรูราชบัลลังกของพระเจาเหี้ยนเต และ เปนคูปรับกับเลาป แตไมเขาใจวาทําไมยาเหมยหลิงถึงตองไปพูด ถึงโจโฉ แลวโจโฉจะมาหายาเหมยหลิงทําไม
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
เมื่อพีช ่ าญชัยกลับมาจากนอกใหม ๆ นัน ้ บานเราคึกคัก อยูพักใหญ เพราะมีพวกเพื่อน ๆ พี่ชาญชัย และพี่นอ งคนอื่น ๆ เทียวไปเทียวมาแทบทุกวัน บางทีก็กินเลี้ยงกัน บางทีก็เตนรํากัน จนดึกดื่นคอนคืน หรือไมเชนนั้นก็นัดกันขับรถเปนขบวนออกไป เที่ยวแถวบางแสน ศรีราชา ตอดึก ๆ หรือรุงสางจึงจะกลับกัน... แม วาพวกผูใหญจะมีทาเอือมระอากับความประพฤติของลูกหลานวัย หนุมสาวที่มีพ่ช ี าญชัยเปนหัวโจก แตปาเปกกี้ดูกลับจะมีความสุข และพลอยสนุกสนานไปกับการใชชีวิตเจาสําราญของลูกชายและ นอง ๆ หลาน ๆ วากันวาตอนนั้นแกควักกระเปาจายอยางไมอ้น ั คืน หนึ่ ง ๆ ไมตํ่ากวาสี่ซาหาพันบาท บางครั้งก็จะลงมารวมดื่มกิน หรือ เตนรํากับเด็ก ๆ รุนลูกรุนหลานอยางครื้นเครง... “ฉันไมเขาใจวาพี่เปกกี้แกจะลดตัวลงไปมั่วสุมกับเด็กพวกนั้น
ขา ย
ทําไม”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
พอซึ่งคงจะหงุดหงิดกับเสียงเอะอะมะเทิ่ง และเสียงเพลงที่ แผดลั่น จากเครื่องเลนแผนเสียงติดตอกันมาหลายคืนแลว ปงปง อยางหัวเสีย “ก็ญาติโกโหติกาของคุณแทบทั้งนั้น” แมพูดขึน ้ ลอย ๆ และลุกจากโซฟาไปเรงเสียงโทรทัศน “แกวหูแตกหรือไง...” พอขยี้บุหรี่ในมือที่ยังเหลืออยูกวาครึ่ง มวนและเอื้อมมือไปหยิบซองบุหรี่บนโตะ “...ไอขางลางยังดังไมพอ อีกหรือ” “เอะ คุณนี่ จะเอายังไงแน ...” แมยอนถามเสียงสูง รอยยิ้มเยยหยันบาง ๆ โรยอยูบนสีหนา ที่ราบเรียบ “...เห็นวาหนวกหูเสียงขางลาง ฉันก็จะเอาเสียงทีวีกลบให” “คุณไมตองมาประชดประชันผม” พอผลุนผลันลุกขึน ้ รวบกระเปาสตางคและกุญแจรถที่วางอยู บนโตะเล็กใสกระเปากางเกง
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“คุณจะไปไหน” “โรงงาน...” พอเดินปง ๆ ไปสอดเทาลงในรองเทาคัตชูท่ว ี างอยู กับพื้นหนาชั้นวางรองเทา “...ขืนอยูบานนี้ ฉน ั คงบาตาย” รอจนเสียงรถพอแลนออกไปจากตึกแลว แมจึงหันมาทางฉัน กับพี่นภิศที่น่ังมองหนากันเลิกลั่ก “นภิศ-นภา แตงตัว คืนนี้ ไปคางบานคุณตากัน”
งส อื
แมวาใครตอใครจะพากันแสดงความไมพอใจตอ พฤติกรรมของปาเปกกี้กับพี่ชาญชัย แตปูก็ยังคงสงบนิ่ งราวกับไม รูสึกเดือดเนื้ อรอนใจอะไร ปูจะตื่นลงมานั่งอยูท่เี กาอี้หัวโตะอาหาร
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แตเชาตรูดวยสีหนาสดใส อานหนังสือพิมพภาษาจีน จิบนํ้าชาไป พลาง หรือไมก็เงี่ยฟงเพลงหรือขาวภาษาจีนจากวิทยุเสียงตามสาย และเอยทักลูกหลานที่ทยอยกันมานั่งโตะ รับประทานอาหารเชา ดวยนํ้าเสียงที่เปยมไปดวยความเมตตาและเอื้อเอ็นดู “เมื่อคืนพอหลับสบายดีหรือคะ” อานุชถามโพลงขึน ้ ในเชาวันหนึ่ ง
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“ก็ตามประสาคนแก...” ปูวางตะเกียบลงบนปากถวยขาวตม “...จะใหกินอิ่มนอนอุนเหมือนคนหนุมคนสาวก็คงไมได” “แตหนูนอนไมหลับ” อานุชกระแทกเสียงและปรายตาดูปาเปกกี้ท่น ี ่ังอยูตรงขาม “ทั้งเสียงเพลงทั้งเสียงอึกทึกครึกโครม... ทํายังกับมีงิ้วสักหา หกโรงประชันกัน ไมรูจักเกรงอกเกรงใจชาวบานชาวชองบาง” “ถาไมหลับไมนอนก็นาจะลงมาสนุกกับคนอื่นเขา...” ปาเปกกี้พูดดวยสีหนายิ้มแยม ขณะใชมีดปาดเนยกับชิ้นขนม ปงในมือ “ใครตอใครก็ลงมากันทั้งนั้น ทั้งระวีเอย ดวงดาวเอย นันทนา เอย...” ปาเปกกี้หันไปทางอาดอน “หรือวายังไงอาจารย ยังหนุม เหนาสาวแสอยูแท ๆ ทําตัวครํ่ าครึเปนตาแกยายแกไปได”
ี โป
อื น ํ าม
อาดอนยิ้มเจื่อน ๆ และมองหนาอานุชเปนเชิงปรามไมใหตอ ปากตอคํากับปาเปกกี้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ถึงแมวาปกติอานุชออกจะเกรงใจสามี แตสําหรับคราวนี้ อานุ ชกลับไมยอมสบตาอาดอน และโตตอบพี่สะใภดวยเสียงที่ดังลั่นหอง “คนเรามันตองรูจักสังขารของตัวเอง อะไรกันอยูมาจนผมสอง สีแลวยังไมเจียมบอดี้ โดดลงไปดีดดิ้นระรี้ระริกกับเด็กคราวลูก คราวหลาน ทั้ง ๆ ที่ผัวตัวเองก็ยังนอนอยูขางบนบาน... บัดสีบัดเถลิง เกิดมาไมเคยพบเคยเห็น บอกตรง ๆ วาหนูสะอิดสะ เอียนจนพูดไมถูก” ปาเปกกี้รวบมีดกับสอมเขาหากัน และผุดลุกขึน ้ เดินคอแข็ง
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ออกไปจากโตะ ลุงแอนดี้กับพี่ชาญชัยขยับจะลุกตาม แตเมื่อเห็น สายตาของปูท่จ ี องมองมา ทั้งคูก็ไดแตน่ังกมหนาฝนใจรับประทาน อาหารเชาตอไปเงียบ ๆ ปูกระแอมเบา ๆ หันหนากลับมาทางลูกสาวคนโปรด และ เริ่มตนดวยนํ้าเสียงเรียบ ๆ “พี่นอ งในครอบครัวเดียวกันก็เหมือนกับอวัยวะสวนตาง ๆ ใน รางกาย ถึงจะกระทบกระทั่งกันบาง มีเรื่องไมพออกพอใจกันบาง ก็ ถือวาเปนเรื่องธรรมดา แตจะโกรธเคืองกันถึงขั้นเอามีดเอาพรามา ตัดสวนหนึ่ งสวนใดทิ้ง ก็คงไมถูกตอง และออกจะเปนที่ใหคนอื่น หัวเราะในความโงเขลาของเราไปเปลา ๆ ...เปกกี้กับชาญชัยก็ทํา ไมถูกที่กอความรําคาญรบกวนคนอื่นแตนุชเองก็ทําไมถูกที่ลวงเกิน กาวราวพี่สะใภ”
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ปูใชผาเช็ดปากเช็ดตะเกียบชา ๆ “นับแตคืนนี้ เปนตนไป ใหสนุกสนานกันในบานนี้ ไดแคสอง ยามหลังจากนั้นใหนภาสั่งคนใชใหตัดคัต-เอาต ไฟหองโถงขาง ลาง... แลวเย็นนี้ ใหนุชขึน ้ ไปขอโทษเปกกี้ทันทีท่ก ี ลับมาจากที่ ทํางาน” ประกาศิตของปูทําใหทุกคนนั่งนิ่ ง ...แตบางทีปูคงจะตองเปนฝายนิ่ งงัน ถารูลวงหนาวาคําสั่งดัง กลาว กลับเปนสิ่งที่สงผลรายแรงแกอนาคตของลูกสาวคนหนึ่ งของ ตัวเองอยางไมคาดคิด
งส อื
นํา ม
าให
บรรยากาศในบานมึนตึงขึ้นหลังจากเหตุการณเชาวัน นัน ้ ปาเปกกี้เก็บตัวไมยอมลงมารวมโตะอาหาร หรือพบปะกับใคร ในบาน แมอานุชจะบากหนาขึน ้ ไปหาถึงสองครั้งสองครา แตปาเปก กี้ก็ไมยอมใหพบ จนกระทั่งอานุชระอาประกาศกองคําขอโทษ ไวหนาประตูหอง
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ลุงเทียนถือหางเขาขางอานุชในเรื่องนี้ อยางเต็มที่ และหามไม ใหพ่ีระวีกับพี่ดวงดาวไปรวมสังสรรคกับพวกพี่ชาญชัยอีกเปนอัน ขาด..บรรยากาศแหงความสนุกสนานรื่นเริงเมื่อแรกเริ่มคอย ๆ กรอยลง เพื่อนฝูงของพี่ชาญชัยแวะมากินเหลากินเบียรกันหลังเลิก งานเพียงชั่วพักเดียว แลวก็แยกยายกันกลับ จนในที่สุดพี่ชาญชัย ตองเปนฝายขับรถออกไปเที่ยวหรือรวมวงกับพรรคพวกนอกบาน โดยมีอานันทนาติดรถไปดวยแทบทุกคืน ถึงแมวาปูจะไมคอยพอใจการทําตัวของลูกสาวคนรองนัก แต อยางมากที่สุดปูก็เพียงแตเขมนมองดวยสายตาที่ขุนเคือง สวนยา เนี ยมนั้นเปนที่รูกันวา ไมเคยที่จะออกปากดุดาวากลาวลูกหลานมา แตไหนแตไรแลว ในความรูสึกนึ กคิดของยาเนี ยมนั้น ลูกหลานทุก คนเปนคนดีท่ไี มเคยทําอะไรผิดราย... จะมีก็แตยาเหมยหลิงที่เฝา มองหลานชายและลูกเลี้ยงดวยแววตาครุนคิดอยูลึก ๆ นาน ๆ แกจะพึมพําประโยคที่ติดปากวา “พูดถึงโจโฉ...” แลวก็เงียบไปโดยไมตอใหจบประโยค
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
เมื่อเวลาลวงเลยมาจนถึงทุกวันนี้ หลายคนทีย ่ อนกลับ ไป มองดูเหตุการณรายแรงที่เกิดขึน ้ ในบานเรา มักจะพูดเปนเสียง เดียวกันวา หากตอนนั้นอานนทอยูดวย เรื่องราวตาง ๆ ก็คงจะไม เกิดขึน ้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ในกระบวนลูกของปูท่เี กิดกับยาเนี ยม อานนทถูกจัดความ สําคัญไวในลําดับคอนขางสูง ไมวาจะในที่บานหรือที่ทํางาน บางคน คอนนิ นทาวาปูเหอลูกชายที่เปนดอกเตอร แตบางคนก็ยอมรับ นับถือความสามารถของอานนท แมวาแกจะแกทฤษฎีฝรั่งมากไป หน อยและติดจะเจาสําราญอยูนิด ๆ แตก็เปนคนที่พูดจาหรือทํา อะไรเปนหลักเปนเกณฑ ชนิ ดที่ปูเองก็ไมกลาโตเถียงกับลูกชายคน นี้ ในเรื่องงาน
ขา ย
ปูมักจะพูดวา...
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
“ไอเรามันพวกจับฉาย-จับอะไรไดก็โละ ๆ ลงหมอ สวนขานั้นอี มันเนื้ อซาเตก-มีสูตร มีเครื่องปรุง มีวิธีการปง การยางที่แน นอน ตายตัว... ถาคิดอานเปดรานอาหารขายฝรั่งมังคา มันก็ตองใชกุก อยางนนทมัน” นอกจากพี่ระวีท่อ ี านนทสามารถชี้นกเปนไมไดแลว ก็มีอานันท นาอีกคนหนึ่ งซึ่งถึงแมจะออนกวาอานนทแปดเกาป แตก็เปนลูกแม เดียวกันที่อานันทนาใกลชิดมากที่สุดในชวงหนึ่ ง และเชื่อฟงคําพูด มากที่สุด เมื่ออานนทไปเรียนตออเมริกา อานันทนาจึงออกจะควาง เพราะขาดคนที่พอจะปรึกษาหารือหรือเหนี่ ยวรั้งได เพราะแมวาอา นันทนาจะเปนคนเรียบ ๆ เงียบ ๆ หงิม ๆ แตก็คอนขางดื้อรั้นอยูใน ที ไมยอมลงใหใครงาย ๆ โดยเฉพาะถายิ่งหามไมใหทําอะไรก็ เหมือนกับยิ่งยุใหมุทําหนักขึน ้ ไปอีก
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ทุกครั้งที่ไดยินคนพูดถึงเรื่องอานันทนาในทํานองที่วา ถา อานนทอยูดวยในตอนนั้น เหตุการณตาง ๆ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลง ไป... อานนทมักจะเพียงแตกอดอกแน น พรอมกับถอนหายใจลึก ๆ และยักไหลนอ ย ๆ โดยไมพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไร
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
ฉันจําไดวาวันทีเ่ กิดเรื่องใหญเปนวันอาทิตย เพราะฉัน กับพีน ่ ภิศไมไดไปโรงเรียน ดูเหมือนเราจะนั่งเลนตัวตอกันอยูท่ี นอกระเบียง... ตอนนั้นของเลนพวกตัวตอยังเปนของใหม คุณตาซื้อ มาฝากจากเยอรมนี หรือฝรั่งเศสก็ไมแน ใจ รูแตวาฉันชอบตอเปนรถ ดับเพลิงคันใหญ ๆ พอใสแบตเตอรี่ รถก็จะแลนไดแถมยังเปดหวอ และไฟกะพริบวับ ๆ “บอกแมมาเดีย ๋ วนี้ นะยายนันท วาเรื่องนี้ มันเกิดขึน ้ ไดยังไง...” เสียงยาเนี ยมที่ดังขึน ้ ดวยอารมณโกรธจัด ทําใหฉน ั กับพี่นภิศรี บวางมือจากการเลน... นี่ เปนครั้งแรกที่ฉน ั ไดยินเสียงทํานองนี้ จาก ยา
นํา ไป
ขา ย
“เรื่องมันลวงเลยจนแดงโรขนาดนี้ แลว แกจะมานั่งอมพะนําอยู ทําไม” ฉันไดยินเสียงทุบตีระคนดวยเสียงรองไหดวยความเจ็บปวด
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“จะบอกออกมาเองหรือจะใหแมตีแกจนตาย” ยาเนี ยมเอ็ดตะโรทั้งเสียงหอบฮัก ๆ “ไมเอาน าแมเนี ยม...” เสียงยาเหมยหลิงรองหาม “...ลูกเตา แท ๆ จะฆาจะแกงกันทําไม” “เจอยาหามฉัน... ดูซิมันทํางามหนาแคไหน อยูดี ๆ ก็ทองขึน ้ มาโดยไมมีพอ” “ไอหยา...”
นฟ รี โ ปร ดอ
ยาเหมยหลิงอุทานเสียงหลง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“...อัว๊ นึ ก ๆ อยูแลวเชียว... พูดถึงโจโฉ โจโฉอีก็มาจริง ๆ” ฉันไมรูวาเรื่องราวในวันนั้นเปนอยางไรตอไป เพราะแมรีบ ออกมาฉุดมือฉันกับพี่นภิศกลับเขาไปในหอง แมปดประตูหนาตาง และเปดเพลงโอเปราที่แมชอบเสียงดังลั่น ราวกับจะกลบเสียงตาง ๆ ภายนอก และกลบความทรงจําของฉันกับพี่นภิศจากเสียงของยา เนี ยมกับยาเหมยหลิงเมื่อครู
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
19.
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เรื่องอานันทนาเปนทีอ ่ ้อ ื ฉาวและรํ่าลือกันรวดเร็ว เหมือนอยางที่เรียกกันวา “ไฟไหมสําเพ็ง” ...พวกผูใหญมีสีหนา และทาทางครํ่ าเครียด ไมมีใครพูดเลนหรือยิ้มหัวกันเหมือนเคย สวนพวกคนใชก็พากันจับกลุมซุบซิบ วิพากษวิจารณไปตาง ๆ นานา ยาเนี ยมเอาแตรองไหจนนํ้าตาแทบจะเปนสายเลือด มิไยที่ลุง นัฐ ปาอร พอ แม และอานุช อาดอน จะเฝาปลอบโยนอยางไรก็ตาม ยาเหมยหลิงตีโพยตีพายไมยอมหยุด แกพรํ่ าแตพูดวา “มี ลูกสาวก็เหมือนมีสวมอยูหนาบาน ตอนนี้ ก็เหม็นไปทั่วแลว ไมรูจะ เอาหนาไปไวท่ไี หน” สวนลุงเทียน ปาทรงศรี ลุงแอนดี้ และปาเปกกี้น่ิ งเฉยโดยไม พูด หรือออกความคิดเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น ...มีแตปูคนเดียวซึ่งสามารถคุมสติไดอยางสงบเยือกเย็นตอ เรื่องราว รายแรงและสะเทือนใจที่เกิดขึน ้ ปูพูดแตวา...
งส อื
นํา ม
าให
“พอแมเลี้ยงลูกไดแตตัว เหมือนชางตอเรือที่ถึงจะตอเรือทุกลํา ใหวิเศษขนาดไหน แตเจาของเรือหรือไตกงจะเอาเรือไปลองทําอะไร หรือแลนไปไดไกลกี่มากนอยก็สุดแทแตใจเขา เพราะเกินกวา สติปญญาเราจะคาดเดาไดลวงหนา” ฉันมารูในภายหลังวา ตอนแรกปูคิดที่จะแกไขเรื่องอานันทนา
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ดวยการจัดการใหแตงงานกับพอเด็กใหเปนเรื่องเปนราว แตจน ปญญาอยูตรงที่ไมวาจะพูดจาหวานลอมอยางไร อานันทนาก็ไม ยอมปริปากวาใครเปนพอของเด็กในทอง เมื่อความคิดเรื่องการแตงงานลางอายลมเหลว ยาเหมยหลิงก็ เสนอใหสงตัวอานันทนาไปอยูฮองกงสักพักจนกวาจะคลอด และ เรื่องซาแลวจึงคอยกลับเมืองไทย แตอานันทนาก็ยืนกรานอยางหัว เด็ดตีนขาดวาจะอยูท่บ ี านโดยไมยอมไปไหนทั้งสิ้น... ความดื้อรั้น ของอานันทนาทําใหยาเนี ยมโกรธแทบคลั่ง ยาทุบตีอานันทนาโดย ไมย้ง ั มือ ทั้งที่แตไหนแตไรไมเคยที่จะลงไมลงมือกับลูกหลานแมแต แปะเดียว ตลอดเวลาเหลานั้น คนที่มีทาทีวิตกเรื่องอานันทนาจนนั่งไม ติดเห็นจะเปนพี่ชาญชัย...
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
นับแตเกิดเรื่องอานันทนาขึน ้ พี่ชาญชัยก็เปลี่ยนไปจากเดิม ราวคนละคน จากหนุมเจาสําราญที่ไมรูจักทุกขรอนกับชีวิต กลาย เปนคนเครงขรึมและหมกมุนครุนคิด เมื่อเลิกงานในตอนเย็นก็จะ เก็บตัวเงียบอยูในหองเพียงลําพัง ไมสังสรรคหรือออกไปเที่ยวเตร กับเพื่อนฝูงอยางเคย... แมวาตั้งแตวันอาทิตยน้ันเปนตนมา พี่ชาญ ชัยจะไมเคยเยี่ยมกรายเขาไปใกลอานันทนาอีก แตก็ดูเหมือนวาจะ คอยเงี่ยหูฟงขาวคราวและความเคลื่อนไหวตาง ๆ อยางใจจดใจจอ
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
ถึงพี่ชาญชัยจะใกลชิดกับอานันทนาอยางมากในชวงกอนเกิด เรื่อง และน าจะเปนคนที่รูเบาะแสหรือความตื้นลึกหนาบางของ เรื่องนี้ ดีกวาใคร แตพ่ช ี าญชัยกลับปดปากสนิ ทและยืนกระตายขา เดียวแตวาไมรูไมเห็น “ชาญชัยมันเปนยังไงของมันวะ ถึงไดเห็นขี้ดีกวาไส...” ลุงนัฐซึ่งปกติไมชอบยุงเรื่องของคนอื่น ระเบิดขึน ้ อยางเหลือ อดในวันหนึ่ ง
งส อื
นํา ม
“...ก็ตะลอน ๆ ไปดวยกันทุกคืน ยังไง ๆ มันก็นาจะตองระแคะ ระคาย อะไรบาง หน็อยนี่ กลับใจดํายิ่งกวาอีกา ปลอยใหยายนันท อุมทองไมมีพอจนถูกแมจาเฆี่ยนเสียน วมไปทั้งตัว”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พอมองดูควันบุหรี่สีเทาออนที่โรยตัวออยอิ่งจากกนบุหรี่ท่ค ี ีบ ไวในมือ ดวงตาที่พองโตฉายแววดุดันจนน ากลัว “จริง ๆ นะพี่นัฐ ใหรูหน อยเถอะวาไอผูชายหนาตัวเมียนั้นมัน เปนใคร ตอใหย่ง ิ ใหญมาจากไหน ผมนี่ แหละจะลากคอมันมาเอา เลือดหัวลางตีนพอกับแมใหสมแคน” คําพูดของพอทําใหทุกคนที่อยูดวยในตอนนั้น หรือไดฟงคํา บอกเลาในเวลาตอมา พากันสะดุงไปตาม ๆ กัน เพราะรูถึงนิ สัย มุทะลุของพอเปนอยางดี แตคนที่หวาดระแวงคําพูดของพอมากกวาใคร ก็คือพี่ชาญ ชัย... หลังจากวันที่พอประกาศจะจัดการกับผูชายที่ทําลายอานันท นา และทํารายนํ้าใจปูกับยาเปนตนมา พี่ชาญชัยก็เอาแตหลบหนา พอ เก็บเนื้ อเก็บตัวยิ่งกวาเดิม และล็อกประตูแน นหนาไมยอมให ใครแมแตปาเปกกี้ลวงลํ้าเขาไปในหองพักของตนโดยเด็ดขาด
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูเปนคนรูปรางเล็ก และผายผอมจนเมื่อเวลาทีถ ่ อดเสื้อ จะมองเห็นซี่โครงเรียงรายกันเหมือนรั้วไมระแนงผุ ๆ เนื้ อหนังที่ เรียกไดวาติดกระดูกนั้นเหี่ยวยนรวบลู ใบหนาเต็มไปดวยรอยกระ สวนที่สะดุดตาที่สุดคือหนาผากที่กวางและโหนกนูนเหมือน หนาผากเสือโครง คิ้วที่ดกดําตัดกับเสนผมสีดอกเลาซึ่งตัดเกรียน ติดหนังหัว และดวงตาที่แจมใสเหมือนแสงไฟจากประภาคาร ซึ่งแม จะเปนคืนขางแรมที่มืดมิด หรือวันที่ทะเลคลั่งดวยลมมรสุม ก็ยังคง ยืนหยัดสาดแสงเกื้อกูลชาวเรือใหรอดพนจากหมูหินโสโครกหรือ แนวปะการัง
งส อื
นํา ม
าให
ปูเปนคนพูดนอย... และถายิ่งมีเรื่องใหตองครุนคิดมากขึน ้ เทา ไหร ปูก็จะยิ่งพูดนอยลงอีกเทานั้น วิธีการที่จะรูวาปูคิดอะไรอยู ก็ดู ไดจากลักษณะและทาทางของปู... ถาปูน่ังหันหลังใหหนาตาง ทอด สายตาไปที่ประตู วางขอศอกทั้งสองขางลงบนโตะ โดยมือขางหนึ่ ง คลึงเหรียญบาทสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ปูไดมาตั้งแตสมัยเปนจับกังอยูชา
ขา ย
ๆ นั่นแปลวาปูกําลังคิดเรื่องงาน
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
...แตเมื่อใดที่ปูหันหนามองออกไปนอกหนาตาง เทาคางกับขอ ศอก ขางหนึ่ งที่วางอยูบนกรอบหนาตาง ตอนาน ๆ จึงจะถอน หายใจหนัก ๆ สักครั้งหนึ่ ง นั่นคือเวลาที่ปูตองการอยูเพียงลําพัง เพื่อคิดอะไรที่เปนเรื่องสวนตัว ตั้งแตเล็กจนโต ฉันจําไดวาเคยเห็นปูน่ังมองออกไปนอก หนาตางเปน เวลาเนิ่ นนาน และถอนหายใจหนัก ๆ บอยครั้ง อยู เพียงสองคราวเทานั้น
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
และคราวแรก ก็คือชวงที่เกิดเรื่องอานันทนา...
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
เรื่องอานันทนาสงผลกระทบกับใครหลายตอหลายคน ในตึก โดยเฉพาะพวกเด็กหญิงและเด็กสาว... แมเขมงวดกับพี่นภิศ ถึงกับจะสงตัวไปอยูในโรงเรียนประจําที่มีแตเด็กผูหญิงลวน ๆ แต พอกับคุณตาคัดคานความคิดของแมอยางเต็มที่ “ผมไมเห็นดวยกับความคิดบา ๆ ของคุณ...” พอเอ็ดตะโรและ โยนใบระเบียบการของโรงเรียนประจําทิ้งไปทางหนึ่ ง “...ถายายภิศ มันไมมีพอ มีแม หรือเราไมมีเวลาจะเลี้ยงดูมันเองก็ไปอยาง นี่ คุณ เองก็อยูวาง ๆ ทั้งวัน กะอีแคเจียดเวลาจากการประดิดประดอยแตง เนื้ อแตงตัวของคุณมาดูแลลูก คุณก็ไมอยากจะกระดิกตัวทํา หนําซํ้า ยังจะขับไลไสสงมันไปอยูท่อ ี ่น ื เพื่อปดความรับผิดชอบของตัวเองอีก”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
“ฉันน ะเปนหวงลูกฉัน...” แมขน ึ้ เสียง “ไมอยากใหมันฉาว เหมือนคนอื่น” “คนอื่นที่คุณพูดถึงน ะ นองสาวผมนะ และบอกไวตรงนี้ วา ผม ไมชอบใหใครมาพูดจาซํ้าเติมพี่นอ งผม ไมวามันจะระยําตําบอน ขนาดไหน” “พวกวงศาคณาญาติของคุณลวนแลวแตคนวิเศษทั้งนั้น” แมแดกดัน และหอบพี่นภิศกับฉันวิ่งโรไปหาคุณตา...
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
คุณตาของฉัน... ดร.ขจรเกียรติ ไพศาลพันธกิจ เปนเพื่อนเกา คนหนึ่ งของปู แมวาพอจะเคยกระทบกระเทียบวา ปูกับคุณตาลงเรือ จากเมืองจีนมาเปนจับกังในเมืองไทยพรอม ๆ กัน และถึงแมวาตาง คนก็ประสบความสําเร็จในชีวิตพอ ๆ กัน แตการใชชีวิตของทั้งสอง คนแตกตางกันอยางสิ้นเชิง คือในขณะที่ปูมัธยัสถและเรียบงาย ไม ชอบสุงสิงกับใคร แตคุณตากลับใชเงินเปนเบี้ย ชอบความหรูหรา ฟุมเฟอย และมีหนามีตาในวงสังคม คุณตาเคยพูดถึงปูวา... “ไอเหลียงมันมีเงินเปนนาย จะทําอะไร นิ ดหน อยก็เกรงใจเงิน ผิดกับอัว๊ ชอบเปนนายของเงิน... เกาเจง-คน เราอยางเกงก็อยูดูโลกไมเกินรอยป ตอใหมีเงินกองทวมหัว เวลา ตายไปอยางดี ลูกหลานมันก็แคเผาแบงกกงเตกสงไปใหพอเปนพิธี ไอแบงกจริง ๆ ที่เราหาเอาไว สักใบเดียวมันก็ยังไมกลาเผาใหเรา เลย” แมจะตามใจแมขนาดไหน แตเรื่องที่แมจะสงพี่นภิศเขา โรงเรียนประจํา คุณตาก็ไมเห็นดวย
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“โลกเราเดีย ๋ วนี้ มันไมเหมือนกับสมัยกอน เรื่องอะไรเอ็งจะเอา ลูกไปเก็บไวในตูเซฟ เคาเป-พอเดินออกมาจากตู มันก็ถูกคนอื่น หลอกไปแดกเลย” “แลวเตี่ยวาถาใหมันอยูขางนอกอยางนี้ แลวจะไมเสียผูเสียคน อยางอามันหรือคะ” “คนเรามันเหมือนกันเมื่อไหร...” คุณตายกแกวบรั่นดีขน ึ้ จิบ “...อีหนู เอ็งจะไปคิดวาหยอนเบ็ดลงไปในนํ้าทีไร มันจะตองไดปลา ติดเบ็ดขึน ้ มาทุกครั้ง แหมมันก็ออกจะอิมพอสซิเบิลไปหน อย”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“แลวเตี่ยคิดวาทางบานนั้น เขาจะแกปญหาเรื่องลูกสาวเขา ยังไง” แมซักราวกับคุณตามีญาณวิเศษที่สามารถรูอะไรลวงหนาได “เตี่ยจะไปรูไดยังไงวะ...” คุณตาสงเสียงลงเลง “...แตคนอยาง ไอเหลียง ธุรกิจพันลานหมื่นลานมันยังดูแลได กะอีแคลูกสาวคน เดียวมันก็คงตองหาทางออกของมันไดแน อยาไปหวงอะไรมันเลย”
ขา ย นํา ไป
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
ไมทันทีป ่ ูกับยาเนียมจะหาทางออกในปญหาทีเ่ กิดขึ้น ไดสําเร็จ จู ๆ คืนหนึ่ งก็เอะอะโวยวายกันทั้งตึก เพราะอานันทนา หายไปจากหองพัก... คนใชท่เี ขาไปเก็บถวยชามใสอาหารเย็นของ อานันทนา เลาปากคอสั่นวาพอเปดประตูเขาไปก็ไมมีอานันทนาอยู ในหองแลว ตอนแรกคิดวาคงจะออกไปเดินเลนที่ระเบียงก็ว่ง ิ ตาม ไปดูจนทั่ว ถามหากับใครก็ไมมีใครรูเรื่องสักคน พอสั่งใหคนใชเปดไฟทั้งตึก เอาสปอตไลตสองทั่วบริเวณสนาม หญา และสนามเทนนิ ส ซึ่งตอนนั้นยังเปนลานโลง ๆ แตก็ไมมี วี่แวว... ลุงเทียน ลุงแอนดี้ ลุงนัฐ อาดอน และพี่ระวีเอารถออกตาม หากันจาละหวั่น มีแตพ่ช ี าญชัยซึ่งปดหองดับไฟมืดอยูคนเดียว ซึ่ง ปาเปกกี้ออกรับแทนวาลูกชายของแกไมสบายมาตั้งแตหัวคํ่ า ทาน ยาแกไขเขาไปก็เลยคงจะหลับไมรูเรื่อง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
คืนนั้นทั้งคืนไมมีใครเปนอันนอน เสียงอานุช พี่ดวงดาว และ ใครตอใครหมุนโทรศัพทถามตามบานเพื่อนฝูงของอานันทนาไม ขาดสาย พอ ๆ กับเสียงโทรศัพทจากคนที่ออกไปตระเวนหาขาง นอกโทรกลับมาถามความคืบหนา แตจนกระทั่งรุงเชาก็ไมมีใครได รองรอยของอานันทนาเลย ยาเนี ยมตั้งตนรองไหอีกครั้งหลังจากที่น้ ําตาเหือดมาพักใหญ ยาเหมยหลิงสงภาษาจีนลงเลงดาทอคนใชอยางอารมณเสีย ในขณะ ที่ยามาลัยนิ่ งเงียบและเฝามองเหตุการณอยูหาง ๆ ตั้งแตเชาตรู... ปูน่ังจมอยูบนเกาอี้ไมมะเกลือในหองโถงชั้น ลาง หันหลังใหประตูทางเขาราวกับไมสนใจใครทั้งสิ้น ศีรษะที่วาง อยูบนหลังมือ ซึ่งเทาแขนกับกรอบหนาตางนั้นหลุบตํ่ า ดวงตาที่ แจมใสเหมือนไฟประภาคารหรี่แสงลงอยางออนลา และเหมอลอย ผานชองหนาตางที่เปดกวางออกไปไกลแสนไกล ทามกลางความ เงียบในหองโถง มีแตเสียงถอนหายใจหนัก ๆ ของปูดังขึน ้ เปนชวง ๆ เมื่อฉันกับพี่นภิศกลับจากโรงเรียนในตอนเย็น ก็ยังคงเห็นปู นั่งอยูท่เี ดิม และแมกระทั่งตอนกลางคืนเมื่อฉันแอบยองลงมาขาง
นฟ ร
้อ่า
าให
นํา ม
งส อื
รด อ
ี โป
นฟ รี โ ปร ดอ
าให ้อ่า
อื น ํ าม
หน ั งส
ย
นํา ไป
ี โป รด อย ่า
ย่า นํา ไป ขา
นฟ ร
อน ํ าม าให ้อ่า
ขา ย
ลาง ก็ยังมองเห็นเงาตะคุมของปูอยูตรงหนาตางบานนั้น
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
20.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ยิง ่ อานันทนาหายไปนานเทาไหร พวกเราก็ยง ิ่ วิตกกังวล และคาดคะเนไปตาง ๆ นานา ซึ่งลวนแตเปนไปในทางที่ไมเปน มงคลและน าหวาดกลัว... พวกผูใหญผลัดเวรกันไปดูศพไมมีญาติ ตามโรงพยาบาลตาง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และตางจังหวัด รวมทั้ง โกดังที่วัดดอน... และแมวาทุกครั้งจะพบกับความผิดหวัง แตน่ันก็ ทําใหทุกคนยังพอมีความหวังหลงเหลืออยูบาง แมวาจะเปนความ หวังที่ริบหรี่ลงทุกขณะก็ตาม อาดอนขอแรงเพื่อน ๆ และลูกศิษยลูกหาที่เปนตํารวจชวยสืบ หารองรอยอยางแทบจะพลิกแผนดิน ในขณะที่พ่ช ี าญชัยกับลุงนัฐ ลงทุนไปเฝาตามไนตคลับและสถานที่ตาง ๆ ที่อานันทนาเคยไป เที่ยว แตก็ควานํ้าเหลว เมื่อพึ่งทางวิทยาศาสตรไมได บางคนก็หันเขาหาดาน ไสยศาสตร... ปาทรงศรีกับปาอรตระเวนไปตามตําหนักทรงเจาเขา ผี ใหเจาพอเจาแมท้ง ั หลายชวยอีกแรงหนึ่ ง สวนยาเนี ยมกับยา มาลัยขึน ้ กุฏิน้ันลงกุฏิน้ี ใหหลวงตาที่เคารพนับถือทั้งหลาย ตรวจสอบดวงชะตา และทําบุญสะเดาะเคราะหใหกับอานันทนา และที่นาประหลาดใจก็คือ ทั้งพระทั้งเจาตางก็ยืนยันวา อา นันทนา ยังมีชีวิตอยู และอีกไมนานก็จะกลับมาเอง... วันที่อานันทนากลับบานนั้น เปนวันหยุดอะไรสักอยาง แตคง ไมใชวันเสารอาทิตย เพราะหากเปนวันสุดสัปดาหท่ต ี ึกเรามักจะไม
ขา ย
คอยมีใครอยูกันพรอมหนาพรอมตา
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ฉันรูสึกวาวันนั้นจะมีฝนตกปรอย ๆ แตเมื่อพูดกับพี่นภิศใน ตอนหลัง พี่นภิศกลับยืนยันวาฝนไมไดตกในวันนั้น แตลงหนักใน ตอนกลางคืนตางหาก... อยางไรก็ตาม สิ่งที่ฉน ั จําไดติดตาก็คือ รอยเทาเปลาของอานันทนาซึ่งเปอนโคลนเปนจํ้า ๆ ที่ยํ่าลงบนพรม สีแดงผืนใหญท่ป ี ูหองโถงชั้นลาง
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
และถึงแมวาเวลาจะลวงเลยมานานนับเปนป ๆ แตทุกครั้งที่ มองดูพรมผืนนั้น ฉันก็มีความรูสึกเหมือนกับวารอยเทาชื้น ๆ ดวย คราบโคลนของอานันทนายังคงเปรอะเปอนอยูบนผืนพรมเชน เดิม...
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
อานันทนาเซซังกลับบานในสภาพทีป ่ อแปและออน ระโหย เหมือนลูกนกที่บินฝาพายุฝน อาหยุดยืนที่หนาประตู หองโถงอยางลังเลครูใหญกอนจะรวบรวมกําลังใจกาวเดินดวย ทาทางที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง มาหยุดยืนอยูตรงหนากรอบไม สีดําที่ใสกระดาษแดงครํ่ าครา ซึ่งแตมตัวหนังสือภาษาจีนสีทองราง เลือนและคุกเขาลงกมหนานิ่ ง ปูเบือนหนาจากหนาตางและหันกลับมาทางลูกสาวคนรองชา ๆ ดวงตาที่เคยแจมใสฝามัวดวยกระไอผาวของหยาดนํ้าตาที่เออ ออกมา... ปูน่ังมองอานันทนาจากเกาอี้ไมมะเกลือที่จมรางอยูทุกวัน นับตั้งแตอานันทนาหายไปจากบาน ดวยสายตาที่ปวดราวอยูพัก หนึ่ ง กอนจะถอนหายใจลึก ๆ และคอย ๆ ลุกขึน ้ ยืน... หลังที่คอม และไหลท่ล ี ูลงในชวงเวลาหลายวันที่ผานมา เหยียดตรงขึน ้ อีกครั้ง ขณะที่กาวเดินทีละกาวมาหยุดอยูเบื้องหลังลูกสาว ปูเงยหนาขึน ้ มองคําวา “หงี” หรือ “คุณธรรม” ในกระดาษแดงนั้นอยูน่ิ งนาน
งส อื
“นันทนา...” ปูรองเรียกดวยนํ้าเสียงที่ถึงแมจะแหบเครือ แตก็ยังคงเปยม ไปดวยความเมตตา ในขณะที่อานันทนากมหนางุดลงไปอีกราวจะ
นํา ไป
ขา ย
แทรกมันลงไปในพื้น มีแตเสียงสะอื้นฮัก ๆ ที่ดังอยูไมขาดสาย “...เช็ดนํ้าตาเสีย”
ี โป รด อย ่า
ปูวางมือที่ส่น ั เทาขางหนึ่ งลงบนบาลูกสาว พลางยกมืออีกขาง ขึน ้ ปายขอบตาตัวเอง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
พวกเราที่กรูกันลงมาอออยูท่บ ี ันได คอย ๆ หันหลังกลับขึน ้ ไป บนตึก อยางเงียบ ๆ ทิ้งใหปูยืนอยูกับอานันทนาเพียงลําพัง
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
แมจะไมมีใครเคยรูวา อานันทนาหายไปไหนมา แตสง ิ่ หนึ่ง ซึ่งแมแตพวกเด็ก ๆ ก็ยังพอจะรูกันไดก็คือ อาการของคนทอง ไดหายไป...แมถมึงตาเปนเชิงหามทุกครั้งที่พ่น ี ภิศหรือฉันขยับจะ เอยปากถามเรื่องนี้ สวนผูใหญคนอื่น ๆ พากันปดปากเงียบกริบ แต ถึงอยางไรฉันก็ยังแอบไดยินพวกคนใชพูดกันวา อานันทนาไปทํา แทงมา ในตอนนั้นฉันยังไมเขาใจวา สิ่งที่พวกคนใชพูดถึงนั้นคืออะไร แตเมื่อมารูในภายหลัง ฉันก็ย่ง ิ ไมเขาใจหนักขึน ้ ไปอีกวา ทําไมยาเนี ยมถึงไดโกรธอานันทนาในเรื่องนี้ หนักยิ่งไปกวาตอนที่อานันทนา ทองไมมีพอเสียอีก เพราะในตอนนั้นถึงจะลงโทษเฆี่ยนตีอานันทนา หนักหนาขนาดไหน พอความโกรธบรรเทาลงแลว ยาก็ยังแวะเวียน ไปดูแลอานันทนา... แตสําหรับตอนหลังนี้ ถึงจะไมลงไมลงมืออีก แตยาก็ไมยอมที่จะพูดจาหรือแมแตชายตาดูลูกสาวดวยซํ้าไป
งส อื
นํา ม
อานันทนาเก็บตัวอยูพักหนึ่ง แลวก็เริม ่ ออกเทีย ่ ว กลางคืนอยางเดิมโดยไมแยแสสายตาของใคร ๆ... แมวาอานันท นาจะออกไปและกลับมาตามลําพัง แตก็มีคนเห็นวาอานันทนาไป เตนรําหรือกินขาวกับพี่ชาญชัยบอย ๆ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พอกับลุงนัฐเริ่มจับตามองพี่ชาญชัยดวยสายตาแปลก ๆ ใน ขณะที่ยาเหมยหลิงยอมลดทิฐิมานะถอรางลงมาหาลูกสะใภรองที่ เปนไมเบื่อไมเมากันมานาน... ไมมีใครรูวายาเหมยหลิงกับปาเปกกี้ ซุบซิบกันดวยเรื่องอะไร แตหลังจากนั้นอีกไมก่ว ี ัน พวกเราก็ไดกิน ขนมหมั้นของพี่ชาญชัยกับลูกสาวของเพื่อนปาเปกกี้คนหนึ่ งโดยไม มีปมีขลุย
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ขาวการหมัน ้ ของพีช ่ าญชัยเปนเรื่องทีส ่ รางความสดชื่น แกบานเราเหมือนลมบนที่พัดพาเอาเมฆหมอกทะมึนที่ปกคลุมตึก เรามานับตั้งแตเกิดเรื่องอานันทนาใหลอยหางออกไป... เสียง ยั่วเยากระเซาแหยวาที่เจาบาว เสียงหัวเราะคิกคัก และความ โกลาหลอลหมานในการทําความสะอาดบานชอง และตระเตรียม เสื้อผาใหม ๆ สําหรับใสไปในงานแตงงานของพี่ชาญชัยซึ่งกําหนด ไวในปลายปน้ัน เรียกความมีชีวิตชีวากลับมาสูหมูญาติพ่น ี อ งอีก ครั้ง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ยาเหมยหลิงกับปาเปกกี้กลับมาคืนดีกันใหม และเปนเจากี้เจา การในเรื่องตาง ๆ ไมไดหยุด คนงานชุดแลวชุดเลาทยอยกันเขามา ซอมแซมและตอเติมหองพักของพี่ชาญชัย ขาวของเครื่องใชและ เฟอรนิเจอรใหม ๆ ถูกขนเขามาไมเวนแตละวัน... ในตอนแรกนั้น ปาเปกกี้อยากใหทาสีหองพี่ชาญชัยใหมเปนสีเหลืองไขไก ดูเหมือน จะลงมือไปไดครึ่งหองแลว แตเมื่อยาเหมยหลิงมาเห็นเขาแกก็ บงเบงใหเปลี่ยนเปนสีชมพู... เมื่อหองพี่ชาญชัยกลายเปนวิมานสี ชมพูเรียบรอยแลว ปรากฏวายังมีสีเหลืออยูอีกหลายกระปอง ก็ไมรู วาเปนความคิดของยาเหมยหลิง หรือของลูกสะใภคนรอง ที่ใหชาง ปายสีท่เี หลือดานนอกดวย เสร็จแลวก็เลยลุกลามจนถึงทั้งหลัง เบอเรอถูกฉาบดวยสีชมพูพริ้ง “อกอีแปนจะแตก...” อานุชตบอกผางเมื่อมองเห็นคนงานกําลัง ละเลงสีบนผนังตึก “...ลําพังหองอีตาชาญชัยหองเดียวฉันก็เหลือจะ
นํา ไป
ขา ย
ทนทานอยูแลว โอย นี่ ฉน ั คงตองเอาปบคลุมหัวเวลาใครไปใครมา บานนี้ ” “หนูวาน ารักดีออกคะ เหมือนขนมเคกกอนเบอเริ่ม”
ี โป รด อย ่า
พี่นภิศแหงนหนามองดวยสีหนาที่มีรอยยิ้ม
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“เคกเจกน ะซิยะ” อานุชกระแทกเสียง แตเมื่อนึ กขึน ้ มาไดก็เงียบไป “หนูวามันก็ไมเลวหรอก...” พี่ดวงดาวเอียงซายเอียงขวา พิจารณา “...แหมนี่ ถาเปลี่ยนหลังคาเปนสีแดงอีกอยางก็สมบูรณ แบบเลย” อานุชหันมาคอนหลานสาวประหลับประเหลือก ตึกเราเปนสีชมพูอยูพักหนึ่ ง แมจะไมเคยเปนวิมานของใคร ตราบจนกระทั่งมันซีดลงดวยกาลเวลา อานุชกับอานงพงาจึงจัดการ เปลี่ยนใหเปนสีขาวอีกครั้งหนึ่ ง
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ถาจะมีใครสักคนทีไ ่ มรูสึกยินดีกับเรื่องการหมัน ้ ของพี่ ชาญชัยคนคนนั้นก็คงจะเปนอานันทนา เพราะนับตั้งแตครั้งแรกที่ ไดยินเรื่องนี้ อานันทนาก็ผลุนผลันจากโตะกินขาววิ่งกลับไปหอง ชั่ว ครูเดียวก็มีเสียงเขวี้ยงปาขาวของอยูปงปง
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ดูเหมือนอานันทนาพยายามที่จะพบพี่ชาญชัย ถึงขนาดที่ขน ึ้ ไป หาถึงหองพัก แตก็ถูกปาเปกกี้คอยกันไว และรีบสงลูกชายคนเดียว ของแกไปทําธุระอะไรสักอยางที่ญ่ป ี ุน...
งส อื
นํา ม
าให
อานันทนาอาละวาดไมเลือกหนาอยูพักหนึ่ ง กอนจะเปลี่ยน เปนเศราซึม วันทั้งวันเอาแตนอนแบ็บอยูบนที่นอน นํ้าตาไหลพราก เปนทาง หนาตาซีดเซียว ผมเผายุงเหยิง... บางครั้งก็จะยืนเกาะ ลูกกรงหนาตางมองเหมอออกไปขางนอกดวยสายตาที่เลื่อนลอย ปูตามหมอมาดูอาการอานันทนาอยูหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งหมอ ก็เพียงแตฉีดยาบํารุง และแนะนําใหพาอานันทนาไปพักผอนที่อ่ น ื
นฟ ร
้อ่า
าให
นํา ม
งส อื
รด อ
ี โป
นฟ รี โ ปร ดอ
าให ้อ่า
อื น ํ าม
หน ั งส
ย
นํา ไป
ี โป รด อย ่า
ย่า นํา ไป ขา
นฟ ร
อน ํ าม าให ้อ่า
ขา ย
แตจนแลวจนรอดก็ไมมีใครวางพอที่จะพาอานันทนาไปไหน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
21.
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ยาเนียมเปนคนทีช ่ อบทําบุญสุนทานมาตัง ้ แตวัยสาว ซึง ่ อาจจะเปนนิ สัยที่ไดมาจากคุณทวดที่เคยเปนเจาของรานขาย เครื่องบวชนาค...ทุกคราวที่ไปทําบุญตักบาตร ยามักจะชักชวน ลูกหลานไปกันเปนขบวน ยาชอบตักบาตรพระครั้งละรอยหรือสอง รอยองค ซึ่งตองไปดักใสแถวทาเตียน ศาลเจาพอเสือ หรือไมก็แถว เสาชิงชา ซึ่งเปนแหลงที่มีวัดเยอะ และพระแยะ ฉันจําไดวาตอนที่ ฉันกับพี่นภิศยังเล็ก ๆ นั้น ยาจะอุมเราทีละคน จับมือเล็ก ๆ ของเรา กุมดามทัพพี คอย ๆ ตักขาวจากขันเงินใสลงในบาตรพระ ตามดวย อาหารและขนมไทย ๆ ที่หอดวยใบตองกลัดไมกลัด บางครั้งก็จะ เปนของแหงอยางไขเค็ม ผักกาดดองกระปอง เนื้ อกระปอง อสร. หรือสมสูกลูกไม
หน ั งส
นฟ ร
เมื่อใสบาตรแลว ยาก็จะบอกใหเรานั่งลงกราบกับพื้น และ อธิษฐาน ขอพรใหเรียนหนังสือเกง ๆ อยาเจ็บไขไดปวย เปนลูกที่ดี ของพอของแม
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ฉันกับพี่นภิศเคยสงสัยวา แลวยาเองอธิษฐานขออะไร บาง...ยาหัวเราะเมื่อไดยินคําถามของเราและตอบวา สิ่งที่ยา อธิษฐานมีอยูสามประการ คือขออยาใหตองลําบากยากจนในตอน แก เมื่อถึงอายุขัยก็ขอใหตายอยางสงบ และขอสุดทายก็คือขอให สามี ญาติพ่น ี อ ง ลูกหลานทุกคนมีแตความสุขความเจริญ ครั้นเมื่อถึงวันนี้ ฉันก็อดถามตัวเองไมไดวา ยาจะรูสึกผิดหวัง
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
หรือนอยใจหรือไม ที่คําอธิษฐานขอสุดทายของยาไมเปนผล... โดย เฉพาะอยางยิ่งในเรื่องของอานันทนา...
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ยิง ่ ใกลกําหนดวันแตงงานของพีช ่ าญชัยเขามาเทาไหร อานันทนาก็ย่ง ิ เศราซึมยิ่งขึน ้ เวนแตบางวันที่จะมีอาการคลุมคลั่ง ทําลายขาวของและทํารายตัวเองตาง ๆ นานา... ฉันจําไดวาครั้ง หนึ่ งอานันทนาเอาเศษแกวกรีดหนาตาและเนื้ อตัวจนเลือดแดง เถือก จนลุงเทียนตองจับตัวสงโรงพยาบาลประสาท
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
อานันทนาอยูโรงพยาบาลเกือบเดือน และเมื่อกลับมาบาน แลวก็มีทาทีเปลี่ยนไป คือไมพูดจากับใครทั้งสิ้น วันทั้งวันขลุกอยูกับ ตุกตาตัวหนึ่ ง ประเดีย ๋ วก็อาบนํ้าแตงตัวใหตุกตา ประเดีย ๋ วก็บน พึมพําจับความไมไดหรือ หัวเราะเอิก ๊ อากกับตุกตา และดึก ๆ พวกเรามักจะไดยินเสียงอานันทนาฮึมฮัมเหกลอม ตุกตาตัวนั้นอยูแทบทุกคืน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
พีช ่ าญชัยกลับจากญีป ่ ุนกอนอานันทนาออกจาก โรงพยาบาล มีขนมและขาวของมาฝากใครตอใครทุกคน เวนแต อานันทนาคนเดียว... แตส่ง ิ ที่ทําใหพวกเราประหลาดใจยิ่งไปกวา นั้นก็คือ จู ๆ พี่ชาญชัยก็ประกาศถอนหมั้น ทั้งที่เหลือเวลาอีกเพียง เดือนหรือสองเดือนก็จะถึงวันแตงงานแลว ปาเปกกี้ทุมเถียงกับพี่ชาญชัยใหญโต แตครั้งนั้นนับเปนครั้ง แรกที่พ่ช ี าญชัยกลาขัดใจแม จนในที่สุดปาเปกกี้ตองเปนฝายรามือ ไปเอง สวนอดีตคูหมั้นของพี่ชาญชัยนั้นแตงงานกับนักธุรกิจชาว สิงคโปรคนหนึ่ งไปกอนกําหนดวันแตงงานเดิม และยังอยูกินกับ สามีอยางมีความสุขมาจนถึงเดีย ๋ วนี้ ซึ่งทําใหฉน ั อดคิดไมไดวา หาก พี่ชาญชัยไมดวนถอนหมั้นในครั้งนั้น ชีวิตของเธอก็คงจะผันแปรไป
ขา ย
อีกอยางหนึ่ ง
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
...แตท่แ ี น ใจไดก็คือ คงจะไมมีความสุขอยางที่เปนอยูในเวลานี้
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
คําถามขอหนึ่งทีม ่ ักจะมีคนถามปูเสมอก็คือ นักธุรกิจซึง ่ จับอะไรเปนเงินเปนทองไปหมดอยางนายเหลียง สือพาณิชย เคย กะเก็งอะไรพลาดบางหรือไม เมื่อไดยินคําถามทํานองนี้ ปูจะยิ้มและตอบดวยนํ้าเสียงที่ หนักแน นวา... “บอยไป” ปูเคยเลาวา การคาดเดาจิตใจคนซื้อนั้นไมใชเรื่องงาย ๆ เพราะนอกจากลักษณะนิ สัยในการซื้อ ความจําเปนเรงดวนในการ ใชสอย คานิ ยม หรือกําลังซื้อแลว ยังมีปจจัยอื่น ๆ ที่คิดไมถึงเขามา เกี่ยวของอยูดวยเสมอ
รด อ
าให ้อ่า
“ครั้งหนึ่ งเราเคยทําผาเช็ดตัวออกมาขาย...” ปูเลาดวยสีหนาที่ ยังคงเจือรอยยิ้ม “...ก็เปนขนาดคุณภาพปานกลางเพราะกะจะลง ตลาดตางจังหวัด ราคาสงก็ต้ง ั เอาไวไมแพงนัก แตกลับขายไมออก” ปูแหงนหนาขึน ้ มองเพดานครูหนึ่ งคลายจะทบทวนความทรง จํา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
“สาเหตุท่ข ี ายไมออกเปนเพราะวา คนตางจังหวัดในสมัยนั้น เขาไมนิยมใชผาเช็ดตัวกัน มีแคผาขาวมาคนละผืนก็ใชประโยชนได สารพัดตั้งแตน ง ุ โพกหัว เคียนเอว หอของ มัดอะไรตอมิอะไร ไปจน ถึงทําเปลเด็ก และเช็ดตัว” ทามกลางเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเจาของคําถาม ปูก็เลาตอ ดวยเสียงเรียบ ๆ “ยังมีอีกครั้งที่เราทําเสื้อยืดเสื้อกลาม... ทุกคนก็คงรูวาตลาด ใหญท่ส ี ุด ของประเทศไทย คือพวกชาวนาชาวไร ทีน้ี เราอยากจะให สินคามันติดตลาดเร็ว ๆ ก็เลยใชตราเคียวเปนยี่หอ เพราะคิดวาเปน สิ่งที่ทุกคนรูจักดี และยังเปนตัวแทนถึงอาชีพของพวกเขา... ที่ไหน
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ได ยี่ปวซาปวสงเสื้อคืนกันมาอุตลุด สอบถามดูไดความวา บริษท ั คูแขงมันปลอยขาววาเสื้อเราเปนของคอมมิวนิ สต ขืนซื้อไปใสจะถูก ตํารวจจับ แถมบางแหงมันยังแกลงเอาปากกาหมึกแหงเขียนรูป คอนมาไขวกับเคียวบนฉลากของเราดวย ชวงนั้นพวกข.จ.กง. ข.จ.ก.อีกําลังบุกหนัก เลยไมมีใครกลาซื้อสินคาเรา” “แลวทานแกปญหาเรื่องนี้ ยังไงคะ”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“เราก็ไมไดแกอะไรนอกจากเก็บเขาโกดังไวเฉย ๆ แตทีน้ี ก็มี เด็กคนหนึ่ ง เอยชื่อไปหลายคนก็คงรูจัก เวลานี้ อีมีหางใหญโต แต ตอนนั้นยังทําการคาเล็ก ๆ นอย ๆ แบบขายของแบกะดิน อีก็เหมา เสื้อเราไปถูก ๆ เสร็จแลวก็ฉีกตราออก โฆษณาวาเปนสินคาสงนอก คนก็เหอมาซื้อกันใหญ ไดขาววาอีไดกําไรหลายสตางค” ปูยกถวยนํ้าชาขึน ้ จิบบาง ๆ
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“แตท่เี ราเก็งพลาดมากที่สุด ก็เรื่องกระดาษเช็ดปากกับ กระดาษชําระ... บริษท ั ฝรั่งมันสงคนมาหาเราชวนใหลงทุนดวยกัน แตเราดู ๆ แลว ไมเชื่อวาจะขายได สมัยนั้นมีผาเช็ดหนาผืนเดียวก็ พอแลว ใชเสร็จก็ซักเอากลับมาใชไดใหม อยู ๆ จะใหใชกระดาษ แบบครั้งเดียวทิ้งเลยเราก็คิดวา ลูกคาคงไมเอาดวย... ยิ่งกระดาษ เช็ดกนยิ่งแลวใหญ ขอโทษกอนนะ...จะขี้จะเยี่ยวก็ใชน้ ําลางกัน ทั้งนั้น เรื่องอะไรจะเสียเงินซื้อกระดาษใหเจ็บกน จริงไหม” ปูวางถวยนํ้าชาลงบนโตะชา ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
“เรื่องนี้ เรามาคิดทบทวนดูตอนหลังแลวถึงรูวา เปนเพราะเรา ทํากิจการเกี่ยวกับสิ่งทอ จึงใหความสําคัญกับสินคาบางตัว อยาง ผาเช็ดหนามากไป จนไมเห็นกระดาษเช็ดปากอยูในสายตา และอีก อยางหนึ่ งคือลืมนึ กไปวา ลักษณะนิ สัยในการซื้อของคน เปลี่ยนแปลงไปไดตามสภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคม ของบาง อยางที่เคยถูกมองวาเปนสิ่งฟุมเฟอยก็อาจกลายเปนสิ่งจําเปนตอ ชีวิตประจําวันได” “การเก็งตลาดไมใชเรื่องงายเลย เพราะตองคาดเดาจิตใจผูคน เปนแสนเปนลาน...”
ขา ย
ปูหัวเราะหึ ๆ ในคอ
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
“อยาวาแตคนแปลกหนาจํานวนมากมายขนาดนั้นเลย แมแต คนใกลตัวที่เราคิดวารูจักเขาดีเพียงแคคนสองคน เราก็ยังเอาใจเขา ไมคอยถูกแลว”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
อานนทกลับมาเมืองไทยในชวงทีบ ่ ริษท ั ในเครือ “นัฐกิจ โกศล” กําลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญ... แตเรื่องนี้ ลุงนัฐเคย พูดทีเลนทีจริงวาบริษท ั ก็อยูของมันมาดี ๆ เพิ่งจะมาวุนวายก็อีตอน ที่อานนทกลับจากนอกนี่ เอง อานุชเลาวา ในชวงป 2510 กวา ๆ เปนชวงอันตรายที่สุดของ วงการคาและธุรกิจ อันเปนผลมาจากวิกฤตการณน้ ํามันโลก โรงงานตาง ๆ ตองลดกําลังการผลิตเนื่ องจากปญหาการขาดแคลน พลังงาน “ก็อยางที่เพลงลูกทุงเขารองวา... นํ้ามันขาดแคลน คุยกับ แฟนก็ตองดับไฟ” อานุชทําเสียงลงลูกคอตามทํานองเพลง “...หมดจากปญหาเรื่องนํ้ามัน ก็ยังตอดวยเหตุการณหลังวันที่ 14 ตุลา ที่นักศึกษาและคนงานเรียกรองอะไรตอมิอะไรกันไมได หยุด เสร็จแลวก็ตามดวยอเมริกาถอนทหารจากเวียดนาม... ตอน นั้นพวกพอคาวิ่งกันพลาน จับทิศทางตลาดและการเมืองไมถูก พวก ที่มีทุนนอยหน อยก็พากันลมละลายขายตัว สวนพวกที่ทุนหนาก็ ขยักเบี้ยเอาไวไมควักมาลงเพิ่ม ตางคนตางก็กลัววาเมืองไทยจะ เปนโดมินง-โดมิโน และกลายเปนคอมมิวนิ สตเหมือนเขมร ลาว ญวน” “แตพอเปนคนมองการณไกล...” อานุชพูดถึงปูดวยนํ้าเสียงชื่นชม “...แกพูดมาแตไหนแตไรแลววา เราทําการคาไมใชเพื่อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตักตวงผลกําไรเขากระเปาตัวเองฝายเดียว แตตองใหลูกคาอยูได ดวย... แกวาพอคาที่ดี ลูกคาเปนฝายไดกําไร ไมมีพอคาคนไหนจะ ทํามาคาขายอยูไดนาน หากทําใหลูกคาของตัวเองขาดทุนลงเรื่อย ๆ” ในขณะที่ใครตอใครพากันถอนตัวจากวงการหรือรอดู เหตุการณอยูเงียบ ๆ ปูกลับทุมทุนลงไปอยางไมอ้น ั เพื่อใหลูกจาง และคนงานทุกคนเห็นวา เราไมคิดที่จะหอบเงินหนี ไปไหน แตจะอยู รวมกับพวกเขาที่น่ี ไมวาจะมีอะไรเกิดขึน ้ ในบานเมือง... ปูเขาเทกโอ เวอรโรงงานสองสามแหงและผลิตสินคาประเภทสบูถูตัว ผงซักฟอก และยาสีฟนออกขายในราคาถูก สาเหตุท่ป ี ูทําเชนนั้นไดก็เพราะซื้อเครื่องจักรและอุปกรณการ ผลิตมาในราคาไมแพง หนําซํ้ายังไมตองทุมเงินโฆษณา หรือ ประดิดประดอยเรื่องแพ็กเกจ เนื่ องจากขณะนั้นสินคาประเภทนี้ กําลังขาดตลาด... ปูต้ง ั ชื่อสินคาเปนไทย ๆ อยางยาสีฟน “สุขสันต” สบู “หอมนวล” หรือผงซักฟอก “แมบาน” เสร็จแลวก็บรรจุกลอง หรือถุงพลาสติกที่ออกแบบงาย ๆ ไมมีลวดลายวิจิตรพิสดารอะไร นอกจากชื่อยี่หอเปนตัวพิมพขนาดใหญสะดุดตา สีน้ ําเงินขอบขาว บนพื้นแดง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
อยางไรก็ตาม สินคาพวกสบู-ยาสีฟนรุนนั้น ขายดีอยูแคยุค หนึ่ งเมื่อสถานการณการเมืองเปลี่ยนแปลงไป และผูคนเริ่มคลาย ความวิตกกังวลตาง ๆ ก็กลับเลิกนิ ยมสินคาราคาถูก แตกลับหันไป หาของราคาแพง ๆ ที่โฆษณาหนัก ๆ และทํากลองหรือฉลากหรู ๆ แทน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
22.
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
อานนทไดช่ อ ื วา “เจาทฤษฎี” ประจําบริษท ั และมี ความคิดทีจ ่ ะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบงานในเครือ “นัฐกิจโกศ ล” ใหสอดคลองกับตํารับตําราที่ไดรํ่าเรียนมา ซึ่งบางครั้งก็กอให เกิดความไมพอใจหรือความขัดแยงกับพี่นอ งที่บริหารบริษท ั ตาง ๆ ในเครือ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
อานนทเปนคนแรกที่กลาวิพากษวิจารณสํานักงานกลาง หรือ ศูนยรวม “พวกปศาจพันตา” ซึ่งเปนหูเปนตาและมันสมองของปูมา ตั้งแตปูกลับมาจากฮองกง และเปนที่ครั่นครามของพนักงานและ บรรดาคนในตระกูลสือพาณิชยมาแตไหนแตไร เพราะคนพวกนั้น สามารถที่จะชี้ใหปูเห็นถึงความเคลื่อนไหวตาง ๆ ของบริษท ั ในเครือ ตลอดจนเลหเหลี่ยมพลิกแพลงหรือความผิดพลาดของผูบริหาร เพียงแคดูจากตัวเลขบางตัวหรือตัวหนังสือบางบรรทัด “ผมวาหมดสมัยแลวที่พอจะทําตัวเปนฮิตเลอรท่ฟ ี งแตรายงาน ของพวกเกสตาโปอยาง ‘เหลาปศาจพันตา’ ที่เฝาคอยจับผิดชาว บาน” อานนทโผงผางขึน ้ มาในที่ประชุมผูบริหารในเครือ “นัฐกิจโกศ ล” “นนทมันหมายถึงหัวหนาตํารวจลับกับพวกตํารวจลับนาซี สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง...” ลุงแอนดี้เอียงตัวไปอธิบายใหปูฟง
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“วิธีการที่ใช ‘ปศาจพันตา’ เปนเครื่องมือควบคุมการทํางาน ของผูบริหารเปนอุปสรรคสําคัญที่ขัดขวางความคิดริเริ่มสรางสรรค และความเจริญเติบโตของบริษท ั ทําใหผูบริหารแตละคนไมกลา ขยับตัวทําอะไรเพราะกลัวจะถูกปศาจพวกนั้นฟองพอ...” อานนทกราดสายตาไปรอบโตะ แตไมมีใครกลาสบตาดวย
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“ผมไมไดดูถูกความสามารถของคนของพอ แตตามความเปน จริงแลว การดําเนิ นธุรกิจในทุกวันนี้ เปลี่ยนแปลงไปจากสมัยกอน มากมาย หากใชหัวคิดเกา ๆ หรือระบบงานเกา ๆ มากุมกลไก สําคัญของการบริหาร และการตัดสินใจตาง ๆ จะทําใหบริษท ั ของ เราลาหลังกาวไมทันคนอื่น... และอีกอยางหนึ่ ง บริษท ั ในเครือนัฐ กิจก็แตกแขนงออกไปมากมาย แตละบริษท ั ก็ทําธุรกิจไปคนละ ประเภทคนละแนว เพื่อความคลองตัวแลวผมวาแตละบริษท ั น าจะ มี◌ิอิสระมากกวานี้ ในการบริหารงานตามแนวทางของตน โดย สํานักงานกลางเปลี่ยนบทบาทของตัวเองเปนสํานักงานที่ปรึกษา มี หนาที่ใหคําแนะนําอยูหาง ๆ แทนที่จะเที่ยวกาวกายไปทั่วอยางทุก วันนี้ ” “เฮียวานนทตองยอมรับในเรื่องประสบการณของคนใน สํานักงานกลางดวย...” ลุงเทียนแยงขึน ้ “...ประสบการณและความเชี่ยวชาญของคนเกาคนแกพวกนั้น ไมใชจะสรางขึน ้ ไดในวันสองวัน และก็ไมใชจะเกิดขึน ้ ไดกับคนทุก คน นักบริหารรุนใหมอาจจะมีความรูมีไฟแรง แตก็ยังขาด ประสบการณและความรอบคอบ การมีสํานักงานกลางอยูก็เหมือน กับมีคนแกท่ร ี ูจักหนทางชวยประคับประคองพาคนหนุมคนสาวไป สงใหถึงจุดหมายปลายทาง และทวงติงตักเตือนเมื่อเด็ก ๆ ทําอะไร ที่ออกนอกลูนอกทาง” ลุงเทียนชายตาดูลุงแอนดี้ กอนพูดตอไปดวยนํ้าเสียงเรียบ ๆ
งส อื
“และอีกอยางการที่มีสํานักงานกลางอยูก็ทําให ‘นัฐกิจโกศล’ มีความเปนอันหนึ่ งอันเดียวกัน มีกําลังวังชาเปนที่ยําเกรงกันทั่วไป
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
หากแตละบริษท ั ในเครือแตกตัวออกเปนเอกเทศอยางที่นนทวา ก็ จะทําใหเรากลายเปนบริษท ั เล็กบริษท ั นอย เหมือนเรือที่ตางคนตาง ก็จวงตางก็แจวไป คนละทิศละทาง และสิ่งที่เกิดขึน ้ ตามมาก็คงซํ้า รอยกับเหตุการณเหมือนเมื่อครั้งที่เตี่ยไมอยูเมืองไทย ผูบริหารบาง คนฉวยโอกาสสรางอิทธิพลสวนตัว เกิดการชิงดีชิงเดนแขงขัน กันเองในทางการคา ซึ่งกอใหเกิดผลเสียหายโดยสวนรวม” “มึงพูดอยางนั้นก็ไมถูก...” ลุงแอนดี้ซ่ง ึ นั่งฟงอยูนานแลว สวนคําขึน ้ มาอยางไมพอใจ
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
“...ไอนนทมันยกเรื่องสํานักงานกลางขึน ้ มาพูด ก็เพราะมัน หวังดีกับบริษท ั ทําไมมึงตองมาพูดอะไรใหมันเลยเถิดไปถึงเรื่องเกา ๆ...พูดก็พูดเถอะ กูก็อยากจะถามมึงเหมือนกันวาถาตอนนั้นกูไม ตัดสินใจตั้งบริษท ั ใหม ๆ ขึน ้ มาหลาย ๆ บริษท ั เกิดโรงงานทอผากับ บริษท ั หลักทรัพยเปนอะไรไป เหมือนอยาง ‘เนชัลแนล ทรัสต’ ที่ ฮองกง ปานนี้ มึงมิตองถือกะลาขอทานเขากินหรือวะ” “เอาละ...” ปูโบกมือหามเมื่อเห็นวาเรื่องทําทาจะลุกลามไป “...พี่นอ งทะเลาะกัน มันก็เหมือนเถาถั่วตมฝกถั่ว มีแตจะเปน ประโยชนกับชาวบาน นนทเองก็รํ่าเรียนมามากลองเอาความรูท่ม ี ี อยูมาทํางานรวมกับ ‘ปศาจพันตา’ ดู พรุงนี้ ไปนั่งที่สํานักงานกลาง จะใหคนจัดหองใหแตเชาเลย”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
อานนทนบ ั เปนลูกหลานคนทีส ่ องของปู ทีไ ่ ดมีโอกาส เขาไปนั่งอยูในสํานักงานกลางถัดจากพี่ชาญชัย แตการทํางานของ คนทั้งสองในสํานักงานแหงนั้นแตกตางกันอยางสิ้นเชิง เพราะใน สมัยพี่ชาญชัยนั้นปูไมไดมอบหมายงานใหทําเปนเรื่องเปนราว แม จะอยูในตําแหน งเลขานุการของปู แตวัน ๆ ก็เพียงแตน่ังดูพวก “ปศาจพันตา” ทํางาน กับเปนเพื่อนปูเวลาที่ปูออกไปทานขาว กลางวันกับเพื่อน ๆ ซึ่งมีเสียงวาที่ปูเอาพี่ชาญชัยไปเปนเลขาใน ตอนนั้น ก็เพียงเพื่อลดความกดดันของปาเปกกี้ซ่ง ึ แสดงความไม
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พอใจที่เห็นลูกชายคนเดียวของตนตองไตเตาจากงานในระดับ เสมียน แตขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงตําแหน งหนาที่ของพี่ชาญ ชัยอยางปรูดปราด ก็กอใหเกิดปฏิกิริยาในหมูญาติพ่น ี อ งอยางมาก จนปูตองยอมเลื่อนตําแหน งใหลูกหลานอีกหลายคนในบริษท ั และ ยายพี่ชาญชัยไปเปนผูชวยของลุงนัฐในบริษท ั “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ซึ่งเพิ่งตั้งขึน ้ ใหม สําหรับอานนทน้ัน การเขาไปทํางานในสํานักงานกลางคอน ขางจะไดรับการยอมรับและเห็นดวยจากทุก ๆ ฝาย และเปนการ เขาไปโดยมีจุดมุงหมายแน วแน ท่จ ี ะหาทางปรับปรุงระบบงานของ บริษท ั ในเครือ โดยเฉพาะอยางยิ่งก็คือตัวสํานักงานกลางและ บรรดาพวก “ปศาจพันตา” ทั้งหลาย อานนทเปนคนที่ริเริ่มการสอบคัดเลือกเขาทํางานในบริษท ั แทนที่จะใชระบบฝากฝงดังแตกอน หลักเกณฑการเลื่อน ปูน บําเหน็จ และลงโทษ การจัดอัตรากําลังของสายงานตาง ๆ ในแตละ บริษท ั ในกําหนดระยะเวลาสามสี่ปขางหนา การใหทุนการศึกษา แกนักศึกษาเทคนิ คหรือชางกลโรงงานที่เรียนดี โดยมีขอผูกพันวา เมื่อเรียนจบแลวตองมาทํางานในบริษท ั ของ “นัฐกิจ” การติดตอสง พนักงานของบริษท ั ไปดูงานที่ญ่ป ี ุน ไตหวัน หรือยุโรป การนํา คอมพิวเตอรและเครื่องไมเครื่องมือที่ทันสมัยเขามาใชอยาง มากมาย รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการและสหพันธคนงานของ บริษท ั ในเครือ ซึ่งเรื่องหลังนี้ ไดรับการคัดคานจากลุงแอนดี้และลุง เทียนเปนอยางมาก แตอานนทก็ดึงดันที่จะใหคนงานรวมตัวกันเปน กลุมกอนเพื่อดูแลกันเอง แตความหวังดีของอานนทในเรื่องสหพันธ คนงาน ก็กลับกลายเปนผลรายแกตัวของอานนทเองในภายหลัง อานนทเปนคนที่ด้ อ ื รั้น ลงตั้งใจวาจะทําอะไรแลวตอใหชางมา ฉุดก็ร้ง ั ไวไมอยู ซึ่งยาเนี ยมคอนวาอานนทไดนิสัยแบบนี้ มาจากปู... ในระยะแรกที่เขาไปทํางานที่สํานักงานกลางนั่น อานนทมี ความมุงมั่นอยางมากที่จะยุบ หรืออยางนอยก็ลดบทบาทของศูนย บัญชาการแหงนี้ ของปูลง พรอมกับกระจายอํานาจการบริหารและ ตัดสินใจออกไปสูแตละบริษท ั ใหมากขึน ้ ซึ่งตลอดระยะเวลาเหลา
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
นั้น ปูอดทนฟงความเห็นตาง ๆ ของอานนทในเรื่องเกี่ยวกับ สํานักงานกลางอยางสงบ ไมคัดคานหรือโตแยงอะไรทั้งสิ้น พอเลาวา วันดีคืนดีปูก็เรียกลุงนัฐ พอ อานุช และอานนทไป พบ บนโตะทํางานของปูมีน้ ําผึง ้ อยางดีวางอยูขวดหนึ่ ง ปูคุยกับ อานนทถึงเรื่องประโยชนของนํ้าผึง ้ เสร็จแลวก็ถามลุงนัฐ พอ และ อานุชถึงเรื่องงานในความรับผิดชอบของแตละคน ซึ่งทุกคนก็ สามารถเลาไดเปนฉาก ๆ แตเมื่อปูลองเปลี่ยนมาถามลุงนัฐถึงเรื่อง บัญชี ถามพอถึงเรื่องโครงการผลิตเสื้อผาสําเร็จรูปแบรนดตาง ประเทศ และถามอานุชถึงเรื่องเครื่องจักร ทุกคนกลับไมมีใครตอบ ไดอยางจะแจง ในขณะที่ปูเองกลับรูถึงเรื่องเหลานั้นไดดีกวา ปูตักนํ้าผึง ้ ในขวดแจกลูก ๆ คนละชอน แลวสอบถามถึงรสชาติ ซึ่งทุกคนออกปากเปนเสียงเดียวกันวารสดีมาก “นํ้าผึง ้ เปนสิ่งมหัศจรรยอยางหนึ่ ง...” ปูยกขวดขึน ้ ดูอยูครูหนึ่ ง “...เราวาตอใหนักวิทยาศาสตรท่เี กงที่สุด ก็คงไมสามารถใชวิธีการ สมัยใหมผลิตมันขึน ้ มาใหไดคุณภาพขนาดนี้ และในราคาขนาดนี้ ”
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูมองอานนทอยางถามความเห็น ซึ่งอานนทก็ไดแตผงกศีรษะ ยอมรับ “แตส่ง ิ ที่มหัศจรรยย่ง ิ ไปกวานํ้าผึง ้ ก็คือสังคมของผึง ้ ผึง ้ เปน สัตวท่อ ี ยูรวมกันอยางมีระเบียบและเปนระบบ มีการแบงสรรงาน และความรับผิดชอบกันเปนสัดสวน แตละตัวก็ทํางานไปคนละ อยาง โดยมีศูนยรวมอยูท่น ี างพญาผึง ้ เพียงตัวเดียว...” ปูใชชอนตักนํ้าผึง ้ และคอย ๆ ปลอยใหมันหยดลงบนโตะชา ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“...สมมุติวาถาสังคมผึง ้ ไมเปนไปในรูปที่มันเปนอยู ผึง ้ ตางตัว ตางก็คิดตางก็ทําไปตามใจของตัวเอง ไมมีระเบียบไมมีระบบ เราวา อยาวาแตน้ ําผึง ้ ขวดนี้ เลย แมแตเพียงแคหยดเดียวพวกมันก็คงไม สามารถผลิตขึน ้ มาได” “...‘นัฐกิจโกศล’ ของเราอยูกันแบบสังคมผึง ้ ถึงใครจะคิดยังไง ก็ตาม แตเราก็เชื่อวามันยังเปนวิธีเดียวในเวลานี้ ท่ผ ี ลิตนํ้าผึง ้ ได คุณภาพดีท่ส ี ุด และในราคาที่ถูกที่สุด”
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พอเลาวา ไมมีใครรูวาอานนทเห็นดวยกับคําพูดของปูในเรื่อง สังคมผึง ้ หรือไม แตอยางไรก็ตาม นับแตวันนั้นเปนตนมาอานนทก็ รามือจากการเขนเคี่ยวกับพวก “ปศาจพันตา” และหันไปใหความ สนใจในเรื่องการปรับปรุง “นัฐกิจโกศล” ในดานอื่น ๆ แทน จน กระทั่งปูไววางใจใหเปนผูอํานวยการคนแรกของสํานักงานกลางนับ ตั้งแตต้ง ั สํานักงานแหงนี้ ขน ึ้ มาเปนเวลารวมยี่สิบป
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
อานุชเคยถามยาเนียมเลน ๆ วา บานเราปลูกในฤกษ อะไรถึงไดหัวกระไดไมเคยแหง นับตั้งแตครั้งที่ลุงเทียนและลุงแอ นดี้เดินทางมาจากเมืองจีน เรื่อยมาจนถึงยุคพี่ชาญชัยและอานนท จะเวนวางอยูบางก็ในชวงลุงนัฐซึ่งปุบปบก็แอบไปจดทะเบียนกับปา อร กับพอซึ่งถูกปูกับยาจับตัวแตงงานกับแมแทบจะในทันทีท่ก ี ลับ มาจากญี่ปุน จนไมมีเวลาใหสาวคนไหนมาเหยียบหัวกระไดทัน แมวาพี่ชาญชัยและอานนทจะตางคนตางก็เนื้ อหอมจนสาว ๆ ตอมกันใหห่ง ึ แตถาใชศัพทของอานงพงาก็ตองวา ทั้งสองคนเทกัน ไปคนละโทน... พี่ชาญชัยนั้นเขาตําราที่วากันวา “รูปหลอพอรวย” แมวาความจริง คนที่รวยจะเปนแม-คือปาเปกกี้ก็ตามเถอะ... สวน อานนทถึงจะไมมีเงินถังเงินถุงใหถลุงเลนอยางพี่ชาญชัย แตศักดิศ ์ รี ของความเปนดอกเตอรและความเปนทายาทคนหนึ่ งของตระกูลสือ พาณิชย ก็ทําใหอยูในเกณฑท่ถ ี าเปนมาแขงก็คงเฉือนกันแคจมูก โดยมีมานอกสายตาอยางพี่ระวีควบปุเลง ๆ มาหาง ๆ... แตใครบางจะคิดวา บางครั้งมานอกสายตาก็กลับกลายเปน มามืดไปไดอยางไมคาดฝน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
23.
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ในกระบวนพีน ่ อ งผูชายของเรา... พีร ่ ะวี อานนท และพี่ ชาญชัยเปนกลุมที่มีอายุรุนราวคราวเดียวกัน โดยหางกันเพียงแค คนละป-สองป พี่ระวีเปนคนที่อาภัพมาตั้งแตเกิด แมจะเปนหลานชายคนแรก ของตระกูล แตก็เกิดจากผลของการชิงสุกกอนหามของลุงเทียนกับ ปาทรงศรี ทําใหปูโกรธลูกชายคนใหญอยางแทบจะตัดเปนตัดตาย จนกระทั่งยาเหมยหลิงกับยาเนี ยมตองชวยกันปลอบโยนปูอยูเปน นาน และถึงแมวาปูจะยอมสงเงินไปใหลุงเทียนเรียนหนังสือตอ แต ก็มอบหมายใหลุงแอนดี้เปนคนดูแลเรื่องการเบิกจายของลุงเทียน กับทั้งยังใหสงตัวพี่ระวีมาเมืองไทยทันทีท่ค ี ลอด
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
และก็อยางที่บอกเพราะยาเนี ยมเปนคนที่เลี้ยงดูพ่ร ี ะวีแทบจะ เรียกไดวาตั้งแตเกิด เมื่อมีอานนทในปถัดมา ก็เลยเลี้ยงทั้งหลาน และลูกซึ่งมีอายุหางกันคนละปราวกับลูกแฝด จนพี่ระวีเหมือนจะ เปนลูกชายอีกคนหนึ่ งของยาเนี ยมไปเลย นอกจากยาเนี ยมแลว ก็เปนที่รูกันดีวาพี่ระวีน้ันติดอานนทเอา มาก ๆ อยางตอนที่ปูเรียกลุงเทียนไปเปนผูจัดการบริษท ั “เนชัลแนล ทรัสต” ที่ฮองกง ในตอนแรกก็เอาพี่ระวีไปเขาโรงเรียน จีนที่น่ันดวย แตเรียนไดแคเทอมเดียวพี่ระวีก็รองจะกลับเมืองไทย เพราะคิดถึงยาเนี ยมและอานนท และแมเมื่อตอนไปเรียนตอที่ อเมริกา พี่ระวีก็ยังเกาะอานนทแจ จนทําใหใครตอใครพากันคิดไป
ขา ย
ในทางอกุศล
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
พี่ระวีดูจะเปนคนที่รวบรวมเอาลักษณะดอยของตระกูลไวมาก ที่สุดไมวาจะเปนรูปรางหนาตา ผิวพรรณ สติปญญา หรือแมแต นิ สัยขี้ระแวงและมองคนในแงราย ในดานการงาน แมวาพี่ระวีจะเขาทํางานในบริษท ั กอนหนาพี่ ชาญชัย และอานนท แตก็ตวมเตี้ยมไปอยางเชื่องชา ซึ่งถาจะวาไป แลวก็เปนเพราะความโลเล ไมม่น ั ใจในตัวเองเปนเหตุผลสําคัญ ที่ปู ไมกลาที่จะเลื่อนตําแหน งใหสูงถึงระดับที่จะตองตัดสินปญหาตาง ๆ ดวยตนเอง... แตส่ง ิ นี้ กลับกลายเปนปมดอยที่ติดอยูในใจของพี่ระวี มาโดยตลอด และผลักดันใหชีวิตของพี่ระวีหันเหไปอีกทางหนึ่ งใน ที่สุด
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ในยุคทีพ ่ ช ี่ าญชัยกับอานนทเปนดาราประจําบานทีม ่ ีสา ว ๆ เทียวไปเทียวมาไมไดหยุดนั้น พี่ระวีก็รับบทอยางที่ยาเนี ยม เรียกวา “ตัวตลกตามพระ” ในลิเก คือติดสอยหอยตามอานนทไป ไหนตอไหน จะวาเปนกองเชียรก็ไมใช จะวากันทาก็ไมเชิง แตก็ทํา ใหอานนทจะปงจะแปงกับใคร ก็ไมคอยถนัด เพราะมีพ่ร ี ะวีเปน “ทศกัณฐ” ตัวกลั่น นั่งหนาตามูทูอยูใกล ๆ...
นฟ ร
ี โป
“เวย กูกําลังจะเก็ต แมด” อานนทผลักประตูหองทํางานอานุชเขามาสงเสียงโวยวายลั่น
หน ั งส
“อะไรวะไอดอก เอ็ดตะโรโบเบยังกับเจกตื่นไฟ”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
อานนทคอยน “แหม เจ... เรียกใหมันเต็มปากเต็มคําหน อยไดไหม ไอครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้ ฟงแลวมันแหมงหูยังไงก็ไมรู เออ หรือถาลําบากนัก ก็เรียกแคช่ อ ื ตัวก็พอ ไมตองใสวุฒิการศึกษาใหมันประดักประเดิด” อานุชถอดแวนวางลงบนโตะ “ก็แกเลนพรวดพราดเขามาเอะอะมะเทิ่ง ฉันก็ตกอกตกใจตั้ง
ขา ย
สติ สัมปชัญญะไมทันซิยะ”
นํา ไป
“โทษที...” อานนททิ้งตัวลงบนเกาอี้ตรงหนาพี่สาว
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“...วางหรือเปลาเนี่ ยะ” “ก็แกเขามานั่งชูคออยูอยางนี้ แลว ไมวางก็ตองวาง” “เอาอีกแลว...” อานนทสายหนา “...เจน่ี ชอบใชกริยาผิด ประเภทอยูเรื่อย ไอตัวที่ชอบนั่งชูคอเนี่ ยะ หลับตาทีไรเห็นแตภาพ หมาอัลเซเชียนนั่งรถเกงทุกที” “เอาน า แกมีอะไรก็รีบวาไป เสร็จแลวฉันจะไดทํางานฉันตอ”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“ก็ระวีนะซิ มันเอาแตติดผมยังกะตังเม อยากจะไปไหนลําพัง บางก็ไปไมได” อานนทถอนหายใจอยางเหนื่ อยหน าย “แลวไอท่แ ี กอยากไปลําพังโดยไมมีระวีนะมันที่ไหนกันละ”
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“แหม เจพูดยังกะตัวเองไมเคยเปนสาวมากอน... ของอยางนี้ มี ใครเขาบอกใครที่ไหนกันเลา” “เอาละ เปนอันวาเรารูกัน...” อานุชมองดูนอ งชายดวยความเห็นใจ “...เรื่องนี้ เหมือนหนามยอกเราก็ตองใชหนามบง หาผูหญิงให ระวีมันซักคนก็สิ้นเรื่อง”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
“อาว เห็นผมเปนพอเลาหรือแมเลาตามคอกเทลเลาจไปได” “ไอบา ฉันเพียงแตใหแกหาแฟนใหมันตางหาก... พวกบรรดา แฟน ๆ แกก็คงพอมีพ่น ี อ งเพื่อนฝูงสาว ๆ กันบาง ไมง้น ั รายไหนที่ไม ถูกสเปกแกก็โอนใหระวีมันเสีย จะมัวทําเปนหมาหวงกางอยูทําไม วะ” “ไมใชหวงกาง แตตอนนี้ ผมกําลังอยูในระหวางการคัดสรร แลวอีกอยางผมมันเปนคนประเภทที่ไมชอบจํากัดรสนิ ยมตัวเองใน เรื่องผูหญิง”
นํา ไป
ขา ย
“มัวแตอาขาผวาปกรักพี่เสียดายนอง แลวจะมาโอดโอยเรื่อง ระวีทําไมวะ” “อยาวะซิเวย...” อานนทยกมือเกาหัวแรง ๆ อยางพะวักพะวน “...อันที่จริงไอเดียเจก็เขาทาดีหรอก”
ี โป รด อย ่า
อานนทขมวดคิ้วขณะใชความคิด นั้นตอกันราวกับเปนเสนเดียว
จนปลายคิ้วรูปสามเหลี่ยม
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“เอาก็เอาวะ... นายนนทจะยอมเสียสละยกผูหญิงใหระวีมันคน นึ งจะไดหมดคนคอยเปน กขค. เสียที”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ผูหญิงทีอ ่ านนทหมายตาใหมาเปนหนามทีช ่ วยบงพีร ่ ะ วีออกไปจากอกของตน ก็คือพี่สุวิตรา - นองสาวของเพื่อนอานนท คนหนึ่ ง ซึ่งติดตามพี่ชายมาหาอานนทท่บ ี านเราบอย ๆ... ตอนนั้นพี่ สุวิตราอายุในราวสิบเจ็ด สิบแปดกําลังเรียนคณะมนุษยฯ ที่รามฯ แมพ่ส ี ุวิตราจะดูชอบ ๆ อานนทอยูไมนอ ย แตในสายตาของอานนท เห็นวาเธอยังเปนเด็ก และไมไดใหความสนใจดวยมากนัก พี่สุวิตราเปนคนสวยเรียบ ๆ ทาทางออนโยนละเมียดละไม ไร เดียงสา และดูเหมือนจะเปนคนโอบออมอารีแตก็ไวตัวอยูในที... ครอบครัวของพี่สุวิตรามาจากตระกูลผูดีเกา - แตคงเปนประเภทผูดี ตกยากที่ตกยากมานาน จนไมมีสมบัติพัสถานอะไรเหลือหลอ อาศัยแตลูกชาย คือพี่ของพี่สุวิตราเปนหลักอยู พี่สุวิทย - พี่ชายของพี่สุวิตราเปนคนเรียนหนังสือเกงมาตั้งแต เด็ก สอบชิงทุนตาง ๆ มาไดโดยตลอด จนกระทั่งไดทุน ก.พ. ไปทํา โทที่อเมริกา รัฐเดียวกันกับที่อานนทและพี่ระวีเรียนอยู แตเปนใน ชวงที่พ่ร ี ะวีกลับมาเมืองไทยแลว เมื่อแรก พี่ระวีก็ดูจะลังเลใจในเรื่องพี่สุวิตราอยู แตอานนทก็ เกลี้ยกลอมหวานลอมตาง ๆ นานา จนพี่ระวีซ่ง ึ เชื่อฟงความคิดเห็น ของอานนทมาแตไหนแตไรคลอยตามในที่สุด
ขา ย นํา ไป
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
เมื่อพีร ่ ะวีตัดสินใจแตงงานกับพีส ่ ุวิตราตามแรงยุและ ชักจูงของอานนทน้ัน ยาเหมยหลิงโกรธเปนฟนเปนไฟ เพราะอยาก ใหหลานชายของแกแตงกับสะใภจีนมากกวาไทย... แกอางความ เชื่อเกา ๆ ที่วาคนไทยเกียจครานไมขยันขันแข็งเหมือนคนจีน และ ผูหญิงไทยเอาแตแตงตัวเที่ยวเตร เลนการพนัน หรือชอบพูดคําเล็ก คํานอย ไมอดทนอดออมเหมือนคนจีน “คนทุกชาติทุกภาษามันก็มีท้ง ั คนดี - คนเลว คนโง - คนฉลาด คนขี้เกียจขี้คราน หรือคนขยันขันแข็ง และแน นอนวามันจะตองมี จํานวนคนดีมากกวาคนเลว ถาไมอยางนั้นอีก็คงอยูเปนบานเปน เมืองมาจนถึงปานนี้ ไมได...” ปูมองดูยาเหมยหลิงดวยสายตาที่ราบเรียบ “ลื้อมากินขาวบานเขาแลวจะมานั่งติน่ังดากับขาวเขาวาไมถูก ปากลื้อ มันก็ไมถูกเรื่อง... เมื่อระวีมันแตงเมียเขามาแลว เมียมันก็ จะเปนคนตระกูลเราคนหนึ่ ง ผิดถูกยังไงก็คอย ๆ สั่ง คอย ๆ สอน เอา ถาเมียระวีมันยังไมใชตนไผท่แ ี กจนผุพัง ถูกลมพัดมันก็ยอมเอน ลูไปตามสายลมได”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
สําหรับยาเนี ยมไดแตยิ้ม และทองกาพยซ่ง ึ ดูเหมือนจะเปน พระราช-นิ พนธของรัชกาลที่ 2 เบา ๆ... “ยี่สุนพุดจีบจีน เจามีสินพี่มีศักดิ”์ แลวก็ไมพูดอะไรอีก... อยางไรก็ตาม ฉันแอบไดยินปาเปกกี้พูดถึงพี่สุวิตราใน ภายหลังทํานองเปรียบเทียบกับนางเซียวเปาไช ซึ่งเปนนางรายใน นิ ยายจีนเรื่อง “ความฝนในหอแดง” ที่ซอนความเจาเลหเพทุบาย และความเห็นแกตัวไวภายใตความสวยงามและทาทางออนโยน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ความโลเลไมมน ั ่ ใจในตัวเอง ประกอบกับการเชื่อฟงคํา พูดของอานนทจนเกินไป เปนเหตุใหพ่ร ี ะวีทําความผิดพลาดถึงสอง อยางในเวลาเดียวกัน... ประการแรก คือการแตงงานกับผูหญิง อยางพี่สุวิตราทั้ง ๆ ที่ตัวเองไมไดรักใครจริงจัง และประการที่สอง ไมกลาทําในสิ่งที่ใจของตัวเองอยากทํา... นั่นคือการสารภาพรักกับปริยาภรณ หัวหนาฝาย ประชาสัมพันธของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ที่พ่ร ี ะวีแอบปองรักอยูเงียบ ๆ มาเปนเวลานานแลว และกลายมาเปนสะใภอีกคนหนึ่ งของ ตระกูลสือพาณิชยในตอนหลัง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
24.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พีร ่ ะวีแตงงานกับพีส ่ ุวิตราทัง ้ ๆ ทีพ ่ ส ี่ ุวิตรายังเรียนไม จบ และออกจะเปนการตัดสินใจที่รวดเร็ว จนแมแตอานนทซ่ง ึ ทํา ตัวเปนพอสื่อก็ยังคาดไมถึง “ระวีน่ี มันไวจริง ๆ แหม นี่ ถาผมรูลวงหนาวามันออกซเทนสูง อยางนี้ ก็คงจับคูใหมันตั้งแตอยูสเตทแลว ไมปลอยไวจนเกือบจะ สูญพันธ◌ุอยางนี้ หรอก...” อานนทหัวเราะหัวใครดวยอารมณเบิกบานกับอานุช
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“...ยายตุกตานั่นก็เหมือนกัน ตอนแรกก็ทําทาอิด ๆ ออด ๆ บายเบี่ยง อยางนั้นอยางนี้ ผมนัดใหไปไหนกับระวีก็ไมคอยอยากจะ ไปดวย ติวาหนาดําเปนเตียวหุยบางละ คุยไมสนุกบางละ... ที่ไหน ไดเห็นหงิม ๆ เผลอแผล็บเดียวหยิบชิ้นปลามันไปกินเฉิ บ” “โอย อยาวาแตรูปชั่วตัวดําแคน้ี เลย ตอใหระวีมันหูหนวก ตาบ อด ขาเป แตถาเปนลูกหลานตระกูลสือพาณิชยเสียอยาง ผูหญิง หนาไหนก็ยอมหลับหูหลับตาแตงงานดวยทั้งนั้นแหละวา” “อาว เจก็ไปดูถูกเขา - ยายตุกตาอาจจะรักระวีมันจริง ๆ ก็ได” “เฮอ ฉันละไมเชื่อนํ้าหนาพวกผูหญิงสมัยนี้ เลย ยิ่งวางทาเปน ผูลาก มากดีย่ง ิ แลวใหญ... เคยไดยินไหมละที่แมแกพูดวาสมัยกอน ‘สิบพอคาไมเทาพระยาเลี้ยง’ น ะ แตฉน ั วาเดีย ๋ วนี้ นะ ตอให ‘พัน พระยาก็ยังไมเทาหนึ่ งพอคาเลี้ยง’ เลยแกเอย... เพราะอยางนี้ นะซิ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พวกผูดีเกาเอย พวกขาราชการเอย ถึงไดว่ง ิ เขาเกาะพอคากันเปน แถว” “เอาน า ๆ... พูดไปใครเขาไดยินเขาจะหาวาเจงกสมบัติ คอย กันทาคนที่จะมาเปนสะใภบานนี้ ” “มะเหงกน ะซิ...” อานุชยกมือหงิก ๆ งอ ๆ ขึน ้ ประกอบคําพูด “...เงินทองฉันก็มี ถึงฉันจะไมทํางานที่บริษท ั ผัวฉันเขาก็มีปญญา หาเลี้ยงฉันได ไมตองมาคอยแยงชิงสมบัติบากับใคร” “ชัวรหรือเปลา... อยางเบาะ ๆ ก็รวมหมื่นลานบาทเชียวนา ทําพูดดีไปเถอะ มีใครแอบอัดเทปเอาไวหรือเปลาก็ไมรู เดีย ๋ วก็ไดน่ัง รองไหข้ม ี ูกโปงหรอก” “ใครอยากอัดใหมันอัดไป...”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อานุชประกาศโผงผาง “...ฉันบอกไวตรงนี้ เลยวา ถึงชาติน้ี ฉน ั จะไมมีปญญาหาเงินได เปนรอยลานพันลาน แตฉน ั ก็ไมเคยอยากไดใครดีเรื่องมรดกพกหอ ใครกระสันนักก็เชิญรบราฆาฟนแยงชิงกันตามสบาย”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
งานแตงงานของพีร ่ ะวีกับพีส ่ ุวิตราเปนงานใหญโต เอิกเกริกงานหนึ่ งของสังคมกรุงเทพฯ แขกเหรื่อมากันเต็มหอง นภาลัย โรงแรมดุสิตธานี ซ่ง ึ ใชเปนที่จัดงานเลี้ยงฉลอง จน หนังสือพิมพลงขาวกระเซาเยาแหยวาถามีระเบิดตกลงมาสักลูก เศรษฐกิจเมืองไทยจะเปนอัมพาตไปทันที เพราะบรรดาพอคาและ นักธุรกิจคนสําคัญลวนมาชุมนุมกันอยูท่น ี ่ ัน ไมมีใครรูวาปูหมดไปกี่มากนอยในการจัดงาน แตก็มีเสียงจาก ญาติพ่น ี อ งบางคนวา ปูเสียเงินเสียทองกับงานพี่ระวีมากมาย กายกองโดยไรประโยชนแบบที่คนไทยเรียกวา “ตํานํ้าพริกละลาย แมน้ ํา” ปูหัวเราะและตอบวา
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“คนเรานั้นถึงจะกระเหม็ดกระแหมเพียงไร แตในชั่วชีวิตหนึ่ งก็ มีส่ง ิ ที่สมควรจะจับจายใชสอยโดยไมตองมัวเสียเวลามานึ กเสียดม เสียดายอยูสองสิ่ง... คือการจัดงานศพบรรพบุรุษกับงานแตงงาน ลูกหลาน” “...สิ่งแรกนั้นเปนการทดแทนบุญคุณแกผูมีพระคุณเปนครั้ง สุดทายยิ่งเราจัดงานไดใหญโตเพียงไร ฟาดินก็จะยิ่งประจักษในคุณ งามความดีของบรรพบุรุษเพียงนั้น สําหรับสิ่งหลังเปนสิ่งสําคัญและ มีคาที่สุดที่ผูใหญจะพึงใหแกลูกหลาน ผูท่จ ี ะสืบทอดตระกูลของเรา ตอไป หากเราจัดงานอยางตระหนี่ ถ่เี หนี ยว คนก็จะคิดวาเด็กคูน้ี แม แตพอแมปูยาตายายก็ยังไมสนใจไยดี กระทั่งงานแตงงานทั้งทีก็ยัง ทําอยางเสียไมได ผูคนจะพากันดูถูกดูแคลนและไมใหความเชื่อถือ ในลูกหลานของเรา สืบไปภายหนาจะทํามาหากินอะไรก็คงยาก ลําบาก” ปูกวาดสายตามองลูก ๆ หลาน ๆ เหมือนจะใหคํามั่นสัญญาวา เมื่อถึงคราวของคนอื่น ปูก็จะจัดการตบแตงใหไมนอ ยหนากวาครั้ง นี้ แตใครเลาจะคาดการณไดลวงหนาวา หลังจากงานพี่ระวีแลว ปูก็ไมมีโอกาสจัดงานแตงงานใหลูกหลานคนไหนอีกเลย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
พีส ่ ุวิตราขนของเขามาอยูตึกเราอยางทีพ ่ วกคนใชแอบ นินทาวาแมกระทั่งอีโตก็ยังไมมีเหน็บหลัง ทามกลางการตอนรับ อยางเย็นชาจากยาเหมยหลิง ปาเปกกี้ และแมของฉัน สวนอานุช และคนอื่น ๆ วางเฉย มีก็แตยาเนี ยม ปาอร และยามาลัยที่ดูจะให ความเอ็นดูอยู แมวาพี่สุวิตราจะไมใชคนโง แตก็ทําเหมือนกับไมเขาใจในทาที ของยาเหมยหลิงและปาเปกกี้ท่ม ี ีตอตน และหมั่นไปเยี่ยมเยียนยา และอาสะใภของสามีอยูเสมอ แมวาจะไดรับการรังเกียจเดียดฉันท อยางไรก็ตาม
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พี่ดวงดาวเคยเลาวา ตอนแรก ๆ นั้น ยาเหมยหลิงวางทา ปนปงกับ หลานสะใภคนไทยของแกมาก ถึงขนาดที่ปลอยใหน่ัง พับเพียบอยูกับพื้นเปนชั่วโมง ๆ โดยไมยอมพูดจาปราศรัยดวย หรือ ถาพี่สุวิตราซื้อขนมหรือผลไมมาฝาก แกก็ทิ้งใหเน าอยูตรงนั้นโดย ไมแตะตอง แตพ่ส ี ุวิตราก็ไมยอทอคงเทียวไปหายาสามีผูเจายศเจา อยางแทบทุกวัน จนตอนหลังยาเหมยหลิงยอมลดราใหนวดเฟนให บาง หรือใหอานเรื่องจีนที่แปลเปนไทยอยาง “ซองกัง๋ ” “เลียดกก” หรือ “สามกก” ใหฟงบาง แตท่ส ี นุกกวาเรื่องจีนพวกนั้น เห็นจะเปนเรื่องของคนอื่น ๆ ใน ตึกโดยเฉพาะยาเนี ยม ยามาลัย หรือปาอร ที่พ่ส ี ุวิตราเขานอกออก ในไดสะดวก สําหรับปาเปกกี้ พี่สุวิตรามักจะหาเครื่องเพชรเครื่องทองแปล ก ๆ มา ใหดูอยูเสมอ อางวาเปนของเกาของญาติพ่น ี อ งบาง เพื่อนฝูงของพอแมฝากมาขายบาง แรก ๆ ปาเปกกี้ก็หยิบดูอยาง เสียไมได แตเมื่อพี่สุวิตราขนมาใหดูบอย ๆ ก็ซ้ อ ื ไวแกรําคาญชิ้น สองชิ้น พอเริ่มพูดคุยกันไดในเรื่อง เพชรพลอยก็ตอเนื่ องไปถึงเรื่อง อื่น ๆ... จากแคคําสองคําเริ่มนานเปนชั่วโมง สองชั่วโมง และที่ถูก คอกันมากในตอนหลังก็คงเปนเรื่องหมอดูท่พ ี ่ส ี ุวิตรา เที่ยวเสาะหา หมอดูดัง ๆ และพาปาเปกกี้ไปดูเสมอ ๆ
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
แตนอกเหนื อจากยาเหมยหลิงกับปาเปกกี้แลว พี่สุวิตราก็ไม ยอมลงใหใคร หนําซํ้ายังติดจะไวตัวอยูในทีแมจะมีทาทางที่ออนโยน เอื้ออารีกับทุกคนก็ตาม
งส อื
นํา ม
าให
อานนทดูจะมีความสุขขึ้นมาก หลังจากทีค ่ ูแฝดคนละ ฝาแตงงานแตงการแลว และเริ่มทําตัวเปนเพลยบอยชื่อดังแหงฟา บางกอกไมแพพ่ช ี าญชัย แตก็อุตสาหมีคนแอบวิจารณวา รสนิ ยมใน เรื่องคูควงของหนุมเจาสําราญทั้งสองคนแตกตางกันอยางสิ้นเชิง กลาวคือถึงแมอานนทจะทําทาปอไปปอมากับสาว ๆ ไมเลือกหนา
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แตเอาเขาจริง ๆ แลวอานนทชอบผูหญิงที่เปนผูใหญ มีความคิด ความอาน ความรูความสามารถและคอนขางจะเปนคนเกง ในขณะ ที่พ่ช ี าญชัยชอบเด็กสาวที่ขอใหสวย ๆ เขาไวกอน...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
มีเหตุการณสําคัญเกิดขึ้นในครอบครัวเราเรื่องหนึ่ง หลังจากที่พ่ร ี ะวีแตงงานไดไมนาน และเปนเหตุการณท่น ี ําความ อัปยศอดสูมาสูตระกูลสือพาณิชยเปนอยางมาก ยายผิน-แมครัวอาหารไทยเลาใหฉน ั กับพี่นภิศฟงในระหวางที่ เราทานอาหารวางหลังจากกลับมาจากโรงเรียนวา เมื่อตอน กลางวันของวันนั้นมีเด็กผูหญิงวัยรุนคนหนึ่ งรองหมรองไหมาหาปา เปกกี้ อางวามีทองกับพี่ชาญชัย ทั้งเรียกรองใหปาเปกกี้บังคับพี่ ชาญชัยใหเลี้ยงดู ยายผินเลาวา ปาเปกกี้เอะอะเอ็ดตะโรไลตะเพิดเด็กผูหญิงคน นั้นออกไปจากบาน หาวามาปนเรื่องโกหกเพื่อรีดไถเอาเงินจากแก เรื่องราวรุนแรงถึงขั้นปาเปกกี้ลงไมลงมือตบตี และใหคนสวนลาก ตัวโยนออกไปนอกบาน สักพักเดียวเด็กผูหญิงคนนั้นก็พาตํารวจมา จับปาเปกกี้ในขอหาทํารายรางกาย... ตอนนั้นเผอิญไมมีผูใหญอยู ในบาน ปาเปกกี้จึงโทรศัพทไปตามพี่ชาญชัยมาจากบริษท ั เมื่อพี่ชาญชัยมาถึงไดพูดจาเกลี้ยกลอมจนเด็กผูหญิงยอมถอน แจงความ แลวพี่ชาญชัยก็พาเด็กคนนั้นแยกไปทางหนึ่ ง ปลอยให ปาเปกกี้กลับบานคนเดียว... เรื่องราวที่ต่ น ื เตนของยายผินในวันนั้นมีเพียงแคน้ี แตอีกสอง สามวันตอมา เราก็ไดยินเรื่องที่ต่ น ื เตนกวา... นั่นคือมีคนพบศพเด็ก ผูหญิงวัยร◌ุนคนหนึ่ งในบังกะโลที่ชะอํา จากผลการชันสูตรศพพบ วา เด็กคนนั้นตกเลือดตายหลังการทําแทง นอกจากนี้ ตามเนื้ อตัว ยังมีรองรอยถูกทุบตี แตหลักฐานตาง ๆ ของคนตายสูญหายไปหมด ตํารวจติดตามสอบสวนอยูหลายวัน จนพบวาเด็กคนที่ตาย เปนคนเดียวกับที่เกิดเรื่องกับปาเปกกี้ และหลังจากที่พ่ช ี าญชัยพา
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตัวไปแลวก็มีพยานยืนยันวาเห็นพี่ชาญชัยพาเด็กไปที่คลินิกแหง หนึ่ ง และทุบตีบังคับใหทําแทง เรื่องนี้ เปนขาวครึกโครมมาก หนังสือพิมพแทบทุกฉบับพาด หัวตัวโต และขุดคุยเรื่องราวตาง ๆ ของพี่ชาญชัยมาเปดโปงกัน อยางสนุกสนาน... ถึงแมวาในที่สุดแลว พี่ชาญชัยจะหลุดจากคดีน้ัน ไดโดยหมอเถื่อนผูรับจางทําแทงเปนผูถูกลงโทษเพียงคนเดียวก็ ตาม แตเหตุการณท่เี กิดขึน ้ ก็เปนสิ่งที่นาละอายเปนอยางยิ่งของ ตระกูลเรา และตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ ก็ยังมีคนจดจําเรื่องราว เหลานี้ ไดเปนจํานวนมาก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ปูโกรธพีช ่ าญชัยถึงขัน ้ ไมยอมมองหนา และมีคําสัง่ ปลด พีช ่ าญชัยจากตําแหน งรองผูจัดการใหญ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” โดย คงเหลือตําแหน งกรรมการของบริษท ั “นัฐกิจหลักทรัพย” อันเปน ตําแหน งลอยเพียงตําแหน งเดียว พี่ชาญชัยยื่นใบลาออกจาก “นัฐกิจหลักทรัพย” ในวันถัดมา พรอมกับประกาศตั้งบริษท ั “สินทอง คอรปเรชัน” ของตนเองขึน ้ ดําเนิ นธุรกิจผลิตเครื่องกีฬาและเสื้อผาสําเร็จรูปแบรนดตาง ประเทศขึน ้ มาโดยทันที ทั้ง ๆ ที่ยังคงพํานักอยูในตึกของตระกูลสือ พาณิชยตอไปตามเดิม
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
25.
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ถือกําเนิดจากความคิดของลุงนัฐ เมื่อครัง ้ ที่เดินทางไปทําธุระเรื่องการคาใหปูท่ญ ี ่ป ี ุนเมื่อสิบกวาป กอน... ลุงนัฐเขาไปเดินเลนในหางสรรพสินคาตาง ๆ และเห็นคน ญี่ปุนนิ ยมสวมใสเสื้อผาสําเร็จรูปกันมาก จึงนําความคิดนี้ กลับมา เมืองไทย พรอมกับกวานซื้อเสื้อผาแบบตาง ๆ ของญี่ปุนมาเปนรอย ๆ ตัว ลุงนัฐทดลองสํารวจความนิ ยมของคนไทยที่มีตอเสื้อผา สําเร็จรูปของ ญี่ปุนจากญาติพ่น ี อ งเพื่อนฝูงอยูพักหนึ่ ง กอนที่จะเปด โรงงานเล็ก ๆ ตัดเย็บเสื้อผาที่ลอกเลียนแบบมาจากของญี่ปุนขึน ้ แถว ๆ บุคคโล ทามกลางเสียง คัดคานของปูท่เี ห็นวาคนไทยใน ขณะนั้นนิ ยมตัดเย็บเสื้อผาจากรานตัดเสื้อ มากกวาจะซื้อเสื้อ สําเร็จรูปที่ปูเรียกวา “เสื้อโหล” แตลุงนัฐก็ทําหูทวนลม ตั้งหนาตั้ง ตาผลิต “เสื้อโหล” ของแกตอไป โดยเลือกเฟนผาเนื้ อดีลวดลายสี สันแปลกตา การตัดเย็บที่ประณีตและแบบที่เก ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ลุงนัฐมีวิธีปลอยเสื้อสําเร็จรูปของแกออกสูตลาด ดวยการเปด เคานเตอรตามหางสรรพสินคาใหญ ๆ ในกรุงเทพฯ ตั้งชื่อแบรนด เปนภาษาญี่ปุนกับจางเด็กสาว ๆ หนาตาน ารักมาแตงตัวแบบวัยรุน ญี่ปุนเปนพนักงานขาย... แมวาเสื้อผาของลุงนัฐจะมีราคาสูงแตก็ กลับขายดิบขายดีเปนเทนํ้าเททา ถึงตอนนี้ ปูเริ่มยอมรับความคิดในเรื่องผลิตเสื้อผาสําเร็จรูป
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ของลุงนัฐ ที่พลิกความเชื่อของปูท่ม ี ีตอนิ สัยการซื้อของคนไทยใน เรื่องเสื้อโหลและสินคาที่มีราคาแพง... ปูกอตั้งบริษท ั “นัฐกิจ อะลา-โมด” ขึน ้ เปนบริษท ั หนึ่ งในเครือของ “นัฐกิจโกศล” พรอมกับนํา เขาเครื่องจักรผลิตเสื้อผาที่ทันสมัยกับติดตอขอลิขสิทธิเ์ สื้อผาแบ รนดตางประเทศที่มีช่ อ ื เสียงจากญี่ปุน ยุโรป และอเมริกา เพื่อมา ผลิตจําหน ายในประเทศไทยอยางเปนเรื่องเปนราว โดยลุงนัฐตั้ง สโลแกนประจําบริษท ั “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ไววา... ผลิตสินคาที่ “คุณภาพดี มีรสนิ ยม ราคาพอสมควร” ...แตก็มีมือดีแอบตอเติมใหวา “...เพื่อหากําไรเอาไวชวนกันตั้ง วงกินเหลา” เลนเอาลุงนัฐเอิก ๊ อากอยางถูกเสน และตั้งรางวัล สําหรับคนชางตอเติมไวเปนเหลาตราแดงหนึ่ งลัง แตจนกระทั่ง บัดนี้ ก็ยังไมมีใครมาแสดงตัวเพื่อรับรางวัลนั้น ซึ่งคงเพราะเกรงวา อาจเปนเพียงแผนลอเสือออกจากถํ้า แลวมีรองเทาบัลลีย เบอรสาม สิบกวา ๆ เปนลูก “ทิป” แถมใหอีกตางหาก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
เมื่อพีช ่ าญชัยถูกปลดออกจากตําแหนงรองผูจัดการ ใหญของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ก็ทําใหพ่ร ี ะวีแอบมีความหวังที่ม่น ั หมายอยูเงียบ ๆ วาตัวเองอาจจะไดรับการเลื่อนจากผูชวยผูจัดการ ฝายบัญชี “นัฐกิจการทอ” ไปกินตําแหน งของพี่ชาญชัย แตปรากฏ วาอานนทกลับเปนตัวตั้งตัวตีในการดึงตัวคุณบุลภักดิ ์ ผูจัดการฝาย สินเชื่อของธนาคารเอเชียมาเปนรองผูจัดการใหญ “นัฐกิจ อะ-ลาโมด” ดวยเหตุผลวา เปนคนกวางขวางในวงการธุรกิจ และมี ประสบการณดานการบริหารองคกรขนาดใหญ... แมวาพี่ระวีจะไม ไดแสดงปฏิกิริยาอะไรออกมา แตก็เก็บความไมพอใจอานนทและ ความนอยเนื้ อตํ่ าใจไวเงียบ ๆ คุณบุลภักดิเ์ ปนนักบริหารมืออาชีพคนแรกที่เขามารวมงาน กับ “นัฐกิจโกศล” และเปนจุดสําคัญที่ทําใหเกิดการเปลี่ยนโฉมหนา ของการทําธุรกิจของตระกูลสือพาณิชย จากกิจการในครอบครัว เปนระบบธุรกิจการคาสมัยใหม ซึ่งระดมมันสมองจากภายนอกเขา
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
มาเสริมสรางความแข็งแกรง ขณะเดียวกันก็ทําใหการแขงขันกัน ทํางานของลูกหลานในตระกูลเขมขนยิ่งขึน ้ เพราะมีคนอื่นที่เกง ๆ เขามาเปนคูแขงเพิ่มขึน ้ พอเลาวา อานนทพูดจาหวานลอมอยูหลายวันกวาปูจะยอม คลอยตามในเรื่องการเอาคนนอกตระกูลเขามาอยูในตําแหน งผู บริหารระดับสูง แตหลังจากที่คุณบุลภักดิเ์ ขามาทํางานกับบริษท ั เราไดพักหนึ่ ง ปูและคนอื่น ๆ ก็ตองยอมรับวาความคิดของอานนท ในเรื่องนี้ เปนสิ่งที่ถูกตองและเปนประโยชนอยางมาก อยางไรก็ตาม ยังมีส่ง ิ หนึ่ งซึ่งอานนทอาจจะไมไดคาดคิดใน การดึงตัวคุณบุลภักดิเ์ ขามาทํางาน และสิ่งนั้นก็กลับกลายเปนเรื่อง ทิ่มแทงจิตใจของอานนทไปอีกนานแสนนาน...
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูชอบเลาใหพวกเราฟงเสมอวา การทําการคากับคน เอเชียดวยกันอยางญี่ปุน ฮองกง ไตหวัน หรือแมแตเกาหลีน้ัน มี ความสบายใจกวาทําการคากับพวกฝรั่งอั้งมอ เพราะคนยุโรปหรือ อเมริกันคบกันดวยผลประโยชนเปนใหญ และใหความสําคัญกับ เอกสารซึ่งหยุมหยิมและเต็มไปดวยการเอารัดเอาเปรียบตาง ๆ นานา หากขาดความละเอียดรอบคอบหรือพินิจพิจารณาใหดี ก็อาจ ตกเปนฝายเสียเปรียบไดงาย ๆ สวนคนเอเชียนั้น คบกันดวยจิตใจ เพียงคําพูดแคคําสองคําก็ถือเปนคํามั่นที่มีคา ซึ่งรักษากันดวย เกียรติยศ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ปูเคยเลาวา สมัยที่นายหางถาวร พรประภา เริ่มทําการคากับ ญี่ปุนนั้น นายหางพูดภาษาอังกฤษหรือญี่ปุนไมได แตก็ทําสัญญา เกียรติยศกับบริษท ั นิ สสันดวยการเขียนตัวหนังสือภาษาจีนไวใหส่ี คํา ซึ่งแปลเปนไทยวา “มีความจริงใจตอกัน” และญี่ปุนก็เชื่อถือตัว หนังสือจีนสี่คํานั้น สงรถยนตนิสสันมาใหนายหางถาวรขายในเมือง ไทยงวดแรกหกสิบคัน จนกระทั่งกิจการคาของนายหางรุงเรืองสืบ มาจนทุกวันนี้
ขา ย
ปูวา...
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
“ความจริงใจตอกันเปนหัวใจของการคา หากคนเราขาดความ เชื่อใจ และสัตยซ่ อ ื ตอกัน ก็ยากที่จะทําการคากันได และตอใหราง สัญญาละเอียดรัดกุมเพียงไร คนที่ไมซ่ อ ื ก็ยอมคิดหาทางหลบเลี่ยง ไปตาง ๆ นานา แลวไอสัญญาแสนวิเศษฉบับนั้นก็คงเปนเพียง กระดาษเช็ดกน สูคําพูดที่อยูในใจของเราไมได”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ความที่ปูเชื่อถือคําพูดมากกวาเอกสาร ทําใหบริษท ั ของเราไม คอยไดทําสัญญิงสัญญาอะไรกับใคร โดยเฉพาะกับบริษท ั การคา ของญี่ปุนฮองกง หรือไตหวัน... แมแตการรับคนเขาทํางานใน “นัฐ กิจโกศล” ไมวาจะในระดับไหนก็มักเปนการตกลงกันดวยวาจา เพราะปูวาหากเขาไมอยากอยูกับเราแลว ถึงจะมีสัญญาผูกมัดกัน ยังไงเขาก็ตองดิ้นรนไปจนได ไมมีประโยชนอันใดที่จะเหนี่ ยวรั้งเขา ไว
รด อ
าให ้อ่า
...แตก็เปนที่นาประหลาดใจวา ใครก็ตามที่เขามาทํางานกับ บริษท ั เราแลว แทบทุกคนจะอยูกันจนเปนปูเปนตาโดยไมโยกยาย ไปไหน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
ในบรรดาลูกหลานของตระกูลสือพาณิ ชย คนทีม ่ ีวิถี ชีวิตระหกระเหินที่สุดเห็นจะเปนพี่ดวงดาว... ตอนที่พ่ด ี วงดาวเกิด นั้นเปนชวงที่ลุงเทียนและปาทรงศรีทุกขยากลําบากลําบนอยาง มาก อยางที่รูกันนั่นแหละวาปาทรงศรีถึงกับตองลาออกจาก โรงเรียนการคาที่ฮองกงมาเปนพนักงานขายของ และลุงเทียนเองก็ ตองวิ่งรอกทํางานพิเศษถึงสองแหงหลังโรงเรียนเลิก เพื่อหาเงินมา จุนเจือครอบครัวที่เพิ่งเริ่มตน หลังจากที่ปูจํากัดเงินที่สงใหใชจาย และมอบใหลุงแอนดี้เปนคนควบคุมเรื่องเงินของลุงเทียน เนื่ องจาก โกรธที่ลูกชายคนใหญดวนชิงสุกกอนหาม เมื่อลุงเทียนและปาทรงศรีกลับมาเมืองไทยนั้น ยาเหมยหลิง ขึง ้ เคียดเกลียดลูกสะใภใหญอยางมาก เพราะถือวาเปนคนทําลาย
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
อนาคตของลูกชายแก ทําใหกิจการคาหลายอยางของปูตกมาอยูกับ พวกลูก ๆ สายยาเนี ยม แทนที่จะเปนลุงเทียนกับลุงแอนดี้ซ่ง ึ เปน ลูกชายคนโตของตระกูล และความเกลียดชังนั้นลุกลามมาถึงหลาน สาวคือพี่ดวงดาว...มีคนเลาใหฉน ั ฟงวา ตอนที่พ่ด ี วงดาวยังเล็ก ๆ นั้น ยาเหมยหลิงแทบจะไมแตะหลานคนนี้ เอาเลย ตอนาน ๆ จึงจะ ใหคนใชมาอุมพี่ดวงดาวไปใหดูสักครั้ง ซึ่งยาเหมยหลิงก็เพียงแตน่ัง อยูบนเกาอี้มองดูหลานที่วางอยูบนเบาะหาง ๆ เสร็จแลวก็จะตองมี เรื่องดุดาลุงเทียนเรื่องการเลี้ยงลูกของปาทรงศรี หาวาปาทรงศรี เลี้ยงลูกไมเปนบาง ปลอยปละละเลยไมดูแลเอาใจใสบาง มิไยที่ลุง เทียนจะเพียรชี้แจงวา การเลี้ยงลูกแบบสมัยใหมตองปลอยใหเด็ก ชวยตัวเอง ไดออกกําลังไดทําอะไรอยางอิสระ ไมตองมาคอยอุมชู กันตลอดเวลาแบบสมัยกอน ยาเหมยหลิงก็ไมฟงและเคี่ยวเข็ญให ปาทรงศรีเอาลูกผูกติดตัวหรือไมก็ลงเปล อยาปลอยใหคลานเลน กับพื้น หรือนอนบนเบาะอยางเด็กไทย ซึ่งแมวาตอนนั้นปาทรงศรี ออกจะกลัวแมสามีอยูมาก แตในเรื่องการเลี้ยงลูกแลว ปาทรงศรีก็ คงทําตามวิธีของตัวโดยไมฟงเสียงยาเหมยหลิงแมแตนอ ย ซึ่งทําให ยาเหมยหลิงโกรธปาทรงศรีหนักขึน ้ ไปอีก และระยะหลังถึงขั้นแทบ จะไมดูดําดูดีพ่ด ี วงดาวดวยอีกคน ทําใหปูตองคอยปรามอยูบอย ๆ พี่ดวงดาวมีอายุไลเลี่ยกับอานุช พี่ระวี อานนท และพี่ชาญชัย ซึ่งถือวาเปนกลุม “ยังเติรก” ของบาน และเคยรวมหัวกันคัดคาน เรื่องตาง ๆ ที่ไมเห็นดวยทั้งเรื่องงานในบริษท ั และเรื่องในบานอยาง เปดเผยมาแลว จนไดรับฉายาวา “แกง ออฟ ไฟว” ซึ่งเปนการ เปรียบเทียบประชดประชันกับพฤติการณของ “แกง ออฟ โฟว” ที่มี มาดามเจียง ชิง ภรรยาเหมาเจอตุง เปนผูนํา ในสมัยปฏิวัติ วัฒนธรรมในเมืองจีน...แตพ่น ี อ งกลุมนี้ ก็มีหนทางชีวิตของตนซึ่ง แตกตางกันออกไปคนละทาง
งส อื
พีด ่ วงดาวเปนคนเดียวในบานทีไ ่ มไดทํางานในบริษท ั เครือ “นัฐกิจโกศล” เพราะหลังจากที่จบชั้น ม.ศ. 5 แลว พี่ดวงดาวก็
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เอนทรานซเขาเรียนในมหาวิทยาลัยเกษตร ดูเหมือนจะเปนคณะ สัตวบาลหรืออะไรสักอยางที่เกี่ยวของกับการเลี้ยงสัตว... พี่ดวงดาว หางเหินจากบานไปพักใหญเพราะตลอดเวลาที่เรียนเกษตร พี่ดวง ดาวออกไปอยูหอหรือไมก็ออกไปฝกงานตางจังหวัด และดูจะมี ความสุขกับการที่มีชีวิตอิสระอยูกับวัวควาย เปด ไกมากกวาที่จะ สุงสิงกับมนุษยมนา และรักที่จะตากแดดตากลมในทองไรทองนา มากกวานั่งทํางานอยูในหองแอร เมื่อเรียนสําเร็จ พี่ดวงดาวขอเงินจากลุงเทียนกอนหนึ่ ง ดูเหมือนจะเปนสามหรือสี่ลานเพื่อไปทําฟารมเลี้ยงวัวนมที่ภาค เหนื อกับเพื่อน ๆ ฉันไดยินวาลุงเทียนตอรองกับลูกสาวอยูนาน เพราะไมอยากใหออกไปไกลหูไกลตา แตพ่ด ี วงดาวก็ยืนยันความ ตั้งใจของตัวเองอยางเด็ดเดี่ยวจนลุงเทียนตองยอมแพแตก็มีขอแม วา เงินจํานวนนี้ จะเปนการใหครั้งสุดทาย หากการทําฟารม ลมเหลวก็จะไมมีการใหอะไรอีก ทั้งนี้ ก็เพื่อบีบใหพ่ด ี วงดาวกลับเขา มาอยูในบานใหม เพราะลุงเทียนเชื่อวาพี่ดวงดาวไมมีทางที่จะเลี้ยง วัวไดตลอดรอดฝง แมวาลุงเทียนจะทํานายเรื่องฟารมเลี้ยงวัวของลูกสาวได ถูกตอง แตท่พ ี ลาดไปก็คือ การที่คิดไมถึงวาพี่ดวงดาวจะไมยอม บากหนากลับมา หนําซํ้ากลับดิ้นรนตอสูอยางเย็บตาดวยตนเอง
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
26.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
เมื่อพูดถึงพีด ่ วงดาว พวกเด็ก ๆ อยางฉันมักจะนึกถึง ภาพของผูหญิงสาวรูปรางแบบบาง ผิวคลํ้าดวยแดดและลม ใส เสื้อเชิ้ตตาสก็อตสีเขม นุงกางเกงยีนเกา ๆ และสวมหมวกสานปก กวางที่ควบมากับ-กับตอนฝูงวัวอยูในทุงหญา แบบนางเอกหนังคาว บอยสมัยกอน ทั้ง ๆ ที่ในหมูพวกเราไมเคยมีใครขึน ้ ไปที่ฟารมของพี่ ดวงดาวเลยสักคน เมื่อตอนที่พ่ด ี วงดาวยังทําฟารมเลี้ยงวัวอยูน้ัน ทุกคราวที่ลงมา กรุงเทพฯ ก็จะหอบผลไมเมืองหนาวอยางสตรอเบอรรี รวมทั้งเนยที่ ทําเอง หรือทอฟฟนมมาฝากพวกเด็ก ๆ เสมอ... พี่ดวงดาวชอบที่จะ นอนเหยียดยาวอยูบนพื้นในหองของตัวเอง เหมือนลูกแมวซน ๆ ที่ เหน็ดเหนื่ อยจากการกระโดดโลดเตน เสนผมสีดําเนี ยนราวกลุม ไหมคลี่ สยายคลุมหมอนที่หนุนหัว ดวงตาสีน้ ําตาลเขมที่แวววาว อยางคนชางฝน หลับพริ้มทั้ง ๆ ที่เปดเทปเพลงฮารดร็อกเสียงดัง ลั่น และพ็อกเกตบุก บางเลมจะเปดกางอยูบนอกหรือไมก็ตกลงขาง ตัว ทุกครั้งที่เห็นหลานสาวนอนแผสองสลึง อานุชก็อดที่จะถอนใจ ดวยความเวทนาไมได
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“ฉันไมเขาใจจริง ๆ วาแกจะตองไปทรมานตัวเองเพื่ออะไร... อยูดีไมวาดี ลําพังอยูเฉย ๆ ไมตองทําอะไร แคน่ังกินนอนกิน ทั้งพอ ทั้งปูก็มีปญญาเลี้ยงแกไปตลอดชาติ นี่ กลับปุเลง ๆ ไปอยูตามทอง ทุงทองนา” “พูดไปอาก็ไมเขาใจ...” พี่ดวงดาวพลิกตัวราวจะหนี เสียงบน ของอานุช “...ก็เหมือนอยางที่จางจือ ๊ พูดเอาไววา ‘นกเล็ก ๆ ที่อยูใน กรงทองยอมไมมีวันจะรูจักความสุขแหงอิสรภาพของนกใหญ’ นั่นแหละ”
นฟ ร
“เดีย ๋ วฉันก็จับไอนกบาบอของแกถอนขนลงกระทะเสียหรอก”
อน ํ าม าให ้อ่า
อานุชทิ้งตัวลงนั่งบนเกาอี้และมองดูหลานสาวอยางออนใจ “ถามจริง ๆ เถอะยายดาว นี่ แกไมนึกรักใครชอบใครบางเลย
นฟ รี โ ปร ดอ
หรือ”
“ไม” พี่ดวงดาวตอบดวยนํ้าเสียงที่เด็ดเดี่ยว “นี่ แกกะจะเปนทโมนไพรไปจนตายหรือไง” “ก็ยังดีกวาจะมานั่งเลี้ยงลูกเปนโขยง”
าให ้อ่า
ได”
“ถางั้น อาชวยแตงงานแทนหนูดวยก็แลวกัน”
รด อ
“โธเอย ถากลัววาจะตองเปนแมลูกออน ฉันเลี้ยงหลานใหเองก็
ี โป
อื น ํ าม
พี่ดวงดาวดึงหมอนขึน ้ มาปดหนาอยางครานจะตอลอตอเถียง “มะเหงกแน ะ... ผัวฉันไดฆาฉันปะไร”
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
เมื่ออานุชเดินปง ๆ ออกไปแลว พี่ดวงดาวจึงเงยศีรษะขึน ้ พลางเอื้อมมือไปหมุนปุมเครื่องเลนเทปที่หรี่ไวเมื่อครูใหแผดเสียง ดังกวาเดิม
งส อื
หลายคนมักจะคิดวา ทีพ ่ ด ี่ วงดาวไมยอมอยูบาน เปน เพราะกลัวถูกปูหรือลุงเทียนจับตัวแตงงาน และบางคนก็คิดเลยไป
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
วา หรือพี่ดวงดาวจะไมคอยชอบเด็กเลยทําใหไมอยากมีลูกมีเตา ทั้ง ๆ ที่ความจริง พี่ดวงดาวเปนขวัญใจของหลาน ๆ ทุกคนในบานที่ มองพี่ดวงดาวดวยสายตาชื่นชม และบางคนก็ฝนวาเมื่อตัวเองโตขึน ้ จะมีชีวิตที่เปนอิสระเหมือนพี่ดวงดาวทั้ง ๆ ที่พ่ด ี วงดาวแทบจะไม เคยเลาอะไรใหฟงถึงเรื่องฟารมเลย ...แตส่ง ิ ที่พ่ด ี วงดาวเลาใหพวกเราฟงบอย ๆ จะเปนนิ ทานที่พ่ี ดวงดาว เรียกวา “นิ ทานดวงดาว” และ “นิ ทานดวงดาว” เรื่องหนึ่ งที่ พี่ดวงดาว ชอบเลาคือเรื่อง “เมฆสีชมพูกับเมฆสีดํา” ... “ครั้งหนึ่ งนานมาแลว มีเมฆสาวปุยหนึ่ งมีสีชมพูงามสดใส ซึ่ง เปนที่หมายปองของเมฆหนุม ๆ ทั้งหลายบนทองฟา แตเมฆสีชมพูก็ ไมยอมตกลงปลงใจกับใคร นางทองเที่ยวไปตามที่ตาง ๆ เพื่อเสาะ หาเมฆหนุมที่จะมาเปนคูครอง...
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
“วันหนึ่ ง เมฆสีชมพูลอยไปพบกับเมฆหนุมสีขาวสะอาดแผว บาง เมฆขาวหลงรักเมฆสีชมพูและขอใหนางแตงงานกับเขา แลว สัญญาวาจะพานางลองลอยไปจนสุดขอบฟา... ไมทันที่เมฆสีชมพูจะ ตัดสินใจ ก็มีเมฆดําทะมึนกอนใหญปรากฏกายขึน ้ และขอใหเมฆสี ชมพูแตงงานกับตนเหมือนกัน... เมฆสีชมพูรังเกียจเมฆดํา แตก็ แกลงถามวา หากนางยอมแตงงานดวย เมฆดําจะใหส่ง ิ ใดเปน ของขวัญแกนาง เมฆดําตอบวาเขาจะสละชีวิตตัวเองเพื่อเปนฝน ตกลงมาบนพื้นโลก ใหดอกไมนับลาน ๆ ดอกเบงบาน ใหนกนับลา น ๆ ตัวไดรองเพลงดวยความราเริง ใหขาวในนาของชาวนางอกงาม ใหน้ ําในแมน้ ําลําธารไหลรินไมขาดสาย” พี่ดวงดาวมองดูพวกเราที่น่ังลอมวงอยู และสรุปดวยนํ้าเสียงที่ นุมนวลวา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“แลวเมฆสีชมพูกับเมฆสีดําก็แตงงานกัน... ดอกไมก็เบงบาน นกพากันรองเพลงดวยความราเริง ขาวในนาของชาวนางอกงาม นํ้าในแมน้ ําลําธารก็ไหลรินไมขาดสาย” ทุกครั้งที่ไดฟงนิ ทานเรื่องนี้ ฉันก็อดถามตัวเองไมไดวา บางที พี่ดวงดาวอาจเปนเหมือนเมฆสีชมพูท่ท ี องเที่ยวหาเมฆหนุม ๆ ที่จะ มาเปนคูครองอยูก็ได...
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แตจนแลวจนรอด พี่ดวงดาวยังไมมีโอกาสพบพานเมฆดําผู กลาหาญและเสียสละอยางในนิ ทาน เมื่อการลงทุนทําฟารมเลี้ยงวัวประสบความลมเหลวนั้น ลุง เทียนแอบกระหยิ่มใจอยูเงียบ ๆ เพราะคิดวา อยางไรเสียลูกสาวก็ จะตองซมซานกลับมาเหมือนลูกนกปกหัก ถลาคืนสูรวงรังหลังจาก ที่บอบชํ้าจากการกางปกโผบินครั้งแรก
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
แตพ่ด ี วงดาวก็ไมใชลูกนกใจเสาะอยางที่ลุงเทียนคิด เพราะ ทันทีท่ข ี ายฟารมเอาเงินมาใชหนี้ สินแลว พี่ดวงดาวก็หอบเงินไมถึง ลานบาทที่เหลือจากการแบงสรรกับเพื่อนมุงหนาลงใตเพียง ลําพัง... อานุชเลาวา พี่ดวงดาวไปซื้อสวนปาลมเล็ก ๆ แหงหนึ่ งไวท่ี พังงาและลงมือดูแลตนปาลมดวยตนเองรวมกับคนงานตั้งแตเชาจน เย็น “หนูวายายดาวมันบาแลว เฮียลงไปลากตัวมันขึน ้ มาดีกวา” อานุชบนพึมพํากับลุงเทียน ดวยความหวงใยหลานสาวคนโต “ขืนทําอยางนั้น มันจะไดอาละวาดบานแตกกันพอดี...”
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ลุงเทียนสายหนาอยางระอา “ที่ทําไดอยางเดียวตอนนี้ ก็รอแตใหมันเข็ดหลาบแลวเลิกรา ไปเอง” “หนูวาไมมีวันหรอก...”
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
อานุชถอนหายใจแรง ๆ “...คนอยางยายดาวตอใหมันเหลือเงินบาทเดียวในกระเปา มันก็ไมมีทางกลับมาเองเปนอันขาด”
งส อื
นํา ม
าให
“ไอเรามันคนมีเวรมีกรรม มีลูกผูชายก็ปอแปปวกเปยกเหมือน ติ้วออง สวนไอลูกผูหญิงก็เกงกลาจนเกินตัวเหมือนนางฮวนลิฮวย” ลุงเทียนรําพึงกับตัวเอง อานุชมองออกไปนอกหนาตาง... อาจจะนึ กถึงความ เหลาะแหละโลเลไมกลาตัดสินใจอะไรของพี่ระวี จนกระทั่งพี่สุวิตรา
ขา ย
กาวเขามามีอิทธิพล ทั้งในเรื่องงานและเรื่องภายในบาน...
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
หรือไมก็อาจจะคนหาชิเตงซันที่จะมากําราบนางฮวนลิฮวยอ ยางพี่ดวงดาว
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ในกระบวนพีน ่ อ งในบาน นอกจากพีช ่ าญชัยซึง ่ กอ เรื่องเดือดรอนเสียหายตาง ๆ นานาแลว ก็มีพ่ส ี ุวิตราอีกคนหนึ่ งซึ่ง อานุชเกลียดเขากระดูกดํา อานุชเปนคนแรกที่มองทะลุปรุโปรงถึงนิ สัยใจคอของหลาน สะใภคนนี้ ต้ง ั แตแรก ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นแทบทุกคนในบาน โดยเฉพาะ ยาเหมยหลิง ปาเปกกี้ ปาทรงศรี และปาอร กําลังหลงใหลไดปลื้ม ในความออนหวาน ชางประจบประแจงของพี่สุวิตราอยางแทบจะไม ลืมหูลืมตา “โอย คลื่นไสโวย”
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
อานุชเอะอะกับนองชายคนโปรด “อาว เจ ผิดสําแดงอะไรมา” อานนทวางปากกาลงบนแฟมที่วางอยูบนโตะและมองดูพ่ส ี าว อยางประหลาดใจ
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
“ยิ่งวันฉันก็ชักจะยิ่งทนไมคอยไดกับไอคนประเภทปากหวาน กนเปรี้ยว” “เดีย ๋ ว ใจเย็น ๆ กอน เจเลนบงเบงแบบนี้ ผมจับตนชนปลาย ไมถูก”
งส อื
นํา ม
าให
“เพราะแกคนเดียวที่ริเปนพอสื่อ ชักจูงแมน่ันเขามาใหอีตาระ วี” อานุชเสียงแหว “นี่ แกรูหรือเปลาวาเดีย ๋ วนี้ แมตุกตุนตุกตาอะไร ของแกน ะ เที่ยวไดแลนไปทั่วตึก เขาหองโนนออกหองนี้ แลวก็คาบ เรื่องอะไรตอมิอะไรไปเปาหูคนนั้นทีคนนี้ ที หน็อย ตีหนาซื่อ ๆ ไร เดียงสา ที่แทก็ตอหลดตอแหลไมมีใครเปรียบ” “โธเอย เรื่องยายตุกตานี่ เอง นึ กวาเรื่องอะไรใหญโต...”
ขา ย
อานนทเอนหลังพิงพนักเกาอี้ พรอมกับหัวเราะอยางนึ กขัน
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
“...เจก็เอาหูไปนาเอาตาไปไรเสียบางเถอะน า อยาไปใสใจ เรื่องไมเปนเรื่องเลย ยายตุกตาแกยังเด็กก็ประจอประแจไปตาม ประสาเด็ก ดีเสียอีกที่ชวยทําใหอามาแกไมเหงา” “ยะ ไมเหงา... ตอนนี้ นะอามาแกเพลิดเพลินกับเรื่องของชาว บาน จนแทบไมเปนอันทําอะไรแลว วัน ๆ ก็คอยแตเงี่ยหูฟงเรื่องที่ แมตุกตาเอามาเพ็ดทูล” “เอาน า...” อานนทโบกมืออยางไมสนใจ “...เจรําคาญเขานักก็ไปบอกใหระวีมันขยัน ๆ ขึน ้ หน อย พอมี ลูกมีเตาสักคนสองคน ก็ข้ค ี รานจะวุนจนไมมีเวลาวางไปทําอะไร” “...แกอยากบอกก็ไปบอกมันเอง
นฟ รี โ ปร ดอ
“ทะลึ่ง...” อานุชคอนขวับ เรื่องในมุงฉันไมแสดวยหรอกยะ”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
พีด ่ วงดาวทําสวนปาลมอยูพักหนึ่ง แตเมื่อราคานํ้ามัน ปาลม ตกฮวบ พี่ดวงดาวก็เลิกทําสวนปาลมหันมาปลูกบังกะโล เล็ก ๆ สี่หาหลังใหนักทองเที่ยวเชาพอเลี้ยงตัว และขึน ้ มากรุงเทพฯ แตละครั้งละคราวก็เพียงเพื่อติดตอธุรกิจกับบริษท ั ทัวร โดยไมมี ทีทาวาจะหวนกลับมาสูรมไมชายคาของตึกใหญตระกูลสือพาณิชย อีกเลย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
27.
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“สินทอง คอรปเรชัน” ของพีช ่ าญชัยเปนธุรกิจทีล ่ งทุน รวมกันระหวางบริษท ั ฝายไทยซึ่งมีปาเปกกี้เปนนายทุนใหญกับ บริษท ั ผลิตเสื้อผาเล็ก ๆ แหงหนึ่ งของฮองกง วากันวาในชั้นแรกนั้น บริษท ั ฮองกงเปนคนไดลิขสิทธิก ์ ารผลิตจําหน ายเสื้อผาและเครื่อง กีฬามาจากบริษท ั แมในฝรั่งเศสและเยอรมนี เพื่อสงออกสูตลาดใน ยานเอเชียตะวันออกเฉียงใต แตบริษท ั ที่วาไมมีกําลังความสามารถ จะผลิตไดเอง จึงติดตอผานมาทางปาเปกกี้เพื่อขอรวมทุนกับ ”นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” แตปาเปกกี้กลับเก็บเรื่องนี้ ไวพรอมกับมองหาชองทาง ที่จะดําเนิ นกิจการเสียเองอยางเงียบ ๆ เผอิญพี่ชาญชัยเกิดเรื่อง อื้อฉาวจนถูกปูส่ง ั ปลดออกจากตําแหน งรองผูจัดการใหญ ของ ”นัฐ กิจ อะ-ลา-โมด” ปาเปกกี้จึงแกหนาใหลูกชายดวยการตั้งบริษท ั “สิน ทอง คอรปเรชัน” ขึน ้ แทบจะในทันทีทันใด
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
บริษท ั “สินทอง คอรปเรชัน” เปดตัวอยางเอิกเกริก มีงานเลี้ยง แถลงขาวใหญโตหรูหราที่โรงแรมแอมบาสเดอร โดยปาเปกกี้และ พี่ชาญชัยสงบัตรเชิญพอคา นักธุรกิจ และคนในวงการสิ่งทอไปรวม มากมาย แตไมมีใครสักคนในตึกใหญของตระกูลสือพาณิชยท่ไี ดรับ เชิญใหไปรวมงาน
งส อื
นํา ม
หลังจากนั้นอีกเพียงสามเดือน สินคาที่ “สินทองฯ” ไดลิขสิทธิ ์ มาก็เริ่มทยอยออกสูตลาดตามเคานเตอรในหางสรรพสินคาทั่วไป... และไมทราบวาเปนความจงใจหรือไม แตเคานเตอรของ “สินทองฯ”
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
จะตองตั้งประกบกับเคานเตอรของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” แทบทุก ราน ทั้งเนนการจําหน ายสินคาที่คุณภาพและรูปแบบคลายคลึงกัน แตตัดราคาตํ่ ากวา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ในชวงแรกที่ “สินทองฯ” ออกโรง ก็สงผลใหยอดขาย ของ“นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ตกลงอยางเห็นไดชัด... มิไยที่ใครตอใคร จะพากันเปนเดือดเปนแคนกับการกระทําของปาเปกกี้กับพี่ชาญชัย แตปูและลุงนัฐก็ยังคงวางทาเหมือนทองไมรูรอน ปูวา... “การคาขายถาไมมีคูแขงขันก็เหมือนกับการเดินทางเพียง ลําพังบนหนทางเปลี่ยว และไมวาจะเปน ‘นัฐกิจ’ หรือ ‘สินทองฯ’ เมื่อมองไปแลวก็ลูกหลานเราทั้งนั้น” สวนลุงนัฐเพียงแตหัวเราะหึ ๆ พลางจิบเหลาเงียบ ๆ โดยไม พูดอะไร ในเรื่องที่ทุกคนตางตั้งอกตั้งใจคอยฟงอยู แตในความเงียบเชียบนั้น ลุงนัฐก็ใชจะสงบนิ่ งใหใครตอใคร ตอตีอยูฝายเดียว เพราะชั่วเวลาไมก่อ ี าทิตยตอมา เสื้อผาสําเร็จรูป ของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” หลายแบรนดก็เปดคอลเลกชันใหม ปรับ คุณภาพสินคาใหสูงขึน ้ และจําหน ายในราคาแพงกวาเดิม โดยมุง ลูกคาที่มีรสนิ ยมและมีกําลังซื้อ... ทั้ง ๆ ที่ใครตอใครพากันวิตกวิธีการของลุงนัฐจะพาให สถานการณของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ทรุดลงไปอีก แตกลับปรากฏ วาทุกคอลเลกชันตางไดรับความนิ ยมอยางคาดไมถึง ทั้งเปนการดึง เกรดสินคาของ “นัฐกิจ” ใหสูงกวา “สินทองฯ” โดยที่อีกฝายหนึ่ งไม กลาจะเขยิบราคาตามหรือเปดคอลเลกชันใหม
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
หลังจากถูกลุงนัฐกําราบในคราวนัน ้ แลว “สินทองฯ” ที่ ตอนแรกทําทาจะพุงแรงก็กลับออนเปลี้ยลง มิไยที่ปาเปกกี้จะ ทุมเทเงินทองลงไปอีกตั้งมากมาย แตก็ดูเหมือนวาบริษท ั ของแกกับ ลูกชายจะกลายเปนโองกนรั่ว ที่ไมมีวันรองนํ้าไดเต็ม ซึ่งแมเคยบอก ฉันวา สาเหตุหนึ่ งเปนเพราะเสื้อผาของ “สินทองฯ” ที่บริษท ั ฮองกง เปนคนเลือกแบบ ไมถูกกับรสนิ ยมของคนไทย กับอีกสาเหตุหนึ่ ง เนื่ องมาจากรานคาทั่วไปตั้งขอรังเกียจพฤติการณของ “สินทองฯ” ซึ่งพยายามจะหักโคน “นัฐกิจ” ทั้ง ๆ ที่เปนพี่นอ งรวมแซเดียวกัน สถานการณของ “สินทอง คอรปเรชัน” ยิ่งแยลงไปอีก เมื่อถูก หางรานหลายแหงถอนเคานเตอร พรอม ๆ กับที่บริษท ั ฮองกงซึ่ง เปนหุนสวนก็ถอนหุนออกไปเมื่อมองเห็นวา อนาคตของตนในเมือง ไทยไมสดใสอยางที่คิด
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ถึงตอนนี้ ปาเปกกี้กับพี่ชาญชัยถึงกับเดินทางไปยุโรปและ อเมริกาเอง เพื่อติดตอขอลิขสิทธิบ ์ ริษท ั เสื้อผาและเครื่องกีฬามา ผลิตดวยตัวเอง แตก็ดูเหมือนวาบริษท ั ใหญ ๆ ทั้งหลายจะถูกกวาน ซื้อลิขสิทธิไ์ ปหมดแลว... ยาเนี ยมเลาวา ปาเปกกี้หมดเงินไปกับ “สินทองฯ” หลายสิบ ลานบาท แมเงินจํานวนแคน้ันจะไมถึงกับทําใหขนหนาแขงแกรวง แตก็ทําใหปาเปกกี้เสียหนา วาไมสามารถทํากิจการคาอยางที่ญาติ ฝายสามีทําใหประสบความสําเร็จได ปาเปกกี้ลมเจ็บลงหลังจากลมเหลวในการเดินทางไปติดตอ เรื่องเสื้อผาที่เมืองนอก... เปนการเจ็บของคนที่ไมมีอาการปวยไข ทางรางกาย วันทั้งวันแกเอาแตนอนซึมอยูบนเตียง ไมพูดไมจากับ ใคร และบางครั้งจะสงเสียงกรีด ๊ ออกมาโดยไมมีเหตุผล ทําใหไมมี ใครเขาหนาแกติด ปูเฝาดูเหตุการณ◌ท่เี กิดขึน ้ กับปาเปกกี้อยูเงียบ ๆ ไมมีคํา ตําหนิ ติเตียนหรือเปรียบเปรยเยยหยันในเรื่องตาง ๆ ที่ผานมา จะมี ก็แตเพียงสายตาที่เปยมไปดวยความปรานี เทานั้น แลววันหนึ่ งปูก็เรียกพี่ชาญชัยมาคุยกันเพียงลําพัง... ไมมีใครรู วาทั้งสองคนตกลงกันวาอยางไรบาง แตวันรุงขึน ้ ปูก็เปดประชุม
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
กรรมการบริหารบริษท ั “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” เพื่อขอความเห็นชอบ ในการแลกหุนจํานวนหนึ่ งของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” กับหุนจํานวน หาสิบเอ็ดเปอรเซ็นตของ “สินทอง คอรปเรชัน” ซึ่งไมมีใครสักคน เห็นดวย แตปูก็ยังคงยืนกรานอยางไมยอมเลิกลมความตั้งใจ พอเลาวา การประชุมวันนั้นนับเปนครั้งแรกที่ลูกหลานซึ่งเปน กรรมการบริษท ั รวมหัวกันโตแยงกับปูอยางหัวชนฝา ในขณะที่ปู โตตอบอยางใจเย็นแตก็ม่น ั คงในความคิดของตัวเอง “พอก็รูวา พี่เปกกี้กับชาญชัยตั้งไอบริษท ั บาบอนั่นขึน ้ มาทําไม จุดประสงคท่แ ี ทจริงของสองคนนั่นก็คือหาทางโคนลม ‘นัฐกิจ อะลา-โมด’ โดยตรง ถึงตอนนี้ ถา ‘สินทองฯ’ มันจะลมละลายขายตัวก็ ไมใชธุระกงการอะไรของ ‘นัฐกิจ’ ที่จะตองยื่นมือเขาไป ประคับประคอง”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อานุชเอ็ดตะโรเสียงลั่น “ผมจะไมพูดถึงเบื้องหนาเบื้องหลังของ ‘สินทองฯ’ แตจะขอพูด ในเทอมของธุรกิจโดยตรง...” คุณบุลภักดิ-์ รองผูจัดการใหญ ‘นัฐกิจ อะ-ลา-โมด’ ซึ่งนั่งฟงอยู เงียบ ๆ มาตั้งแตตนแทรกขึน ้
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“ลักษณะที่ทานวาก็เหมือนกับ ‘นัฐกิจ’ เขาไปเทกโอเวอร ‘สิน ทองฯ’ กลาย ๆ ในขณะที่บริษท ั นั้นเปนบริษท ั เล็กที่เพิ่งเปดดําเนิ น กิจการ และกําลังอยูในสภาพที่งอนแงนเต็มที่ รวมทั้งไมมีช่ อ ื เสียง หรือความสลักสําคัญอะไรเลย การแลกหุนกับ ‘สินทองฯ’ นอกจาก ทําใหเราตองทุมเงินเขาไปอัดฉีดแลว ยังเทากับเปนการเอาเครดิต ของเราเขาไปสนับสนุนบริษท ั นั้นใหฟนตัวขึน ้ มาอีก ซึ่งก็ไมแน ใจวา ในอนาคต ‘สินทองฯ’ อาจเติบโตเปนคูแขงของเราอยางจริงจังก็ได” “นั่นแหละคือสิ่งที่เราพยายามบอกกับทุก ๆ คน ในวันนี้ ...” ปูเอนหลังพิงพนักเกาอี้ พลางทอดสายตาที่เริ่มจะฝาฟางมองดู ลูกหลานที่น่ังอยูในหองนั้น “...จะชั่วจะดีอยางไร ไอ ‘สินทองฯ’ นั่น มันก็แตกหน อออกมา จาก ‘นัฐกิจ’ เหมือนกับที่ท้ง ั เปกกี้และชาญชัยก็เปนคนหนึ่ งใน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตระกูลสือพาณิชย... ที่ตระกูลเราและกิจการคาของเรายั่งยืนมาจน ถึงทุกวันนี้ ได ก็เพราะลูกหลานแตละคนเปนเสมือนไมไผแตละลําที่ รวมกันเขาเปนกอใหญ จนยากที่ใครจะคิดหักโคนได แตหากเรานิ่ ง ดูดายใหไผลําใดลําหนึ่ งแมจะเปนไผท่ล ี อดกอออกไปก็ตามถูกตัดทิ้ง อีกไมนานไผท้ง ั กอใหญก็คงจะคอย ๆ บางตาลงจนถูกทําลายไดโดย งายดาย” ปูลวงมือลงไปในกระเปากางเกง และหยิบเหรียญบาทสมัย รัชกาลที่ 6 ซึ่งพกติดตัวอยูตลอดเวลาขึน ้ มาลูบคลําเลนชา ๆ ในมือ ขวา
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“ลําพังเรื่องเงินทุนของ ‘สินทองฯ’ เปกกี้มันก็คงมีปญญาหามา เติมได หรือจะใหเราเองควักกระเปาใหมันอีกสักยี่สิบสามสิบลานก็ ไมใชปญหาอะไร แตมันก็จะไมเหมือนกับการที่พ่น ี อ งชวยเหลือ กันเอง อยางที่เรากําลังขอให ‘นัฐกิจ’ ชวย ‘สินทองฯ’ เวลานี้ ” ปูหันไปทางคุณบุลภักดิ ์ “สําหรับเรื่องการแขงขันหรือชิงดีชิงเดน ก็เปนเรื่องธรรมดา ของการคา แตถาพี่นอ งคาขายแขงกัน ผลกําไรมันก็ตกอยูแคใน บานไมกระเด็นไปทางไหน”
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
พอเลาวา แมจะไมมีใครเห็นดวยกับความคิดของปูนก ั แตในที่สุด “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” กับ “สินทอง คอรปเรชัน” ก็มีการ แลกหุนกันโดย “ นัฐกิจ” เขาไปถือหุนในบริษท ั “สินทองฯ” หาสิบ เอ็ดเปอรเซ็นต และ “สินทองฯ” เขามามีหุนใน “นัฐกิจ” สิบหก เปอรเซ็นต
งส อื
นํา ม
ความตกลงดังกลาวมีผลใหลุงนัฐกาวเขาไปเปนผูจัดการใหญ ของ “สินทองฯ” ขณะเดียวกันที่พ่ช ี าญชัยกลับเขามาในบริษท ั “นัฐ กิจ อะ-ลา-โมด” อีกครั้งหนึ่ งในฐานะกรรมการบริหารบริษท ั โดยอาศัยความสามารถของลุงนัฐและชื่อเสียงของ “นัฐกิจ” ผลักดันให “สินทองฯ” ฟนตัวขึน ้ มาใหมอยางรวดเร็ว ในชั้นแรก “สิน
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ทองฯ” เพียงแตรับออเดอรในการผลิตเสื้อผาสําเร็จรูปจากบริษท ั เสื้อผาในอเมริกา และยุโรปบางประเทศ ตอมาก็หันมาผลิตเพื่อการ สงออก แตก็เปนชวงเดียวกับที่มีขาววา ยุโรปและอเมริกาเริ่มจํากัด โควตาสิ่งทอจากเมืองไทย ซึ่งจะสงผลกระทบมาถึง “สินทองฯ” โดย ตรง ในขณะที่ทุกคนกําลังเดือดเนื้ อรอนใจกับขาวนี้ และวิ่งเตนหา ทางผอนคลายวิกฤตการณส่ง ิ ทอกันอยางอลหมาน จู ๆ ก็ปรากฏวา พี่ชาญชัยประกาศเทหุนสี่สิบกวาเปอรเซ็นตท่เี หลืออยูใน “สินทอ งฯ” ออกขาย ทําใหสถานการณของ “สินทองฯ” ในสายตาของคน ภายนอกตกตํ่ าลงไปอีก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
พีช ่ าญชัยรวบรวมเงินทีไ ่ ดจากการขายหุนใน “สินทอ งฯ” กับเงินสดอีกสวนหนึ่ งของปาเปกกี้ไปเปดบริษท ั “ยูเนี ยน ชา เตอร และคอมมอดิตี” ขึน ้ ปลอยใหลุงนัฐเผชิญชะตากรรมและ ดิ้นรนหาทางออกใหกับ “สินทอง คอรปเรชัน” เพียงลําพัง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
28.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ในชวงทีล ่ ุงนัฐยุงอยูกับการเขาไปบริหาร “สินทอง คอรปเรชัน” นั้น คนที่ไดรับมอบหมายใหดูแลรับผิดชอบงานบาง สวนของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” แทน ก็คือคุณบุลภักดิ ์ ซึ่งเปนที่ ยอมรับกันโดยทั่วไปถึงความสามารถและการตัดสินใจที่ถูกตองฉับ ไวของแก อันสงผลดีแกบริษท ั “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ในหลาย ๆ เรื่อง และบุคคลอีกคนหนึ่ งที่พลอยไดรับคําชมเชยเปนอยางมากในการ มองการณไกลที่ดึงคุณบุลภักดิเ์ ขามารวมงาน ตลอดจนผลักดันให กาวขึน ้ ดํารงตําแหน งสําคัญใน “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ก็ไดแกอานนท
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
อานนทน้ันไมเคยรูจักคุณบุลภักดิเ์ ปนการสวนตัวมากอน ถึง แมวาทั้งสองคนจะชอบเลนกอลฟเหมือนกัน แตก็อยูกันคนละกวน และตีกันคนละสนาม และจนกระทั่งทุกวันนี้ ท้ง ั คูก็ไมเคยลงเลนดวย กันเลย... แตฉน ั คิดวาที่อานนทกับคุณบุลภักดิไ์ มตีกอลฟดวยกันในตอน นี้ น้ันน าจะมีสาเหตุมาจากเรื่องอื่น โดยเฉพาะอยางยิ่งคือเรื่อง ผูหญิงที่ช่ อ ื ปริยาภรณ
งส อื
การทีค ่ ุณบุลภักดิจ ์ ะไดเขามาอยูใน “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” นัน ้ มีเรื่องเลากันวา วันหนึ่ งคุณบุลภักดิไ์ ดรับเชิญใหไปพูดเรื่อง
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เกี่ยวกับ “อนาคตของธุรกิจไทยในทศวรรษหนา” หรืออะไรทํานอง นี้ ที่สมาคมอุตสาหกรรมไทย หรือสมาคมไหนซักแหงฉันก็จําไมได แน แตท่จ ี ําไดก็คือคําพูดของคุณบุลภักดิใ์ นวันนั้นเปนที่ฮือฮากัน มาก เพราะแกโจมตีระบบญาติพ่น ี อ งอุปถัมภ หรือการบริหารงาน กันภายในครอบครัวของธุรกิจไทยซึ่งแกเรียกวา “ไดนัสตี บิสซิเนส” วาเปนจุดออนสําคัญที่ทําใหธุรกิจการคาของไทยมีโครงสรางที่ เปราะบางและไมเติบโตเทาที่ควร ทั้งทํานายวาในชวงสิบปขางหนา เมื่อพอคาและนักธุรกิจอาวุโสเสียชีวิตหรือวางมือไปจากวงการแลว สิ่งที่จะเกิดขึน ้ คือ การแกงแยงชวงชิงอํานาจกันในหมูญาติพ่น ี อ ง แบบที่เรียกวา “ศึกสายเลือด” และตามมาดวยการลมสลายของ อาณาจักรธุรกิจ คําพูดที่ตรงไปตรงมาของคุณบุลภักดิ ์ กอใหเกิดปฏิกิริยาอยาง กวางขวาง บางคนกลาวหาวาแกแชงชักผูหลักผูใหญและกิจการคา ของตน ในขณะที่บางคนกลาวหาวาแกพูดดวยความอิจฉาริษยา เพราะตัวเองไมไดเกิดมาในครอบครัวที่ทําธุรกิจการคา... อยางไรก็ ตาม คําพูดของคุณบุลภักดิก ์ ็ตรงกับใจของอานนท ซึ่งตองการจะ เห็น “นัฐกิจโกศล” มีการบริหารงานในรูปแบบของการจัดองคกรที่ ทันสมัย พอดีกับตําแหน งรองผูจัดการใหญของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” วางลง เนื่ องจากพี่ชาญชัยถูกปูปลดออก อานนทจึงชักชวนใหคุณบุ ลภักดิล ์ าออกจากงานธนาคารที่ทําอยู มารับตําแหน งใหมแทนพี่ ชาญชัย ทามกลางเสียงคัดคานจากปู และญาติพ่น ี อ งคนอื่น ๆ ที่ไม เห็นดวยกับการเอาคนนอกตระกูลมานั่งเกาอี้ ผูบริหารระดับสูงของ บริษท ั แตอานนทก็ใชความอดทนในการเกลี้ยกลอมใหทุกคน ยอมรับในความคิดของตนจนเปนผลสําเร็จ
งส อื
นํา ม
สําหรับเรื่องราวของอานนทกับปริยาภรณนน ั้ เปนสิง ่ ที่ ไมเคยมีใครคาดหมายมากอนวาจะลงเอยในลักษณะอิหลักอิเหลื่อ อยางที่เปนอยูในปจจุบัน ทั้งยังเปนเรื่องที่นําความขมขื่นมาสูคน หลายคนที่มีสวนเกี่ยวของดวยเปนอยางมาก...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ปริยาภรณ หรือที่บางคนยังติดปากที่จะเรียกเธอวา ปรียา ตามชื่อเดิม เขาทํางานกับ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ในหนาที่พนักงาน ขายเสื้อผาสําเร็จรูปประจําเคานเตอรของบริษท ั ตามหางสรรพ สินคา ฉันเคยไดยินพี่สุวิตรานิ นทาวาพื้นเพของปริยาภรณมาจาก สลัมตลาดพลู พอเปนคนจีน มีอาชีพรับจางซอมรางนํ้าแตก็ติดเหลา งอมแงม สวนแมซ่ง ึ เปนคนไทยเปนแมคาขายของแบกะดินจําพวก ไมหนี บผา เข็มกลัดเปนพวง ๆ และกิบ ๊ ติดผมอยูตามหนาตลาดสด ฉันไมรูวาพี่สุวิตราอุตสาหไปสืบเสาะเรื่องนี้ มาไดอยางไร และ ไมวามันจะเปนเรื่องจริงหรือไม แตปริยาภรณก็เปนคนคลองแคลว กิริยาทาทางตลอดจนการพูดจาและการแตงเนื้ อแตงตัวราวกับคน ที่ผานการฝกอบรม หรือมาจากครอบครัวที่ดีพอสมควร ซึ่งสิ่งเหลา นี้ อาจจะเปนอยางที่อานุชเคยเอยชมวา ปริยาภรณเปนคนฉลาด และรูจักที่จะปรับปรุงตัวเองก็เปนได แมเลาวา อานุชเปนคนที่ดึงปริยาภรณจากเคานเตอรของ “นัฐ กิจอะ-ลา-โมด” ในหางไดมารูใหเขามาประจําแผนกประชาสัมพันธ ของบริษท ั เนื่ องจากมองเห็นแววและหน วยกาน ซึ่งปริยาภรณก็ สามารถทํางานในหนาที่ใหมน้ี ไดดี จนในที่สุดก็ไดรับการเลื่อนขึน ้ เปนหัวหนาแผนกนั้นภายในเวลาไมถึงป แตตอนนี้ หากใครพูดจาแสดงความชื่นชมปริยาภรณใหไดยิน อานุชเปนตองเอ็ดตะโรขึน ้ มาทันที... “โอย ทําไมแมคนนี้ ถึงไดเสน หแรงนัก นี่ ถารูแตแรกวาจะมี เรื่องวุนวายไมรูจักจบจักสิ้น ขนาดพี่นอ งถึงกับตัดเปนตัดตายกันละ ก็ จางใหฉน ั ก็ไมอุตริไปฉุดมันขึน ้ มาจากเด็กขายของหนาเคานเตอร หรอกยะ” ฉันไมรูวาปริยาภรณมีเสน หแรงขนาดไหน แตคนที่ตกหวง เสน หของเธออยางรุนแรงคนแรกก็คือพี่ระวี... ตอนนั้นพี่ระวียังไม ไดแตงงานและเกาะแจอยูกับอานนท แตถึงแมท้ง ั สองคนจะติดกัน ราวกับฝาแฝดอิน-จัน จนอานนทแทบจะปลีกตัวไปไหนตามลําพัง ไมได แตก็บอยครั้งที่พ่ร ี ะวีแอบแวบหรือหาเหตุแวะไปที่สํานักงาน ของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” เพียงคนเดียว และมักจะใชเวลาอยูท่น ี ้ันนา
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
น ๆ ซึ่งก็ไมมีใครผิดสังเกตอะไร เพราะโดยตําแหน งผูชวยผูจัดการ ของ “นัฐกิจการทอ” ของพี่ระวี ในขณะนั้นก็มีเรื่องที่จะติดตอกับ “นัฐ กิจ อะ-ลา-โมด” ซึ่งเปนลูกคาสําคัญอยูเปนประจํา ตอหลายปตอมา จึงเปนที่รูกันวาที่พ่ร ี ะวีเทียวไลเทียวขื่อ สํานักงาน “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ในตอนนั้น ก็เพราะแอบไปติดใจ ประชาสัมพันธคนสวย แตก็ไมกลาพอที่จะเปดเผยความรูสึกในใจ ของตัวเองออกมาใหฝายหญิงทราบ จนกระทั่งถูกอานนทเปนพอสื่อ พอชักสนับสนุนใหแตงงานกับพี่สุวิตรา ดวยเหตุผลเพียงเพื่อที่ตัว อานนทเองจะไดทําตัวเปนเพลยบอยไดอยางอิสระ ปราศจากแฝด คนละฝาอยางพี่ระวีคอยเปนกางขวางคอ ฉันจําไดวา แมเคยพูดถึงเรื่องนี้ กับปาเปกกี้วา หากจะมีใครสัก คนที่ควรจะเปนคนผิดในเหตุการณท่เี กิดขึน ้ ในครั้งนั้น คนคนนั้นก็ ควรที่จะเปนตัวของพี่ระวีเองที่มัวแตเหลาะแหละโลเลไมกลาตัดสิน ใจอะไร แมกระทั่งในเรื่องที่มีความสําคัญอยางยิ่งตอชีวิตและ อนาคตของตัวเอง และเชื่อฟงความคิดเห็นของอานนทจนเกินไป ถึง ขนาดที่ยอมตกลงแตงงานกับผูหญิง ซึ่งตัวเองไมไดรักใครจริงจังได ลงคอ แตอยางไรก็ตาม การแตงงานระหวางพี่ระวีกับพี่สุวิตราก็กอ ใหเกิดผลกระทบกับใครตอใครหลายคนโดยไมคาดฝน โดยเฉพาะ อยางยิ่งกับตัวของอานนทซ่ง ึ เปนเจาความคิดในเรื่องนี้ แตไหนแตไรมาแลวที่อานนทมองเห็นพี่สุวิตราเปนเด็ก กะโปโลและนองสาวตัวเล็ก ๆ ของเพื่อน แมวาพี่สุวิตราจะมีทา ชอบพออานนทอยูไมนอ ย และคงจะนึ กนอยใจอยูครามครันที่ถูก อานนทมองขาม และทําเหมือนยัดเยียดตนเองใหกับคนอื่น
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
แมวาการที่พ่ส ี ุวิตราตกลงใจแตงงานกับพี่ระวีในครั้งนั้น จะถูก อานุชกลาวหาวาเพราะความเห็นแกเงิน แตปาอรเคยพูดในเชิง เห็นใจวา สาเหตุท่แ ี ทจริงน าจะเปนเพราะถึงแมพ่ส ี ุวิตราจะรูอยูเต็ม อกวาอานนทท่ต ี ัวแอบปองรักจะไมไดรักตัว แตก็ขอเพียงใหไดมี โอกาสอยูใกล ๆ รวมสกุลและรวมชายคาเดียวกัน ซึ่งความเห็นของ ปาอร ลุงนัฐเอาแตยิ้มและพูดสั้น ๆ วา... นํ้าเน าสนิ ท
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แตไมวาใครจะคิดอยางไร สิ่งที่เปนจริงอยูอยางหนึ่ งก็คือ ชีวิต แตงงานของพี่ระวีกับพี่สุวิตราไมไดผาสุกรมเย็น สมกับที่ปูอุตสาห จัดงานใหอยางเอิกเกริกแมแตนอ ย ทั้งคูดูจะมีแตเรื่องระหองระแหง และชางหาเหตุมาทุมเถียงกันอยูเปนประจํา บางครั้งรอนถึงปาทรง ศรีตองลงมาหามปราม และหากคราวใดที่พ่ร ี ะวีเอะอะอาละวาด มากนัก พี่สุวิตราก็จะแลนไปฟองยาเหมยหลิง ซึ่งเปนผลใหพ่ร ี ะวีถูก ยาเหมยหลิงเรียกไปดุดาวากลาวอยูบอย ๆ และการทะเลาะเบาะแวงของผัวเมียคูน้ี ยิ่งทวีความรุนแรง และเผ็ดรอนขึน ้ เมื่อเกิดเรื่องของอานนทกับปริยาภรณ...
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ชวงทีล ่ ุงนัฐมัวแตยุงอยูกับ “สินทอง คอรปเรชัน” และ คุณ “ บุลภักดิก ์ าวเขามามีบทบาทมากขึน ้ ใน นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” นั้น ความสัมพันธระหวางคุณบุลภักดิก ์ ับปริยาภรณก็พลอยเพิ่มขึน ้ ดวย แมวาคุณบุลภักดิจ์ ะมีครอบครัวแลว แตก็มีคนเห็นแกกับ หัวหนาแผนกประชาสัมพันธคนสวยของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ไป ไหนตอไหนดวยกันสองตอสองเสมอ พรอมกับมีขาวซุบซิบวาคุณบุ ลภักดิก ์ ับปริยาภรณมีอะไรกัน และฝายชายกําลังหาทางที่จะเลิก กับภรรยาเพื่อมาแตงงานกับฝายหญิง... แตจนแลวจนรอดขาวลือ เรื่องหลังก็ไมมีอะไรคืบหนา ในขณะที่ขาวลือเรื่องแรกดูจะกลาย เปนเรื่องจริงจัง จนเจาตัวทั้งสองไมอาจปฏิเสธไดเต็มปากเต็มคํา และทําใหปริยาภรณตกอยูในสภาพของเมียนอยคุณบุลภักดิอ ์ ยาง หลีกเลี่ยงไมพน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ในตอนนั้นคนที่เปนทุกขเปนรอนกับเรื่องนี้ มากที่สุดเห็นจะ ไดแกพ่ร ี ะวี... พอเลาวา พี่ระวีถึงกับวิ่งโรไปฟองลุงนัฐเพื่อขอให เรียกคุณบุลภักดิม ์ าตักเตือนหามปราม “ฉันไมใสใจกับไอเรื่องบาบอคอแตกแบบนี้ หรอกเวย...” ลุงนัฐเอ็ดหลานชายเสียงลั่น “...ใครอยากจะกินจะนอนกับใครก็เรื่องของเขา ตราบใดที่ยัง
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ทํางาน ทําเงินใหบริษท ั ได จะหัวหกกนขวิดจนสุดลิ่มทิ่มประตูยังไงก็ ตามแตใจ” พอวา ไมรูวาพี่ระวีพูดอะไรถึงไดทําใหลุงนัฐซึ่งปกติใจเย็นยัง กับนํ้าแข็ง ถึงกับดาเปดเปง “ทั้งบุลภักดิท ์ ้ง ั ปรียามันก็คนของฉัน เรื่องอะไรแกถึงตองมา เสือกดวย... หน็อย เมียเขาแท ๆ ยังไมเห็นเดือดเนื้ อรอนใจอะไร แก เองก็ไมไดเกี่ยวไดของอะไรดวยซักหน อย ดันผามาวุนวายไมเขา เรื่อง เมียตัวเองก็มีไมเห็นจะหวงใยรักใครซักเทาไหร ทีผูหญิงอื่นละ ก็ทําตัวเปนหมาหวงกาง”
ขณะเดียวกับทีพ ่ ร ี่ ะวีเดือดรอนทุรนทุรายกับเรื่องของ ชาวบานนั้น คนที่มีความสุขที่สุดในเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเปนพี่สุวิ ตรา... มีหลายคนไดยินพี่สุวิตรากระทบกระเทียบเปรียบเปรยปริ ยาภรณใสพ่ร ี ะวีอยูบอย ๆ ยิ่งพี่ระวีแสดงกิริยาฮึดฮัดหรือโมโห โกรธาเทาไหร ก็ดูพ่ส ี ุวิตราจะยิ่งพออกพอใจมากขึน ้ เทานั้น
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ฉันเชื่อวาแทบทุกคนคงเคยไดยินคําพูดที่วา “คนหัวเราะทีหลัง ดังกวา” แตเรื่องปริยาภรณท่ฉ ี น ั จะเลาใหฟงตอไปนี้ บางทีอาจจะมี แตคนที่รองไหทีหลัง โดยไมมีใครไดหัวเราะแมแตแอะเดียวก็เปน ได
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
29.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ความสัมพันธอันอื้อฉาวระหวางคุณบุลภักดิก ์ ับปริยา ภรณดําเนิ นไปทามกลางเสียงซุบซิบของผูคน และปลายปากกา ของนักเขียนคอลัมนขาวสังคม แตคุณพรรณี-ภรรยาคุณบุลภักดิย ์ ัง คงใชกลยุทธอยางที่เรียกกันในสํานวนจีนวา “ความสงบสยบความ เคลื่อนไหว” แมจะมีหนังสือพิมพบางฉบับเจาะไปสัมภาษณถึงเรื่องนี้ คุณพรรณีก็ทําเปนเสพูดเรื่องอื่น เหมือนไมไดใหความสลักสําคัญ ตอเรื่องราวที่เกิดขึน ้ หรือมองเห็นผูหญิงอยางปริยาภรณอยูใน สายตา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
ฉันไมรูวาความสัมพันธของคุณบุลภักดิก ์ ับปริยาภรณซ่ง ึ ยืดเยื้อมาเกือบสองปยุติลงไดอยางไร บางคนวาคุณบุลภักดิเ์ ปนคน เลิกราจากฝายหญิงเพราะสํานึ กผิดและเกิดความเห็นอกเห็นใจลูก เมีย แตบางคนก็วาปริยาภรณเปนคนตีจากมาเอง เมื่อเห็นวาไมมี หนทางที่จะชวงชิงฝายชายมาจากภรรยาเกาได... อยางไรก็ตาม มีบางเสียงพูดวาอานนทเปนสาเหตุสําคัญที่ทํา ใหคุณบุลภักดิแ ์ ยกทางจากปริยาภรณ ซึ่งขอกลาวหานี้ คนที่รูจัก อานนทดีพากันพูดเปนเสียงเดียวกันวา อานนทนาจะเขามายุงใน เรื่องนี้ หลังจากที่ท้ง ั สองคนนั่นเลิกของเกี่ยวกันแลว ฉันเคยไดยินลุงนัฐพูดในทํานองยืนยันกับยาเนี ยมเมื่อตอนที่ เกิดเรื่องขึน ้ ใหม ๆ “คนอยางไอนนทมันไมสิ้นคิดถึงกับตองแยงเมียใครหรอก
นํา ไป
ขา ย
ลําพังแคมันอยูของมันเฉย ๆ ผูหญิงทั้งสาวทั้งโสดซิง ๆ ก็ว่ง ิ ไลจับ มันออกควั่ก” “ไดยินอยางนี้ แมก็คอยสบายใจขึน ้ มาบาง...”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
ยาเนี ยมถอนหายใจหนัก ๆ แตสีหนายังคงเต็มไปดวยริ้วรอย ของความกลัดกลุม “...แตยังอดแปลกใจไมไดก็ตรงที่วา นนทเองมันก็ยังหนุมทั้ง แทง ทําไมถึงไดไปกินแตงเถาตาย สาวแสก็มีใหเลือกออกถมกลับ มาหลงเสน หแมมายแมรางฉาวโฉ” “ของอยางนี้ มันก็พูดยากนะแม...” ลุงนัฐเปนฝายถอนใจบาง “...บางคนก็ชอบของสดบางคนก็ชอบของคาว... ก็แบบปลารา น ะคนชอบก็วาหอม ไอท่ไี มชอบก็วาเหม็น ตางจิตตางใจกัน” “กรรมของฉันแท ๆ” ยาเนี ยมยกผาเช็ดหนาขึน ้ ซับนํ้าตาที่เริ่มซึมออกมาจากขอบตา “แมอยาคิดอะไรมากเลย...” ลุงนัฐปลอบโยน
รด อ
“...บางทีนนทมันอาจจะเพียงแคลุมหลงไปชั่วครูช่ว ั ยามก็ได”
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
แตดูเหมือนวาการคาดคะเนของลุงนัฐจะหางไกลจากความ เปนจริง เพราะจนถึงทุกวันนี้ อานนทกับปริยาภรณก็ยังคงอยูกิน ดวยกันอยางเปดเผยโดยไมมีทีทาวาจะเลิกรางกัน
งส อื
นํา ม
าให
ทันทีทเี่ รื่องอานนทกับปริยาภรณแยมพรายขึ้น พีร ่ ะวีก็ แทบ จะคลั่งยิ่งขึน ้ ไปกวาตอนที่คุณบุลภักดิม ์ ีอะไรกับปริยาภรณ เสียอีก อานุชเลาวา พี่ระวีบ่ง ึ รถจาก “นัฐกิจการทอ” ที่พระประแดง ไปหาอานนทท่ส ี ํานักงานของ “นัฐกิจโกศล” ที่สวนมะลิในลักษณะที่ มึนเมา เมื่อไปถึงก็เดินฝาพวก “ปศาจพันตา” ผลักประตูหองทํางาน
ขา ย
ของอานนทเขาไปโดยแรง
นํา ไป
“อาวระวี ไปกินเหลาที่ไหนมาแตเชา” อานุชซึ่งกําลังนั่งคุยอยูกับอานนทรองทักหลานชาย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“อาอยูก็ดีแลว ผมมีเรื่องจะพูดกะไอด็อกมันหน อย” พี่ระวีเรียกอานนทอยางเยาแหยวา “ไอด็อก” มาตั้งแตอานนท เรียนจบไดปริญญาเอกวิชาบริหารธุรกิจมาจากอเมริกาใหม ๆ “เฮย นั่งกอนซิ...” อานนทช้ม ี ือไปที่โซฟาขาง ๆ ตัวที่อานุชนั่งอยู
อน ํ าม าให ้อ่า
“...เอากาแฟรอน ๆ แกเมาคางสักแกวกอนไหม” “กูไมไดเมา มึงไมตองมายุงกับกู”
นฟ รี โ ปร ดอ
พี่ระวีโงนเงนโบกมือไปมา ใบหนาแดงกํ่ าดวยฤทธิเ์ หลาและ ไฟอารมณท่ป ี ะทุอยูภายในอก “ไอน่ี มาแปลก...” อานนทหัวเราะกับพี่สาว พลางถอนกลองยาสูบจากปาก
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“...เอา มีอะไรก็วามา” “ไอด็อก...” พี่ระวีเดินเซไปเทาแขนกับขอบโตะทํางานของเจาของหอง พรอมกับชะโงกหนาเขาไปใกล “...กูถามสักคําวามึงกับปรียามีอะไรกันอยางที่คนเขาลือหรือ เปลาวะ” “เฮย วันนี้ มันอะไรกันวะ...”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
อานนทโวยวาย พลางกระแทกตัวกับพนักเกาอี้อยางเหนื่ อยใจ “...ใครตอใครถึงไดสนอกสนใจเรื่องนี้ กันนัก นี่ กูเพิ่งอธิบายให เจเขาฟงไปหยก ๆ มึงก็โผลเขามาอีก” “แลวมันจริงหรือเปลาเลา” พี่ระวีตะคอก
ขา ย
“ก็จริงซิยะ ฉันตอบแทนใหเองก็ได”
นํา ไป
อานุชแทรกขึน ้ มาอยางรําคาญทาทางคาดคั้นเอาเปนเอาตาย ของหลานชาย
ี โป รด อย ่า
คํายืนยันจากปากของอานุชทําใหพ่ร ี ะวีน่ิ งขึงไปชั่วครู ดวงตาที่ ชํ้าแดงทอประกายปวดราว กรามขบกันเปนสันนูน มือทั้งสองขาง เกร็งแน น กอนจะระเบิดคําพูดออกมาดวยเสียงที่ดังและสั่นสะทาน
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“ไอหะ มึงทําอยางนี้ ไดยังไงวะ มึงทําไดยังไง...” โดยที่ไมมีใครทันคาดคิด พี่ระวีก็โถมตัวขามโตะไปกระชากตัว อานนท และขยุมมือลงบนลําคอของอีกฝายหนึ่ ง อานนทดิ้น ขลุกขลักขณะพยายามแกะมือพี่ระวี แตไมรูวาพี่ระวีเอาเรี่ยวแรงมา จากไหน มือทั้งสองขางนั้นเกร็งแน นเขาจนอานนทตาเหลือก
นฟ รี โ ปร ดอ
“ระวีน่ี แกจะบาหรือไงนะ” อานุชเผนเขาไปดึงตัวพี่ระวีดวยความตกใจในเหตุการณท่เี กิด ขึน ้ ตอหนา
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“...ดูซินนทมันหายใจหายคอไมออกแลว เดีย ๋ วก็ไดขาดใจตาย กันพอดี” “ใหมันตายโหงตายหาไปจริง ๆ ก็ดี” พี่ระวีคํารามในคอและมองดูอานนทซ่ง ึ เพิ่งดิ้นหลุด และถอย ไปยืนหอบอยูหลังโตะทํางานดวยสายตาที่เคียดแคน
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
“เอาละ ๆ มีอะไรก็คอย ๆ พูด คอย ๆ จากันก็ได” อานุชดึงตัวหลานชายมาที่โซฟาและผลักใหน่ังลง “อาคิดดูนะ ไอด็อกมันทํากับผมขนาดไหน...” พี่ระวียกมือขึน ้ เสยผมแรง ๆ ทาทางยังไมคลายจากอาการ ฮึดฮัด
งส อื
นํา ม
“...เสียแรงที่ผมกับมันรักใครกันมาตั้งแตเล็กจนโต สงเสริม มันกลับถีบหัวสง” “กูถีบอะไรมึง”
แทนที่จะ
ขา ย
อานนทจัดปมเนกไทใหเขาที่พลางทิ้งตัวลงบนเกาอี้แรง ๆ
นํา ไป
“...มึงก็เห็นแลววาบุลภักดิเ์ ขาทําให ‘นัฐกิจ อะ-ลา-โมด’ เจริญ ขึน ้ ยังไง”
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“แตมึงก็นาจะใหโอกาสกูบางซิเวย” พี่ระวีทําทาจะลุกขึน ้ มาอีก รอนถึงอานุชตองรีบเขาไปกั้นกลาง “เอาน า เรื่องมันแลวไปแลวจะมาฟนฝอยหาตะเข็บกันทําไม” “มันไมแลวหรอกอา... ถาไมเพราะไอด็อกไปดึงไอหมอนั่นเขา มาปรียาก็คงไมตองไถลถลากอยางนี้ ...”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พี่ระวีทําทาเหมือนจะพูดอะไรตอ แตแลวก็น่ิ งไป อานนทมองดูญาติท่เี ปนเหมือนเพื่อนสนิ ทดวยสายตาที่ คลางแคลงแตก็ไมไดพูดอะไรออกมา...
าให ้อ่า
อานุชเลาวา นับตั้งแตเชาวันนั้นเปนตนมา ทั้งอานนทและพี่ระ วีตางก็มึนตึงตอกัน และสถานการณย่ง ิ เลวรายลงไปอีก เมื่อพี่สุวิ ตราโดดเขามารวมวงดวยอีกคน
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
แมวาอานนทจะยอมรับความสัมพันธทม ี่ ีกับปริยาภรณ จนถึงขั้นซื้อคอนโดมิเนี ยมราคาหลายลานบาทใหอยู แตตัวอานนท เองก็ยังคงพักอยูท่ต ี ึกใหญ โดยไมไดแยกตัวออกไปอยูกับฝายหญิง ตามลําพังนอกจากจะแวะไปคางคืนบางเปนครั้งเปนคราว
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ปูกับยาเนี ยมมองดูพฤติกรรมของอานนทดวยสายตาที่แสดง ความอึดอัดใจ แตก็ไมกลาที่จะหยิบยกเรื่องนี้ ขน ึ้ มาพูดอยางเปน เรื่องเปนราว เพราะเกรงวาการยอมรับหรือปฏิเสธลูกสะใภเถื่อน คนนี้ จะสงผลถึงการสูญเสียลูกชายคนโปรดใหกับปริยาภรณอยาง ถาวร แตคนที่ลงมือตอสูดิ้นรน เพื่อดึงอานนทมาจากปริยาภรณ อยางแข็งขันกลับเปนพี่สุวิตรา...
ขา ย นํา ไป
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
มีหลายคนสังเกตเห็นวา พีส ่ ุวิตราดูซึมเศราลงมากเมื่อ ทราบขาวเรื่องอานนทกับปริยาภรณ ขณะเดียวกันก็มีเรื่องทะเลาะ เบาะแวงกับพี่ระวีหนักขึน ้ กวาเดิม พี่นภิศเลาใหฉน ั ฟงวา แอบไดยินพี่สุวิตรากับพี่ระวีทะเลาะกัน แตนาประหลาดใจที่เรื่องที่คนทั้งสองทะเลาะกันกลับเปนเรื่องที่ เกี่ยวของกับอานนทและปริยาภรณ...
นฟ ร
พี่สุวิตราวา...
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“ฉันอยากรูวาแมน่ันมันมีดีอะไรของมันนัก ผูชายถึงไดหลงกัน จนหัวปกหัวปา ขนาดถูกทิ้งถูกขวางก็ยังมีคนรีบวิ่งเขาไปอุมชู ประคับประคอง สงสารแตไอท่ไี ปไมทันเขาก็ไดแตน่ังหนาแหงชะแง มอง” “แลวตัวของตัวเองน ะวิเศษนักหรือ...” พี่ระวีกระแทกเสียง
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“...อยานึ กนะวาฉันไมรูวา เธอเครซีไอด็อกมันขนาดไหน ที่มา แตงงานกับฉันก็เพราะถูกไอเวรนั่นปดมาใหพนหูพนตามัน สม นี่ คง ใสตะกราลางนํ้ากันหลายตอหลายเที่ยว ถึงไดมาปนหนาวางทาวา ตัวเองบริสุทธิผ ์ ุดผองไดจนทุกวันนี้ ” “ไอ... ไอ...”
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
พี่นภิศเลาวา พี่สุวิตรากรีดรองและรัวเสียงดาพี่ระวีอยางที่พ่ี นภิศเองก็คิดไมถึงวาคําพูดหยาบคายแบบนั้น จะหลุดมาจากปาก ของผูหญิงทาทางละเมียดละไมออนโยนอยางพี่สุวิตราได “ออกไปใหพนจากหองฉันเดีย ๋ วนี้ นะ”
งส อื
นํา ม
พี่สุวิตราตะโกนไลเจาของหอง ตามมาดวยเสียงเพลงของ แจกันกระเบื้องกระทบพื้น “พอฉันคลอยหลังเธอจะไดไปเอาไอด็อกเขามากกแทนใชไหม ละ”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พี่ระวีถามอยางเยยหยัน พรอมกับกระแทกประตูใสหนาพี่สุวิ ตรา... ทิ้งหองหอไวกับเสียงสะอื้นอยางคั่งแคนของภรรยา
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
30.
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
แมจะรูอยูเต็มอกวาอานนทรับแรงแข็งขอบปริยาภรณ อยางออกหนา แตพ่ส ี ุวิตราก็ทําเหมือนไมยอมรับรูอะไรทั้งสิ้นใน เรื่องนี้ และยังคงแสดงทาทางไรเดียงสากับอานนทเหมือนอยางที่ เคยเปนมาตั้งแตกอนที่จะมาแตงงานกับพี่ระวี... ซึ่งทุกครั้งที่เจอกัน พี่สุวิตราเปนตองรี่เขาไปเกาะแขนอานนทเหมือนเด็ก ๆ และประจอ ประแจชวนคุยนั่นคุยนี่ ไมหยุดปาก โดยไมแครตอสายตาและเสียง ซุบซิบนิ นทาของใครตอใคร มิไยที่แมจะเคยเตือนดวยความหวังดี พี่ สุวิตราก็ทําหูทวนลมพูดอยูแตวาตนเองนับถืออานนทเหมือนพี่ชาย แท ๆ เมื่อกอนนี้ ก็สนิ ทสนมกันอยางนี้ ถึงตอนนี้ จะทําตัว เปลี่ยนแปลงไปไดอยางไร แลวตัวเองก็บริสุทธิใ์ จเสียอยางไมเห็น จะตองไปสนอกสนใจกับพวกปากหอยปากปูท่ช ี อบคิดไปในทาง อกุศล
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
แมไดแตสายหนาในคําตอบของพี่สุวิตรา และพึมพําวา “ซักวันเถอะ อากับหลานคูน้ี คงไดขัดใจกันเพราะมารยาหญิง เหมือนอยางที่ลิโปทะเลาะกับตัง๋ โตะเรื่องนางเตียวเสี้ยน” การคาดการณของแมนับวาเปนสิ่งที่ถูกตอง ถึงแมวาตาม ความเปนจริงแลว เรื่องนี้ จะมีเตียวเสี้ยนถึงสองคนก็ตาม เปนที่รูกันทั้งตึกใหญวา พี่สุวิตราทุมเทความพยายามอยาง เต็มที่ในการจะดึงอานนทออกมาจากปริยาภรณใหได ทํานองไมได ดวยเลหก็เอาดวยกล ไมไดดวยมนตรก็ดวยคาถา
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
และแมวาหลายคนในตึกจะไมสูพออกพอใจกับการกระทําของ พี่สุวิตรานัก แตก็แกลง ๆ เอาหูไปนาเอาตาไปไร ตราบใดที่การ กระทําของพี่สุวิตรายังไมหนักหนาสาหัส หรือน าเกลียดเกินกวา เหตุ ทั้งนี้ ก็ดวยความหวังวา หากพี่สุวิตราทําสําเร็จเราก็อาจจะได อานนทคืนมาจากปริยาภรณ ซึ่งทุกคนลงความเห็นวาไมเหมาะที่จะ เปนสะใภของตระกูลสือพาณิชยดวยประการทั้งปวง ศึกชิงอานนทท่ม ี ีพ่ส ี ุวิตราเปนเสมือนตัวแทนของตระกูลเรา ดําเนิ นไปอยางดุเดือดและยอกยอน ทามกลางการเอาใจชวยอยูหา ง ๆ ของสมาชิกในครอบครัวสือพาณิชย
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
จะเวนเสียก็แตพ่ร ี ะวี ที่ถึงแมจะไมพอใจแตก็ไมออกโรงมา เอะอะอาละวาดเหมือนอยางทุกครั้งที่เห็นพี่สุวิตราทําทาอีอ ๋ อกับ อานนท แตเฝาดู เหตุการณท่ด ี ําเนิ นไปอยางเงียบ ๆ ทํานองที่เรียก กันวา “นั่งอยูบนภูดูเสือกัดกัน” ดวยสายตาที่วาดหวังอะไรบาง อยางอยูลึก ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
กลยุทธประการแรกของพีส ่ ุวิตราก็คือ การหาทางไม ใหอานนทมีโอกาสหลบไปคางคืนกับปริยาภรณบอยนัก... ฉันคิด วาหลายคนอาจจะพอจําไดวา เมื่อสองสามปท่แ ี ลว มีอยูพักหนึ่ งซึ่ง “นัฐกิจโกศล” และครอบครัวเราขยันจัดงานตาง ๆ กันเหลือเกิน แทบจะเรียกไดวาเดือนหนึ่ ง ไมตํ่ากวาสองสามครั้ง นี่ ยังไมรวมงาน ที่ไมไดออกขาวอีกมากมาย และแตละงานจะมีอานนทเปนพระเอก เดี่ยว ถาไมเปนประธานหรือรองประธานจัดงาน ก็ตองเปนแขก เกียรติยศคอยจับฉลาก หรือแจกรางวัลตอนดึก ๆ ใกลงานจะเลิก และงานแบบนี้ ปริยาภรณมักจะไมอยูในรายชื่อที่ไดรับเชิญ หนําซํ้า พอวันรุงขึน ้ ก็จะมีภาพของอานนทถายคูกับสาวสวย คนนั้นคนนี้ พรอมคํากระเซาเยาแหยเล็ก ๆ ปรากฏตามหนาคอลัมนขาวสังคม หนังสือพิมพ วิธีการของพี่สุวิตราออกจะเปนเรื่องขี่ชางจับตัก ๊ แตน เพราะ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
นอกจากสิ้นเปลืองเงินทองโดยใชเหตุแลว อานนทกับปริยาภรณก็ ยังคงรักใครกันดีไมมีทีทาวาจะหวั่นไหวไปตามขาวซุบซิบอยางที่พ่ส ี ุ วิตราคาดหมาย เมื่อแผนแรกไมประสบผลสําเร็จ พี่สุวิตราก็รอคอยเวลาที่ อานนทเดินทางไปตางจังหวัดหรือตางประเทศหลาย ๆ วัน เพื่อ ปลอยขาววาระหวางที่อานนทไมอยูน้ัน ปริยาภรณแอบออกเดทกับ ผูชายคนอื่น ขาวแบบนี้ เมื่อคํานึ งถึงนิ สัยของปริยาภรณแลวก็ออกจะฟงดู น าชวนเชื่ออยูไมนอ ย แตก็นาประหลาดใจที่อานนทกลับไมปลงใจ เชื่อเอาเสียเลย... ซึ่งลงทายแลวทําใหหลายคนลงความเห็นวาที่ เปนเชนนี้ เพราะอานนทหลงผูหญิงจนหูหนวกตาบอด ถึงตอนนี้ พี่สุวิตราก็เริ่มตระหนักวา “หากไมเขาถํ้าเสือไฉนจะ ไดลูกเสือ” และลงมือเปดแนวรบกับปริยาภรณโดยตรง...
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ตึกใหญของตระกูลสือพาณิ ชยทต ี่ รอกจันทนนน ั้ คน สวนมากมักจะมองวาเปน “ปอมทองแดงกําแพงเหล็ก” ซึ่งยากที่ ใครจะคิดตอตีหรือหักดานเขาไปได เพราะนอกจากปูซ่ง ึ เปนเสมือน แมทัพใหญผูเจนจบในตํารับพิชัยยุทธของซุนหวูแลว ยังแวดลอม ดวยลูกหลานที่ลวนแลวแตไดช่ อ ื วา เปนยอดขุนพลและยอดวีรสตรี ที่เกงกาจสามารถ
าให
้อ่า
หน ั งส
หากมองกันแตแงมุมนี้ ก็สมควรที่จะเปนเรื่องน าชื่นชม แตปูมัก จะพูดอยางถอมตัวเสมอวา... “ตระกูลเราเปนเพียงตระกูลเล็ก ๆ การคาที่เราทําก็เปนเพียง กิจการเล็ก ๆ นอย ๆ ไมอาจยกไปเปรียบเทียบกับใครได”
งส อื
นํา ม
ขณะเดียวกันก็เรงรัดใหลูกหลานขยันทํางานยิ่งขึน ้ และอดออม ยิ่งขึน ้ ไมชะลาใจหรือใชจายเงินทองอยางฟุมเฟอย ปูวา...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“คนเราตองเอาอยางมด อยาไปเอาอยางหนอน เพราะมดนั้น ถึงมันจะตัวเล็กนิ ดเดียว แตก็ขยันขันแข็งสามารถลากเหยื่อชิ้นใหญ ๆ ไดสบาย แตถึงกระนั้นมันก็กลับกินอาหารแตนอ ยจนเอวคอดกิ่ว ผิดกันกับหนอนซึ่งเกียจครานเอาแตกินทั้งวันโดยไมทํางานทําการ อะไรจนตัวอวนอุยอาย ผลสุดทายก็กลายเปนเหยื่ออันโอชะของนก ของปลา” ปูย้ า ํ วา “การทําการคาหรือทําอะไรก็ตามขอใหเลือกทําแตส่ง ิ ที่สะอาด เหมือนอยางมดที่เลือกกินแตของสะอาดและอยูในที่ท่ส ี ะอาด อยา มักงายหรือเห็นแกไดอยางหนอนที่อยูท่ก ี ินไดแมกระทั่งในสวม” คําสอนของปูในเรื่องนี้ เปนสิ่งซึ่งลูกหลานในตระกูลแทบทุกคน ถือปฏิบัติมาโดยตลอด และอาจจะเปนสิ่งหนึ่ งซึ่งทําใหกิจการคา ของเราเปนที่เชื่อถือโดยทั่วไปมาแตไหนแตไร จะมีก็แตเพียงพี่ชาญชัยที่ไมไดใสใจกับคําพูดของปูมาแตไหน แตไร... พี่ชาญชัยเคยพูดกับปาเปกกี้วา “วงการธุรกิจการคาทุกวันนี้ คับแคบลงกวาแตกอน ชองทางที่ จะทํามาคาขายแบบสบาย ๆ เหมือนคนรุนเกาก็นับวันแตจะลดนอย ถอยลง ดังนั้น หากใครมีวิธีการอะไรที่จะสามารถทําใหตัวเอง สามารถเอาชนะคูแขงขันและยืนหยัดอยูในวงการไดก็ตองงัดออก มาใชกันทุกรูปแบบ... คนสมัยนี้ ไมมีใครเขามานั่งคิดกันแลววาคน นั้นคนนี้ รํ่ารวยขึน ้ มาดวยวิธีใด...ความสําเร็จของนักธุรกิจรุนใหม เขาวัดกันที่ใครจะรวยเร็วกวาใคร” ดังนั้นจึงไมนาประหลาดใจที่บริษท ั “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอม มอดิตี” ของพี่ชาญชัยจะทําทุกวิถีทางเพื่อใหบรรลุเจตนารมณดัง กลาว โดยไมคํานึ งถึงความชอบมาพากลหรือความผิดถูกใด ๆ ทั้งสิ้น
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พีช ่ าญชัยวางมือจาก “สินทอง คอรปเรชัน” ทีต ่ ัวเอง สรางขึ้นมากับมือ เมื่อบริษท ั นั้นตกอยูในฐานะลําบากเนื่ องจาก มาตรการจํากัดการนําเขาสิ่งทอจากเมืองไทยของอเมริกาและยุโรป และปลอยใหลุงนัฐดิ้นรนแกไขสถานการณท่เี กิดขึน ้ กับ “สินทองฯ” เพียงลําพัง สวนตัวเองนําเงินที่ไดจากการขายหุนทั้งหมดผสมกับ เงินอีกสวนหนึ่ งซึ่งไดจากปาเปกกี้มาเปด “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอม มอดิตี” ขึน ้ บริษท ั ใหมของพี่ชาญชัยทําธุรกิจกึ่ง ๆ ทรัสต “แบบนัฐกิจ หลักทรัพย” แตระดมเงินฝากอยางกวางขวาง โดยใหผลประโยชน ตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยที่สูงกวาธนาคารพาณิชยและ อัตราที่กฎหมายกําหนด ทั้งจายดอกเบี้ยกันในระยะสั้นเปนราย สัปดาห หรือสองอาทิตย คลายกับการเลนแชรรายวันที่พวกแมคา ตามตลาดสดนิ ยมเลนกัน สวนคอมมอดิตีก็เปนการเก็งกําไร ลวงหนาจากราคาพืชผลที่สําคัญในตลาดตางประเทศ ทํานองการ เลนหุนประเภทหนึ่ ง
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
การใหผลตอบแทนที่คอนขางสูงและในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทําใหผูคนแตกตื่นแหกันเอาเงินมาลงทุนกับ “ยูเนี ยน ชาเตอร และ คอมมอดิตี” อยางมากมาย วากันวาบางคนคลั่งไคลถึงขนาดจํานอง บานชอง หรือขายรถขายราเพื่อเอาเงินมาลง และก็วากันวาพี่ชาญ ชัยไดเงินจากกิจการนี้ เปนจํานวนมหาศาล ไมมีใครรูวาพี่ชาญชัยเอาเงินที่ไดมานี้ ไปทําอะไร และทํา อยางไรจึงสามารถจายดอกเบี้ยแกลูกคาอยางไมอ้น ั ...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
บางก็วาแกเอาไปใหพวกพอคากูในอัตราดอกเบี้ยที่คอนขางสูง เนื่ องจากในชวงนั้นรัฐบาลใชมาตรการจํากัดการปลอยเงินเชื่อของ ธนาคารพาณิชย ทําใหพวกพอคาและนักธุรกิจเจาของกิจการขนาด ยอมตองวิ่งหาเงินกูจากแหลงอื่น เพื่อพยุงธุรกิจของตนโดยยอม เสียดอกที่แพงกวาปกติ บางก็วาแกทุมเงินที่อยูในมือออกไปซื้อทองคําเพื่อดึงใหราคา ในตลาดสูงขึน ้ แลวปลอยขายเอากําไรในภายหลัง หรือไมง้น ั ก็ใช ปนหุนในตลาดหุนที่ฮองกง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แตบางคนวาแกรวมมือกับผูมีอิทธิพลบางคนลงทุนในกิจการที่ ไมเปดเผยบางอยาง ไมวาใครจะคาดคะเนกันอยางไร แตท่แ ี น ๆ ก็คือ “ยูเนี ยน ชา เตอร และคอมมอดิตี” รุงเรืองเฟองฟูภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เงินทองไหลมาเทมาจากทุกสารทิศ ถึงขนาดที่พูดกันเลน ๆ ในตอน นั้นวากระทรวงการคลังพิมพธนบัตรออกมาเทาไหรก็ไมเพียงพอ เพราะคนขนมาใหพ่ช ี าญชัยหมด
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ขณะทีใ ่ ครตอใครพากันชื่นชมความสามารถของพีช ่ าญ ชัยอยูท่ว ั ไปนั้น ปูก็เฝามองดูหลานชายนอกคอกดวยสายตาวิตก กังวล และปรารภเปรย ๆ วา “ไอชาญชัยมันทําเหมือนจะวิดนํ้าทั้งทะเลโดยใชกังหันลมเล็ก ๆ เพียงตัวเดียว... หากลมยังแรงพอจะพัดกังหันใหหมุนอยูไดตลอด เวลาก็แลวไป แตวันใดที่ลมออนแรงหรือกังหันพังลง เมื่อนั้นนํ้าก็จะ ทะลักมาทวมตัวมันเองจมทะเลตาย” เมื่อคําปรารภของปูไดยินถึงหูพ่ช ี าญชัย พี่ชาญชัยก็เพียงแต หัวเราะแลวเฉยเสีย ราวกับตระเตรียมแผนการตาง ๆ ไวในใจ เรียบรอยแลว
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
31.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ตัง ้ แตฉน ั เล็ก ๆ มาแลว มักไดยินปูพูดอยูเสมอวา “แมน้ ําไหลลงสูท่ต ี ํ่ า สวนคนทะยานขึน ้ สูท่ส ี ูง” และยิ่งคนใน ตระกูลสือพาณิชยดวยแลว ก็ดูเหมือนตางคนตางทะเยอทะยานขึน ้ ไปสูท่ส ี ูงลิบลิ่วอยางไมหยุดยั้ง ซึ่งทําใหฉน ั อดเปนหวงพวกญาติ พี่นอ งไมได เมื่อนึ กถึงคําพูดของคนสมัยใหมท่ว ี า “ยิ่งสูงก็ย่ง ิ หนาว”
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
กิจการหลักของตระกูลเราในชวงหลัง พอแบงออกได เปนสามประเภทใหญ ๆ คือ บริษท ั หลักทรัพย บริษท ั สิ่งทอ และ บริษท ั ผลิตเครื่อง อุปโภคบริโภค ซึ่งปูมักจะเปรียบเทียบวา “นัฐกิจ หลักทรัพย” เปนเสมือนสวนหัว “ นัฐกิจการทอ” เปนประหนึ่ งลําตัว และ “สหนัฐกิจ” ซึ่งผลิตและจําหน ายเครื่องอุปโภคบริโภคตาง ๆ เปนดังแขนขาและมือเทา ซึ่งประกอบกันเขาเปน “นัฐกิจโกศล”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ในกระบวนกิจการทั้งสามอยางนั้น การผลิตเครื่องอุปโภค บริโภคเปนงานที่ปูหันมาจับทําหลังสุด โดยเพิ่งจะมาลงมือในราว พ.ศ. 2518-2519 ซึ่งเปนชวงที่เศรษฐกิจและการเมืองเมืองไทยอยู ในสภาพผันผวนจนนักธุรกิจหลายคนถอนตัวออกไปจากวงการคา หรือไมกลาที่จะลงทุนอะไรเพิ่มเติม แตปูกลับเดินสวนทางกับ ความคิดเหลานั้น ดวยการเขาเทกโอเวอรโรงงานสองสามแหง และ
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ผลิตสบูถูตัว ผงซักฟอก และยาสีฟน ออกขายในราคาถูก เพราะถือ คติท่ว ี า “พอคาที่ดีไมใชจะตักตวงหาผลกําไรอยางเดียว แตตอง ชวยเหลือใหลูกคาอยูรอดดวย” กับตองการสรางความมั่นใจใหพวก ลูกจางและคนงานเห็นวา ไมวาจะเกิดอะไรขึน ้ ปูก็จะขอตายอยูกับ แผนดินนี้ โดยไมยอมหอบเงินทองหนี พวกเขาไปไหน... อานุชเลาวา การกระทําของปูในครั้งนั้น นอกจากทําใหพวกลูกจางและคนงาน ทุมเทกําลังกายและกําลังใจใหบริษท ั โดยไมมีการสไตรคหรือ เรียกรองอะไรตอมิอะไรอยางคนงานบริษท ั อื่น ที่กลายเปนโรค ระบาดอยูในเวลานั้นแลว ยังสงผลใหกิจการผลิตและจําหน าย เครื่องอุปโภคบริโภค กลายเปนธุรกิจที่เปนลํ่ าเปนสันซึ่งทําเงินให “นัฐกิจโกศล” เปนจํานวนมหาศาลในเวลาตอมาอยางไมคาดฝน ...และอีกสิ่งหนึ่ งซึ่งไมมีใครโดยเฉพาะอานุชคาดคิดมากอนก็ คือเมื่อปูต้ง ั บริษท ั “สหนัฐกิจ” ขึน ้ มาดูแลรับผิดชอบงานดานการ ผลิตและจําหน ายเครื่องอุปโภคบริโภคโดยตรงในตอนหลัง คนที่ปู เลือกใหมาเปนผูจัดการบริษท ั นี้ กลับเปนอานงพงาที่เพิ่งกลับจาก เมืองนอกเพียงไมก่อ ี าทิตย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
อานงพงาเปนลูกสาวคนเล็กของปูทเี่ กิดกับยามาลัย แม จะไมใชคนที่จัดอยูในขั้นสวยสะ หรือพูดอยางตรง ๆ ก็คือออกจะขี้ริ้ว ที่สุดในบรรดาพี่นอ งผูหญิงในตระกูลสือพาณิชย แตก็เปนคนคลอง มาตั้งแตเด็ก ๆ ชนิ ดที่วากันวาไมยอมปลอยใหใครมีเวลาพิจารณา รูปรางหนาตาไดทัน และเพราะความคลองทั้งกิริยาทาทางและคํา พูดคําจานี่ แหละ ทําใหปูตองตกกระไดพลอยโจนสงลูกสาวคนนี้ ไป เรียนตอวิชาประชาสัมพันธท่อ ี เมริกาทั้ง ๆ ที่ไมเคยเห็นดวยมาจน กระทั่งทุกวันนี้ อานงพงาไปเรียนเมืองนอกตั้งแตจบชั้น ม.ศ. 5 และใชชีวิตที่
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
นั่นเหมือนเด็กนักเรียนอเมริกันทั่ว ๆ ไป มากกวาจะเปนทายาทคน หนึ่ งของนายเหลียง สือพาณิชย... กลับจากเรียนหนังสือในตอนเย็น อานงพงาก็ทํางานพารทไทมตามรานอาหารฟาสตฟูดบาง รับจาง เลี้ยงเด็กบาง แลวเก็บเงินที่หาไดจากนํ้าพักนํ้าแรงเอาไวซ้ อ ื ขาวของที่อยากได หรือเปนทุนไปเที่ยวตามที่ตาง ๆ ตอนชวงฤดู รอน โดยไมเคยตองขอเงินเพิ่มพิเศษจากปู แมเลาวา อานงพงาเรียนหนังสืออยูในขั้นดี แมจะไมถึงกับ ฉลาดปราดเปรื่องอยางอานนท แตก็จัดวามีความรูความสามารถ ที่สุดในหมูญาติพ่น ี อ งผูหญิงดวยกัน เสียแตวาเปนคนที่ตัดสินใจ อะไรรวดเร็วไมคอยคิดหนาคิดหลังใหถวนถี่ และคอนขางจะดื้อดึง ซึ่งแมประการหลังนี้ พวกผูใหญจะพากันคอนวา เปนเพราะอานงพ งาคลอดกอนกําหนดตองอยูในตูอบที่โรงพยาบาลหลายเดือน เมื่อ กลับมาอยูบาน ยามาลัยก็ไมมีน้ ํานมใหลูกกิน อานงพงาจึงกินแต นมกระปองมาแตออนแตออก ทําใหด้ อ ื ดาเหมือนวัวเหมือนควาย... แตแมกลับยิ้มแบบที่พ่น ี ภิศเรียกวา “กึ่งเยยกึ่งเยาะ” และพูดวา ถา เปนอยางนั้นจริงพวกสือพาณิชยก็คงกินนมวัวนมควายกันมาตั้งแต ตนตระกูล เพราะไมเห็นใครสักคนในตระกูลนี้ ท่ไี มมีนิสัยดื้อดึง อานงพงาไปเรียนหนังสือที่อเมริการวมสี่ป ซึ่งในระหวางนั้น ไมคอยมีใครทางเมืองไทยทราบเรื่องราวหรือขาวคราวของแกมาก นัก เพราะถึงแมจะเปนคนชางพูดแตอานงพงาก็กลับไมใชคนชาง เขียน โดยเฉพาะเรื่องเขียนจดหมายดวยแลวยิ่งแลวใหญ ฉันจําได วาตลอดเวลาที่อยูอเมริกานั้น อานงพงาสงการดถึงฉันกับพี่นภิศ เพียงครั้งเดียวตอนที่แกไปเที่ยวดิสนี ยแลนด และขอความหลังโปส การดใบนั้นมีเพียงบรรทัดเดียววา “นภิศ-นภา สบายดีหรือเปลา... อาสบายดี” แตจดหมายที่ส้น ั กวานี้ และทําใหปูถึงกับตะลึง พูดอะไรไมออก ไปหลายวันก็คือ จดหมายที่อานงพงาเขียนมาถึงปูตอนที่เรียนอยู มหาวิทยาลัย ป 3 ซึ่งพวกเราแทบทุกคนยังจดจําไวแอบลอกันเวลา อยูลับหลังปูและอานงพงา ...จดหมายของอานงพงาที่มีมาถึงปูฉบับนั้น มีวา “พอ หนูจะ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
แตงงานเดือนหนา” แมเลาวา อานงพงาเขียนจดหมายในตอนกลาง เดือน และกวาจดหมายจะมาถึงเมืองไทยก็ตกเขาไปชวงอาทิตย สุดทายของเดือนนั้น... ปูว่ง ิ ควั่กหาทางที่จะติดตอกับลูกสาวคนเล็ก เพื่อยับยั้งการแตงงานในวัยเรียนกับผูชายที่ปูไมรูแมกระทั่งชื่อเสียง เรียงนาม แตอานงพงาก็นกรูพอที่จะหลบจากที่พักไปอยูเสียในที่ท่ี ไมมีใครสามารถตามตัวได... แมเลาวา ปูเดือดถึงกับจะลงทุนบินไป ลากตัวลูกสาวกลับมา แตยาเหมยหลิงหาม ปรามเอาไว และ ดูเหมือนจะเปนเพียงเรื่องเดียวที่แมพูดถึงยาเหมยหลิงดวยนํ้าเสียง ชื่นชมอยูในที
อน ํ าม าให ้อ่า
แมเลาวา วันนั้นยาเหมยหลิงอารมณดีเปนพิเศษถึงกับให คนใชมาตามแมขน ึ้ ไปกินนํ้าชาจีนในหองของแกบนตึกชั้นสาม พอดี กับปูเดินปง ๆ เขามาในหองดวยสีหนาไมสูดี
นฟ รี โ ปร ดอ
“เจีย ๊ ะเตกอนซิ” ยาเหมยหลิงเอยปากชวน พลางรินนํ้าชาจากปานลงในถวย กระเบื้อง ขณะที่ปูทิ้งตัวลงนั่งไขวหางบนเกาอี้ไมมะเกลือประดับมุก พรอมกับถอนหายใจแรง ๆ
รด อ
าให ้อ่า
“เห็นเขาวาลื้อจะไปยูไนเต็ดสเตท” ยาเหมยหลิงสงถวยนํ้าชา และทอดสายตาดูปูท่ย ี กถวยขึน ้ ซด โฮกเดียวหมด
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
ปูพยักหนาพรอมกับวางถวยลงบนโตะแรง ๆ “ลื้อไปแลวลื้อจะไดอะไรกลับมา” ยาเหมยหลิงเอื้อมมือไปหยิบกระติกนํ้ารอนจากโตะเล็กขางตัว และมองดูปูอยางรอคําตอบ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“ก็ลูกสาวอัว๊ ซิวะ” ปูกระชากเสียง “เด็กสมัยนี้ มันไมเห็นพวก เราอยูในสายตา นึ กจะทําอะไรมันก็ทําตามแตใจมัน หนังสือหนังหา ก็ยังเรียนไมทันจะจบ ริจะมีผัวแลว ไอผูชายนั่นก็เปนลูกเตาลูก เขียดมาจากไหนก็ไมรู อยู ๆ ก็พากันขึน ้ มาขี้รดหัวเรา” “ลื้อลืมไปแลวหรือวา ลูกผูชายจากบานไปรอยปก็ยังเปนคน ของตระกูล แตลูกผูหญิงพนชายคาชั่วคืนเดียวก็ทิ้งแซเดิม”
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ยาเหมยหลิงวางมืออวบอูมลงแตะปานนํ้าชา กอนจะคอย ๆ เปดฝากระติกและรินนํ้ารอนลงในปาน “...ถึงลื้อจะเอาตัวมันมาได มันก็ใชวาจะเปนคนแซเราแลว ซํ้ารายหากมันเกิดมีทองมีไสขน ึ้ มาลูกในทองก็เปนเด็กแซอ่ น ื อยูดี... เรื่องอะไรที่ล้ อ ื จะตองมานั่งเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียชาวบาน” ปูผงกศีรษะชา ๆ อยางไดคิด
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“เจีย ๊ ะเตอีกไหม” ยาเหมยหลิงถามเบา ๆ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
แมเลาวา ปูส่น ั หนาและผุดลุกขึน ้ เดินออกไปจากหองนั้นอยาง เชื่องชา แตม่น ั คงและเยือกเย็น
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
อานงพงาแตงงานทีส ่ ถานทูตไทยในวอชิงตัน โดยไมมี ญาติพน ี่ อ งในตระกูลสือพาณิชยแมแตสักคนเดียวเดินทางไปรวม พิธี แตดูเหมือนอานงพงาจะคาดการณเรื่องนี้ ไวลวงหนา และไม แครอะไร... เจาบาวของอานงพงาเปนลูกชายนายพลคนหนึ่ งที่ถูก พอแมสงไปเรียนเมืองนอกตั้งแตเล็ก วากันวาเปนผูชายที่รูปหลอ เจาชู ใชเงินเปนเบี้ย และเอาแตใจตัวเอง ซึ่งก็อาจจะเปนสาเหตุ สําคัญที่ทําใหชีวิตแตงงานครั้งแรกของอานงพงาจบลงชั่วระยะเวลา อันสั้น แตถึงกระนั้นก็ยังอุตสาหมีลูกชายคือนายรัฐ เปนพยานรัก และพยานรางดวยกันหนึ่ งคน อานงพงาหยาขาดจากสามีลูกชายนายพลอยางชนิ ดที่เรียก กันวากนหมอขาวยังไมทันจะดํา และทั้ง ๆ ที่อุมทองออน ๆ... อาน งพงากลับไปตั้งหนาตั้งตาเรียนหนังสืออยางเอาจริงเอาจัง แมวาปู ซึ่งเปนหวงลูกและหลานในทองจะขอรองใหเลิกเรียน และเดินทาง กลับเมืองไทย อานงพงาก็ไมยอมฟง พอเลาวา วันที่มหาวิทยาลัยมอบปริญญาเปนวันเดียวกับที่ อานงพงา คลอดนายรัฐ อาจารยและเพื่อน ๆ รวมคณะหอบ
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ปริญญามาให และแหกันมาเยี่ยมอานงพงาทั้งเสื้อครุย จนคนไข แตกตื่นกันทั้งโรงพยาบาล...ทุกวันนี้ บนโตะทํางานของอานงพงาที่ บริษท ั “สหนัฐกิจ” ยังมีรูปเจาตัวครึ่งนั่งครึ่งนอนอยูบนเตียงใน โรงพยาบาลที่อเมริกา มือหนึ่ งชูปริญญาบัตรสวนอีกมือหนึ่ งอุม ลูกชายไวแนบอก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ลุงนัฐเคยเปรียบเปรยปูกับลูกสาวทัง ้ สามคนเอาไววา... อานุชเปนลูกที่ปูรักมาก แตไมมีอะไรใหเปนที่นาสงสาร สําหรับอา นันทนาเปนลูกที่ปูสงสารที่สุด แตหมดสิ้นความรักไปนานแลว สวน อานงพงาเปนคนที่ปูท้ง ั รักและทั้งสงสาร แมจะไมมีใครรูวาคําเปรียบเปรยของลุงนัฐในเรื่องนี้ เปนความ จริงหรือไมประการใด แตหลาย ๆ คนก็เชื่อกันวา การที่ปูมอบ ตําแหน งผูจัดการ “สหนัฐกิจ” ใหอานงพงาหลังจากที่กลับจาก อเมริกาไดไมนานนั้น นอกจากความรูความสามารถของตัวอานงพ งาแลว ยังมีสาเหตุสืบเนื่ องมาจากความรักและสงสารที่ปูมีตอ ลูกสาวคนนี้ น่ันเอง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
32.
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เมื่ออานงพงากลับจากอเมริกาใหม ๆ นัน ้ ญาติพน ี่ อ งไม มีใครเขาไปยุงเกี่ยวดวย เพราะพวกผูใหญยังไมหายโกรธเคือง เรื่องที่แกผลีผลามแตงงานโดยไมปรึกษาหารือ หรือบอกเลาเกาสิบ ใหเปนเรื่องเปนราว ยาเนี ยมถึงกับออกปากวา “เด็กสมัยนี้ เห็นผู หลักผูใหญเปนหัวหลักหัวตอ” หนําซํ้าแตงกันไปไดไมทันไร ก็ตอง กลายเปนแมมายแมรางใหชาวบานซุบซิบนิ นทา สวนพวกเด็ก ๆ แมวาออกจะ “ทึ่ง” อานงพงาและ “เหอ” สมาชิกใหมของครอบครัว อยูไมนอ ย แตก็ไมมีใครกลาเขาไปใกล เพราะกลัวถูกผูใหญมอง คอนหรือแหนบเอาเจ็บ ๆ... อยางดีพวกเราก็แกลงหาเรื่องเลนไล จับหรือซอนหากันบนลานตึกชั้นสอง แลวคอย ๆ เลียบ ๆ เคียง ๆ ไปไลไปหากันแถว ๆ หองอานงพงา บางทีก็เกาะขอบหนาตางแอบ ดูอานงพงาหรือไมก็นายรัฐที่เอาแตนอนอุตุอยูในเปล
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ที่ฉน ั ยังจําติดตามาจนทุกวันนี้ คือ ภาพที่อานงพงาครึ่งนั่งครึ่ง นอน อยูบนเกาอี้โยกกลางหองในตอนสายวันหนึ่ งที่ฟามืดดวยเมฆ ฝน...อานงพงาอุมลูกชายพาดไวกับบาทอดสายตาไปยังทีวีท่เี ปดทิ้ง เอาไว ทั้ง ๆ ที่ในจอมีแตเพียงสัญญาณเปนเสน ๆ เตนระยิบกับ เสียงหึ่ง ๆ เหมือนใครบนอะไรงึมงํา... อานงพงานอนนิ่ งเหมือนรูป ปนอยูพักใหญ กอนจะคอย ๆ แหวกปกเสื้อคลุมแบบกิโมโนที่สวม อยูเปดทรวงอกใหเปลือยเปลา และประคองลูกชายลงแนบใบหนา เล็ก ๆ กับหนาอกของตน ทั้งที่ใหลูกหยานม แมต้ง ั แตกอนกลับเมือง ไทยแลว... ฉันยังจดจําปลายแดดที่ทอดเปนลําบาง ๆ ผานชอง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
หนาตางจับภาพเบลอ ๆ ของเด็กทารกที่คูตัวซุกหนาอยูกับอกแม อานงพงาลูบหัวลูกชายแผวเบาพลางโยกตัวชา ๆ อยูบนเกาอี้ ดอก ดวงเล็ก ๆ สีชมพูออนของลายเสื้อกิโมโนที่รุยรายลงจากชวงไหล ขาวสะอาดเหมือนภาพดอกซากุระรวงพรูกลางลานหิมะในปฏิทิน ญี่ปุนของพอ... ทาทางของอานงพงาเหมือนอยูเพียงลําพังในโลก และเปนโลกที่อานงพงาเปนเจาเขาเจาของแตเพียงผูเดียว
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
อานงพงาใชชีวิตชวงนัน ้ อยางงาย ๆ และไรจุดหมาย แทบทุกวันจะใสกางเกงชาวเขา สวมเสื้อมอฮอมเกา ๆ คีบรองเทา แตะฟองนํ้า กระเตงลูกชายผูกเอีย ๊ มแนบอกอยางที่อานุชคอน วา “ยายแมวบา” ออกไปเดินทอม ๆ ดูอะไรตอมิอะไรเรื่อยเปอยตาม ศูนยการคาตาง ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
คนที่เปนทุกขกับชีวิตของอานงพงามากที่สุดเห็นจะเปนยา มาลัย...ยามาลัยซึ่งปกติเปนคนเงียบ ๆ อยูแลว ดูจะยิ่งเงียบงันลง ไปอีก วันทั้งวันเอาแตน่ังกอดเขาเจาจุกไมยอมพูดยอมจากับใครแม แตอานรากร-ลูกชายหัวแกวหัวแหวน อยางดีก็เพียงพึมพํากับ ตัวเองวา “กรรมของเฮาแต ๆ ...ธัมโม สังโฆ มีลูกปูจายก็ใหเปนดูถูก มี ลูกปูหยิ่งก็ใหเปนดูแคลน” ตลอดเวลาเหลานั้น ไมวาใครจะพูดถึงอานงพงาอยางไร ปูก็ยัง คง เฝาดูลูกสาวคนเล็กอยูเงียบ ๆ โดยไมไดแสดงความรูสึกนึ กคิด อะไรออกมา ทําใหหลายคนพากันคิดวา ปูคงจะยังไมหายโกรธขึง ้ ลูกสาวคนนี้ ถึงขั้นไมยอมดูดําดูดี แตท่น ี าประหลาดใจก็คือ ปูยังคง สั่งใหจายเงินคาใชจายประจําเดือนใหอานงพงาเปนปกติ หนําซํ้า กลับเพิ่มสวนของหลานชายที่ตัวเองไมเคยยอมดูหนาดูตาใหอีกดวย ปูปลอยใหอานงพงาใชชี◌ิวิตตามใจชอบอยูพักหนึ่ ง กอนจะ เรียกตัวใหไปพบที่สํานักงานกลาง... พอเลาวา อานงพงาไปในชุด “แมวบา” ของแก เพียงแตไมไดกระเตงลูกชายไปดวย โดยไมย่ห ี ระ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตอสายตาของใครตอใคร... ปูส่ง ั ใหอานนทต้ง ั คําถามตาง ๆ กับอาน งพงาเหมือนกับการสอบสัมภาษณพนักงานใหมท่ว ั ไป โดยมีปูน่ัง เดนเปนประธานอยูหัวโตะ แวดลอมดวยเหลา “ปศาจพันตา” และผู บริหารบริษท ั ในเครือ “นัฐกิจโกศล” บางคน... พอเลาวา อานงพงา ถูกอานนทและใครตอใครลองภูมิรุมปอนคําถามตาง ๆ นานา เหมือนกับเปนนักศึกษาที่เสนอวิทยานิ พนธอะไรสักเรื่องหนึ่ ง แต อานงพงาก็สามารถคุมสติและใหคําตอบไดอยางฉาดฉานเกือบจะ ทุกเรื่องไป เมื่อการสอบสัมภาษณซ่ง ึ กินเวลานานเกือบสามชั่วโมง เสร็จสิ้นลงปูก็กราดสายตาไปรอบโตะ ซึ่งทุกคนตางก็พยักหนา อยางพึงพอใจ “นนทคิดวาอยางไร”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ปูหยุดสายตาที่ลูกชายคนโปรดที่ดํารงตําแหน งหัวหนา สํานักงานกลาง “Excellence” อานนทพนควันจากกลองยาเสน และเอนหลังพิงพนักเกาอี้ มองดูนอ งสาวตางแมเงียบ ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
เปนอันวาเรารับนงพงาเขาทํางานใน ‘นัฐกิจโกศล’ ปูสรุป “พอจะใหยายแมว เอย ยายนงทําหนาที่อะไรคะ” อานุชมองลอดแวน “ก็วาจะใหเขาดูแล ‘สหนัฐกิจ’...” ปูตอบดวยนํ้าเสียงเรียบ ๆ พลางยกถวยนํ้าชาขึน ้ จิบโดยไม สนใจในสีหนาของอานุช “...แตกอนอื่น ยายนงแกตองเลิกแตงเนื้ อแตงตัวบา ๆ บอ ๆ แบบนี้ เสียที” “หนูนึกวาที่บริษท ั นี้ เขาวัดคนกันดวยความรูความสามารถ มากกวา เครื่องแตงตัว”
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
อานงพงาสวนคําขึน ้ มาชนิ ดที่ทําใหผูใหญหลายคนนั่งคอแข็ง ไปตาม ๆ กัน “แกคงเคยไดยินที่เขาพูดกันวา แมวสีอะไรไมสําคัญขอใหจับ หนูได...” พอเลาวา ปูเอยขึน ้ ดวยนํ้าเสียงที่เปนปกติ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“...แตแกคงไมลืมวาสัญชาติแมวนั้นนอกจากจะจับหนูเกงแลว มันยังหมั่นเลียขนทําความสะอาดตัวเองอยูเสมอ ผูคนถึงไดเอ็นดู รักใคร...ตอใหมันจับหนูเกงเพียงไร แตปลอยเนื้ อปลอยตัวให สกปรกมอมแมม ใครที่ไหนเขาอยากจะใหมันเขาใกล... ที่น่ี ไมไดวัด คนดวยเครื่องแตงตัวก็จริงอยู แตท่อ ี ่น ื ที่แกไปตองติดตอทําการคา ดวย เขาไมเคยรูจักมักจี่กับแกมากอน เขาก็ตองวัดแกจากเครื่อง แตงตัวเปนสิ่งแรก ทําไมแกถึงจะปลอยใหการแตงเนื้ อแตงตัวของ แกมาบดบังความรูความสามารถของแก” อานงพงานิ่ งไปครูหนึ่ ง กอนพนมมือไหวปูอยางสํานึ กผิด
าให ้อ่า
“เอาเถอะ...” ปูผงกศีรษะชา ๆ ... ‘นัฐกิจโกศล’ ของเรามีแมว หลายสีหลายพันธ◌ุ และเราเองไมเคยสนใจอะไรในตัวมันนอกจาก เรื่องจับหนูเพียงอยางเดียว” “หนูอาจไมวิเศษวิโสอยาง ‘แมวใสรองเทาบูต’ ในนิ ทานฝรั่ง...”
ี โป
อื น ํ าม
นุช
และปรายตามองอา
รด อ
อานงพงายืดอกดวยทาทีม่น ั ใจในตัวเอง
าให
้อ่า
หน ั งส
ขาด”
นฟ ร
“...แตขอรับรองวาแมวแมวตัวนี้ จะไมทําใหพอผิดหวังเปนอัน
งส อื
นํา ม
“สหนัฐกิจ” นับเปนความคิดริเริม ่ ของปูทจ ี่ ะตัง ้ บริษท ั ใหมข้น ึ มาดูแลและควบคุมบริษท ั เล็กบริษท ั นอยที่ผลิตจําหน าย เครื่องอุปโภคบริโภคตาง ๆ ใหเปนเรื่องเปนราว... นอกจากสินคา ประเภทสบูหอม ผงซักฟอกยาสีฟน แชมพูสระผม ฯลฯ แลว ในตอน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
นั้นยังมีบริษท ั ผลิตบะหมี่สําเร็จรูป และขนมปงบิสกิตเล็ก ๆ อีกดวย อยางไรก็ตาม เมื่อรวบกิจการทั้งหมดเขาดวยกันแลว “สหนัฐกิจ” ก็ กลายเปนบริษท ั ยักษใหญขน ึ้ มาเทียบเคียงกับ “นัฐกิจหลักทรัพย” และ “นัฐกิจการทอ” ทีเดียว... ดังนั้น นับตั้งแตปูมีดําริท่จ ี ะตั้งบริษท ั ใหมน้ี ขน ึ้ มา จึงมีใครตอใครหลายคนมุงหวัง และชวงชิงแขงขันกันที่ จะเขาเปนผูจัดการบริษท ั นี้ แตท่ผ ี ิดคาดก็คือปูกลับแตงตั้งใหอานงพ งาซึ่งเพิ่งกลับมาเมืองไทยเพียงไมก่อ ี าทิตย หนําซํ้ายังเคยกอเรื่อง กอราวใหปูไมพอใจ กาวกระโดดพรวดเดียวขึน ้ มาเปนผูจัดการ บริษท ั ที่มีความสําคัญอยางยิ่งของ “นัฐกิจโกศล”
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
คนที่ผิดหวังในเรื่องการตัดสินใจครั้งนี้ ของปูอยางที่สุดเห็นจะ เปนอานุช ซึ่งหมายมั่นปนมือตําแหน งนี้ มาตั้งแตตน และสิ่งที่ทําให อานุชเจ็บชํ้านํ้าใจยิ่งไปกวานั้นก็คือ ไมมีพ่น ี อ งคนไหนที่จะมาเจ็บ รอนแทนในเรื่องนี้ อยางอานนทซ่ง ึ ถือไดวาเปนคูรัก-คูรสมาแตไหน แตไร ก็เพียงแตหัวเราะหึ ๆ และยักไหลแบบ “โน คอมเมนท” ของ แก ยิ่งญาติพ่น ี อ งขางยาเหมยหลิงยิ่งพากันทําตัวออกหาง และหลีก เลี่ยงที่จะวิพากษวิจารณเรื่องนี้ ดวย ซึ่งก็คงจะเปนเพราะอิทธิพลยา เหมยหลิงที่ถือหางขางยามาลัยมาแตไหนแตไร และสบโอกาสครั้ง สําคัญที่พูดตามสํานวนแมก็วา “ตีถูกขนดหาง” ลูกสายยาเนี ยมเขา เต็มเปา วากันวาตอนนั้นอานุชเปนเดือดเปนแคนอานงพงาและนอยใจ ปูถึงกับคิดจะลาออกจากบริษท ั และอพยพยายบานยายชองไปอยู ขางนอก ดีแตยาเนี ยมรั้งตัวไวทัน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
พอเลาวา ยาเนี ยมเรียกลูก ๆ ทุกคน ยกเวนอานันทนาเขาไป พบและบอกวา... สมัยโบราณ เมื่อคนมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เขาก็จะพากันสรางเจดียขน ึ้ เปนเครื่องรําลึกถึงพระพุทธคุณ... เจดีย ยิ่งใหญโตงดงามเทาไหร ก็ย่ง ิ เปนสิ่งเชิดชูสามัคคีธรรมและความ เจริญรุงเรืองของหมูชนนั้น ๆ เทานั้น เมื่อเปนเชนนี้ แลวจะตองมัวไป เกี่ยงงอนทําไมวาคนนั้นลงหิน คนนั้นลงอิฐ คนนั้นลงทราย หรือคน นั้นเปนชางปนชางปูน เพราะเมื่อเจดียเสร็จสมบูรณเปนรูปเปนราง แลว ใครจะมานั่งแยกนั่งแยะวาไอน่ี ของกูไอน่ันของเอ็ง ก็คงจะเปน เรื่องโงเขลาใหคนอื่นหัวเราะเลน ทางที่ถูกที่ควรแลวตางคนตางก็
นํา ไป
ขา ย
พยายามทําหนาที่ของตนใหเต็มกําลังศรัทธา เพื่อความรุงเรืองของ หมูคณะ และวา...
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“ความทุกขย่ง ิ ใหญของปลาวาฬก็คือ มันคิดวามันเองบินไดดี กวานกอินทรี และความทุกขท่ย ี ่ง ิ ใหญของนกอินทรีก็คือ มันคิดวา ตัวเองดํานํ้าไดเกงกวาปลาวาฬ ทั้ง ๆ ที่สัตวท้ง ั สองชนิ ดลวนแตเปน เจาเปนใหญในหมูปลาและหมูนก... หากเมื่อไหรท่ป ี ลาวาฬคิดไดวา มันดํานํ้าเกงกวานกอินทรี หรือนกอินทรีไดคิดวามันบินในอากาศ ไดเกงกวาปลาวาฬ เมื่อนั้นสัตวท้ง ั สองก็จะมีความสุขที่สุดในโลก”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พอเลาวา คําพูดเชิงเปรียบเทียบของยาเนี ยม ทําใหอานุชได คิดและคลายความขุนของหมองใจลง ทั้งใหสัญญากับยาเนี ยมวาจะ ไมทิ้ง “นัฐกิจโกศล” ไปไหน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ชัว ่ เวลาไมนานทีเ่ ขาไปบริหาร “สหนัฐกิจ” อานงพงาก็ แสดงใหทุกคนเห็นถึงความรูความสามารถของตน... อานงพงาทํา กําไรใหบริษท ั เพิ่มขึน ้ ดวยการลดตนทุนการผลิต ยุบเลิกหน วยงาน ที่ซ้ า ํ ซอนกันในแตละบริษท ั แกไขระบบการจัดจําหน ายใหรวดเร็ว และทุนแรงทุนเวลาลง กับนําวิชาการโฆษณาประชาสัมพันธท่ไี ป รํ่ าเรียนมาจากอเมริกาใหเปนประโยชน... “สหนัฐกิจ” กลายเปน บริษท ั ชั้นแนวหนาที่มีภาพพจนในทางผลิตสินคาที่มีราคาพอสมควร แตมีคุณภาพทัดเทียมกับของนอก หนําซํ้าผลกําไรที่ไดรับยังคืน กลับสูประชาชนในรูปของสาธารณประโยชนตาง ๆ แมวาอานงพงาจะดูเกงไปเสียทุกเรื่อง แตเรื่องเดียวที่อานงพ งากลายเปนคนออนซอมอยูรํ่าไปก็คือเรื่องความรัก
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
33.
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ดูเหมือนวาฉันยังเลาเรื่องพีส ่ ุวิตรา อานนท และปริยา ภรณคางเอาไว ทั้งนี้ เพราะเปนเรื่องอยางที่ยาเนี ยมเรียกวา “บัดสีบัดเถลิง” จนพี่นอ งทุกคนในตระกูลสือพาณิชยอยากจะ ลบเลือนออกไปจากความทรงจํา แตสําหรับฉันเห็นวาไหน ๆ เรื่อง มันก็ลวงเลยมาแลว และการไมพูดถึงมันเสียเลยจะทําใหเรื่องราว ทั้งหมดของครอบครัวเราที่ฉน ั เลามาตั้งแตตนขาดหายไปบางสวน อยางไรก็ตาม ฉันก็ตองขอโทษไวลวงหนาหากมีญาติพ่น ี อ งคน ใดมาอานเจอเขา และขอยืนยันวาฉันไดช่ง ั ใจอยูนานถึงความควรไม ควรในการเผยแพรเรื่องนี้ สูหูสูตาของคนนอกตระกูล
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
พีส ่ ุวิตรานัน ้ มีความคับแคนแนนใจกับปริยาภรณอยู สองเรื่อง ประการแรก คือเรื่องที่พ่ร ี ะวีแอบรักใครลุมหลงปริยา ภรณมาตั้งแตกอนที่จะมาแตงงานกับตัว และประการที่สอง ไดแก การที่อานนทซ่ง ึ พี่สุวิตราแอบปองรักกลับมาอยูกินกับปริยาภรณ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเลิกราจากคุณบุลภักดิม ์ าไดไมนาน... ทั้งสองเรื่อง พี่ นภิศบอกวา พี่สุวิตรามีความรูสึกทนไมดายทนไมได เหมือนกับถูก ปริยาภรณเอารองเทาสนสูงมาขยี้ตรงหัวใจของแก ทั้ง ๆ ที่จะวาไป แลวปริยาภรณก็แทบจะไมรูเรื่องรูราวอะไรดวยเลย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตอนแรกที่รูขาววาอานนทซ้ อ ื คอนโดราคาหลายลานไวเปนรัง รักใหปริยาภรณน้ัน พี่สุวิตราออกโรงเตนแรงเตนกาเปนเดือดเปน แคนแทนตระกูลสือพาณิชย หาวาปริยาภรณจะมาปอกลอกทรัพย สมบัติบางละ หาวาปริยาภรณมีประวัติไมดีคบชูสูชายมาหลายคน กอนจะมาเปนเมียนอยคุณบุลภักดิบ ์ างละ และรายที่สุดถึงกับหาวา อานนทถูกปริยาภรณทําเสน หยาแฝด เลนเอายามาลัยและปาทรง ศรีว่ง ิ หาหมอมาถอนเสน หใหวุน ซึ่งลงทายแลวก็ไมมีผลอะไร พวก มดพวกหมอที่จางมาก็ไดแกตัวนํ้าขุน ๆ วา คนที่ทําเสน หอานนทไว มีวิชาอาคมเหนื อกวาพวกตน
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เมื่อพี่สุวิตราคิดไดวา “ไมเขาถํ้าเสือไฉนจะไดลูกเสือ” แกก็ เปลี่ยนกลยุทธใหมดวยการบุกไปประจอประแจกับอานนทถึง สํานักงานกลาง และแกลงโฉบเฉี่ยวไปแถว ๆ บริษท ั “นัฐกิจ อะลา-โมด” เพื่อยั่วใหปริยาภรณ “หึงหนาปอม” แบบเรื่องพระอภัยมณี บาง ทั้ง ๆ ที่แตไหนแตไรมาถึงไมมีกฎหามแตก็เหมือนมี ที่สามีหรือ ภรรยาของคนในตระกูลซึ่งไมมีภาระหนาที่จะไมเขาไปกาวกายกับ เรื่องงานในบริษท ั จะมีเวนอยูแตครั้งเดียวก็ตอนที่ลุงแอนดี้แอบไปมี อะไรกับพนักงานสงเสริมการตลาดที่ช่ อ ื วิไลรัตน จนปาเปกกี้ตอง ควงปนเปนแมเสือสาวเขาไปประกาศประกาศิตหามไมใหใครมายุง กับผัวแก
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
อานนทน้ันมีนิสัยขี้เกรงใจคนติดตัวมาตั้งแตเกิด หนําซํ้ายิ่ง เปนผูหญิงดวยแลวก็ย่ง ิ เกรงใจหนักเขาไปอีก ถึงจะไมชอบใหพ่ส ี ุวิ ตราเขามาวุนวายอะไรดวย แตก็ไมกลาออกปากหามใหเปนเรื่อง เปนราว ลุงนัฐลอวา...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“ยายตุกมาถึงก็แทบจะนั่งแปะลงบนตักไอนนท คนของเราก็ ไดแตปด ๆ ปอง ๆ วา ไมเอาน า ยายนั่นก็ออนวาเอาน า... ไอเรารึก็ ตั้งใจฟงอยูต้ง ั นานวามันจะเอาหรือไมเอากันแน เห็นเงียบเสียงไป พักใหญก็โผลหนาเขาไปดู ที่ไหนได โน น-ไอนนทไปนั่งอานหนังสือ ตัวลีบอยูบนเกาอี้รับแขก ปลอยใหยายตุกนั่งเอเตอยูท่โี ตะทํางาน ดี นะที่พอแกไมเห็น ไมง้น ั คงพะซี้ตีตายกันไปขางหนึ่ งแลว... แหม ตั้ง
ตีนงี้
นํา ไป
ขา ย
ชื่อมาไดวาตุกตา ความจริงน าจะเปนตุกแกผีซะมากกวา เหนี ยวหนับจับไอนนทไมมีหลุดเลย” สวนอานนทก็ไดแตปรารภกับอานุชวา
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“โอย ผมจะเก็ต แมด... ยายตุกไปจุนที่บริษท ั แทบทุกวัน โทรศัพทเขามาก็รับเองหมด ถาเปนเสียงผูหญิงก็บอกแตวา ผมไม อยูตะพึดตะพือ วัน ๆ ผมแทบไมเปนอันทํางานทําการอะไรแลว” “สมนํ้าหนา...” อานุชทําหนายิ้มเยาะ “...กรรมใดใครกอกรรม นั้นก็รับไปเอง” “อาว เจพูดอยางนั้นไดไง ผมน ะคนธรรมะ-ธัมโมจะตายไป ขนาดยุงบินมาผมยังไมตบเลย... แคว่ง ิ ไปควาดีดีที”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
พีส ่ ุวิตราใชความพยายามมาแลวดวยวิธีการตาง ๆ นานา ทีจ ่ ะแยกอานนทออกจากจากปริยาภรณ เริ่มแรกก็อยางที่รู คือดวยการหาทางไมใหอานนทแวบไปนอนคางอางแรมกับปริยา ภรณไดสะดวก ดวยการลงทุนจัดงานนั่นงานนี่ ดึก ๆ ดื่น ๆ แลว ปลอยขาวซุบซิบวาอานนท “ปง” กับสาว ๆ คนโนนคนนี้ ดวยหวังวา ปริยาภรณจะอาละวาดบานแตก แตเหตุการณกลับไมเปนอยางที่ คิด หนําซํ้าทั้งคูดูจะจีจ ๋ ากันยิ่งกวาเดิม ทําใหพ่ส ี ุวิตราหันมาใชแผน สอง คอยเวลาที่อานนทเดินทางไปทําธุระตางประเทศ แลวโหมขาว วาระหวางที่อานนทไมอยูน้ัน ปริยาภรณออกเดทกับผูชายคนอื่น แตอีกนั่นแหละเมื่อขาวพวกนี้ ลวงรูถึงหูอานนท แกก็ยักไหลอยาง ไมใสใจ ทําใหหลายคนถึงกับลงความเห็นเปนเสียงเดียวกันวา อานนทหลงผูหญิงจนไมเปนอันลืมหูลืมตา พี่สุวิตราถอยทัพกลับมาพักใหญ แตเปนการถอยเพื่อรอคอย เวลาที่จะจูโจมขั้นแตกหัก โดยตลอดเวลาเหลานั้นพี่ระวีซ่ง ึ ไดช่ อ ื วา กลัวเมียสนิ ท เวนอยูเรื่องเดียวที่แกจะกลาหือกับพี่สุวิตราได คือ เรื่องปริยาภรณท่เี จาตัวแอบปองรักมาเนิ่ นนาน เฝาดูเหตุการณอยู เงียบ ๆ เขาทํานอง “นั่งอยูบนภูดูเสือกัดกัน” ดวยความหวังลึก ๆ วา
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
หากพี่สุวิตราปฏิบัติการสําเร็จ ถึงขั้นอานนทแยกทางกับปริยาภรณ เมื่อไหร แกก็จะรีบเขาไปโอบอุมประคับประคองตอ
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
พีส ่ ุวิตรานัน ้ ถึงจะไมใชเด็กเล็ก ๆ และมีลูกผัวเปนตัว เปนตนอยูทนโท แตกับอานนทแกก็ยังชอบเลนบทที่พ่น ี ภิศเรียก วา “สวีท แอนด อินโนเซนต” อยูเสมอ เปนตนวา พอเห็นอานนท เดินมาแตไกลก็จะตองรีบวิ่งแถด ๆ ไปเกาะแขน ชวนพูดชวนคุย ฉอเลาะอยูไมขาดปาก พออานนทน่ังลงบนเกาอี้ แกก็กุลีกุจอถอด รองเทาใหพรอมกับหานํ้าหาทามาบริการ มิไยที่ใครจะตักเตือนพี่สุวิ ตราก็เอาแตเถียงไปขาง ๆ คู ๆ วา ก็ตัวเองนับถืออานนทเหมือนพี่ ชายแท ๆ เมื่อกอนเคยสนิ ทสนมกับอานนท อยางไรเดีย ๋ วนี้ ก็ยังเปน อยางนั้น... บทแบบนี้ ถาอานนทเปน “อาเดียว” และพี่สุวิตราเปน “จอย” ก็คงจะน าเอ็นดูดี แตสําหรับพวกเราแลวบทบาทแบบนี้ ย่ง ิ พี่สุ วิตราตีบทแตกเพียงไร พวกเราก็ไดแตย่ง ิ ผะอืดผะอมเพียงนั้น อา นุชถึงกับออกปากวา “สวะ แอนด นันเซนส” ขนาดที่นาจะไดรางวัล ตุกตาเสียกบาลทีเดียว “แกก็เปนเสียแบบนี้ ” อานุชสายหนา “ก็นาที่จะเดือดรอนเรื่อง ผูหญิงยิงเรือไมรูจักจบจักสิ้น”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
“โธ เจ นี่ ผมมาขอคําแนะนํานะไมใชมาฟงเทศน” “ถาแกไมอยากฟงฉันพูดอะไรก็ไมตองเสนอหนามาปรึกษา” “เอาละ ๆ” อานนทโบกมืออยางครานที่ตอปากตอคํากับพี่ สาว “ตั้วเจมีคําสอนสั่งอะไรก็เรงวามา ผูนอ ยยินดีรับฟง” “ฉันจะบอกอะไรใหนะ เรื่องนี้ ถาแกขืนมัวแตเกรงอกเกรงใจ ยายตุกตาอยูแกจะตกที่น่ังลําบาก ปลอยใหสมลูกใหญ ๆ หลนใสมือ ระวีมันเฉิ บ หรือไมง้น ั พี่นอ งก็ตองมาฆาฟนกันเพราะเรื่องผูหญิงสอง คนนี่ ” “แลวจะใหผมทํายังไง” อานนทยกมือขึน ้ เกาหัวแกรก ไอเรื่อง จะใหขับไลไสสงยายตุกน ะผมคงทําไมลง บอกตรง ๆ นะ ผมเห็นเขา
ขา ย
เปนเด็กกะโปโลยังไงก็ยังงั้น เอ็นดูเขาเหมือนนองเหมือนนุง”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
“เคยไดยินไหมละที่วา ‘เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด’ ...” อานุชกระ แทกเสียง ฉันวา แกควรจะตองเปดอกพูดกับระวีมันอยางตรงไป ตรงมาเรื่องยายตุกตาเสียที ปลอยใหคาราคาซังอยูอยางนี้ แกจะมี แตทางเสีย” “เจก็รูวาผมกับไอระวีไมพูดกันมาพักใหญแลว... มันพาล เหมือนหมาบา แหม! เรื่องสวนตัวของผมแท ๆ ดันเสือกยื่นจมูกเขา มายุง” “เหตุการณตาง ๆ มันก็ผานมานานพอควรแลว ถาแกยอมออน ไปงอมัน บางทีเรื่องราวตาง ๆ มันอาจจะคลี่คลายไปในทางที่ดี อยางนอยก็ใหระวีตักเตือนเมียของมันไมใหมาเที่ยวจุนจานกับชาว บาน”
าให ้อ่า
“เจยังไมรูจักไอบานั่นดี” อานนทแคนหัวเราะ นิ สัยใจคอมัน เหมือน ผูหญิงมากกวาผูชาย ทั้งเจาคิดเจาแคน ทั้งพาลพาโล ทั้ง เหน็บแนมแกมประชด สารพัดสารพัน เปนตายยังไงผมก็ไมโผลไป ใหมันหัวเราะเยาะ...” “งั้นแกก็หลบไปไหนสักพัก ใหยายตุกตารามือไปเอง”
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“แลวปริยาภรณละ...” อานนทออมแอม “...ถาผมไมอยู ยายตุ กไมตามราวีเขาแยหรือ ไอท่จ ี ะใหลางานไปกับผม เจก็รูวาพี่นัฐแก ไมมีวันยอมเด็ดขาด” “โอย ฉันจะบาตาย... ทําไมไมใหแมทูนหัวทูลเกลาฯ ของแก ลาออกจากงานมานั่ง ๆ นอน ๆ กิน ใหมันรูแลวรูรอดไปเลย”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
“เรื่องนี้ ผมเคยพูดกับเขาแลว” อานนทหลบตาอานุช “แตเขา ไมยอม กลัววาคนอื่นจะหาวาเขาเกาะผมกิน เขาวาเขามีปญญาทํา มาหากินได และตองการพิสูจนใหใคร ๆ เห็นวา เขารักผมที่ตัวไมใช ที่ทรัพยสมบัติ” “แหม ชางเจาอุดมคติจริง๊ งั้นก็น่ังรอทาใหยายตุกตาตามไป รังควานเองก็แลวกัน” อานุชโวยพรอมกับปดสมุดบัญชีดังปง เปนทีเลิกพูดจากับนอง
นํา ไป
ขา ย
ชายคนโปรด
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
แตเรื่องทีพ ่ ส ี่ ุวิตราจะทําตัวเปนแมนาคพระโขนงไป ตามรังควานปริยาภรณงาย ๆ นั้น พี่สุวิตราอาจลืมไปวาปริยา ภรณเองหากพูดตามสํานวนของอานงพงาก็ตองวา “ผึง ้ ที่มีเหล็กไน หัวใจยอมเปนเหล็ก”...ที่ปริยาภรณอดทนยอมใหพ่ส ี ุวิตราทําอะไร ตอมิอะไรมาตั้งแตตนก็คงเพราะเห็นวาพี่สุวิตราเปนสะใภแตง สวนตัวเองเปนเพียงสะใภลับที่ยังไมมีผูใหญในตระกูลรับรองใหเปน เรื่องเปนราว หากเกิดเรื่องราวทะเลาะวิวาทกันขึน ้ ตนเองก็จะมีแต ทางเสียเปรียบ และคงจะไมอยากใหอานนทพลอยเดือดรอน รําคาญใจไปดวย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
อยางไรก็ตาม ความอดทนอดกลั้นของคนเรานั้นยอมมีขีด จํากัดและตองถึงจุดระเบิดขึน ้ มาสักวัน... ขณะที่พ่ส ี ุวิตราเห็นวาปริ ยาภรณน่ิ งเฉยและเรงมือระรานหนักขึน ้ นั้น ผึง ้ อยางปริยาภรณก็ เริ่มงางเหล็กไนเตรียมตอยอีกฝายหนึ่ งใหจมเขี้ยวเหมือนกัน
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
34.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
คุณตาของฉัน-ดร.ขจรเกียรติ ไพศาลพันธกิจ ไดช่ อ ื วา เปนคนคุยสนุกอยางหาตัวจับไดยาก ทั้ง ๆ ที่บางครั้งก็ไมไดต้ง ั ใจ ใหเรื่องที่พูดคุยเปนเรื่องตลกขบขันแตอยางใด ซึ่งฉันคิดวาคงเขา ทํานองเดียวกับเถาแกโรงสีตางจังหวัดอวยพรให “ทานขาหลวงได เลื่อนเปนนายอําเภอ” หรือไมก็ประเภท “ผูกํากักเปยบเหมือนสง ตีน...” แลวก็เงียบไปพักใหญใหคนใจหายใจควํ่ าเลน กอนจะตอวา “...สวงพวกกระผงเหมือนหญาแพก...ทางจะเหยียกเสียเมื่อหรายก็ ลาย”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
แมจะไมใชคนที่มีปากเปนภัยแกตัวถึงขนาดนั้น แตหลายครั้ง ที่การพูดของคุณตาก็ทําใหคนฟงทั้งหัวเราะลั่นและหัวเราะไมออก มาแลว เชน เมื่อตอนที่ไดรับปริญญากิตติมศักดิใ์ หม ๆ แลวมี หนังสือพิมพไปสัมภาษณ ทานก็ตอบออกมาโตง ๆ วา “บริหง-บริหารธุรกิจอะไร อัว๊ ไมรูจัก รูอยูอยางเดียวคือขาย เฉากวย อีคงใหปริญญาสาขาเฉากวยกับอัว๊ มากกวา” แมนักขาวจะพยายามตะลอมวา ถึงทานจะเคยขายเฉากวยมา กอน แตตอนนี้ ทานก็เปนนักธุรกิจหมื่นลานที่ประสบความสําเร็จคน หนึ่ ง ทานก็จะโบกไมโบกมือปฏิเสธวา ทานไมใชนักธุรกิจ เปนแค คนคาขายที่ซ้ อ ื มาก็ขายไป แลวเผอิญไดกําไรนิ ด ๆ หน อย ๆ... กวา นักขาวเศรษฐกิจจะยอมรับคําวา “คนคาขาย” และกวาคุณตาของ ฉันทานจะพอเขาใจคําวา “นักธุรกิจ” ก็ตางคนตางเหนื่ อยไปตาม ๆ
นํา ไป
ขา ย
กัน
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
คุณตาเปนคนทีใ ่ ชจายเงินตามใจชอบ อยากไดอะไรก็ ซื้อทันทีไมสูจะตระหนี่ ถ่เี หนี ยวอยางปู ซึ่งเรื่องนี้ คุณตามักจะคอนปู เสมอวา “ไอเหลียงมันมีเงินเปนนาย จะหยิบจะจายอะไรก็เกรงใจเงิน สวนอัว๊ เปนนายเงินใชเงินไปทําโน นทํานี่ ตอใหจางผีโมแปงก็ได” ความชางซื้อและจายงายของคุณตา มีเรื่องลอกันวา ครั้งหนึ่ ง คุณตาเกือบจะซื้อตึกเอ็มไพรสเตทที่อเมริกาแลว เกี่ยงกันอยูแคไมก่ี แสนดอลลาร... วากันวาขณะที่คุณตาแหงนคอตั้งบาดูตึกเอ็ม ไพรสเตทอยูน้ัน ก็มีฝรั่งนายหนึ่ งมาสะกิดถามวาสนใจจะซื้อตึกหลัง นี้ ไหม ถึงคุณตาจะรูภาษาอังกฤษแคงู ๆ ปลา ๆ แตเรื่องซื้อของขาย ของนี่ คุณตาหูผ่ง ึ เสมอ... คุณตาถามวาขายยังไง ฝรั่งก็ตอบวาแบง ขายเปนชั้น ๆ ชั้นละแสนดอลลาร
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
คุณตาคิดสะระตะเสร็จก็ตอรองตามประสาเหมาโหลถูกกวา วาถาซื้อโหลชั้นคิดเทาไหร ฝรั่ง “เซอ” ไปพัก กอนตอบวาสิบสองชั้น ก็ลานสองซิ... คุณตาก็เกี่ยงวาลานถวนก็แลวกันน า แลวขอแถมชั้น ใตดินกับไอยอดตึกแหลม ๆ ดวย เลนเอาฝรั่ง “เซอ” หนักขึน ้ ไปอีก
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
เรื่องนี้ ฉน ั กับพี่นภิศรํ่ า ๆ จะถามคุณตาหลายครั้งวาเปนจริง อยางที่เขาเลาลือกันหรือเปลา แตก็กลัววาเผื่อเกิดเปนจริงตามนั้น ขึน ้ มา คนที่จะ “เซอ” ยิ่งกวาอีตาฝรั่งนักตุนคนนั้น ก็เห็นทีจะเปนเรา สองคนพี่นอ งนี่ เอง
งส อื
แมคุณตาจะไมไดอยูในบานใหญของเราทีต ่ รอกจันทน แตก็ดูเหมือนทานจะลวงรูเหตุการณตาง ๆ ที่เกิดขึน ้ ในบานเราได อยางดี และบางครั้งยังรูดีไปกวาแมซ่ง ึ เปนสะใภของบานดวยซํ้าไป
ขา ย
ซึ่งคุณตามักพูดเสมอวา...
จําเปนจะตองมีไสศึก
นํา ไป
“การทําการคาก็เหมือนกับทําสงคราม สอดแนมทั้งในหมูศัตรูและหมูมิตร”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
อยางเรื่องพี่สุวิตรากับปริยาภรณ คุณตาก็รูขาวคราวไดทันที ทันควันทุกครั้งที่เกิดอะไรขึน ้ และเคยเตือนแมวา “ผูชายตอยตีกันเรื่องอื่น ๆ สักพันครั้ง เมื่อเลิกราแลวก็กลับคืน ดีกันใหมได แตถาลงมีเรื่องผูหญิงเขามาเกี่ยว เกาเจง แมเพียงครั้ง เดียวก็ยากที่จะดีกันดังเดิม” และวา “ผูชายทะเลาะกัน สามารถใชเหตุใชผลเขามาไกลเกลี่ยแกไข ได แตเมื่อใดก็ตามที่ลงผูหญิงทะเลาะกัน เคาเป ตอใหเง็กเซียน ฮองเตเหาะลงมาเอง ก็หามปรามเอาไวไมอยู” ทั้งเคยวิจารณพ่ส ี ุวิตรากับปริยาภรณไววา “คนหนึ่ งมีปากเหมือนมีตูดเอาแตผายลมไปวัน ๆ สวนอีกคนมี ตูดเหมือนมีปาก ใครตอใครแทบจะวิ่งเขาไปหอมกันไมไดหยุด”
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
และคาดการณวา “ซุนกวนเคยรบกับโจโฉเพราะเรื่องนางสองเกี้ยว ลูกกับหลาน ไอเหลียงมันก็จะรบกันเพราะนางสองแซน้ี แหละ”
าให
้อ่า
หน ั งส
พีส ่ ุวิตราเมื่อรุกเราทางอานนทไมไดผล เพราะแกทํา ตัวอยางที่ปาอรเรียกวาเปน “พระประธาน” คือ ไมฉน ั ทั้งไกบาน และไกวัด พี่สุวิตราก็หันมาเปดแนวรบดานตะวันตกกับปริยาภรณ โดยตรง ดวยหวังวาจะมีเหตุการณอะไรเปลี่ยนแปลงบาง...
งส อื
นํา ม
พี่สุวิตราขยันแวะเวียนไปที่ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ถี่ขน ึ้ ทําทีไถล ไปคุยกับลุงนัฐสักคําสองคํา แลวก็กระเถิบมาหองคุณบุลภักดิ ์ กอน จะลอยหนาออกมาถากปริยาภรณดวยถอยคําประเภท...
“เฮอ
ชาติน้ี ถึง
นํา ไป
ขา ย
“ผูหญิงบางคนไมรูวาชาติกอนทําบุญดวยดอกอะไร ไดสงกลิ่นตลบอบอวลไปสามบานแปดบาน” หรือ...
ของเหม็นของคาวทําไมแมลงวันถึงไดชอบตอมกันนักก็
ี โป รด อย ่า
ไมรู”
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ไมก็... “เดีย ๋ วตองรีบไปทานขาวเที่ยงกับพี่นนทแลว โอย แกขยันนัด อยูเรื่อยเลย... คุณบุลภักดิอ ์ ยูวาง ๆ ชวยพาใครบางคนแถว ๆ นี้ ไป รื้อฟนความหลังบางซิคะ” อยางไรก็ตาม ตองนับวาปริยาภรณมีความอดกลั้นและฉลาด พอที่จะไมลุกขึน ้ มาเปดศึกเหมือนแมคากลางตลาดกับพี่สุวิตรา ตลอดเวลาเหลานั้นปริยาภรณทําตัวเหมือนภูเขาสูงที่ไมสะดุง สะเทือนกับลมพายุหรือสุนัขที่มาฉี่รด วากันวาแกมีวิธีท่ท ี ําใหพ่ส ี ุวิ ตราเจ็บแสบดวยการทําเหมือนไมมีพ่ส ี ุวิตราอยูในสายตา ไมวาอีก ฝายจะพูดจายั่วโทสะอยางไร แกก็กมหนากมตาทํางานของตัวเอง ตามปกติ อยางดีก็มีแครอยยิ้มเยาะ ๆ อยูในหนาเปนบางคราว
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
ขณะทีพ ่ ส ี่ ุวิตราเปดศึกซึง ่ หนา ปริยาภรณก็ดําเนิน สงครามใตดินอยางเงียบเชียบ... ในชวงนั้น หากใครสังเกตจะรูสึก วา “นัฐกิจการทอกับ นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” ชางมีกิจธุระติดตอกันมาก เปนพิเศษ โดยเฉพาะอยางยิ่งระหวางรองผูจัดการ “นัฐกิจการทอ” กับหัวหนาแผนประชาสัมพันธของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” แมวาการ ติดตอจะอยูในกรอบของงานและฝายหญิงก็ไมไดมีทาทีใหทาใหทาง อะไร อยางดีก็เพียงแตทอดไมตรีใหเล็ก ๆ แตแคน้ันก็เพียงพอที่จะ ทําใหถานไฟเกาที่ไมเคยมอดราของพี่ระวีคุโชนขึน ้ อยางรวดเร็ว และยิ่งถานไฟเกาลุกแรงขึน ้ เพียงใด ก็ดูเหมือนจะยิ่งโหมไหม พี่สุวิตราใหลวกรอนยิ่งขึน ้ เพียงนั้น...
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
พี่ระวีซ่ง ึ เคยนั่งอยูบนภูมาตั้งแตตน ก็โดดลงมารวมวงกาง เขี้ยวเล็บ เปนเสืออีกตัวหนึ่ ง และเสือตัวนี้ ดูจะตั้งหนากัดติดพี่สุวิ ตราอยางไมยอมปลอย... พี่ระวีมีเรื่องทะเลาะกับพี่สุวิตราบอยขึน ้ และหาญกลาถึงขนาดทําลายขาวของและทุบตีภรรยา ซึ่งพี่สุวิตรา ก็ไมไดออนขอเปนเบี้ยลางอยูฝายเดียว แตตอบโตอยางถึงพริกถึง ขิง... แทบทุกวันจะไดยินเสียง “จานบิน” โพลง-เพลง เสียงดาทอห ยาบ ๆ คาย ๆ เสียงทุบตี เสียงคํารามอยางโกรธแคน และเสียง ครํ่ าครวญดวยความเจ็บปวด ดังลอดมาจากหองพี่ระวีอยูเสมอ โดย พวกผูใหญไดแตสายหนาอยางอิดหนาระอาใจและครานที่จะยื่นมือ เขาไปหามปราม ฉันเคยไดยินลุงนัฐคุยกับพอวา... มายาหญิงที่โบราณวากันวา มีถึงรอยเลมเกวียนนั้น ลําพังแคปริยาภรณคนเดียวก็คงบรรทุกไว รวมเกาสิบเกาเลมแลว ทั้ง ๆ ที่เธอไมไดทําอะไรมากไปกวาวางจริต จะกานบาง ๆ ไมถึงขั้นที่จะเรียกไดวามีอะไรเสียหาย แตน่ันก็ เพียงพอใหพ่ร ี ะวีคลั่งเปนวิหยาสะกําหลงรูปนางบุษบา และพาล โกรธแคนพี่สุวิตราที่มาระรานผูหญิงที่ตนรัก ทั้งวาดหวังไปไกลวา ถาไมมีพ่ส ี ุวิตราสักคนหนึ่ งแลว บางทีปริยาภรณอาจทิ้งอานนทและ หันมาหาตัว
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
การมัวแตทะเลาะเบาะแวงกับพี่ระวี ทําใหพ่ส ี ุวิตราไมมีกะจิต กะใจที่จะไปวุนวายกับอานนทหรือวอแวกับปริยาภรณ และยิ่งทอด เวลาใหเนิ่ นนานไปเทาไหร พี่สุวิตราก็ย่ง ิ เหินหางจนเขาหนา อานนทไมสนิ ทเทานั้น พี่นภิศเลาวา แมเคยปรารภกับปาเปกกี้วา ก็ถาพี่สุวิตรายัง ลุมหลง อานนทและไมไดรักใครไยดีพ่ร ี ะวีจริงจัง ทําไมไมหยาขาด กันเสียใหรูแลวรูรอด แลวไปตั้งหนาตั้งตาจับอานนทใหเปนเรื่อง เปนราว ดีกวาจะมาทําทารักพี่เสียดายนอง จับปลาสองไมสองมือ ใหชาวบานนิ นทาไมรูจักจบจักสิ้น... ซึ่งเรื่องนี้ ท้ง ั แมและปาเปกกี้ ตางลงความเห็นเปนเสียงเดียวกันวา เมื่อไหรก็ตามที่พ่ส ี ุวิตรากาว ออกไปจากชายคาของตระกูลสือพาณิชย เมื่อนั้นพี่สุวิตราก็จะหมด สิ้นทุกสิ่งทุกอยาง... และอยางนอยที่สุดการทนหวานอมขมกลืน เชนนี้ ก็ยังพอมีอะไรใหเชิดหนาชูตาไดบาง
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
อยางไรก็ตาม แมวาพี่สุวิตราจะอดทนในเรื่องนี้ เพียงไร แต ปรากฏวาพี่ระวีกลับเปนฝายขอหยาขาดจากภรรยา โดยยื่นขอ เสนอที่จะใหเงินสดกอนใหญเพียงพอที่จะทําใหพ่ส ี ุวิตรามีความสุข ไปไดตลอดชีวิต... ครั้งนี้ นับเปนการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวที่สุดในชีวิต ของพี่ระวี แตก็สงผลใหเกิดเหตุการณผันผวนติดตามมาอีกหลาย เรื่อง เรื่องพี่ระวีขอหยาพี่สุวิตรานี้ ทางผูใหญฝายเราไดพยายามหา ทาง ไกลเกลี่ยอยางเต็มที่ เพราะไมอยากใหเรื่องอื้อฉาวไปถึงหูคน ภายนอก แตหนทางที่ทําไดก็เพียงแตใหพ่ส ี ุวิตราแยกออกไปอยูท่ี อื่นเงียบ ๆ โดยปูจายเงินคายังชีพใหตลอดชีวิตนอกเหนื อไปจากคา เลี้ยงดูท่ไี ดรับจากพี่ระวีแลว การแตกราวของครอบครัวพี่ระวี นําความไมสบายใจมาสูแทบ ทุกคนในตระกูลเราเปนอยางมาก เพราะนับเปนครั้งแรกที่เกิด เหตุการณเชนนี้ ขน ึ้ และทําใหปูหดหูใจที่เห็นวา พิธีแตงงานอันใหญ โตมโหฬาร ไมใชส่ง ิ ที่จะสามารถผูกจิตใจคนสองคนใหอยูเปนคูผัว ตัวเมียกันไดยาวนานแตอยางไร ขณะที่คนอื่นพากันเศราหมองเพราะเรื่องของตัวนั้น พี่ระวีกลับ เริงราดวยหวังอยางลม ๆ แลง ๆ วา เมื่อกลับเปนอิสระอีกครั้งจะ สามารถโนมนาวหัวใจของปริยาภรณใหโอนเอนมาขางตนได... แต สิ่งที่พ่ร ี ะวีคาดไมถึงก็คือ ทันทีท่พ ี ่ส ี ุวิตราถูกเขี่ยออกจากบาน ปริยา ภรณก็ตีตนออกหางจากพี่ระวีอยางเห็นไดชัด และแสดงทาทางอีอ ๋ อ กับอานนทใหพ่ร ี ะวีเห็นตําตา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
เมื่อรูตัววาไมมีทางที่จะเอาชนะอานนทได และสํานึ กไดวา ตัวเอง ถูกปริยาภรณหลอกใชเปนเครื่องมือหักโคนพี่สุวิตรา พี่ระวีก็ คุมแคนจนแทบคลั่ง... แตแทนที่จะแกแคนปริยาภรณ พี่ระวีกลับมา ฟาดงวงฟาดงาเอากับอานนทในลักษณะอาการที่เหมือนอิเหนาเผา เมือง.. น าเสียดายที่เมืองที่พ่ร ี ะวีคิดจะเผาไมใชดาหา แตเปน “นัฐกิจ โกศล” ของเรา
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
35.
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เมื่อกลับจากอเมริกาเขามาทํางานในบริษท ั ใหม ๆ นัน ้ อานนทหมายมั่นปนมือที่จะปรับปรุง “นัฐกิจโกศล” อยูสองเรื่อง ใหญ ๆ ...เรื่องแรกคือการเปลี่ยนแปลงแกไขกลไกในระบบบริหาร จนถึงกับประกาศโผงผางตําหนิ ติเตียนปูท่ใี ชพวก “ปศาจพันตา” เปนหูเปนตาควบคุมการทํางานของผูบริหารบริษท ั ในเครือ ซึ่ง อานนทมีความเห็นวา วิธีการดังกลาวเปนอุปสรรคสําคัญที่ขัดขวาง ความคิดริเริ่มและสรางสรรค และความเจริญเติบโตของบริษท ั อยางมาก เพราะทําใหบรรดาผูบริหารไมกลาที่จะขยับตัวทําอะไร เนื่ องจากเกรงวาพวก “ปศาจพันตา” จะเก็บเอาไปฟองปู... ซึ่งเรื่องนี้ ปูอาศัยความสุขุม คอย ๆ ชี้แจงผลดีผลเสียตาง ๆ ใหฟง กับใช กลยุทธหนามบงหนามดวยการใหอานนทเขาไปนั่งทํางานรวมกับ เหลา “ปศาจพันตา” ในสํานักงานกลาง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
วากันวาในระยะแรกที่เขาไปทํางานในสํานักงานกลางนั้น อานนทมีความมุงมั่นอยางมากที่จะยุบหรืออยางนอยก็ลดบทบาท ของศูนยบัญชาการแหงนี้ ของปูลง พรอมกับกระจายอํานาจการ บริหารและตัดสินใจออกไปสูแตละบริษท ั ใหมากขึน ้ แตหลังจากที่ โดนปูใชอุบายศึก “สายนํ้าผึง ้ ” อธิบายถึงโครงสรางของ “นัฐกิจโกศ ล” ที่อยูกันแบบสังคมผึง ้ ใหฟง อานนทก็ยอมราขอจากการเขนเคี่ยว กับพวก “ปศาจพันตา” และหันมาใหความสนใจกับการปรับปรุง ดานอื่นแทน
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
อานนทเปนคนที่ริเริ่มการสอบคัดเลือกเขาทํางานในบริษท ั แทนที่จะใชระบบฝากฝงดังแตกอน วางหลักเกณฑการเลื่อน ปูน บําเหน็จ และลงโทษ การจัดอัตรากําลังของสายงานตาง ๆ ในแตละ บริษท ั การใหทุนแกนักศึกษาสายวิชาชีพตามความตองการของ บริษท ั เพื่อเขามาทํางานชดใชเมื่อเรียนสําเร็จ การสงพนักงานไปดู งานในตางประเทศ รวมทั้งการนําคอมพิวเตอรและเครื่องมือที่ ทันสมัยเขามาใชงานอยางมากมาย ฯลฯ ...นอกจากนี้ อานนทยัง เปนตนคิดในการถายเทอํานาจการบริหารบริษท ั จากบุคคลใน ครอบครัวไปสูมือนักบริหารอาชีพ อันทําให “นัฐกิจโกศล” กาวขึน ้ ไปสูการเปนบริษท ั สมัยใหม สําหรับอีกเรื่องหนึ่ งซึ่งอานนทต้ง ั ใจเปนอยางมากก็คือ การ จัดตั้งสหพันธคนงานของคนงานบริษท ั ในเครือ เพื่อใหคนงานรวม ตัวกันเปนกลุมกอนเพื่อดูแลกันเอง แมวาเรื่องนี้ จะไดรับการคัดคาน อยางมากจากลุงเทียนและลุงแอนดี้ แตอานนทก็ดึงดันจนเปนผล สําเร็จ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
อยางทีร ่ ูกันดีวาในกระบวนญาติพน ี่ อ งทัง ้ หมดของ ตระกูลสือพาณิชย อานนทกับพี่ระวีเคยไดช่ อ ื วาเปนคูท่ร ี ักกันมาก ที่สุด อันเปนผลมาจากการที่ยาเนี ยมเลี้ยงลูกและหลานที่มีวัย ไลเลี่ยกันแบบ “คูแฝดอภินิหาร” หรือ “แฝดแบบวา” ซึ่งนอกจากจะ รักใครเกลียวกลมสนมสนิ ทกันขนาดหนักแลวพี่ระวียังไวเนื้ อเชื่อใจ และเชื่อถือในความคิดตาง ๆ ของอานนท ชนิ ดที่ช้น ี กเปนนก-ชี้ไม เปนไม... และเพราะความที่เชื่อฟงอานนทจนเกินไปประกอบกับ ความเหลาะแหละโลเลไมกลาที่จะตัดสินใจอะไรดวยตนเอง มาถึง ตอนนี้ จึงเปนผลใหพ่น ี อ งซึ่งรักกันมากตองพลันมาแตกคอกัน ถึงขั้น ไมดูดําดูดีดวยเรื่◌ืองผูหญิงเพียงคนเดียว บอยครั้งที่พวกเราคุยกันถึงเรื่องราวตาง ๆ ที่เกิดขึน ้ ในครั้งนั้น และพยายามที่จะหาตัววา ใครกันแน ท่เี ปนคนผิดในเรื่องทั้งหมด ไม
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
วาอานนท พี่ระวี พี่สุวิตรา หรือวาปริยาภรณ ซึ่งลงทายแลวตางคน ตางก็มีความเห็นแตกแยกกันไปคนละทางสองทาง ซึ่งแมวาสวน ใหญจะมีความเห็นวาพี่ระวีนาที่จะตองเปนผูรับผิดชอบแทบทั้งหมด ในเหตุการณท่เี กิดขึน ้ อันเนื่ องมาจากการที่ไมกลาตัดสินใจแตงงาน กับผูหญิงที่ตัวรัก แตกลับยอมใหอานนทจูงจมูกไปแตงงานกับคนที่ ไมไดสมัครรักใครอยางจริงจัง แตอานนทก็มีสวนผิดอยูไมนอ ยใน การยัดเยียดพี่สุวิตราใหกับพี่ระวี ดวยเหตุผลเพียงแคตัวเองจะไดมี โอกาสไปทําปงกับสาว ๆ ไดโดยไมมีใครเปน กขค. สวนพี่สุวิตรานั้น ทั้ง ๆ ที่ลุมหลงอานนทอยูก็ยังยอมแตงงาน กับผูชายอื่น ซึ่งทําใหหลาย ๆ คนพากันมองวา พี่สุวิตราแตงงาน เพราะเห็นแกเงิน หนําซํ้าทั้งที่มีสามีอยูทนโทก็ยังเขาไปยุงไปเกี่ยว กับอานนทไมรูจักเลิกรา
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
สําหรับปริยาภรณเอง นอกจากเรื่องที่เคยเปนเมียนอยคุณบุ ลภักดิม ์ ากอนหนาที่จะมาอยูกินกับอานนทแลว การที่แกหวาน เสน หเล็ก ๆ จนเปนเหตุใหพ่ร ี ะวีถึงกับคลั่งและอาละวาดกับพี่สุวิ ตราจนบานแตก ซึ่งถึงแมวาจะเปนเรื่องของการตอสูตอบโตการ ระรานของพี่สุวิตราก็ตาม แตหลายคนก็มีความเห็นวา แกทํา รุนแรงเกินไป และโดยเฉพาะผลลัพธท่ส ี งกลับมาถึงอานนทและ บริษท ั ในเครือ ก็ย่ง ิ ทําใหบางคนมีความเห็นวาปริยาภรณไมนาที่จะ ไปหลอกลอพี่ระวีใหเคลิบเคลิ้ม จนทําอะไรไมคิดหนาคิดหลัง และ เมื่อปริยาภรณตีตนออกหาง พี่ระวีก็ถึงกับเหมือนคนบา คนบาที่ ทําลายทุกสิ่งทุกอยางแมแตอูขาวอูน้ ําของตนเอง
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ลงทายแลว บางทีอาจจะเปนอยางปริศนาในเรื่องรามเกียรติท ์ ่ี ยาเนี ยมเคยเลาใหพ่น ี ภิศกับฉันฟงเมื่อตอนที่เราเปนเด็ก ๆ วา... “ชี โฉดหญิงโหดมารยา ชางงารีชายทรชน” ก็ได
งส อื
นํา ม
าให
เมื่อพี่ระวีเจ็บแคนและอับอายกับการที่ถูกปริยาภรณหลอกใช เปนเครื่องมือในการกําจัดพี่สุวิตรา แทนที่จะแกแคนเอากับคนทํา พี่ ระวีกลับมองเห็นไปวา ที่เกิดเรื่องทั้งหมดขึน ้ ก็เปนเพราะอานนทเขา มาเปนเจากี้เจาการใหตนตองแตงกับพี่สุวิตรา พลอยใหผูหญิงที่ตัว รักตกเปนเมียนอยของคนอื่น หนําซํ้าเมื่อปริยาภรณเลิกรางกับคุณ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
บุลภักดิไ์ มทันไร อานนทก็ย่ น ื มือเขาไปอุมชู ซึ่งพี่ระวีถือวาอานนท เหยียบยํ่ าทําลายนํ้าใจตนอยางยอยยับอยางยากที่จะประสานรอย ราว ดังนั้นเมื่อพี่สุวิตราโดดลงมาฟาดฟนกับปริยาภรณในตอนแรก พี่ระวีจึงนิ่ งเฉยดวยหวังจะยืมมือพี่สุวิตรามาแยกอานนทออกจากปริ ยาภรณ แตครั้นตัวเองโดนปริยาภรณหยอดเสน หเขาหน อย ก็ พลานเหมือนโดนของถึงขนาดยอมหยาขาดจากเมียตบเมียแตง เพียงเพื่อจะรอรับกากเดนของชาวบาน พอเหตุการณตาง ๆ ไมเปนไปตามที่คาดหวัง พี่ระวีก็คลุมคลั่ง หุนหัน พลันแลนเลนงานอานนททันที โดยหวังจะทําใหอานนทตอง หลุดไปจาก “นัฐกิจโกศล” ใหได ...และสิ่งที่พ่ร ี ะวีใชเปนเครื่องมือทําลายลางอานนท ก็คือสิ่ง เดียวกับที่อานนทสรางขึน ้ มากับมือ... นั่นก็คือ สหพันธคนงาน นั่นเอง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ไมมีใครรูวาพีร ่ ะวีเขาไปคลุกคลีตีโมงกับบรรดาผูนํา สหพันธคนงานในเครือ “นัฐกิจโกศล” ตั้งแตเมื่อไหร แตเมื่อเรารู กันนั้น “เสี่ยนอย” ของคนงานหรือพี่ระวีของเราก็กลายเปน “เจาพอ กรรมกร” ไปเรียบรอยแลว และเปนตัวตั้งตัวตีในการตอบสนองขอ เรียกรองตาง ๆ ของคนงานโดยไมคํานึ งถึงความเหมาะสมหรือ เหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งที่ผานมาสวนใหญลวนแตเปนเรื่องจุกจิกที่ขัด กับระเบียบตาง ๆ ของบริษท ั ที่อานนทเปนผูรางขึน ้ มา แตพวกผู บริหารก็มักจะยอมโตหลงเพื่อตัดความรําคาญ ซึ่งยิ่งเปนการ สงเสริมบทบาทของพี่ระวีใหสูงเดนขึน ้ ในสายตาของเหลาคนงาน พรอม ๆ กับบั่นทอนสถานะของอานนทซ่ง ึ ดํารงตําแหน งผูอํานวย การสํานักงานกลางใหลดนอยถอยลงทุกขณะ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ ง ซึ่งอานนทไมอาจยินยอมผอนปรนตามขอเรียกรองของคนงาน และ การโอนออนผอนตามของบรรดาผูบริหารไดอีกตอไป... พอเลาใหฟงวา หลังจากที่เกิดเรื่องระหวางพี่สุวิตรากับปริยา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ภรณ จนถึงกับพี่ระวีหยาเมียและผิดหวังจากการที่ปริยาภรณตีตัว ออกหางไดไมนาน สหพันธคนงานของบริษท ั ในเครือ “นัฐกิจโกศล” ก็ย่ น ื ขอเรียกรองใหบริษท ั ยกเลิกการนําเครื่องจักรรุนใหมท่ม ี ี ประสิทธิภาพในการผลิตสูงเขามาใชในโรงงานทอผา โดยอางวาจะ เปนเหตุใหตองลดปริมาณคนงานลง และคนงานเกาซึ่งเคยคุม เครื่องรุนเกาจะถูกยายไปอยูแผนกอื่นเพื่อเปดทางใหเด็กรุนใหมท่ี เรียนทางดานนี้ มาโดยตรงเขาทํางานแทน... นอกจากนั้นก็ยัง เรียกรองใหพอ แม พอตา แมยาย หรือพอผัว แมผัว ของคนงานได รับการรักษาพยาบาลฟรีจากสถานพยาบาลของบริษท ั นอกเหนื อ ไปจากผัว เมีย และลูก ตามที่กําหนดไวเดิม กับขอสุดทาย ใหพนักงานและคนงานของบริษท ั ในเครือมีสิทธิ ์ จะโยกยายไปปฏิบัติงานในตําแหน งที่เทากัน หรือสูงขึน ้ ในบริษท ั ตาง ๆในเครือ “นัฐกิจโกศล” ได... พอเลาวา ขอเรียกรองทั้งสามขอของสหพันธฯ หากมองเผิน ๆ ก็ดูเหมือนวาไมใชเรื่องที่รุนแรงอะไร แตอานนทกับอานุชลุกขึน ้ คาน ทันที โดยอานนทช้ใี หเห็นวา การนําเครื่องจักรและอุปกรณท่ี ทันสมัยเขามาติดตั้งในโรงงานและสํานักงาน เปนนโยบายหลักที่ ดําเนิ นมาตั้งแตเมื่ออานนทเขารับหนาที่ผูอํานวยการสํานักงาน กลาง ทั้งนี้ ก็เพื่อลดตนทุนการผลิต ปรับปรุงวิธีการผลิตใหทันสมัย และสรางผลกําไรใหบริษท ั สูงขึน ้ ทั้งไมไดมีผลกระทบโดยตรงตอ คนงาน เนื่ องจากการจะปลดหรือเลิกจางตองเปนไปตามระเบียบที่ มีอยู สําหรับคนงานเกาที่เคยคุมเครื่องรุนเกา หากสามารถ ปรับปรุงความสามารถของตัวเองใหใชเครื่องจักรรุนใหมได บริษท ั ก็ จะยังคงใหทําหนาที่เดิมตอไป ในสวนของการใหพนักงานหรือคนงานมีสิทธิโ์ ยกยายไป ปฏิบัติงานในบริษท ั ในเครือ อานนทกลาวหาวาเปนความ ทะเยอทะยานของคนคนเดียวที่คิดจะใชสหพันธคนงานเปน เครื่องมือ ทั้งนี้ เพราะการบริหารงานบุคคลของ “นัฐกิจโกศล” มี ลักษณะเปนเอกเทศ แตละบริษท ั เพียงแตรับนโยบายหลักของ สํานักงานกลางไปปฏิบัติ แมจะมีการสอบคัดเลือกโดยสํานักงาน กลาง แตน่ันก็เปนไปตามตําแหน งที่บริษท ั ในเครือแตละแหง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตองการ ขอเรียกรองดังกลาวจะกอใหเกิดความยุงยากในการจัด อัตรากําลัง และที่สําคัญไปกวานั้นก็คือ หากยินยอมตามนั้นจะทํา ใหการบริหารงานบุคคลทั้งหมดของบริษท ั ตกอยูในมือของผูนํา สหพันธฯ เพียงไมก่ค ี นกับผูท่อ ี ยูเบื้องหลังการเรียกรอง สวนอานุชคานในเรื่องการเรียกรองดานสวัสดิการวา บริษท ั จะตองทุมเทเงินลงไปในเรื่องนี้ อีกเปนจํานวนมหาศาล ทั้งในดาน การปรับปรุงสถานที่ใหกวางขวางเพียงพอที่จะรองรับผูปวยที่เพิ่ม มากขึน ้ อีกหลายเทาตัว ดานหยูกยาเวชภัณฑตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใชและอุปกรณตาง ๆ รวมทั้งดานบุคลากร
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พอเลาวา การประชุมครั้งนั้นนับเปนครั้งแรกที่ผูบริหารแทบ ทุกคน มีมติปฏิเสธขอเรียกรองทั้งหมดของสหพันธฯ และแทบจะในทันทีทันใดที่มติของที่ประชุมผูบริหารออกมา ทางสหพันธฯ ก็ประกาศใหพนักงานและคนงานของบริษท ั ในเครือ “นัฐกิจโกศล” ชะลอการทํางานและการผลิตลงรอยละ 60 จนกวาผู บริหารจะมีการเปลี่ยนแปลงมติ...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
และที่ย่ง ิ ไปกวานั้นก็คือ ทางสหพันธฯ ยังเพิ่มขอเรียกรองอีก ขอหนึ่ ง ใหปลดอานนทออกจากตําแหน งผูอํานวยการสํานักงาน กลางของบริษท ั
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
36.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
การสไตรคเงียบโดยวิธีชะลอการทํางานของพนักงาน และคนงานกอใหเกิดความปนปวนและเสียหายแกบริษท ั ตาง ๆ ใน เครือ “นัฐกิจโกศล” เปนอยางมาก เพราะสําหรับธุรกิจแลวแตละ วินาทีลวนแตเปนเงินเปนทองทั้งสิ้น... บรรดาผูบริหารเริ่มมี ความคิดเห็นแตกแยกกันเปนสองฝาย โดยฝายหนึ่ งเห็นวาควรจะ ประนี ประนอมกับสหพันธฯ ในขณะที่อีกฝายหนึ่ งคานอยางหัวชน ฝาชนิ ดที่หัวเด็ดตีนขาดก็ไมมีวันยอมออนขอใหแมแตกาวเดียว... คราวนี้ นับเปนครั้งแรกที่พวกเราเห็นคนที่ไมคอยจะซีเครียด กับชีวิต อยางอานนทกลายเปนคนเครงเครียดและหงุดหงิดเจา อารมณ ซึ่งแมบอกวา นอกจากจะขุนเคืองพี่ระวีซ่ง ึ รูกันอยูโดยนัย ๆ วาเปนผูท่อ ี ยูเบื้องหลังการเรียกรองของสหพันธฯ แลว อานนทยัง นอยใจและผิดหวังกับสหพันธฯ ซึ่งตนเปนผูริเริ่มกอตั้งมากับมือ ยิ่งเรื่องยืดเยื้อนานวันออกไป สหพันธฯ ก็เรงรัดขอเรียกรอง ดวยการชะลอการทํางานขึน ้ เปนรอยละ 80 ซึ่งเรียกไดวา “นัฐกิจ โกศล” เสียเงินจางพนักงานและคนงานมานั่งเลนเดินเลนในบริษท ั และที่หนักยิ่งไปกวานั้นก็คือ ความขัดแยงในระหวางญาติ พี่นอ งเองก็ทวีความรุนแรงยิ่งขึน ้ เรื่อย ๆ ถึงขนาดที่ลุงเทียนหันไป จับมือกับลุงแอนดี้ เพื่อผลักดันใหพ่ร ี ะวีขน ึ้ มาดํารงตําแหน งผู อํานวยการสํานักงานกลางแทนอานนท เพื่อแลกเปลี่ยนกับการดึง พี่ชาญชัยกลับมามีบทบาทใน “นัฐกิจ-โกศล” อีกครั้งหนึ่ ง ซึ่งสงผล
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ใหพอและลุงนัฐซึ่งเฝาดูเหตุการณอยางเงียบ ๆ มาตั้งแตตน ตองยื่น มือเขาโอบอุมอานุชและอานนทท่ต ี กเปนเปาหมายสําคัญในการ โจมตีจากสหพันธคนงาน
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ถึงแมวาปูจะเคยเปรียบเทียบความฉลาดรอบรูและ สติปญญาของลูกชายใหญท้ง ั สองกับจูกัดกิน ๋ และจูกัดเหลียง ใน ทํานองเลน ๆ แตก็ใชวาในสมัยสามกกนั้นจะมีคนเฉลียวฉลาด ปราดเปรื่องเพียงแคคนแซจูสองพี่นอ ง เพราะที่แทแลวยังมากมี ดวยผูทรงสติปญญาอยาง ลิฉุย กุยกี สุมาเตกโช บังทอง ฯลฯ หรือ แมกระทั่งสุมาอี้ และคําพูดที่วา “เทียนกัวเทียน” หรือ “เหนื อฟายังมี ฟา” นั้น ก็ยังคงใชไดในยุคสมัยนี้ เมื่อลุงนัฐโดดลงมาเลนเกมตะลุมบอนดวยอีกคนนั้น คําแรกที่ ลุงนัฐพูดกับนองชายก็คือ
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“ศึกครั้งนี้ ใหญหลวงนัก... รับรองวาไอตํารับตําราฝรั่งที่แก รํ่ าเรียนมาจนสมองผุไมมีทางจะงัดเอามาใชไดเลย...” ลุงนัฐยกแกวนํ้ามังสวิรัติขน ึ้ ดื่มดังเฮือก กอนมองหนาอานนท อยาง คาดคั้น “เพราะฉะนั้น ฉันจะจัดการเรื่องทั้งหมดเอง สวนแกคอยเตน ตามบทและขอใหเชื่อหัวไอเรืองก็แลวกัน”
งส อื
นํา ม
าให
ไมรูวาเพราะ “หัวไอเรือง” หรือหัวลุงนัฐ อานนทก็ย่ น ื ใบลาพักงานไมมีกําหนด พรอม ๆ กับที่อานุชเดินทางไปพักผอนที่ ไตหวัน... ตอทาทีท่เี หมือนวา คนที่เปนตัวตั้งตัวตีในการคัดคานขอ เรียกรองของสหพันธฯ จะตกเปนฝายเพลี่ยงพลํ้าจนถึงกับตองยอม ลาทัพ ทําใหท้ง ั ผูนําสหพันธฯ และพี่ระวีถึงกับตีปกดวยความดีอก ดีใจ ซึ่งทําใหฉน ั อดที่จะประหลาดใจไมไดวา ทําไมพี่ระวีถึงไดเห็น
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ผิดเปนชอบ และชักนํ้าเขาลึกชักศึกเขาบานไดถึงขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม วาจะมองในดานไหน บริษท ั ของเราตองตกเปนฝายเสียเปรียบจาก ขอเรียกรองเหลานั้นอยูวันยังคํ่ า และฉันยังนึ กไมออก วาถึงแมพ่ร ี ะ วีจะไดตําแหน งของอานนทดังมุงหวัง พี่ระวีจะมีสติปญญาพอเพียงที่ จะพัฒนาบริษท ั ของเราใหเจริญกาวหนาอยางที่อานนทเคยทํามา หรือไม และที่สําคัญที่สุดพี่ระวีจะสามารถภูมิอกภูมิใจกับสิ่งที่ชวงชิง มาดวยเลหกระเทหไดอยางไร ถึงพี่นภิศจะเคยพูดอยูบอย ๆ วา “ไมมีใครปรานี ในสงคราม และความรัก” แตฉน ั ก็คิดไมถึงวาจะเกิดเรื่องราวทํานอง “ศึก สายเลือด” ขึน ้ ในตระกูลของเรา และขอบอกตรง ๆ วา ฉันไมเคย นิ ยมชมชอบการที่พ่น ี อ งตองมาหักโคนทําลายลางกันเองเชนนี้ แม ปูจะเคยพูดวา “พี่กับนองที่ทําการคาของตระกูลรวมกันก็เหมือนกับ ไผกอหนึ่ ง ถึงจะเกิดจากเหงาเดียวกันแตตางคนก็ตางแยงชิงกัน เหยียดลําใหสูงที่สุดเทาที่จะสูงได เพื่อขมตนอื่น ๆ ใหอยูใตก่ง ิ ใบ ของตน” ก็ตาม
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ในขณะที่พ่ร ี ะวีกําลังเปนปลื้มไมรูจักเสร็จอยูน้ัน ลุงนัฐก็ดําเนิ น แผนการขั้นที่สองดวยการแยกพนักงานและคนงานของ “นัฐกิจ อะลา-โมด” และ “สินทอง คอรปเรชัน” ออกจากสหพันธคนงานของ “นัฐกิจโกศล” ดวยการเสนอขอคิดวา บริษท ั ทั้งสองเปนบริษท ั เล็ก ถึงหากขอเรียกรองของสหพันธฯ เปนผลสําเร็จ พนักงานและคน งานของ “นัฐกิจ อะ-ลา-โมด” กับ “สินทอง คอรปเรชัน” ก็จะไมไดรับ ผลประโยชนอยางเปนลํ่ าเปนสันเทาเทียมกับคนของ “นัฐกิจการ ทอ” “นัฐกิจฟอกยอม” หรือ “นัฐกิจ-เทโตรอน” ซึ่งเปนบริษท ั ใหญ นอกจากนี้ ลุงนัฐยังเสนอที่จะใหสวัสดิการและความชวยเหลือพิเศษ แกคนงานและพนักงานของตน เชน เงินยืมโดยไมคิดดอกเบี้ยเพื่อ ซื้อบานหรือซื้อรถยนต ใหโบนัสไปเที่ยวตางประเทศ และเงิน ชวยเหลือในกรณีฉุกเฉิ น ซึ่งทําใหสหพันธฯ สูญเสียกําลังสวนหนึ่ ง ซึ่งแมจะเปนสวนนอยแตก็เปนระดับมันสมองไป สวนพอนั้นถึงแมวารอยวันพันปจะไมเคยเขาไปยุงเกี่ยวกับ เรื่องการ บริหารงานในบริษท ั แตครั้งนี้ พอถึงกับยอมเรียกลูกนอง ฝายเครื่องจักรมาคุยกันอยางเปดอก พอเทาความถึงครั้งที่ “นัฐ
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
กิจการทอ” ยังเปนโรงทอผาเล็ก ๆ อยูท่ต ี รอกจันทน และปูสวม เสื้อกลามนุงกางเกงหูรูดลากเกีย ๊ ะโกรกกราก ดูแลเครื่องจักรเกา ๆ ที่เซงมาจากญี่ปุนตั้งแตเชามืดจนดึกดื่น จนกระทั่ง “นัฐกิจการทอ” คอยเติบใหญมาทุกวันนี้ ... พอเลาถึงครั้งที่พอถูกปูสงไปฝกงานใน โรงงานทอผาที่ญ่ป ี ุนทันทีท่เี รียนจบชั้นมัธยม 5 สภาพชีวิตที่ไมไดมี อะไรผิดแผกแตกตางไปจากคนงานญี่ปุนทั่วไป จนกระทั่งมีความ ชํานาญเรื่องเครื่องจักรทอผาเปนอยางดี “พวกลื้อรวมกับเตี่ยและอัว๊ สราง ‘นัฐกิจการทอ’ มากับมือ แลว ทําไมจะมาลบมันดวยตีน มีอะไรเราก็คอยพูดคอยจากันได... อัว๊ ยืนยันกับพวกลื้อไดวา อัว๊ รักเครื่องจักรทุกตัวในโรงงานนี้ เหมือนที่ พวกลื้อรัก และจะไมมีวันยอมใหใครมาโยนเครื่องจักรพวกนี้ ทิ้ง แลวเปลี่ยนเอาไอรุนใหม ๆ เขามาใชโดยไมมีเหตุผลอันสมควรเปน อันขาด” ถึงอยางไรพอก็ยังมีอิทธิพลอยูในหมูคนงานโรงงานทอผาอยู ไมนอ ย และคําพูดที่เด็ดเดี่ยวของพอก็เปนเสมือนหลักประกันที่ม่น ั คง ดังนั้นเมื่อ “เจาพอกรรมกร” ตัวจริงลงโรง ก็ทําใหบางคนกลาย เปน “เจาพอกํามะลอ” ไปในทันที
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
พรอม ๆ กับสถานการณทเี่ ปลีย ่ นแปรไป อานนทก็กลับ เขามาทํางาน ในบริษท ั อยางเงียบ ๆ และประกาศเปลี่ยนแปลง นโยบายการนําเครื่องจักรใหมมาใชแทนเครื่องจักรเกา ซึ่งเดิม กําหนดไวภายในเวลาสามป เปนปละยี่สิบเปอรเซ็นตในระยะเวลา หาป กับจะสงคนงานที่เคยคุมเครื่องจักรแบบเกาทยอยกันไป ฝกงานที่ญ่ป ี ุนเปนรุน ๆ แทนการรับนักศึกษาชางกลโรงงาน พรอม ทั้งยินยอมใหพอแมคนงานเขารับการรักษาพยาบาลในสถาน พยาบาลของบริษท ั ฯ แบบคนไขไป-กลับจนกวาจะมีการขยาย สถานที่ใหเพียงพอรับคนไขภายในไดในอนาคต จากทาทีประนี ประนอมมากขึน ้ ของอานนท ทําใหความ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตึงเครียดผอนคลายลงทันที สหพันธฯ เริ่มรูวาพวกเขาสามารถ พูดจากับอานนทไดโดยตรงโดยไมจําเปนตองผาน “บุคคลที่สาม” ซึ่งคอยฉวยประโยชนจากพวกตนอีกทีหนึ่ ง ในขณะที่อานนทก็เริ่ม รูจักการกาวลงจากหอคอยงาชาง และกองตํารับตําราฝรั่งมาสดับ ตรับฟงความคิดความเห็นของคนงานไทย ๆ สหพันธคนงานยอมรับขอเสนอของฝายบริหาร พรอมกับถอน ขอเรียกรองเรื่องการขอสิทธิโ์ ยกยายไปปฏิบัติงานตามบริษท ั ตาง ๆ ในเครือ เนื่ องจากกลายเปนขอที่ทําใหเกิดความแตกแยกทาง ความคิดเห็นกันเองในหมูพนักงานและคนงาน เพราะลงทายแลว หลายคนก็ชักจะเห็นพองกับความคิดของอานนทท่ว ี า การทําเชน นั้นจะทําใหอํานาจในการบริหารงานบุคคลของบริษท ั ทั้งหมดตกอยู ในมือของผูนําสหพันธฯ เพียงไมก่ค ี น...
าให ้อ่า
ทุกครัง ้ เมื่อพูดถึงวิกฤตการณในครัง ้ นัน ้ อานนทจะเอย ถึงลุงนัฐดวยความชื่นชมและสํานึ กในบุญคุณ ซึ่งลุงนัฐก็เพียงแตยัก ไหลเลียนทานองชาย และลากเสียงภาษาอังกฤษวา “โน พลอบเบ ลม”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
แตส่ง ิ ที่เปน “พลอบเบลม” ก็คือความเสียหายจากการสไตรค เงียบ ซึ่งมีคนเคยคํานวณเอาไววา ชั่วระยะเวลาสิบสองวันนั้น “นัฐ กิจโกศล” สูญเสียรายไดเปนมูลคารวมสองรอยลานบาท ...และที่เสียหายรายแรงยิ่งไปกวานั่นก็คือ รอยราวลึกในหมู พี่นอ งของตระกูล “สือพาณิชย” ที่ยากจะประสานใหคืนเปนเนื้ อ เดียวดังเดิม
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
37.
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ในบรรดาลูกสาวทัง ้ สามคนของปู อานงพงาไดช่ อ ื วา เปนทัง ้ ลูกเปด และแมเปดขี้เหร ที่ถึงอยางไรก็ไมมีทางที่จะกลาย รางเปนนางหงสอยางในนิ ทานไดเลย แตถึงกระนั้นอานงพงาก็กลับ เปนคนที่มีใครตอใครมาติดพันอยูไมขาดสาย จนคอลัมนขาวสังคม ตามหนาหนังสือพิมพยุคนั้นเคยกระเซาเยาแหยในทํานองวา กระบวนแมมายไฮโซไซตี้ใตฟาบางกอก นงพงา สือพาณิชย จัดได วามีเสน หแรงกวาเพื่อน ชนิ ดที่วากันวาไอเรื่อง “รถไฟชนกัน ”ทีละ สองสามขบวนน ะเปนของธรรมดา-ธรรมดาที่เกิดขึน ้ เปนปกติวิสัย
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
แมบางคนอาจจะมองเห็นวา อานงพงาออกจะเปนคนเจาชู หรือไมก็นึกสนุกกับการที่มีคนมารุมรักแลวหลอกใหหัวปนเลน แต แทจริงแลวฉันเชื่อวา อานงพงาเองคงไมมีความสุขกับเรื่องเหลานี้ แมแตนอ ย ตรงกันขามกลับจะตองมานั่งเปนทุกข◌กับเสน หของ ตัวเองอยูบอย ๆ... อานงพงาเคยใหสัมภาษณหนังสือผูหญิงฉบับหนึ่ งวา การเกิด มาเปนลูกผูหญิงของครอบครัวคนจีนที่มีชีวิตอยูในสังคมไทยนั้น เปนเรื่องที่คอนขางจะลําบากลําบน และการเปนผูหญิงนักทํางาน อยางที่เปนอยูน้ี ย่ง ิ ยากขึน ้ ไปอีกหลายเทา เพราะนอกจากเพื่อนรวม งานหรือผูใตบังคับบัญชาจะไมคอยเชื่อในความรูความสามารถแลว บอยครั้งที่ตัวเองจะกลายเปนคนนอกหรือสวนเกินของที่ทํางาน งานสังคม หรือที่ประชุมไป
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
อานงพงาพูดอยางนอยใจวา สังคมไทยยังคงมองผูหญิงเปนชน ชั้นสอง ที่มีสิทธิม ์ ีเสียงในขอบเขตอันจํากัด มีความรับผิดชอบงานใน ระดับลาง และเมื่อใดก็ตามที่ผูชายเปดปากพูด ผูหญิงก็จะตองเปน ฝายนิ่ งฟงโดยไมมีปากมีเสียง แตหากมีผูหญิงสักคนลุกขึน ้ มา โตแยงก็จะถูกหาวา ยายคนนี้ ซาหรืออยากดัง โดยไมใสใจในเหตุผล ที่ยกมาอางอิง และเมื่อถูกถามถึงเรื่องที่หลายคนกระหายใครรูคือเรื่องหนุม ๆ ที่มารุมตอม อานงพงาตอบสั้น ๆ วา ความทุกขของแมมายนั้นอยู ที่ตรงนี้ คือมักจะถูกตีคาความสัมพันธกับผูชายไปในทางชูสาว ทั้งที่ สวนใหญแลว จะคบกันดวยเรื่องงาน หรือฉันเพื่อนฝูงมากกวาเรื่อง ทํานองนั้น ถึงแมจะไมไดพูดถึงเรื่องเสน หของตนเองอยางที่ขาวสังคมชอบ ลงแตฉน ั คิดวา เสน หของอานงพงาน าจะอยูท่ค ี วามชางพูดชางคุยที่ มีมาตั้งแตเล็ก ๆ บวกกับความเฉลียวฉลาด และการตัดสินใจที่ รวดเร็วและคอนขางถูกตองแมนยํา รวมทั้งความคลองแคลว ปราดเปรียว ทําใหอานงพงากลายเปน “ผูหญิงเกง” ที่นาทึ่งใน สายตาของผูชายทั่วไป
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
แมวาอานงพงาจะพูดวา สวนใหญจะคบคากับผูชายฉันเพื่อน หรือดวยเรื่องงานมากกวาจะเปนไปในทํานองชูสาว แตเอาเขาจริง ๆ แลวอานงพงาเองก็มักจะพัวพันนุงนังกับคนที่เขามาใกลชิดอยู เสมอ ซึ่งพี่นภิศแอบลอวาเปนเพราะอานงพงาเปนโรคหัวใจ... ก็หัวใจออนไงละ โดนใครออดออนเขาหน อยก็คลอยตามเขาไป ทุกที
งส อื
นํา ม
เมื่ออานงพงาเขามารับหนาทีผ ่ ูจัดการของ “สหนัฐกิจ” ในตอนแรกนั้น คนในวงการพากันประหลาดใจไปตาม ๆ กัน ที่ปู เลือกลูกสาวคนเล็กที่ไมมีประสบการณดานการคามากอนมาคุม บริษท ั ที่มีความสําคัญยิ่งของ “นัฐกิจโกศล” บางคนพากันหาวาปู
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เสียสติไปแลว ที่เอาธุรกิจมูลคามหาศาลมาฝากไวในมือเด็กสาวที่ เพิ่งเรียนจบมาใหม ๆ ซึ่งไมประสีประสาอะไร และบางคนก็คิดวาปู หลงลูกสาวจนไมลืมหูลืมตา ทั้ง ๆ ที่ความจริงแลวตอนนั้น ปูโกรธ อานงพงาอยางแทบจะตัดเปนตัดตายเรื่องที่ตัดสินใจแตงงานโดยไม บอกเลาเกาสิบ หนําซํ้าอยูกันไมทันไรก็เลิกรางอยางงาย ๆ อยางไรก็ตาม เมื่อมองยอนกลับไปดูเหตุการณในชวงนั้น ฉัน คิดวาแทบทุกคนก็คงตองยอมรับวา ปูมีสายตาที่ทอดไกล และ ตัดสินใจไมผิดพลาด เพราะ “สหนัฐกิจ” เกิดขึน ้ มาจากการรวบรวม บริษท ั ผูผลิตสินคาประเภทเครื่องอุปโภคสี่หาบริษท ั เขาดวยกันเปน บริษท ั เดียว จึงเปนการยากที่จะสรรหาบุคคลที่ทุกบริษท ั เหลานั้น ยอมรับมาดํารงตําแหน งผูนําของบริษท ั ที่เกิดขึน ้ ใหม ดังนั้นเพื่อตัด ปญหาดังกลาว ปูจึงตองเลือกสรรคนภายนอกที่ทุกฝายใหความ เกรงอกเกรงใจมาทําหนาที่น้ี ซึ่งแมจะมีบางเสียงกลาวหาวาเปน การยอนกลับไปสูการทําธุรกิจในระบบครอบครัวอีกครั้งหนึ่ ง แตก็ ดูเหมือนวาจะไมมีทางเลือกอื่นที่ดีไปกวานั้น และตัวอานงพงาเองก็ มีความรูความสามารถเพียงพอที่จะรับหนาที่น้ี ได สาเหตุอีกประการหนึ่ งที่ปูมอบตําแหน งผูจัดการของ “สหนัฐ กิจ”ใหอานงพงาอาจจะเปนอยางที่ลุงนัฐคาดคะเน นั่นก็คือ สินคา ประเภทเครื่องอุปโภคอยาง สบูหอม แชมพูสระผม ยาสีฟน หรือ ผงซักฟอก ฯลฯ เปนสินคาที่มีการแขงขันสูง การใชสิ้นเปลืองเร็ว คุณภาพและราคาใกลเคียงกัน ซึ่งทําใหผูบริโภคมักจะเปลี่ยนไป ลองสินคาประเภทเดียวกันของบริษท ั อื่นที่มีส่ง ิ ลอใจสูงกวา โดยไม ยึดติดอยูกับสินคาตัวเดียว ดังนั้น การไดคนรุนใหมไฟแรงเขามา ดูแล “สหนัฐกิจ” จึงเปนสิ่งที่เหมาะสมอยางมาก เพราะนอกจากจะ รูเทาทันเกมของคูแขงแลว ยังสามารถเขาถึงจิตใจของคนวัยหนุม สาว ซึ่งเปนลูกคารายใหญของสินคาประเภทนี้
งส อื
ทันทีทเี่ ขาไปนัง่ ในบริษท ั “สหนัฐกิจ” อานงพงาก็ สัง่ เปลี่ยนแปลงรูปแบบโฆษณาของสินคาทั้งหมดเสียใหม โดย
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ยกเลิกวิธีการนําเสนอที่คอนขางแข็งและตรงไปตรงมาเปนวิธีท่ี นุมนวลและทางออมขึน ้ ผงซักฟอกของเราจะไมมีพรีเซนเตอร ทาทางหนาตาเหมือนคนวิกลจริตมาตะโกนใสหนาลูกคาเพื่อ เคี่ยวเข็ญใหซ้ อ ื สินคาตัวนี้ หรือภาพของครอบครัวตัวอวน มายืนดา หนาสีฟนจนฟองฟูมปากใหเห็นอีกตอไป... อานงพงาเปนคนวาง คอนเซปตโฆษณาทุกชิ้น และลงมือคัดเลือก-ควบคุมการทําโฆษณา ดวยตนเอง ซึ่งทําใหสินคาของเราทุกตัวดูดีและมีรสนิ ยมขึน ้ นอกจากนี้ อานงพงายังปรับปรุงดานคุณภาพของสินคาและ บรรจุภัณฑ ตลอดจนฉลากและโลโกใหทันกับยุคสมัยนั้น... อานงพ งาทุมเทเงินเปนจํานวนมากไปกับการคนควาสูตรใหม ๆ และซื้อ โนวฮาวดานการผลิตจากตางประเทศ ซึ่งทําให “สหนัฐกิจ” กาว ลํ้าหนาสินคาประเภทเดียวกันที่ผลิตในประเทศ ไปยืนเคียงบาเคียง ไหลกับสินคาที่นําเขาหรือแบรนดตางประเทศ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ที่สําคัญยิ่งไปกวานั้นก็คือ อานงพงาไดสรางภาพพจนของ “สหนัฐกิจ” ใหเปนบริษท ั ที่ไมไดมุงแสวงหาผลกําไรแตเพียงอยาง เดียว แตพยายามสรางสรรคประโยชนสุขแกสังคมในรูปตาง ๆ เชน จัดทําโครงการ “นํ้าใส-ไมเขียว” เพื่อลอกและทําความสะอาดคู คลองตาง ๆ ในกรุงเทพฯกับปลูกตนไมตามชายคลองโดยใชทุนของ บริษท ั และแรงงานสวนหนึ่ งของพนักงานและคนงานบริษท ั หรือ โครงการ “ชุมชนนัฐกิจ” ในรูปกึ่งสหกรณเพื่อจําหน ายสินคาของ บริษท ั แกประชาชนตามแหลงชุมชนแออัดในราคาถูก แลวนําผล กําไรมาพัฒนาชุมชนนั้นอีกที แมวาตอนแรก แนวคิดในเรื่องนี้ ของอานงพงาจะไดรับการ คัดคานและไมเห็นดวยจากพวกผูใหญท่ม ี องวาการคาก็ตองทําใน รูปแบบของการคา ไมนาจะไปทําอะไรที่มันนอกลูนอกรอยซึ่งมีแต เปลืองเงินเปลืองเวลาไปโดยไมใชเหตุ แตอานงพงาก็ดึงดันจะทํา ตามความคิดของตน โดยมีอานนทเปนกองเชียรคนสําคัญ พอเลาวา เมื่ออานงพงานําเรื่องนี้ เขาสูท่ป ี ระชุมของ “นัฐกิจ โกศล” นั้น บรรดาผูบริหารบริษท ั ตาง ๆ ในเครือพากันโจมตีอานงพ งาอยางหนัก ถึงขนาดลุงเทียนลุกขึน ้ ชี้หนาอานงพงาหาวาคาขาย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เหมือนเด็กเลนขายขาวขายแกง และลามไปถึงปูวาคบเด็กสราง บาน ขณะเดียวกับที่อานุชหยิบปญหาดานการลดหยอนภาษีของ บริษท ั ขึน ้ มาพูด โดยมีความเห็นวาหากทําในรูปของการบริจาคหรือ มูลนิ ธิจะชวยประหยัดมากกวา แถมดวยการแถกเล็ก ๆ วา อานงพ งาฟุงซานอยากดังโดยไมคิดอะไรใหถ่ถ ี วนรอบคอบ พอเลาวา กอนที่หองประชุมจะกลายเปนสนามรบเหมือน สะพานเตียงปนเกี้ยวในสามกก ปูซ่ง ึ นั่งฟงเงียบ ๆ มาตั้งแตตนก็วาง เหรียญบาทสมัยรัชกาลที่ 6 ที่คลึงเลนอยูในมือลงบนโตะแรง ๆ ปูวา...
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“เมื่อเราลงเรือสําเภามาจากเมืองจีน เรามีแคเสื้อผาเพียงชุด เดียว ลําพังแคกวาจะไดเหรียญบาทเหรียญนี้ เหรียญเดียว เราก็ ตองอาบเหงื่อตางนํ้าทํางานตัวเปนเกลียว... ถึงวันนี้ เมื่อเรามีเงินมี ทองมีฐานะความเปนอยูดีขน ึ้ ทําไมเราจะมาทําตัวเหมือนคนลืมตัว ที่ไมจดจําความทุกขยากแตหนหลัง ทําไมเราจะตอบแทนบุญคุณ ของแผนดินที่ชวยใหเรากอรางสรางตัวขึน ้ มาบางไมได”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ปูย่ น ื มือไปหยิบเหรียญบาทมากําไว และลุกขึน ้ จากเกาอี้เดิน ออกไปจากหองประชุมโดยไมพูดอะไรอีกเลย
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
38.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ความรักครัง ้ แรกของอานงพงานับตัง ้ แตกลับมาอยู เมืองไทยซึ่งเปนที่รูกันโดยเปดเผย ก็คือความรักที่มีตอคุณธํารง ตรงกิจพาณิชยการ หรือ เสี่ยสวน เจาของบริษท ั ผลิตกระเบื้องปูพ้ น ื และเครื่องสุขภัณฑช้น ั นํา...เสี่ยสวม เอย เสี่ยสวน เปนพอมายลูก ติดที่เขามาติดพันอานงพงาตั้งแตอาเพิ่งเขารับตําแหน งผูจัดการ “สหนัฐกิจ” ใหม ๆ และวากันวาอานงพงาไดเสี่ยสวนเปนซือแป ฝกปรือวิทยายุทธทางการคาอยูหลายกระบวนทา...แมวาทั้งคูจะดู ชอบพอรักใครกันมาก แตฝายหญิงยังมีทีทาวายังเข็ดเขี้ยวกับความ รักความหลังครั้งเกาอยู และอยากจะยืดเวลาการใชชีวิตรวมกันไป อีกระยะหนึ่ ง ในขณะที่ฝายชายทําตัวเปนวัยรุนใจรอน อยากรวบรัด ตัดความใหสิ้นเรื่องสิ้นราวไปเร็ว ๆ ซึ่งผลก็คืออานงพงาตองสูญเสีย เสี่ยสวน ใหกับนางงามตกรอบคนหนึ่ งซึ่งใจถึงและใจรอนยิ่งกวา เสี่ยเสียอีก ไมมีใครรูวาอานงพงา “เจ็บ” เพียงไหนจากความรักครั้งนั้น แต ถึงอยางไรอานงพงาก็ยังเปนคนในตระกูลสือพาณิชย ซึ่งไมมีวันกม หัวใหกับความพายแพ... อานงพงาเก็บตัวเงียบอยูพักหนึ่ งอยางที่พ่ี นภิศเรียกวา “ซอนรางเลียแผลรายในพงพี” กอนที่จะกลับคืนสูวง สังคมอีกครั้งชนิ ดที่เชิดหนาทาทายตอซุมเสียงซุบซิบนิ นทา และ สายตาเยาะหยามของผูคนประเภท “ปากปราศรัย นํ้าใจเชือดคอ” ทั้งหลาย
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
อานงพงาทําตัวเพริศพริ้งสดใสกวาเดิมหลายสิบเทา ราวกับ คนที่ไมเคยรูจักรสชาติของความชอกชํ้า แถมยังดูทาจะสนุกสนาน กับการควงหนุม ๆ ไมซ้ า ํ หนาออกงานตาง ๆ ไมเวนแตละวัน มิไยที่ ยามาลัยจะมองดูความประพฤติของลูกสาวดวยสายตาที่วิตกกังวล และเปนหวงบวงใยเพียงไรก็ตาม ยามาลัยนั้นเปนคนที่ไมมีปากเสียงมาแตไหนแตไร ยิ่งกับลูก ๆ อยางอานงพงาหรืออานรากรดวยแลว เพียงคํานอยก็ไมเคยดุดา วากลาว ซึ่งอานุชคอนวาที่ยามาลัยเทิดทูนลูกบังเกิดเกลาทั้งสอง คนเปนอยางยิ่งก็เนื่ องมาจากถือวาเปนผูมีพระคุณคุมเกลา เพราะ หากไมมีอานงพงาหรืออานรากรแลว สถานะของยามาลัยเองใน บานก็อาจจะไมม่น ั คงอยางเชนที่เปนอยูทุกวันนี้ ก็ได ซึ่งในสวนนี้ ปา อรเคยคุยกับปาทรงศรีวา น าจะเปนเพราะความที่ยามาลัยเปนคน เจียมเนื้ อเจียมตัว เลยพลอยถือวาอานงพงากับอานรากรอยูในฐานะ ของลูกเจาของบาน สวนตนเองเปนเพียงเมียรองของปู ซึ่งความคิด แบบนี้ ฉันวาน าจะมีอยูแตในนิ ยายเกา ๆ แบบ “บานทรายทอง” หรือ “เคหาสนสีแดง” มากกวา
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
ในชวงนัน ้ ผูชายทีเ่ ขามาจีจ ๋ ากับอานงพงามากทีส ่ ุด มี อยูสองคน คนแรกคือ คุณวิบูลย-นักธุรกิจหนุมเจาของบริษท ั เรือ สําราญ กับพันโท บัญชา-นายทหารคนสนิ ท หนุมโสด และรูปหลอ ของนายทหารชั้นผูใหญคนหนึ่ ง ซึ่งมีขาวคราวเกี่ยวกับความเจาชู อยูไมขาดหู
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
แมวาทั้งคุณวิบูลยและพันโท บัญชา จะทําคะแนนควบคูกันมา แตดูจากทาทีของอานงพงาแลว หลายคนเชื่อวาฝายหญิงมีใจ โอนเอนไปทางเจาของบริษท ั เรือสําราญ ถึงขนาดที่คุณวิบูลยเอาชื่อ อานงพงาไปตั้งเปนชื่อเรือลําใหญของแก และอานงพงาเคยทอง ทะเลไปกับคุณวิบูลยเปนเวลาถึงสามวันสามคืน ทามกลางเสียง โจษจันกันลั่นเมือง แตเอาเขาจริง ๆ แลวอานงพงากลับเปลี่ยนใจมา
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เทคะแนนใหพันโท บัญชา เสียดื้อ ๆ ทําใหคุณวิบูลยอกหักสะบักสะ บอมแทบจะระเบิดเรือที่ช่ อ ื “นงพงา” ทิ้งแลวกระโดดนํ้าตามไปใหรู แลวรูรอด เบื้องหลังของเรื่องนี้ เปนที่ปดกันใหแซดวา เปนเพราะปู ตองการผูกสายสัมพันธกับผูใหญระดับสูงของบานเมืองโดยผาน ทางลูกสาวคนเล็ก แมวาเปนเรื่องยากที่จะเชื่อวาคนอยางอานงพงา จะยอมใหปูจับคูใหงาย ๆ แตส่ง ิ ที่มีน้ ําหนักพอเชื่อถือไดก็คือ การที่ปู ชอบเอาตัวเขาไปยุงเกี่ยวกับการเมืองมาตั้งแตวัยหนุมประการหนึ่ ง และความกตัญูรูคุณตอบรรพบุรุษของชาวจีนที่ฝงรากลึกลงไปใน จิตใจของลูกหลานอีกประการหนึ่ ง อาจเปนแรงผลักดันใหอานงพงา ทําในสิ่งที่ใคร ๆ คาดไมถึง อานงพงาผูกพันมั่นหมายกับพันโท บัญชา ถึงขั้นผูการลงมือ ปลูกเรือนหอหลังงามที่ลาดพราว ซึ่งนับเปนครั้งแรกที่แกจริงจังกับ ผูหญิง และเปนครั้งแรกอีกเชนกันที่ปูอนุญาตใหลูกหลานยายออก ไปจากบาน เพราะฝายชายไมยอมเขามาอยูรวมชายคาเดียวกับเรา หลังการแตงงาน เนื่ องจากกลัวเสียงครหานิ นทาวาใชอิทธิพลมา ชวยเหลือบริษท ั ในทางมิชอบ โดยเฉพาะในเรื่อง “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี” ของพี่ชาญชัยที่กําลังโดงดังอยูในตอนนั้น
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
แตอยางไรก็ตาม มีเหตุการณสําคัญเกิดขึน ้ ในตอนนั้น ซึ่งได หักเหวิถีชีวิตของอานงพงาใหเบี่ยงเบนไปอีกครั้งหนึ่ ง นั่นก็คือการ พยายามทําปฏิวัติของคณะนายทหารในเดือนกันยายน ซึ่งสงผลถึง การกวาดลางและสับเปลี่ยนตําแหน งหนาที่กันอยางขนานใหญ ภายในกองทัพ ทําใหพันโท บัญชา ตองหลุดจากเกาอี้ไปประจําใน ตําแหน งใหมท่ภ ี าคใต... ฉันจําไดวาคืนนั้นผูการบัญชาขับรถจีป ๊ มา หาอานงพงาที่บานเราตอนหัวคํ่ า และพูดคุยกันอยูจนดึก โดยปูลง มารวมวงดวยในตอนหลัง... ไมมีใครคาดคิดวา นั่นจะเปนครั้ง สุดทายที่เราไดพบพันโท บัญชา เพราะในตอนสายวันรุงขึน ้ หนังสือพิมพทุกฉบับพากันพาดหัวขาววารถจีป ๊ ของผูการถูก รถสิบลอบี้ท่ถ ี นนวิภาวดี ตัวพันโท บัญชา ตายคาที่ สวนคนขับ รถสิบลอหนี ไปตามระเบียบ
ขา ย นํา ไป
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
มีเสียงพูดกันในตอนหลังวา อานงพงาช็อกกับเรื่องพัน โท บัญชามากถึงกับมีอาการงันไปพักหนึ่ ง แมวาคุณวิบูลยจะหวน กลับมาพยายามรื้อฟนความสัมพันธเดิม แตก็ดูเหมือนวาทุกสิ่งทุก อยางมันจะเปลี่ยนแปลงไปจนไมสามารถที่จะปะติดปะตอใหเปนรูป เปนรางไดอีกแลว และคุณวิบูลยจําใจตองเปนฝายจากไปอยาง เงียบ ๆ โดยทิ้งอานงพงาใหจมอยูกับความเศราซึม อยางไรก็ตาม อานงพงาก็โศกเศราอยูเพียงไมนาน เพราะ พระเอกมามืดคืออานิ รันดร ก็แซงโคงเขามาปลอบขวัญชนิ ดที่คาด ไมถึงหรือล็อกถลมทลาย... อานิ รันดรเปนเพื่อนนักเรียนอัสสัมฯ รุน เดียวกับลุงนัฐ แตแยกไปเรียนสวนกุหลาบตั้งแตช้น ั มัธยม 1 เมื่อจบ ชั้นมัธยม 5 ก็สอบเขาคณะสถาปตยฯ จุฬาฯ ได ครอบครัวของแก เปนคนไหหลํา เตี่ยเปนชางไม ฝมือดีเปดรานทําวงกบหนาตาง และ เฟอรนิเจอรเล็ก ๆ นอย ๆ อยูขางวัดสระเกศ อานิ รันดรน้ันถึงไมใชญาติก็เหมือนญาติ เพราะสนิ ทสนมกับ ครอบครัวของเรามานมนาน และเคยชวยเหลือเฟอฟายกันมาหลาย ตอหลายครั้ง แบบที่ยาเนี ยมพูดวา... “เนื้ อใชเนื้ อ-แตถาใครไม เอื้อเฟอก็เหมือนเนื้ อกลางปา เนื้ อไมใชเนื้ อ-แตถาใครเอื้อเฟอก็ เหมือนเนื้ ออาตมา” ...อานิ รันดรเปนคนออกแบบโรงงานและ สํานักงานของบริษท ั ในเครือ “นัฐกิจโกศล” หลายหลัง ที่สําคัญที่สุด คือฮวงจุยของปูท่ช ี ลบุรี ซึ่งรํ่ าลือกันวาเปนสถาปตยกรรมที่ เพียบพรอมดวยความงดงาม และเขาถึงปรัชญาของจีนโบราณ อานงพงาตัดสินใจอยูกินกับอานิ รันดรโดยไมมีพิธีรีตอง และ แมอานิ รันดรจะอายุมากกวาอานงพงาถึงสิบกวาป แตก็ดูเหมือนวา สิ่งที่มาพรอมกับความมีอายุก็คือ ความเขาใจชีวิตและความเปน ผูใหญ ซึ่งเพียงพอที่จะทําใหผูหญิงที่เคยใชชีวิตอยางอิสระตามใจตัว เหมือนลูกแมวซุกซนอยางอานงพงายอมหยุดนิ่ งอยูกับที่ราวกับ ตุกตานุนตัวหนึ่ ง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
39.
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
หากจะพูดกันจริง ๆ แลว บรรดาคนในตระกูลสือ พาณิ ชยทจ ี่ ัดไดวามียุค “เรื่อเรืองเหลืองทอง” ตามสํานวนยาเนี ยม หรือ “ยุคทอง” ในสํานวนสมัยใหมน้ัน มีอยูดวยกันเพียงสามคน คือ ลุงแอนดี้ ลุงเทียน และพี่ชาญชัย ซึ่งลวนแตเปนลูกหลานสายยา เหมยหลิงทั้งสิ้น
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
ในชวงที่ปูมีอันตองเดินทางไปพักอยูท่ฮ ี องกง และทิ้ง “นัฐ กิจการทอ” กับ “นัฐกิจหลักทรัพย” ไวในความดูแลของลูกชายใหญ สองคนนั้น ลุงแอนดี้ก็ใชวิทยายุทธท่เี หนื อกวากับบารมีของพอตา ชวงชิงอํานาจการดูแลปกครองบริษท ั ทั้งสองแหงมาไวในมือตนเอง เพียงลําพัง พรอมกับพลิกแพลงแตกบริษท ั เล็กบริษท ั นอยออกไป อยางมากมาย จนความสัมพันธของบริษท ั เกิดใหมเหลานั้นกับ บริษท ั แมอยาง “นัฐกิจการทอ” และ “นัฐกิจหลักทรัพย” แผวบางลง ในขณะเดียวกันกับที่อิทธิพลของลุงแอนดี้เพิ่มพูนขึน ้ เรื่อย ๆ จนมี เสียงพูดกันในตอนนั้นวา... “นัฐกิจ” ก็คือ ลุงแอนดี้ หรือ ลุงแอนดี้ ก็ คือ “นัฐกิจ” ...ซึ่งแมแตปูเองก็ยังหวาดหวั่นกลัววาลูกหลานจะไม เห็นตนเองอยูในสายตาอีกตอไป และเมื่อกลับมาเมืองไทยแลว ปู ตองลงมือสะสางและแกไขระบบงานของบริษท ั ดวยตนเอง ซึ่งทําให “ยุคทอง” ของลุงแอนดี้สิ้นสุดลง สําหรับลุงเทียนนั้นมี “ยุคทอง” ของตนเองในชวงที่ถูกปูเรียก ตัวใหไปดูแลบริษท ั “เนชัลแนล ทรัสต” ที่ฮองกง ในชวงนั้นลุงเทียน
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ใชชีวิตอยางมหาราชา จัดงานเลี้ยงงานเตนรําแทบทุกคืน เปลี่ยนคู ควงไมซ้ า ํ หนา พรอม ๆ กับที่ถลุงเงินของ “เนชันแนล ทรัสต” อยาง ไมย้ง ั มือจนบริษท ั เกือบถูกฟองรอง รอนถึงปูซ่ง ึ กําลังหาตลาดการ คาอยูในอเมริกาตองรีบเดินทางกลับฮองกง และสั่งให “นัฐกิจ หลักทรัพย” โอนเงินมาเขาบัญชี “เนชันแนล ทรัสต” ทามกลางเสียง คัดคานของลุงแอนดี้และยาเนี ยม แตในที่สุดปูก็สามารถผานพน วิกฤตการณคราวนั้นไปดวยดี พรอมกับการปดฉาก “ยุคทอง” ชวง สั้น ๆ ซึ่งคอนขางจะไมเรื่อเรืองเหลืองอรามของลุงเทียนลง สําหรับยุคทองของพี่ชาญชายนั้น มีหลายคนลงความเห็นวา เปนยุคสมัยที่เหมือนกับยุคตื่นทองในอเมริกา เพราะ “ยูเนี ยน ชา เตอร และ คอมมอดิตี” นั้น ทําใหผูคนบาคลั่งไปทั้งเมือง ถึงขนาดที่ บางคนขายที่ขายบานเอาเงินมาลง แมจะดูเหมือนเปนเรื่องที่ เหลือเชื่อ แตพ่ช ี าญชัยก็สามารถจายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกวา ธนาคารใหลูกคาไดอยางไมอ้น ั ชนิ ดที่มองเห็นกํารี้กําไรกันจะ ๆ ตา และไดเงินตนคืนในเวลาอันสั้น... ยิ่ง “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอ ดิตี” ใหผลตอบแทนที่สูงและรวดเร็วเพียงไร ก็ย่ง ิ ระดมเงินทุนเขา มาไดมากมายมหาศาลยิ่งขึน ้ เพียงนั้น... แมจะไมมีใครสามารถ ยืนยันตัวเลขสุดทายของจํานวนเงินที่ “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” มีอยูใน มือได แตก็เชื่อกันวาคงจะไมตํ่ากวาหาพันลานบาท ซึ่งเงินจํานวน ขนาดนี้ ในยุคที่เศรษฐกิจซบเซาจัดไดวาไมใชนอ ยเลย และฉันเคย ไดยินอานุชคุยกับอาดอนวา เงินที่อยูในมือของพี่ชาญชัยนั้นทําเอา เศรษฐกิจปนปวน เพราะจู ๆ เงินสดจํานวนมากก็หายไปจากตลาด กอใหเกิดสภาพเงินฝดขึน ้ โดยทั่วไป และสรางความวุนวายแกระบบ การเงินของประเทศ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ฉันเคยอานพบในหนังสือเลมไหนสักเลมหนึ่ งที่เขียนวิจัยถึง เหตุการณท่เี กิดขึน ้ ในตอนนั้นไววา สาเหตุท่ี “ยูเนี ยน ชาเตอร และ คอมมอดิตี” โดงดังขึน ้ มาไดอยางรวดเร็วในชวงระยะเวลาอันสั้นนั้น เปนเพราะรัฐบาลในขณะนั้นใชนโยบายการเงินการคลังที่เนนดาน การประหยัด หรืออยางที่เรียกกันวา “รัดเข็มขัด” ทําใหเศรษฐกิจ ชะลอการเติบโต กระแสการเงินไมไหลสะพัด ไมมีการลงทุนราย ใหมหรือรายใหญ ดังนั้นเมื่อมีสถาบันการเงินนอกระบบเกิดขึน ้ ก็
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เลยทําใหคนที่ตองการแสวงหาผลกําไรทุมเทเงินทองมาลงทุนกัน โดยไมคิดหนาคิดหลัง
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
พอกับลุงนัฐเคยพูดถึงพีช ่ าญชัยกับบริษท ั “ยูเนียน ชา เตอรฯ” วาพี่ชาญชัยเหมือนคนที่ข่ห ี ลังเสือ ซึ่งแมจะรูอยูเต็มอกวา เปนเรื่องเสี่ยงอันตราย แตก็ไมวายที่จะกระทํา ทั้งนี้ อาจจะเปน เพราะไดรับผลประโยชนท่ค ี ุมคาตอการเสี่ยง หรือไมเชนนั้นก็ดวย ความทะนงวาตัวเองสามารถจะควบคุมสถานการณได แตเมื่อไม เปนอยางที่คิดผล ที่ตามมาก็คือการพังครืนลงอยางที่ปูไดเคยคาด การณเอาไวลวงหนา การลมสลายของ “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี” เปนสิ่งที่ เกิดขึน ้ อยางรวดเร็วในชั่วพริบตา โดยผูคนทั่วไปไมเคยคิดฝนมา กอน เพราะในระยะหลัง ๆ ขาวคราวที่ออกมามักเปนไปในทํานองที่ วา บริษท ั นี้ มีผูมีอิทธิพลในวงการทหารและการเมืองสนับสนุนอยู เบื้องหลังอยางลับ ๆ ซึ่งเปนผลใหลูกคาเกิดความเชื่อมั่นและนอนใจ วาไมมีใครจะมาแตะตอง “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” ได พรอม ๆ กับที่ ปริมาณเงินสดและทรัพยสินในความครอบครองของพี่ชาญชัยและ บริษท ั ของแกก็เพิ่มพูนขึน ้ อยางไมหยุดยั้ง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
เสถียรภาพและความมั่นคงของ “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอ ดิตี” เริ่มสั่นคลอนภายหลังการพยายามกอการปฏิวัติในเดือน กันยายน เมื่อนายทหารใหญซ่ง ึ มีขาวลือวาหนุนหลังบริษท ั อยูถูก เพงเล็งวาเปนผูท่พ ี ัวพันกับเหตุการณคราวนั้น และถูกลดบทบาท และความสําคัญลง...ชั่วเวลาไลเลี่ยกันนั้น หนังสือพิมพก็พากัน ประโคมขาวเปดเผยเรื่องราวและการดําเนิ นงานที่ไมชอบมาพากล ตาง ๆ ของ “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” ...แมวาตลอดระยะเวลานั้น พี่ชาญ ชัยจะออกหนามารับวิกฤตการณท่ร ี ุนแรงขึน ้ ทุกขณะ แตความ เชื่อถือของประชาชนที่มีตอ “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” ก็ตกตํ่ าและดิ่งลง เรื่อย ๆ อยางไมมีหนทางที่จะฉุดรั้ง...
ขา ย นํา ไป
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
วันที่ “ยูเนียน ชาเตอร และคอมมอดิตี” ลมทลายหรือที่ เรียกกันภายหลังวา “วันศุกรทมิฬ” เปนวันอัปยศยิ่งของตระกูลสือ พาณิชยซ่ง ึ ยากจะมีใครในตระกูลลืมเลือนได ไมวาเวลาจะลวงเลย ไปเนิ่ นนานสักเพียงไรก็ตาม... เหตุการณเริ่มตนดวยลูกคาที่ฝาก เงินไวกับ “ยูเนี ยนชาเตอรฯ” กรูกันมาถอนเงินที่สํานักงานใหญของ บริษท ั ที่ถนนสีลมตั้งแตเชามืดจนการจราจรติดขัดไปหมด แมวาพี่ ชาญชัยจะออกมาเผชิญหนากับฝูงชนพรอมกับรับปากวาจะคืนเงิน ทุกบาททุกสตางคใหกับลูกคาทุกคนที่ตองการจะเบิกถอน โดยไม จําเปนตองแหกันมาเชนนี้ แตดูเหมือนวาจะไมมีใครยอมฟงคําพูด ของแกอีกตอไป ยิ่งสายคนยิ่งแน นขึน ้ เรื่อย ๆ ผูคนลนออกมาจากสํานักงานมา เบียดเสียดกันอยูบนฟุตบาทและริมถนน จนพี่ชาญชัยตองสั่งใหคน งานทุบกระจกหนาเพื่อวางเคานเตอรเพิ่มขางถนน... วากันวาวัน นั้นวันเดียว “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” จายเงินออกไปจากบริษท ั เปนพัน ๆ ลาน รถขนเงินวิ่งเขาวิ่งออกไมรูวากี่เที่ยวตอกี่เที่ยว แตถึงกระนั้น ยังไมพออยูดี ...ยิ่งบาย พี่ชาญชัยก็ย่ง ิ วิ่งวุน แตดูเหมือนวาจะไมมี ใครยื่นมือเขามาชวย ขนาดนายธนาคารใหญบางคนที่วากันวาซี้ ๆ กับพี่ชาญชัยยังบินไปสิงคโปรอยางกะทันหันโดยทิ้งคําสั่งพิเศษหาม ไมใหผูจัดการสาขาคนใดใหเครดิตกับ “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” เปนอัน ขาด... ซึ่งเรื่องนี้ เปนที่เลาลือกันในภายหลังวา เปนเพราะตอนนั้นพี่ ชาญชัยเองมีแผนการที่จะดิ้นรนขออนุมัติต้ง ั ธนาคารแหงใหม โดย เปลี่ยนรูปมาจาก “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี”... เมื่อถึงเวลาบายสองโมงปรากฏวายังมีลูกคาของ “ยูเนี ยน ชา เตอรฯ” อีกรวมพันคนที่ยังไมสามารถรับเงินคืนได แมวาทางบริษท ั จะขอรองใหมากันใหมสัปดาหหนาก็ไมมีใครยอมเชื่อ เมื่อพนักงาน เห็นทาไมดีจะรีบปดทําการ ก็ปรากฏวาบรรดาลูกคาพากัน อาละวาดทําลายขาวของของบริษท ั กลายเปนการจลาจลยอย ๆ ขึน ้ จนตํารวจตองเขาคุมสถานการณ...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
และในคืนนั้นเอง ก็มีขาววาทางการออกหมายจับพี่ชาญชัยใน หลายขอหา ซึ่งเรียกรวม ๆ กันอยางเกไกวา “อาชญากรทาง เศรษฐกิจ” แตกอนเวลาที่จะมีขาวดังกลาวเพียงชั่วโมงเดียว พี่ชาญชัยก็ บินปรอไปฮองกง ทิ้งเรื่องราวของ “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี” ที่เคยเกรียงไกรใหญย่ง ิ ไวตามยถากรรม
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
40.
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เรื่องราวเกีย ่ วกับ “ยูเนียน ชาเตอร และคอมมอดิตี” รวมทัง ้ เหตุการณ “วันศุกรทมิฬ” เปนขาวใหญติดตอกันรวมเดือน หนังสือพิมพแทบทุกฉบับตางพากันขุดคุยเรื่องเบื้องหนาเบื้องหลัง มาตีแผกันอยางไมหยุดยั้ง... ทรัพยสินของ “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” ถูก ยึด และตัวพี่ชาญชัยเองถูกตราหนาวาเปนคนลวงโลกและไอข้โี กง แตถึงกระนั้นก็มีคนอีกเปนจํานวนมากที่ยังปกใจวา หาก หนังสือพิมพไมประโคมขาวเปดโปงเรื่องนี้ “ยูเนี ยน ชาเตอร และ คอมมอดิตี” ก็คงจะไมลมลงงาย ๆ และพี่ชาญชัยก็คงมีปญญาที่จะ หาเงินมาจายดอกเบี้ย รวมทั้งเงินตนคืนใหลูกคาทุกรายไดโดยไมมี ปญหาใด ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
อยางไรก็ตาม ในเรื่องนี้ มีบางคนมีความเห็นวา “ยูเนี ยน ชา เตอรฯ” เปนสถาบันการเงินนอกระบบแบบการเลนแชรเปยหวย โดยมีพ่ช ี าญชัยเปนเทาแชรท่ค ี อยหมุนเงินของชาวบาน และตราบ ใดที่ยังมีเงินไหลเขามาไมขาดมือตราบนั้นก็ไมมีปญหาอะไร แต เมื่อใดที่เกิดสะดุดติดขัดขึน ้ เมื่อนั้นก็จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซท่ท ี ําให แชรท้ง ั วงสั่นสะเทือนไดทันที...และบางคนยังคาดเดาไปไกลวา ขาวคราวไมชอบมาพากลของ “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” ที่เกิดขึน ้ ทั้งหมด เปนฝมือของพี่ชาญชัยเองที่จะเรงปฏิกิริยาลูกโซใหเร็วขึน ้ เพื่อ “ฉาก” ตัวเองออกจากวงแชรมหึมาที่ช่ อ ื “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอม มอดิตี” เพราะตักตวงผลกําไรเพียงพอแลว หรือไมก็หมุนเงินไม ทัน...
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
และการอาศัยหนังสือพิมพเปนคนเปดเกมก็ทําใหพ่ช ี าญชัยมี ขออางที่จะแกตัวไดวา หากหนังสือพิมพไมโหมประโคมขาวจนเกิด เหตุการณ “วันศุกรทมิฬ” ขึน ้ พี่ชาญชัยก็คงจะสามารถดําเนิ นงาน “ยูเนี ยน ชาเตอรฯ” ตอไปไดดวยดี แตถึงใครจะพูดกันยังไง พี่ชาญชัยก็ไมเคยที่จะปริปากความ เปนจริงในเรื่องนี้ ออกมาแมเพียงคําเดียว และยังคงกบดานเงียบอยู ที่ฮองกงโดยไมมีใครไดขาวคราวอะไร นอกจากคนในบานจะรูกัน เปนนัย ๆ วาแกทําธุรกิจสองสามอยางกับญาติขางตา และขามไป เลนการพนันที่มาเกาชนิ ดที่ไดเสียกันคราวละเปนลาน ๆ เหรียญ ฮองกง โดยไมแยแสกับขาวคราวครึกโครมทางเมืองไทย หรือ หมายจับที่ออกมาหลังจากที่เจาตัวบินไปฮองกงไดเพียงชั่วโมง เดียว...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ถึงตอนนี้ ฉันคงตองขอพูดแทนปูในเรื่องที่บางคนกลาวถอยคํา ปรักปรํา และตําหนิ ติเตียนปูวานิ่ งดูดายในเหตุการณ “วันศุกร ทมิฬ” โดยไมย่ น ื มือเขาชวยเหลือหลานชาย ทั้งที่ความจริงแลวเปน ที่รูกันในตระกูลสือพาณิชยวา ในวันนั้นปูเรียกประชุมลูกหลานเปน การฉุกเฉิ นเพื่อปรึกษา หารือหาทางผอนหนักเปนเบา ถึงขนาดที่ส่ง ั ใหบริษท ั ในเครือระดมเงินสด มาสํารองไวในมือเพื่อเตรียมเทเขา “ยู เนี ยน ชาเตอรฯ” ไดทันทวงทีทามกลางเสียงคัดคานจากแทบทุกคน พอเลาวา บรรยากาศในที่ประชุมวันนั้นเปนไปอยางตึงเครียด และรุนแรง ในขณะที่ลุงแอนดี้และพี่ระวีสนับสนุนความคิดของปูใน เรื่องนี้ อยางเต็มที่ ลุงนัฐกับอานนทก็ยืนกรานคัดคาน โดยตางฝาย ตางก็ยกเหตุผลขึน ้ มาโตเถียงกันอยางเอาเปนเอาตาย... ขางลุงแอ นดี้และพี่ระวีอางวาหาก “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี” มีอันตอง ลมลงยอมสงผลกระทบมาถึงกิจการอื่น ๆ ของ “นัฐกิจโกศล” และ ชื่อเสียงของตระกูล สวนลุงนัฐและอานนทแยงวา “ยูเนี ยน ชา เตอรฯ” ไมมีความเกี่ยวพันในทางใด ๆ กับ “นัฐกิจโกศล” และการที่ ลูกหลานคนหนึ่ งคนใดของตระกูลจะออกไปทําธุรกิจสวนตัว ก็ไมใช เรื่องที่ปูยาตายายหรือลูกหลานคนอื่นจะตองเขาไปมีสวน รับผิดชอบในความสําเร็จหรือลมเหลวในธุรกิจเอกเทศเหลานั้น
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
และในทางตรงกันขาม หาก “นัฐกิจโกศล” หรือตระกูลสือพาณิชย โดดลงไปชวยเหลือพี่ชาญชัย ก็เสี่ยงกับการถูกมองวาเปนผูอยู เบื้องหลังวงแชรเถื่อนหรือสถาบันการเงินนอกระบบอยาง “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี” ซึ่งอาจทําใหภาพพจนของบริษท ั และ ชื่อเสียงของตระกูลเราที่สรางสมมาเปนเวลานับสิบ ๆ ป แปร เปลี่ยนเปนทางลบไดภายในพริบตาเดียว พอเลาวา คําโตแยงของลุงนัฐและอานนททําเอาปูอง ึ้ ไป “ผมจะบอกใหพอรูวา นี่ เปน ‘จุดตาย’ ของ ‘นัฐกิจโกศล’ และ ของตระกูลสือพาณิชย...”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
อานนทลุกขึน ้ สงเสียงลั่น “...ไมวาพอจะทุมเงินลงไปใหชาญชัยสักเทาไหร ผลที่ไดก็มีแต เจงกับเจงลูกเดียว แลวเรื่องอะไรเราจะตองเอาเงินเปนรอย ๆ ลาน มาละลายนํ้าไปเปลา ๆ ปลี้ ๆ โดยไมไดดิบไดดีอะไรขึน ้ มา” “ไอ ‘ยูเนี ยน ชาเตอรฯ’ บาบอคอแตกอะไรนั่น เวลานี้ เหมือน เรือที่ร่ว ั ไปทั้งลํา ตอใหอุดใหยากันขนาดไหนก็ไมมีทางที่จะลอยลํา ตอไปได...” ลุงนัฐกระแอมเบา ๆ กอนจะพูดแซมขึน ้
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“...และเหตุการณคราวนี้ มันก็ไมเหมือนครั้งที่พอดึงเงินจาก ‘นัฐกิจหลักทรัพย’ เขาไปคํ้า ‘เนชันแนล ทรัสต’...” ลุงนัฐชายตาดูลุงเทียนที่ขยับตัวอยางอึดอัด และพูดตอไปดวย นํ้าเสียงเรียบ ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
“เพราะทั้ง ‘นัฐกิจหลักทรัพย’ และ ‘เนชันแนล ทรัสต’ มันเปน บริษท ั ที่พอสรางขึน ้ มากับมือ พอจึงมีหนาที่ท่จ ี ะตองรับผิดชอบอยาง เต็มที่ สวน ‘ยูเนี ยน ชาเตอรฯ’ มันเปนแคบริษท ั นอกคอก” “ลื้อพูดอยางนั้นก็ไมถูก...” ลุงแอนดี้ขัดขึน ้ ดวยความไมพอใจ “...จะชั่วจะดียังไง ไอชัยมันก็เปนคนแซเดียวกันกับลื้อ... หมามันยัง รวมหมูกันสูเวลาถูกหมาตางถิ่นมารังแก ถาพี่นอ งไมชวยเหลือกัน ยาม ทุกขรอนมันก็เลวกวาหมาละวะ” “เผอิญผมไมชอบหมาหมูท่ส ี ุมหัวกันโดยไมรูจักใชความคิดของ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตัวเอง สักแตวาพวกมากลากไปทางไหน” ลุงนัฐยกแกวเหลาขึน ้ จิบ และมองสบตาพี่ชายคนละแมอยางไมพรั่นพรึง “...แตถึงยังไงผมก็ ยังเปนหมาเฝาบานที่ถึงจะปากเปราะไปบาง แตก็ทําหนาที่เหาให ทุกคนในบานรูตัวเมื่อเกิดอะไรที่มันไมชอบมาพากล ดีกวาจะเที่ยว วิ่งตามฝูงตะลอน ๆ แลวปลอยใหหัวขโมยดอดมายกเคาจนหมด บาน” “หนูเองก็อยากถามเฮียเหมือนกันวา ตอนที่บริษท ั ของอีตา ชาญชัยเฟองฟู มันเคยเอาเงินมาชวยเหลือเจือจานอะไรบริษท ั พวก เราบาง...” อานุชแหวขึน ้ มา
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“...แลวถึงตอนนี้ เรื่องอะไรที่เราจะตองเอาเนื้ อหนูไปโปะเนื้ อ ชางหัวเด็ดตีนขาด หนูก็ไมมีวันยอมเรื่องนี้ อยางแน นอน” “พอที ๆ” ปูโบกมืออยางเหนื่ อยใจ พี่นอ งกันทั้งนั้นมาทุมเถียง กันเองไมเกิดประโยชนอะไร...” ปูเอนหลังพิงพนักเกาอี้และทอดสายตาที่ฝามัวมองดูลูกหลาน
ชา ๆ
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“เราทํามาคาขายตั้งแตหนุมจนอายุปูนนี้ ก็ดวยความหวังที่จะ สรางตัว เปนปกแผนใหลูกหลานไดพ่ง ึ พิง ไมเคยคิดเลยวาพอ ลูกหลานคนหนึ่ งมีเรื่องเดือดรอนเกิดขึน ้ ก็กลายเปนเรื่องให ลูกหลานคนอื่น ๆ ตองมาทะเลาะเบาะแวงกัน ไมมีใครยอมลงให ใคร...”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ปูถอนหายใจแรง ๆ อยางเหน็ดเหนื่ อย “...ทุกวันนี้ เราเองก็ออนแอลงไปมาก กําลังวังชาก็ลดนอย ถอยลงเรื่อย ๆ กิจการคาก็ดี วงศตระกูลก็ดี ลวนแตตองตกอยูในมือ ของพวกเราทุกคนที่น่ังกันอยูในที่น้ี เมื่อเสียงสวนใหญเห็นวา เรา ควรวางเฉยในเรื่องชาญชัยเราก็จะทําตามนั้น แตถาใครจะมีแกใจ ชวยเหลือมันเราก็ไมหวงหามแตขอใหถือวาเปนเรื่องความรักใคร ไยดีสวนตัว ไมมีสวนเกี่ยวพันกับ ‘นัฐกิจโกศล’ หรือตระกูลสือ พาณิชย”
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
คําประกาศิตของปูทําใหทุกคนนิ่ งเงียบกอนจะคอย ๆ ทยอย กันออกไปจากหองประชุม โดยทิ้งปูจมอยูกับเกาอี้เกา ๆ ตรงหัวโตะ เพียงลําพัง... อยางไรก็ตาม เปนที่นาประหลาดใจวา ไมมีพ่น ี อ งคนใดลงเงิน สวนตัวเขาชวยพี่ชาญชัย แมแตลุงแอนดี้ท่เี ปนพอแท ๆ หรือพี่ระวี ซึ่งเปนตัวตั้งตัวตีใหบริษท ั ในเครือทุมเงินเขาไปกอบกูสถานการณ ของ “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เรื่องพีช ่ าญชัยและ “ยูเนียน ชาเตอรฯ” รวมทัง ้ ความ แตกแยกไมลงรอยกันของลูกหลานที่นับวันแตจะทวีความรุนแรง ขึน ้ เรื่อย ๆ เปนเรื่องซึ่งสะเทือนใจปูมาก และสิ่งที่กระทบกระเทือน จิตใจของปูย่ง ิ ขึน ้ ไปอีกก็คือ การที่ส่ อ ื มวลชนบางแหงกลาวหาวา “นัฐกิจโกศล” อยูเบื้องหลัง “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี” โดยใช เงินที่ไดมาจากสถาบันการเงินนอกระบบมาเพิ่มทุนของตน จึง สามารถขยายกิจการไดอยางไมหยุดยั้ง ถึงกับหนังสือพิมพบาง ฉบับแปลงนามสกุลของเราเปน “กระสือพาณิชย” และทําการตูนลอ เปนรูปผีกระสือที่มีหนาตาคลายคลึงกับปูแตตรงขดไสเขียนวา “ยู เนี ยน ชาเตอรฯ”... ปูเริ่มลมเจ็บลงหลังจากเหตุการณ “วันศุกรทมิฬ” ผานพนไป ไดไมนาน ซึ่งหมอหลายคนลงความเห็นวา เปนอาการของคนสูง อายุ และแนะนําใหปูหาเวลาพักผอนจากการงานเสียบาง หลังจาก ที่ทํางานวันละยี่สิบหาชั่วโมง สัปดาหละแปดวัน และปละสิบสาม เดือนมาตลอดชีวิต ซึ่งทุกครั้งที่ไดยินคําแนะนําทํานองนี้ ปูก็จะ หัวเราะหึ ๆ และพูดกับยาเนี ยม วา... “พวกหมออีอยากใหเราตายไว ๆ” ทั้งนี้ เพราะปูถือมาโดยแน นแฟนวา คนที่ไมทํางานมีแตคนที่ตาย แลวเทานั้น ตราบใดที่คนเรายังมีลมหายใจอยูจะตองดิ้นรน ขวนขวายหางานหาการทําโดยไมรูจักหยุดนิ่ ง ฉันไมรูวาคําแนะนําของหมอ หรือความคิดของปูอยางไหนจะ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ถูกตองกวากัน แตแมก็พูดอยูเสมอ ๆ วา หากปูไมด้ อ ื ดึงและเชื่อคํา แนะนําของหมอเสียบาง บางทีปูก็อาจจะทุเลาจากอาการเจ็บไขได ปวย และอยูเปนรมโพธิร์ มไทรของเราตอไปนาน ๆ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
41.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ถึงแมวาปูกับคุณตาของฉันจะลงเรือมาจากเมืองจีนเห มือน ๆ กัน อยางที่พอเคยพูด แตดูเหมือนวาการดําเนิ นชีวิตของคน ทั้งสองในเมืองไทยจะแตกตางกันอยางสิ้นเชิง... แมเลาวา ปูกับคุณตาเริ่มงานครั้งแรกดวยการเปนจับกังแบก กระสอบขาวสารแถวทานํ้าราชวงศ เมื่อตอนที่ปูรวบรวมเงินที่หามา ไดจากนํ้าพักนํ้าแรงเปดแผงขายกาแฟนั้น คุณตาก็เริ่มอาชีพใหม ดวยการหาบเตาฮวยและเฉากวยตระเวนขายไปตามยานคนจีนใน ขณะนั้น ตั้งแต ถนนบํารุงเมือง เยาวราช ทรงวาด จนถึงสามแยก กระทั่งไดพบกับคุณยายซึ่งเปนลูกสาวเจาของรานขายเมล็ดพันธุ ผักในตรอกถั่วงอก... แมเลาวา คุณทวดเกิดชอบอกชอบใจซินตึง๊ ขายเตาฮวยคนนี้ ถึงขนาดยกลูกสาวคนสวยใหเปลา ๆ โดยมีขอแม เพียงใหคุณตาเลิกขายเตาฮวยแตมาชวยกันทํางานในราน... ตอน นั้นเปนยุคที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเปนนายกรัฐมนตรี และกําลัง สงเสริมใหคนไทยเลี้ยงไกและกินไขไก คุณตาจึงตัดสินใจรวบรวม เงินทองของตนเองและของพอตาสั่งลูกไกพันธุดี รวมทั้งอุปกรณ การเลี้ยงไกตาง ๆ เขามาจากอเมริกาเปนคนแรก โดยเปดฟารม เลี้ยงไกท่ร ี ังสิต ...แมเลาวา การเลี้ยงไกและการขายไขไกเนื้ อไกใน ตอนนั้นเปนไปดวยความยากลําบาก ถึงขนาดที่คุณตาตองตระเวน สงไขไกตามที่ตาง ๆ ตั้งแตเชามืด เพราะคนยังไมนิยมกินไขกัน อยางกวางขวางเหมือนในปจจุบัน โดยเฉพาะอยางยิ่งไขไกจากแม พันธุท่ม ี าจากอเมริกา มีฟองใหญและสีนวลอมแดงผิดแผกไขไก
ขา ย
พันทางทั่วไป ซึ่งเรื่องนี้ คุณตาเคยเลาอยางขัน ๆ วา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
“ตอนแรก ๆ เอาไปขายใครก็ไมมีใครเชื่อวาเปนไขไก บางคน นึ กวาเปนไขนกกระจอกเทศไปเลย อัว๊ เลยบอกวา ไอหยา ถาเปนไข นกกระจอกเทศจริง ๆ อัว๊ ฟกขายเขาดินก็รวยตายหะแลว” อยางไรก็ตาม เมื่อคนเริ่มหันมาเลี้ยงไกกันมากขึน ้ คุณตาก็ เลิกทําฟารมที่รังสิต และหันมาขายปุย เครื่องมือการเกษตรตาง ๆ รวมทั้งยาฆาแมลงหรือที่เรียกกันตามภาษาสมัยใหมวา ยากําจัด ศัตรูพืช ซึ่งชื่อนี้ ทําใหคุณตาเคยเถียงกับใครตอใครคอเปนเอ็นมา แลววา ชื่อเต็ม ๆ ของเขตปอมปราบฯ ในกรุงเทพฯ นั้น คือเขตปอม ปราบศัตรูพืช ไมใชปอมปราบศัตรูพาย คุณตาเปนคนพูดจาเอะอะโวยวายมาแตไหนแตไรแลว ถึง ขนาดที่ยาเนี ยมเคยพูดลอ ๆ วา ถาใครอยากรูวาที่โบราณเขาวา “เจกปราศรัยเหมือนไทยทะเลาะกัน” เปนยังไง ก็มาดูไดจากคุณตา ของฉัน... ถึงแมวาคุณตาจะเปนคนที่เรียกไดวาประสบความสําเร็จใน ชีวิตคนหนึ่ งจากการเริ่มตนมาจากความเปนคนไมมีอะไรเลย แต คุณตาผิดกับปูตรงที่ในขณะที่ปูใชเงินทุกบาททุกสตางคท่ห ี ามาได อยางกระเหม็ดกระแหม แตคุณตากลับใชเงินเปนเบี้ยขนซื้อขาวของ ทุกอยางที่ขวางหนาเปนวาเลน... ปูใชเวลาแทบจะทั้งชีวิตงวนอยู กับงาน แตคุณตาใชเวลาสวนใหญหาความสุขใสตัว ไมวาใครจะวา มีอะไรอรอยที่ไหน มีโชวอะไรดี ๆ หรือมีสถานที่ทองเที่ยวแปลก ๆ น าสนใจ คุณตาเปนตองแลนไปทันที...สําหรับขาวลือที่วา คุณตา ชอบมีอีหนูเปลี่ยนหนามาอยูเรื่อย ๆ นั้น คุณตาจะหัวเราะจนพุง กระเพื่อมและพูดวา “แหม ตัวอัว๊ เองก็แกปานนี้ แลว ไปคบผูหญิงเลาเหลามันก็ย่ง ิ เกกซิม ไปกันใหญ... อันที่จริง บางทีคนมันก็พูดกันเกินเลยไป สวน มากอัว๊ ก็แคควงไปกินขาว ฟงเพลง เตนระบํา หรือไมก็น่ังเปนเพื่อน ตอนเลนไพนิด ๆ หน อย ๆ เทานั้นเอง” สิ่งที่คุณตาชื่นชอบมากอีกอยางคือ รายการพิเศษทางทีวีท่ม ี ีผู หลักผูใหญหรือนักแสดงกิตติมศักดิม ์ ารองเพลงหรือเลนละคร
ขา ย
คุณตาวา...
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
“ของยังงี้หาดูไดงาย ๆ ที่ไหน รอยวันพันปเห็นแตอีน่ังเกกหนา ใหใคร ๆ มากราบมาไหว อยู ๆ อีก็มาเลนอะไรตลก ๆ ใหดูกันทั้ง บานทั้งเมือง” และไมวาใครจะคอนขอดวิธีการใชชีวิตของคุณตาอยางไร คุณ ตาก็เพียงพูดยิ้ม ๆ วา
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“อุตสาหเกิดมาเปนคนกับเขาชาติหนึ่ ง ถาไมรูจักหาความสุข สําราญใหตัวเอง... เกาเจง เผื่อชาติหนาเสือกเกิดเปนหมาจะคาบ เงินไปซื้ออะไรไดวะ”
รด อ
าให ้อ่า
สิง ่ หนึ่งซึง ่ ปูกับคุณตามีความคิดผิดแผกกันอยางมากก็ คือ เรื่องการเมือง... ปูเปนคนที่สนใจและชอบเอาตัวเองเขาไป พัวพันกับเรื่องการเมืองมาตั้งแตหนุม ซึ่งกอใหเกิดผลกระทบในดาน ตาง ๆ แกตนเองทั้งทางตรงและทางออมอยูบอย ๆ แตคุณตาไมเคย ของเกี่ยวในเรื่องเหลานี้ เลย โดยมักจะพูดอยูเสมอ ๆ วา... “เรามันคนคาขาย ยังตองอยูในวงการนี้ อีกนาน อยูเฉย ๆ ดี กวาไปหาเรื่องมาใสหัว”
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
แตถึงกระนั้นก็เปนที่รูกันวา ฤดูเลือกตั้งแตละครั้ง คุณตาจาย เงินบํารุงพรรคการเมืองตาง ๆ ที่เรียงหนากันเขามารวมแลวไมตํ่า กวายี่สิบสามสิบลาน ซึ่งคุณตาเคยพูดวา “อัว๊ จะไปรูลวงหนาไดยังไงวาพรรคไหนอีจะไดรับเลือกเขามา บาง เสียเงินนิ ดหน อยซื้อความสบายใจดีกวา”
งส อื
นํา ม
าให
ดังนั้นไมวาจะเปนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในบานเรา ซักกี่ครั้ง กิจการคาของคุณตาก็ไมเคยไดรับผลกระทบกระเทือนเลย
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ในขณะทีค ่ ุณตาเอื้อเฟอเผื่อแผพรรคการเมืองแทบทุก พรรคนั้น ปูกลับมีความศรัทธามั่นคงในพรรคการเมืองที่เกาแก พรรคหนึ่ งเพียงพรรคเดียว และจะกันเงินจํานวนหนึ่ งไวบํารุงพรรค อยางสมํ่ าเสมอ ปูวา... “พรรคการเมืองก็เหมือนกับสมาคมประจําตระกูลหรือสมาคม ทองถิ่น ซึ่งเปนสมบัติของพวกเรา ถาหากขาดคนชวยกันทํานุบํารุง พรรคก็คง จะไมมีกําลังที่จะตั้งอยูตอไปได” ฉันจําไดวาเคยเห็นรูปปูถายคูกับอดีตหัวหนาพรรคการเมือง พรรคนั้นเมื่อนานมาแลว ที่จําไดติดตาเพราะทั้งปูและหัวหนาพรรค มีรูปรางผอม ๆ คลายกัน ยิ้มเห็นฟนยื่น ๆ คลายกัน แถมยังสวม เสื้อแขนสั้นตัวโต ๆ นุงกางเกงหลวม ๆ คลายกันอีก เมื่อดูทีแรก ชวนใหคิดถึงรูปถายสมัยกอนที่ชอบแตงฟลมทําเปนภาพฝาแฝด และฉันยังเคยไดยินปูทองอะไรเลน ๆ วา... “เหล็กวิลาสหรือ จะสูตะปูควง” หลายคนเคยพูดวา สาเหตุหนึ่ งที่ปูยอมใหอานุชแตงงานกับอา ดอน เปนเพราะทั้งปูและอาดอนตางก็มีความนิ ยมชมชอบในพรรค การเมืองพรรคเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่ในตอนนั้นปูยังไมหายขุนเคืองเรื่อง ที่อานุชบอกศาลาลูกชายเถาแกเลง ซึ่งปูหมายมั่นปนมือใหเปนคู ตุนาหงัน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อาดอนเปนคนปกษใต ฉันไมแน ใจวาสุราษฎรฯ หรือนราธิวาส พอเลาวา อาดอนเปนลูกกําพราที่พอแมตายตั้งแตเล็ก ๆ พอดีมี ญาติหาง ๆ บวชเปนพระขึน ้ มาจําพรรษาอยูวัดบุปผารามแถวฝง ธนฯ อาดอนก็เลยติดตามมาอยูเปนลูกศิษย และพระองคน้ันก็ สงเสียใหอาดอนเรียนตอจนสําเร็จจากคณะนิ ติศาสตร ธรรมศาสตร... พอเลาอยางนึ กขําวา พออาดอนเรียนจบ พระองค นั้นก็สึกแลวหายสาบสูญไปเลย ราวกับหมดหนาที่ท่จ ี ะทําตอไป อาดอนเปนคนที่มีความมานะอดทนสูง หลังจากเรียนสําเร็จ แลวก็ดิ้นรนหางานทํา และตะเกียกตะกายเรียนตอจนจบปริญญา โท แลวจึงสอบเขาเปนอาจารยในมหาวิทยาลัยที่รํ่าเรียนมา
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
อาดอนไดช่ อ ื วาเชี่ยวชาญในวิชากฎหมายระหวางประเทศเปน อยางมาก ถึงขนาดที่มีบริษท ั เอกชนมาชักชวนใหลาออกไปทํางาน ดวย โดยใหเงินเดือนสูงกวาที่ไดรับจากราชการสามสี่เทา แตอา ดอนก็ปฏิเสธดวยเหตุผลที่วายังรักอาชีพครูบาอาจารย อยางไรก็ตาม ยังมีส่ง ิ หนึ่ งซึ่งอาดอนรักมากกวาการเปน อาจารยมหาวิทยาลัย... สิ่งนั้นก็คือการเมือง และทันทีท่โี อกาสมา ถึงอาดอนก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจําที่ทําอยู และโดดลง สมัครรับเลือกตั้งที่จังหวัด อันเปนบานเกิดในสังกัดพรรคการเมืองที่ ปูและอาดอนชื่นชม...
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ถึงแมวาอาดอนจะเปนคนมีช่ อ ื เสียงและมีลูกศิษยลูกหา มากมายทั้งยังลงสมัครในทีมที่แข็ง แตก็ปรากฏวา อาดอนสอบตก ดวยคะแนนสุดกู... ซึ่งนับเปนครั้งแรกที่คนอยางอาดอนไดสัมผัส สภาพของแวดวงการเมืองดวยตนเอง หลังจากที่มีประสบการณ โชกโชนมาจากตํารับตํารา จนเที่ยวสั่งสอนใครตอใครจบไปหลาย ตอหลายรุน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
หลังจากลมเหลวในการลงเลือกตั้งครั้งนั้น อาดอนก็กลับมา สอนหนังสือตามเดิม และแมจะยังนิ ยมชมชอบในพรรคการเมือง พรรคเดิม แตอาดอนก็ไมเคยคิดที่จะลาออกจากงานมาลงสมัครรับ เลือกตั้งอีกเลยไมวาใครจะรับแรงแข็งขอบวา “ชัวรปก” ขนาดไหนก็ ตาม
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
42.
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
มีภาษิ ตอยูบทหนึ่งวา “แผนดินเดียวกันใหกําเนิดทัง ้ ตน ขาวและวัชพืช แมน้ ําสายเดียวกันมีท้ง ั เรือมังกรและแพสวะ” ...เชน เดียวกับบรรดาลูกหลานในตระกูลเดียวกันซึ่งลวนสืบเชื้อสายมา จากบรรพชนเดียวกัน แตตางก็มีชีวิตที่ผิดแผกแตกตางกันออกไป ทั้งชั่วทั้งดี ทั้งเฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง และทั้งโงเขลาเบาปญญา ซึ่งหากจะพูดตามสํานวนยาเนี ยมก็ตองวา “คนเรายอมเปนไปตาม แรงเวรแรงกรรมที่ทํามาแตชาติปางกอน” และถาเปนอยางที่ยาเนี ยมพูด ฉันก็อดสงสัยไมไดวา แลวคน อยางอานรากรสรางเวรทํากรรมหนักหนามาแตครั้งไหน มาชาติน้ี จึงตองตั้งหนาตั้งตาชดใชหนี้ กรรมอยางไมรูจักจบจักสิ้น...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
อานรากรเปนลูกคนทีส ่ องของยามาลัยและเปนลูกชาย คนสุดทองของปู... วากันวาเมื่อตอนเล็ก ๆ อานรากรเปนเด็กที่มี หนาตาผิวพรรณดีผิดกับพี่สาวคืออานงพงาราวฟากับดิน จึงเปนที่ โปรดปรานของปูขนาดขนซื้อตุกตุนตุกตาและของเลนตาง ๆ มา ประเคนใหไมไดหยุดอยางไมเคยซื้อใหลูกหลานคนไหนมากอน ซึ่ง ทําใหอานุชคอนวา วาอานรากรถูกปูตามใจจนเสียคนมาตั้งแต แบเบาะ สวนยาเนี ยมมักจะพูดยิ้ม ๆ วา ปูมีลูกเล็กเมื่อแก ก็เลย
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เพลิดเพลินหลงใหลไดปลื้มเหมือนเด็ก ๆ เหอของเลนชิ้นใหม... อยางไรก็ตาม อานรากรก็เปนลูกคนเดียวที่ใหปูตองคอย ประคบประหงมมาตั้งแตเล็กจวบจนมีอันตายจากกันไปขางหนึ่ ง ยามาลัยนั้นเปนคนที่เลี้ยงลูกเปนเทวดาอยางที่ใครตอใคร นิ นทามาแตไหนแตไรแลว ยิ่งเห็นวาปูรักอานรากรมากเทาไรยา มาลัยก็ย่ง ิ เทิดทูนบูชาลูกชายคนเล็กยิ่งขึน ้ เทานั้น... แมเลาวา นับ ตั้งแตอานรากรรูความและรูวาตัวเองเปนหัวแกวหัวแหวนของปู ก็ ยิ่งทําตัวราวกับเทวดาเหาะลงมาเกิดจริง ๆ ถาลงอยากไดอะไรแลว เปนตองรบเอาใหไดด่ง ั ใจ ถึงขนาดเคยลงดิ้นเรา ๆ กลางสี่แยกเลน เอารถราเบรกกันตัวโกง หรือรองไหล่น ั หางสรรพสินคารวมครึ่ง คอนชั่วโมงเพียงเพราะหางนั้นไมมีรถบังคับแบบที่ตัวเองอยากได และก็ไมยอมที่จะไปดูท่อ ี ่น ื รอนถึงผูจัดการหางตองออกมาแก ปญหาดวยการใหคนไปเที่ยวหาจากหางอื่นมาใหดวยความเกรงใจ ปู ยาเนี ยมเคยเตือนเวลาที่เห็นแมตามใจฉันกับพี่นภิศวา... สิ่ง สําคัญที่สุดของการเปนพอคนแมคนไมไดอยูท่ก ี ารรักลูก แตอยูท่ี การเลี้ยงลูกเพราะเรื่องรักลูกใครก็รักเปน แตเรื่องเลี้ยงลูกใชวาจะ เลี้ยงเปนกันทุกคน...และถึงแมวายาเนี ยมจะไมไดพูดอะไรตอ แต เราก็รูกันวาสวนที่ยาเนี ยมละไวฐานที่เขาใจนั้น มุงหมายจะกระทบ ใคร
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ในกระบวนลูกของปูทง ั ้ หมด วากันวาอานรากรเปนคน เดียวที่ “เสพสุขไมรูสิ้น” มาตั้งแตออนแตออก เพราะไดรับผลพวง จากการที่ปูทุมเทชีวิตทั้งชีวิตใหกับงานอยางเต็มเม็ดเต็มหน วย ที่สุด... ตอนที่มีอานรากรนั้นเปนชวงที่ปูขน ึ้ ไปสูจุดสูงสุดของความ สําเร็จในชีวิต โดย “นัฐกิจโกศล” และบริษท ั ตาง ๆ ในเครือกลาย เปนบริษท ั ชั้นนําที่สยายกิ่งกานสาขาออกไปอยางกวางขวาง ครอบคลุมกลไกการผลิตและจําหน ายของสินคานานชนิ ด จนแทบ จะเปนชีพจรในชีวิตประจําวันของคนในสังคมไทย... แมวาปูจะ
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ประสบความสําเร็จอยางยิ่งใหญในเรื่องงาน แตส่ง ิ เดียวที่ปูยังคง ขาดแคลนมาตลอดชีวิตก็คือเวลาที่จะใหกับลูกเมีย ซึ่งปญหานี้ แทน ที่ปูจะหาทางแกไขใหตรงจุดดวยการเจียดเวลาใหกับครอบครัว ปู กลับใชเงินเปนเครื่องทดแทนเวลาและความใกลชิดที่ขาดหายไป... ยิ่งรูสึกวาตัวเองหางเหินจากลูกคนเล็กมากเพียงไร ปูก็ทุมเทเงิน ทองขาวของชดเชยความรูสึกของตัวเองมากขึน ้ เพียงนั้น
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
แมเลาวา ตอนที่อานรากรยังเล็ก ๆ เวลาที่อานรากรอยูท่ไี หน พวกคนใชจะกรูกันเขาไปลอมหนาลอมหลังเอาอกเอาใจตาง ๆ นานา เพราะรูวา นอกจากจะเปนสิ่งที่ทําใหปูพึงพอใจแลว อานรา กรเองยังชอบแจกเงินที่รับมาจากปูอยางงาย ๆ เปนวาเลน ซึ่งยา มาลัยเองก็ไมเคยที่จะออกปากหามปราม เพราะถือวาการที่อานรา กรมีขาทาสบริวารหอมลอมเปนสิ่งที่เชิดหนาชูตาทั้งแกตนเองและ ลูกชาย
รด อ
าให ้อ่า
ยิ่งโตอานรากรก็ย่ง ิ มือเติบขึน ้ เรื่อย ๆ และมองเห็นเงินทอง เปนเพียงเศษกระดาษที่ใชเลนเกมโมโนโปลีท่ไี มมีราคาคางวด อะไร...
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
มีบางคนเคยพูดเปรียบเปรยวา ปูสอนใหลูกทุกคนหา เงินเปนแตทวาไมสามารถสอนใหลูกคนหนึ่ งใชเงินเปน... ซึ่งลูกคน ที่วานี้ ก็หมายถึงอานรากรนั่นเอง... อานรากรถูกปลูกฝงมาแตเล็กแตนอ ยดวยความรูสึกนึ กคิดที่ วา เงินเปนเครื่องมือซึ่งใชลอใจใหคนเขามาเปนสมัครพรรคพวกได โดยงายดาย เมื่ออานรากรเรียนหนังสือก็ทําตัวเปนเจาพอประจํา โรงเรียนที่ท้ง ั ครูท้ง ั นักเรียนตองยอมซูฮกให ไมวาจะเดินไปทางไหน จะมีเด็กนักเรียนเดินตามเปนพรวน เพราะอาทั้งเลี้ยงทั้งแจกเงิน อยางไมอ้น ั อานรากรคอนขางจะเปนเด็กหัวดี แตก็ข้เี กียจเรียนหนังสือ เปนที่สุด แมเลาวา วัน ๆ อานรากรแทบจะไมเคยเขาหองเรียนให
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เปนเรื่องเปนราว ถาไมอยูท่โี รงอาหารก็มักจะหลบไปนอนเลนที่โรง พละ ปลอยใหเปนธุระของยามาลัยที่จะตองงก ๆ เทียวไปโรงเรียน ทุกครั้งที่ไดรับจดหมาย เรียกตัวไปรับฟงความประพฤติของลูกชาย ซึ่งยามาลัยก็ไดแตเพียงรับคําออมแอมวาจะดูแลสั่งสอนลูกชาย แต จนแลวจนรอดก็ไมกลาพอที่จะเอยปากตักเตือนอานรากรอยางเปน กิจจะลักษณะ จนกระทั่งทุกสิ่งทุกอยางสายเกินกวาจะหาทางแกไข ไดทันทวงที
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
อานรากรเอาแตเกกมะเหรกเกมะเรยึดโรงอาหารและ โรงพละเปนหองเรียนอยูเปนป ๆ หนักขอเขาก็เลยไมโผลไปถึง โรงเรียนเสียเลย จนอาจารยใหญหมดสิ้นความอดทน และคัดชื่อ ออกจากโรงเรียนตั้งแตเทอมแรกของชั้นมัธยม 2 โดยยามาลัยได แตตีอกชกตัวรองไหเปนวรรคเปนเวรอยูเพียงลําพัง เมื่อปูรูเรื่องอานรากรนั้น ยาเนี ยมเลาวา ปูเพียงแตถอนใจ ใหญดวยความผิดหวัง แตก็ไมไดเอะอะโวยวายอะไร ปูวา... “เด็กทําผิดพลาดไปแลว ตอใหเฆี่ยนใหตายก็ไมไดอะไรขึน ้ มา ที่จริงแลวสมควรที่จะเฆี่ยนตีตัวเองมากกวาที่ไมรูจักควบคุมดูแลมัน ใหดี” ปูตัดสินใจสงตัวลูกชายคนเล็กไปเขาโรงเรียนประจําที่ศรีราชา โดยยินยอมใหทางโรงเรียนอบรมและทําโทษอานรากรไดเต็มที่ ทั้ง หามไมใหยามาลัยเขาไปยุงเกี่ยวกับลูกชายที่โน นเปนอันขาด ผล การเรียนและใบรายงานความประพฤติทุกฉบับจะถูกสงถึงปูโดย ตรง และคนของปูคนหนึ่ งในบรรดาพวก “ปศาจพันตา” จะมีหนาที่ รับติดตามดูแลและรายงานผลใหปูทราบตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงอยางฉับพลันจากการมีชีวิตที่ถูกเอาอกเอาใจ พะเนาพะนอจนเคยตัว ไปถูกควบคุมดูแลอยางเขมงวดกวดขัน สง ผลกระทบตอจิตใจของอานรากรเปนอยางมาก ยิ่งอานรากรใชวิธี
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ประทวงและแข็งขอกับระเบียบขอบังคับของโรงเรียนเทาไร โรงเรียนก็ย่ง ิ ลงโทษเพื่อบีบอานรากรใหเขาสูกรอบของโรงเรียนยิ่ง ขึน ้ เทานั้น อานรากรมีจดหมายโอดโอยตาง ๆ นานา มาถึงปูกับยามาลัย หลายฉบับ ซึ่งยามาลัยก็ไดแตรองไหสงสารลูก ในขณะที่ปูส่ง ั ใหคน ที่ดูแลเรื่องอานรากรฉีกจดหมายพวกนั้นทิ้งทันทีท่ไี ดรับโดยไมตอง อานใหปูฟง...ซึ่งถึงทุกวันนี้ ฉน ั ก็เชื่อวาปูคงจะรูสึกเสียใจไมนอ ยวา หากเพียงแตปูรับฟงเรื่องราวของอานรากรเสียบาง บางที... บางที... ปูอาจจะไมตองมีลูกที่ตายทั้งเปนเชนที่เปนอยูในเวลานี้ ก็ได
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
43.
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
อานรากรเงียบหายไปพักหนึ่ง ซึง ่ ทัง ้ ปูและยามาลัยคิด วาลูกชายคงจะสามารถปรับตัวเขากับสิ่งแวดลอมใหมไดแลว โดย ไมไดเฉลียวใจวาบางครั้งความเงียบนั้นอาจเปนเหมือนทองทะเล ที่ราบเรียบกอนจะเริ่มมรสุมใหญ... แมเลาวา จู ๆ อานรากรก็โผลมาที่บานในลักษณะเหมือนกับ เด็กขางถนน เสื้อผาสกปรกขาดวิ่น หนาตาเนื้ อตัวมอมแมม... อาน รากรเดินกระเซอะกระเซิงกลับมาถึงบานดวยอาการของคนที่ซัดเซ พเนจรมานานชนิ ดที่แมซ่ง ึ เปนคนพบอานรากรคนแรกก็ยังจํานอง ชายคนเล็กของสามีเกือบไมได
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
ยามาลัยถึงกับตีอกชกตัวรองไหรองหมเปนวรรคเปนเวรเมื่อ เห็นสภาพของลูกชายสุดสวาทขาดใจ แตไมวาจะออนวอน ปลอบโยนยังไงอา นรากรก็ไมยอมปริปากเลาเรื่องราวที่เกิดขึน ้ ซึ่ง ผลสุดทายแลวยามาลัย ก็ไดแตปลอยใหลูกชายปดประตูหองอยู ตามลําพัง โดยไมกลาเขาไปรบกวนอะไร เมื่อปูทราบเรื่องอานรากรหนี กลับมาบานนั้น ปูโกรธอยางที่ ไมเคยโกรธใครมากอน ปูส่ง ั ใหคนไปเอาตัวอานรากรมาพบปูท่ี หองโถงชั้นลางของตัวตึกทันที พอเลาวา ปูน่ังเดนอยูบนเกาอี้ไมมะ เกลือตัวใหญ แวดลอมดวยลูก ๆ รุนใหญอยางลุงเทียน ลุงแอนดี้ ลุงนัฐ พอ และอานุช คําแรกที่ปูพูดกับอานรากรคือ...
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
“พวกสือพาณิชยไมเคยหนี หนาใคร และไมเคยยอทอตอความ ลําบาก ลําพังแคเรื่องราวเพียงนิ ดหน อยแคน้ี แกก็ยังไมกลาสูหนา ไมมีความอดทน แลวตอไปจะทําการทํางานที่ใหญโตไดอยางไร” ปูมองดูลูกชายคนเล็กที่น่ังกมหนานิ่ งอยูกับพื้น แลวพูดตอไป ดวยนํ้าเสียงที่เครงเครียดและดังขึน ้ วา “พวกพี่ ๆ ของแกทุกคนลวนแลวแตผานสิ่งที่แกกําลังเปนอยู ในเวลานี้ มากันทั้งนั้น แตทุกคนตางก็ขยันหมั่นเพียรจนเรียน สําเร็จ... แกเองเสียอีกที่สบายกวาใครทั้งหมด ทําไมถึงไมต้ง ั หนา ตั้งตาเรียนหนังสือ ทําไมถึงทําใหพอแมพ่น ี อ งตองอับอายคนอื่น”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ปูถอนหายใจหนัก ๆ “เราทําการคามากมาย เลี้ยงลูกมาก็ต้ง ั หลายคน แตไมเคย เหนื่ อยใจเหมือนครั้งนี้ ตอใหหอบหิ้วเอาไปสงโรงเรียนถาลงใจมัน ไมรักจะเรียนเสียแลว ไมชาไมนานก็คงจะแหกรั้วออกมาอีก... เอา ละ เมื่อแกไมอยากเปนนักเรียนก็ตองรูจักทํามาหากินดวยตัวเอง”
าให ้อ่า
ปูหันมาทางพอ “นภ เอาไอกรไปทํางานที่โรงงานทอผาตั้งแตพรุงนี้ เชาเปนตน ไปใหมันทําทุกอยางเหมือนกับพวกคนงานระดับตํ่ าทํา กินอยูอยาง ที่พวกนั้นกินกัน ไมมีอะไรพิเศษทั้งสิ้น...”
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
ปูไอแรง ๆ “...สําหรับไอกร นับแตวันนี้ ไปแกจะไมไดเงินเปลา ๆ อยางที่ แกเคยไดอีกตอไป นอกจากเงินเดือนขั้นตํ่ าของพวกกุลีท่ไี มมีความ รู”
งส อื
นํา ม
แมวาพอจะไมสูเห็นดวยกับปูในเรื่องทีส ่ งอานรากรไป ทํางานโรงงานนัก แตก็ตองจําใจทําตามคําสั่งอยางเครงครัด... พอ เลาวา วันแรก ๆ ที่ไปทํางาน อานรากรเศราซึมแตก็ยังวางกามไม ยอมทํางานทําการ เมื่อหัวหนาคนงานนําเรื่องมารายงาน พอก็
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เพียงแตเรียกตัวอานรากรมาคุยดวย ซึ่งก็ไมไดทําใหอานรากรดีขน ึ้ เพราะแกใชวิธีด้ อ ื แพงไมยอมรับรูอะไรทั้งสิ้น วัน ๆ เอาแตเดินเตร ไปเตรมาอยูเชนเดิม พอเลาวา ถึงแมพอจะแกลงเอาหูไปนาเอาตาไปไรไมเอาเรื่อง เอาราวกับนองชายจอมเกเรนัก แตเมื่อเรื่องนี้ รูไปถึงปูซ่ง ึ คอยสดับ ตรับฟงขาวอยูตลอดเวลา ปูก็มีคําสั่งลงมาใหหัวหนาคนงานควบคุม ดูแลใหอานรากรทํางานใหไดเหมือนคนงานอื่น ๆ หากหัวหนาคน งานไมสามารถทําได ก็จะถูกพิจารณาวาขาดความสามารถและ ลงโทษอยางรุนแรงตอไป
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
พอเลาวา วันรุงขึน ้ หลังจากที่ปูมีคําสั่งเรื่องนี้ อานรากรก็ถูก หัวหนาคนงานเปดการอบรมหลักสูตรพิเศษชนิ ดที่ตาปดไปขางหนึ่ ง และปากบวมฉึ่งกินนํ้าพริกไมไดไปหลายวัน แตก็ทําใหอานรากร เรียบรอยและรูจักการทํางานในหนาที่ของตนไดอยางรวดเร็วทันใจ ถึงแมวา อานรากรจะถูกบีบใหเขารูปเขารอยในโรงงาน แตส่ง ิ หนึ่ งซึ่งปูอาจจะลืมคิดไปก็คือ เมื่ออานรากรคลุกคลีอยูกับคนงาน ระดับตํ่ าผสมกับความนอยใจและโกรธเคืองปูท่ผ ี ลักดันใหตัวเอง ตองมาจมอยูเชนนี้ ก็ทําใหอานรากรหันเขารวมวงเหลากับพวกคน งานทุกวัน ติดตามดวยการพนันแทบทุกชนิ ด อานรากรกลายเปนคนติดเหลาขนาดหนัก จนพอตองจับตัวสง โรงพยาบาลเพื่อใหอดเหลา แตครั้นออกจากโรงพยาบาลไดไมก่ว ี ัน อานรากรก็หวนกลับไปสูสภาพเดิมอีก และครั้งนี้ ตกเปนทาสการ พนันถึงขั้นขโมยขาวของของยามาลัยและของอื่น ๆ ในบานมา ขาย... ฉันจําไดวาเย็นวันหนึ่ งอานรากรเจอพี่นภิศเดินอยูคนเดียวที่ สนามหญาหนาบานแกก็ร่เี ขามาหาชวนพูดคุยตาง ๆ แลวหลอกเอา สายสรอยคอของพี่นภิศไปซึ่งกวาพอกับแมจะรูเรื่อง อานรากรก็เอา สายสรอยเสนนั้นไปเลนแรแปรธาตุเปนขวดเหลาหรือเบี้ยในบอน การพนันไปเรียบรอยแลว
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ชีวิตของอานรากรคอยกระเตื้องขึ้นในชวงทีอ ่ านงพงา กลับจากอเมริกาและเขาบริหาร “สหนัฐกิจ” ...อานงพงาเปนคนดึง นองชายจากโรงงานทอผามาอยูบริษท ั ใหมซ่ง ึ แกเปนผูจัดการ รวม ทั้งขัดสีฉวีวรรณนองชายคนเดียวใหหลุดพนจากคราบไคลของคน งานโรงงานที่ข้เี มาหยําเป และติดการพนันจนหัวปกหัวปา ใหเปน นักธุรกิจและนักบริหารเต็มตัว แตส่ง ิ ที่อานงพงาไดรับคือความผิด หวังอยางมาก เพราะอานรากรนั้นเหมือนกับไมใหญท่เี กินจะดัดแตง ใหเปนดังใจของใคร เพราะทันทีท่ก ี ลับมาสูชีวิตของความหรูหรา มี ผูคนยอมรับนับถือ มีเงินทองจับจายใชสอยคลองมือ อานรากรก็เริ่ม ที่จะใชเงินทองอยางไมอ้น ั จากเหลาไทยธรรมดา ก็หันมากินคอน ญักขวดละหลายพัน จากไฮโลหรือไพกระจอก ๆ ในวงพนันเล็ก ๆ ก็ เดินเขาบอนระดับใหญไดเสียกันทีละเปนหมื่นเปนแสน และจากคน ที่เคยเปนลูกจอกในโรงงาน ก็เปนอาเสี่ยที่มีลูกนองและเพื่อนฝูง ลอมหนาลอมหลังอีกครั้งหนึ่ ง อานุชเลาวา เคยพูดกับอานงพงาถึงเรื่องอานรากร โดยเตือน วาอานรากรนั้นเหมือนเด็กที่เลี้ยงไมโต หากไมควบคุมดูแลใหดีวัน หนึ่ งก็คงตองกอเรื่องเสียหาย ซึ่งคําพูดดวยความหวังดีของอานุช กลับกลายเปนชนวนใหอานงพงาลุกขึน ้ ตอปากตอคําวาอานุชเขา มากาวกายในเรื่องงานของ “สหนัฐกิจ” ดวยความอิจฉา และผิดหวัง ที่ปูมอบหมายใหอานงพงาบริหารบริษท ั นี้ รวมทั้งกลาวหาวาอานุช ดูถูกดูแคลนตัวเอง นองชายและแมมาแตไหนแตไรนับตั้งแตคราวที่ ปูไดยามาลัยมาใหม ๆ ดวยเกรงวา พวกตนจะมาแบงแยงมรดก
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
คําพูดของอานงพงาทําใหอานุชโกรธถึงขนาดประกาศจะไมดู ดําดูดีอานงพงาและอานรากรอีกตอไป อยางสํานวนของอานุชเองที่ วา “ตอใหมันดิ้นแดก ๆ อยูตรงหนา จางใหสองตาฉันก็จะไมแล” อยางไรก็ตาม เมื่ออานรากรเกิดเรื่องขึน ้ นั้นอานุชกลับเปนคน แรกที่แลนไปถึงและหอบหิ้วนองชายคนเล็กกลับมาบาน...
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เรื่องราวของอานรากรเปนสิง ่ ทีไ ่ มมีใครเคยคาดคิดวา จะลงเอยในแบบนี้ ... ฉันจําไดวากอนหนาที่จะเกิดเรื่องไมนาน พวก ผูใหญบางคนมีสีหนาเครงเครียด แตบางคนก็มีสีหนาเยาะปนยิ้ม อยูในที ทั้งนี้ เพราะลือกันวาอานรากรขนเงินของบริษท ั “สหนัฐกิจ” ไปถลุงในบอนใหญแถวฝงธนฯ เกือบสิบลาน และตอนนั้นอานงพงา เองซึ่งพอจะวากลาวตักเตือนอานรากรไดก็ไมอยูในกรุงเทพฯ เพราะ มัวไปลองเรือสําราญอยูกับเสี่ยวิบูลยแถว ๆ อาวไทย หลังจากขาวลือเรื่องนี้ ผานไปเพียงสองสามวัน ทั้งบานเราก็ ถูกปลุกขึน ้ กลางดึกดวยโทรศัพทจากเพื่อนอานรากรคนหนึ่ งที่โทร เขามาแจงเรื่องที่อานรากรถูกรุมทํารายบาดเจ็บสาหัสในบอนฝง ธนฯ... คนแรกที่เอารถวิ่งจากบานไปทันทีท่ร ี ูขาวคืออานุช ฉันยังจํา ไดวาอานุชขับรถไปทั้ง ๆ ที่ยังมวนโรลเอาไวเต็มหัว และสวมเสื้อ นอนทับกางเกงยีน... ชั่วครูใหญ ๆ อานุชก็พาตัวอานรากรที่ยังไม ไดสติกลับมาบาน... แมแมจะคอยกันไมใหฉน ั กับพี่นภิศเขาไปดู แต ฉันก็เห็นรางของอานรากรทวมไปดวยเลือด และชุดนอนผาแพรสี ชมพูออนของอานุชชุมเลือดเปนดวง ๆ
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
เราเก็บอานรากรไวท่บ ี านและตามหมอมารักษา โดยไมยอม สงตัวไป โรงพยาบาลเพราะเกรงวาจะเปนขาวอื้อฉาว... ปูขนซื้อ หยูกยาและอุปกรณการแพทยราวกับจะเปดโรงพยาบาลสวนตัว แตถึงกระนั้นก็ไมอาจชวยอะไรลูกชายคนสุดทองได... หลายวันหลังจากนั้น ฉันถึงไดทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่อง ที่เกิดขึน ้ วา คืนนั้นอานรากรแอบเอาเงินอีกหาลานบาทของบริษท ั “สหนัฐกิจ” เขาไปเลนในบอนแหงนั้น โดยหวังวาจะกูคืนเงินสิบลาน ที่เสียไปในวันกอนแตผลปรากฏวายิ่งเลนก็ย่ง ิ เสียจนหมดตัว ทําให อานรากรคลุมคลั่ง ตะโกนดาทอหาวาทางบอนเลนโกง จนเกิดเปน เรื่องเปนราวชกตอยกันขึน ้ อยางชุลมุน โดยตัวอานรากรเองโดน นักเลงประจําบอนรุมตีดวยทอนเหล็ก จนกะโหลกราวและดวงตา ขางขวาบอดสนิ ท อานรากรกลายเปนคนพิการทางสมอง ไดแตนอนแบ็บอยูบน
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
เตียง และสงเสียงอือ ๆ ออ ๆ เหมือนเด็กเล็ก ๆ ไมสามารถรับรู อะไรที่เปนเรื่องเปนราว ปลอยใหยามาลัยรองไหแทบนํ้าตาจะเปน สายเลือดอยูทุกเมื่อเชื่อวัน สวนปูน้ัน หลังจากเกิดเรื่องของอานรากร ก็ทําใหปูเซื่องซึมลง ไปมากและลมปวยบอยขึน ้ แตเมื่อใดก็ตามที่มีเวลา ปูจะ กระยองกระแยงขึน ้ บันไดไปที่หองพักของยามาลัย และใชเวลาให หมดไปกับการจมอยูกับอานรากร ราวกับหวังวาสักวันหนึ่ งลูกชาย คนสุดทองจะลุกขึน ้ พูดอะไรกับปูสักคํา... ทั้ง ๆ ที่ปูก็รูอยูแกใจวา ถึงอยางไรวันนั้นก็ไมมีโอกาสที่จะมา ถึง
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
44.
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
มีภาษิ ตเกาแกอยูบทหนึ่งวา “ไมออนทนพายุแรง แตไม แกเปราะบาง แมลมพัดเพียงแผวก็แทบจะโคนลง” ...เปรียบไดกับ หนุมสาวที่มีใจคอเขมแข็ง ถึงแมจะมีเรื่องราวรายแรงสักเพียงใด เกิดขึน ้ ก็อาจฟนฝาไปได ตางกันกับคนแกท่ก ี ําลังใจลดนอยถอยลง แมเกิดเรื่องเพียงเล็กนอยก็ไมสามารถอดทนได
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
สําหรับปูแลว เรื่องราวตาง ๆ ที่เกิดขึน ้ ในระยะหลัง ทั้งการลม สลายของ “ยูเนี ยน ชาเตอร และคอมมอดิตี” กับคดีความของพี่ชาญ ชัยที่ยังคาราคาซังอยูก็ดี และทั้งเหตุรายที่เกิดขึน ้ กับอานรากรก็ดี ลวนแลวแตเปนสิ่งกระทบกระเทือนจิตใจของปูอยางรุนแรงเหมือน ลมพายุรายที่โหมกระหนํ่ าไมแกซ่ง ึ ยืนตนผุพัง
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
ปูลมปวยกระเสาะกระแสะ มีอาการอยางที่เรียกวาทรงกับ ทรุด แตก็ยังคงดื้อดึงไมยอมปฏิบัติตามคําแนะนําของหมอ ที่ใหปู วางมือจากงานประจําและใชเวลาพักผอนใหมากขึน ้ ... อยางดีปูก็ เพียงแตเออ ๆ คะ ๆ ไปตามเรื่อง แตทันทีท่ห ี มอลับตาปูก็จะเรียก งานตาง ๆ มาดูบนเตียงนอน ชิ้นไหนที่เปนภาษาจีนปูก็จะสั่งการไป ทันที แตหากชิ้นไหนเปนภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษก็จะตองมีคน ของปูคนใดคนหนึ่ งจากบรรดาเหลา “ปศาจพันตา” มาอานใหฟง แลวปูจึงจะออกคําสั่งใหคนเขียนเปนภาษาไทย หรืออังกฤษโดยปู ลงชื่อภาษาจีนกํากับ เมื่อใดก็ตามที่ลุกจากเตียงได ปูก็จะทําอยูเพียงสองอยาง คือ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ไตบันไดขึน ้ ไปดูอาการของอานรากร หรือไมเชนนั้นก็ใหคนประคอง ลงมาที่หองโถงชั้นลาง... ปูจะนั่งลงบนเกาอี้ไมมะเกลือประดับมุกตัว เกาที่สึกกรอนไปตามกาลเวลา หันหนาออกสูหนาตางพลางทอด สายตาที่หมนมัวออกไปภายนอกอยางเลื่อนลอย มือที่เหี่ยวยนกํา เหรียญบาทเกาแกสมัยรัชกาลที่ 6 ไวแน น ตอนาน ๆ จึงจะคลึงมัน ชา ๆ ดวยทาทางครุนคิด ราวกับกําลังรอคอยใครสักคนหนึ่ ง... ตลอดเวลาที่จมอยูกับเกาอี้ไมมะเกลือริมหนาตางนั้น ดูเหมือนวาปู จะไมเคยใสใจวาจะมีใครผานเขา-ออกหองโถงสักกี่ครั้ง แมวาบางที พวกเด็ก ๆ ที่ไมรูกาลเทศะจะวิ่งกันคึ่ก ๆ เพียงไรก็ตาม
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
หลายคนมีความเห็นตรงกันวา กิริยาอาการของปูในหองโถง ชั้นลาง ตอนนี้ ดูชางคลายคลึงกับตอนที่ปูเฝารอคอยอานันทนาใน ชวงที่หนี ออกไปจากบาน... เปนการรอคอยของคนที่เปลวไฟแหง ความหวังริบหรี่ลงทุกขณะ แตก็ยังไมยอมเลิกราหรือระยอทอแท แตในครั้งนี้ ส่ง ิ ซึ่งแตกตางกับคราวนั้นอยูตรงที่ปูใชเวลาของ การรอคอยอยางแขงขันกับเวลาในชวงสุดทายของอายุขัย และที่สําคัญยิ่งไปกวานั้นก็คือ ดูเหมือนจะไมมีใครสักคนที่รู แน วาปูกําลังรอคอยใครหรือสิ่งใดอยู
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
ในชวงทีป ่ ูไมสบายมาก ๆ คนทีแ ่ วะเวียนมาเยีย ่ มเยียน อยูเปนประจํา ก็คือคุณตาของฉัน ซึ่งในชวงที่ปูยังดี ๆ อยู ตอให รอยวันพันปก็ไมเคยที่จะเยี่ยมกรายเขามาใกลบานของเรา... คุณ ตาจะหอบหิ้วขาวของตาง ๆ มาฝากปูคราวละมาก ๆ ทั้งรังนก โสม เครื่องยาจีนจากแผนดินใหญ ใบชาอยางดีเลิศ รวมทั้งผลหมากราก ไมแพง ๆ เวลาที่คุณตาแวะมาเยี่ยมจะเปนเวลาที่ปูแจมใสขึน ้ มาก ทั้งคู จะสงเสียงพูดคุยกันลงเลงดวยภาษาไทยปนจีน บางครั้งก็หัวเราะ เอิก ๊ อากอยางถูกคอ แตบางครั้งก็น่ิ งงันเหมือนจมดิ่งลงสูความหลัง ที่ยังสะเทือนจิตใจ
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ทุกครั้งที่คุณตามา คุณตามักจะพาฉันหรือพี่นภิศเขาไปในหอง ปูดวยเสมอ และสิ่งแรกที่ปูจะเริ่มตนคุยกับคุณตาหลังจากการ ทักทายกันตามปกติแลวก็คือ การเทาความหลังตั้งแตครั้งที่ปูกับ คุณตาลงเรือจากเมืองจีนมาเปนกุลีรับจางแบกกระสอบขาวสาร แถวทานํ้าราชวงศ ซึ่งคุณตามักจะโบกมือหามดวยทาทางเบื่อหน าย “พอ ๆ อาเหลียง ลื้อเลาเรื่องนี้ มายี่จับโปยครั้งแลว พวกลูก ๆ หลาน ๆ มันจะพากันรําคาญเปลา ๆ” “ก็ล้ อ ื เปนเพื่อนเกาเพื่อนแกของอัว๊ ” ปูไอแค็ก ๆ ทุกวันนี้ เราก็ เหลือคนรุนเกาที่คบหากันอยูเพียงไมก่ค ี น”
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ปูย่ น ื มือมาแตะบาคุณตา “อาจัว๊ ลูกชายอัว๊ มันออกจะไมไดดังใจอยูบาง หวังวาลื้อคงให อภัยมัน” “โอย เรื่องมันนานนมมาแลว ลูกสาวอัว๊ แตงงานกับลูกชายลื้อ แลว มันก็เปนคนในบานลื้อคนหนึ่ ง มีอะไรก็จัดการวากลาวกันเอา เอง อัว๊ ไมยุงไมเกี่ยวดวย... วาแตล้ อ ื เถอะ หายเจ็บคราวนี้ แลวไป เที่ยวเมืองจีนกันสักครั้งเถอะน า เสร็จแลวคอยตอไป ยู เอสซะ เอ หัดเที่ยวเตรหาความสุขใสตัวซะบางซิวะ เคาเป รูจักแตหาเงินแตไม รูจักใช พอดีเงินเน าชิบหายหมด”
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“ลื้อน ะแกจนจะตายหะแลว เมื่อไหรจะเลิกสุรุยสุรายเสียทีวะ” ปูถอนหายใจแรง ๆ “เกาเจง ลื้อนี่ มันงกจนตาย... งกคนเดียวไมพอยังเสือกมายุง กับคนอื่นอีก”
นํา ม
าให
้อ่า
คุณตาเอ็ดตะโรลั่น “...ลื้อไมไปเที่ยวก็อยาไป ไวตายเมื่อไหรอว ั ๊ จะเผาเครื่องบิน กงเตก กับเงินกงเตกสงไปใหสักพันสองพันลานก็แลวกัน” ปูสายหนาอยางอิดหนาระอาใจ
งส อื
“อาจัว๊ ลื้อนี่ ใชเงินเปนเบี้ยไมรูจักจบจักสิ้น เงินกงเตกตั้ง มากมาย อยางนั้นสูเก็บเอาไวใหลูกหลานลื้อเผาสงไปใหล้ อ ื ดีกวา
นํา ไป
ขา ย
เปนกอง”
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
ถึงแมคุณตาจะพูดจาสนุกสนานครึกครื้นกับปู แตเมื่อ เวลาทีอ ่ ยูกับแมตามลําพัง คุณตามักจะเตือนแมดวยสีหนา เครงเครียดวา “อีหนู เตี่ยเห็นคนเจ็บคนตายมาเยอะแลว บอกตรง ๆ วา อาการของไอเหลียงคราวนี้ มันคงจะรอดยาก มีอะไรที่จะพอ ชวยเหลือดูแลมันไดบางก็ชวย ๆ กันทําไป อยางนอยก็ชวยใหคน เจ็บมีความสุขเล็ก ๆ นอย ๆ กอนตาย” “โอย ลูกหลานเขาออกคลั่กไป หนูมันเปนแคสะใภเทานั้น” “จะลูกสะใภหรือลูกตัวมันก็ลูกเหมือนกันละวา ถึงไอเหลียงมัน จะไมใชพอเอ็งแตมันก็เปนพอของผัวเอ็ง เปนปูของหนงเกีย ๊ ะสองตัว นี่ ”
รด อ
าให ้อ่า
คุณตามองดูแมดวยสายตากึ่งหมั่นไสก่ง ึ เอ็นดู “เอ็งก็โตจนปานนี้ แลว เมื่อไหรจะหัดละทิฐิมานะ หัดมีเหตุมีผล เสียบาง มัวแตต้ง ั แงกะบึงกะบอนอยางนี้ น่ี เลา ไอหยา ถึงตองหอบ ลูกหอบเตาไปหาเตี่ยไมไดหยุด”
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
คุณตาละสายตาจากแมมามองดูฉน ั กับพี่นภิศ “ไอตอ ี ๋ ีหมวยคูน้ี ดวย หมั่นดูแลกงบาง คนที่มีความกตัญูตอ บรรพบุรุษ มนุษยก็ยกยองสวรรคก็สรรเสริญ”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
ทุกครั้งที่คิดถึงปูฉน ั ก็อดที่จะถามตัวเองไมไดวา มนุษยเรานั้น ตองการสิ่งใดบางในชั่วชีวิตหนึ่ ง อาจจะเปนทรัพยสินเงินทอง เกียรติยศชื่อเสียง หรือสิ่งหนึ่ งสิ่งใดที่เราขาดแคลน แตครั้นเอาเขา จริง ๆ แลวเราก็อาจพบวาที่แทแลวถึงแมจะไมมีส่ง ิ ตาง ๆ ที่เรา ดิ้นรนไขวควาเหลานั้น เราก็ยังสามารถมีชีวิตอยูไดอยางมีความสุข และบางทีส่ง ิ ที่เราอยากไดใครดีพวกนั้นอาจไมใชส่ง ิ ที่เราเรียกรอง ตองการจริงจังเลยก็ได...
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
มีหลายคนพูดวา ปูเปนคนที่ใชชีวิตตัวเองอยางคุมคา จากคนที่ เริ่มตนดวยเลขศูนยมาสูตัวเลขนับสิบหลัก จากเด็กหนุมที่ซัดเซ พเนจรจากบานเกิดเมืองนอน มาเปนคนที่ใครตอใครนับหนาถือตา จากคนที่แทบจะไมมีอะไรติดตัว มาเปนคนที่แทบทุกคนในประเทศ ไทยตองใชหรือมีสินคาที่ปูผลิตขึน ้ อยูในตัว แตก็มีหลายคนที่มีความเห็นวาปูไมรูจักใชชีวิต ทําตัวเอง เหมือนกับ เครื่องจักรผลิตเงินและตูเซฟเก็บเงิน โดยไมรูจักซื้อหา ความสุขใสตัวเอง... ถึงปูจะมีเงินนับหมื่นลาน แตปูก็ยังคงใชชีวิต อยางเรียบงาย ตัดผมสั้นเกรียนติดหนังหัว สวมกางเกงผาโทเรสีน้ ํา เงินซีด ๆ เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวเกา ๆ เหมือนเครื่องแบบประจําตัว ใชรถเบนซ 190 รุนหางปลาที่มีอายุรวมยี่สิบป โดยไมรูจักเปลี่ยน ไมกินเหลา ไมสูบบุหรี่ และไมทําอะไรที่เห็นวาเปนการเสียเงิน เปลาแมแตเพียงแคสตางคแดงเดียว ปูมีอาการทรุดหนักลงอีกครั้งหลังจากวันสารทจีน ไดแตนอน นิ่ ง ๆ อยูบนเตียงโดยไมพูดไมจาอะไรกับใคร หมอวิวัฒนท่ด ี ูแล รักษาปูมาตั้งแตตนไดแนะนําใหปูเดินทางไปผาตัดเปลี่ยน หลอดเลือดหัวใจ และรักษาตัวที่อเมริกาสักพัก ซึ่งลูกหลานทุกคน ตางเห็นดีและเตรียมจองโรงพยาบาลทางโนนใหลวงหนา แตทันที ที่ปูรูเรื่อง ปูก็ส่ง ั ยกเลิกการจองและการเดินทางทั้งหมด
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
ปูวา... “เรารูตัวดีวาเราคงจะมีชีวิตอยูตอไปอีกไมนาน ปวยการที่จะดิ้นรนอะไรใหวุนวายไปเปลา ๆ และไหน ๆ ก็จะตาย อยูดี ขอใหเราไดตายในแผนดินที่มีบุญคุณกับเรา แผนดินที่ใหเรามี กําลังเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานใหอยูสุขสบายสืบมาจนทุกวันนี้ ...” ปูถอนหายใจดวยความเหน็ดเหนื่ อย “...เราเคยพูดเสมอวา คนเราเลือกเกิดไมได แตเมื่อเรามี โอกาสที่จะเลือกสถานที่ท่จ ี ะตาย ก็ขอใหเราไดเลือกที่จะตายใน แผนดินไทย อยาหอบหิ้วเราไปตายที่อ่ น ื ใหวิญญาณของเรา เดือดรอนเลย” ปูทอดสายตามองดูลูกหลานที่ชุมนุมกันอยูในหองนั้น “เราเสียดายเหลือเกินอยูขอเดียวที่วา เราคงไมมีโอกาสได
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตายโดยมีลูกหลานอยูรอบขางอยางพรอมหนาพรอมตา เสียดาย เหลือเกินวาเราคงจะไมไดเห็นหนาชาญชัยมันอีกสักครั้งหนึ่ ง” ปูหลับตาลงชา ๆ แตคิ้วที่ขาวโพลนยังคงขมวดแน นอยางคนที่ หวงกังวล และปริวิตกอะไรบางอยางอยู
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
45.
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
ปูเจ็บหนักคราวนี้ เปนทีร ่ ูกันโดยทัว ่ ไปวายากทีจ ่ ะกลับ ฟนคืนดีได ทั้งลูกหลานพนักงานในเครือ “นัฐกิจโกศล” และ เพื่อนฝูงของปูตางคนตางก็พยายามหาทางที่จะยืดเวลาที่จะใหปูอยู กับพวกเรานานที่สุดเทาที่จะทําได บางคนซื้อวัวควายจากโรงฆา สัตวไปปลอย อยางที่เรียกกันวาไถชีวิต บางคนซื้อโลงศพบริจาคให ศพไมมีญาติ และบางคนก็ทําบุญตออายุให ซึ่งเมื่อปูทราบเรื่องก็ เอยปากขอบอกขอบใจทุกคน แตไมวายที่จะกําชับวา “อยาทําอะไรที่มันเสียเงินเสียทองมากมายโดยใชเหตุ อยาให เปนอยางที่คนไทยเรียกวา ‘คนตายขายคนเปน’ ...เราเหมือนคนที่ เดินทางมาจนถึงจุดหมายปลายทางแลว แตคนอื่นยังจะตอง เดินทางกันตอไปอีกไกล สูสะสมเงินทองไวเปนเสบียงเลี้ยงตัวในวัน ขางหนาดีกวามาทุมเทใหกับเราโดยไรประโยชน” “คุณเหลียงก็อยาคิดอะไรมากเลย” ยาเนี ยมซึ่งเฝาปรนนิ บัติ อยางใกลชิดบีบมือปูเบา ๆ คนเขาทําใหก็ดวยความรักความเคารพ คุณเหลียงเองก็ชวยเหลือเฟอฟายใครตอใครมามาก เมื่อมีโอกาสที่ เขาจะพอตอบแทนไดบางเขาก็ยินดีท่จ ี ะทําให ของอยางนี้ ไปขัด ศรัทธาเขามันก็ไมดี” “ก็น่ันแหละ...” ปูถอนหายใจลึก ๆ ทําทาเหมือนจะพูดอะไรตอ... แตแลวก็น่ิ ง ไป
ขา ย
“เตี่ยตองการอะไรอีกไหมครับ”
ในขณะที่ลุงเทียนมองดูนอ ง
นํา ไป
ลุงแอนดี้กระเถิบตัวเขาไปใกล ชายดวยสายตาที่หวาดระแวงอยูในที
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
“ไม” ปูโบกมือ และเพงมองดูลูกชายคนรอง “ไดขาวไอชาญชัยบางไหม มันรูหรือเปลาวาเราไมสบาย” “ผมใหเปกกี้ไปบอกมันที่ฮองกงแลวครับ”
นฟ ร
ปูพยักหนาชา ๆ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
“เสียดายเหลือเกินวาเราคงตายโดยไมมีลูกหลานอยู พรอมหนา” คําพูดของปูทําใหลุงแอนดี้น่ิ งอึง ้ ไปทันที “เตี่ยก็รูอยูวาไอชาญชัยมันมีคดีเรื่อง ‘ยูเนี ยน ชาเตอรฯ’ เปน ชนักติดหลัง...”
รด อ
าให ้อ่า
ลุงเทียนโพลงขึน ้ มา “...อยางนี้ มันจะมีน้ ําหนากลับมาเยี่ยมเตี่ยไดยังไง พูดก็พูด เถอะ ถาไอชาญชัยมันไมกอเรื่องกอราวเสียอยาง เตี่ยก็คงไมลมเจ็บ อยางนี้ ”
ี โป
อื น ํ าม
“แลวลูกชายมึงดีนักหรือ” ลุงแอนดี้หนาแดงกํ่ าและสวนคําพี่ชายอยางไมเกรงใจ
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
“เอาเถอะ ๆ เราขอเสียที...” ปูรองหาม “...พี่นอ งทะเลาะกันก็ เหมือนเถาถั่วตมฝกถั่ว มีแตจะเปนประโยชนกับคนอื่น” ปูเขยิบตัวขึน ้ มองดูลูกหลานที่รอบลอมอยูในหอง
งส อื
นํา ม
าให
“อานนทกับระวีเขามาใกล ๆ เราหน อยซิ” ปูนอนนิ่ งจนกระทั่งลูกหลานที่เปนอริกันเดินเขามาอยูขางตัว ปูชายตาดูยาเนี ยมนิ ดหนึ่ งกอนพูดขึน ้ ดวยนํ้าเสียงที่แหบเครือ “แมเนี ยมจําไดไหมเมื่อตอนที่ไอสองคนนี่ ยังเล็ก ๆ แลวแมเนี ยมเลี้ยง มันยังกับฝาแฝด เหมือนกับระวีเปนลูกอีกคนหนึ่ งของแม
ขา ย
เนี ยม...”
ี โป รด อย ่า
ปูหัวเราะหึ ๆ ในคอ
นํา ไป
“จําไดซิคะ” ยาเนี ยมพยักหนา ตอนนั้นคุณเหลียงเองบางครั้ง ยังหลงเลยวา คนไหนเปนลูกคนไหนเปนหลาน”
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
“จริงซินะ แตเวลามันชางผานไปรวดเร็วเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่ หลับตาลงคราวใด เราก็ยังมีภาพไอเด็กตัวเล็ก ๆ ปอม ๆ สองคน เดินเตาะแตะตามกันติดหูติดตาอยูเสมอ” อานนทกับพี่ระวีมองหนากันอยางไมต้ง ั ใจกอนจะเบนสายตา จากกันไปอีกครั้งหนึ่ ง “โบราณเขาวาไว ‘ไมตอยตีก็ไมรูจักกัน’ ...พี่กับนองไมทะเลาะ กันเลยก็ไมรักกันแน นแฟน”
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
นฟ รี โ ปร ดอ
ปูทอดสายตาที่หมนมัวมองดูลูกและหลาน “พี่นอ งกันก็เหมือนเสนเชือก ถาเราเกี่ยวพันกันแน นเหนี ยว เหมือนวาเปนเสนดายเสนใยเสนเดียวกัน ตอใหลามชางตัวโต ๆ หรือสําเภาลําใหญ ๆ ก็ยังทําได แตถาเราทะเลาะเบาะแวงกันเองก็ เหมือนสนิ มที่กัดกินเนื้ อเหล็ก ตอใหโซเสนเทาเสาเข็มก็ไมแข็งแรง พอที่จะผูกลามอะไรได” ปูย่ น ื มือที่ส่น ั เทาออกไปขางหนา “ขอใหเราเถอะนะไอความขุนของหมองใจตาง ๆ ใสมันลงมาใน มือนี้ แลวฝงมันลงไปพรอม ๆ กับเรา”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
อานนทและพี่ระวีกุมมือปูไวแน นเกือบจะพรอม ๆ กัน “ขอบใจ...” ปูพึมพําเบา ๆ และรองเรียกอานนทอยางนึ กขึน ้ ได “...ออ นนท เย็นนี้ พาเมียแกมาไหวพอไหวแมเสียทีซิ อะไรอยู ดวยกันมาตั้งนมตั้งนานแตไมเคยเอาเขาบาน” อานนทหนาแดง และกมหนารับคําออมแอม ฉันจําภาพสุดทายที่ปูอยูกับเราไดดีเสมอ... จําไดแมจนกระทั่ง แสงแดดที่ทอดเปนลํายาวเขามาทางชองกระจกเหนื อกรอบหนา
าให ้อ่า
“ชาญชัยมาคะ” ยาเนี ยมกระซิบบอกปู
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
นฟ ร
ย่า นํา ไป ขา
ย
ี โป รด อย ่า
นํา ไป
ขา ย
ตาง และสาดลงบนรางของปู... จําสีขาวโพลนของผนังหอง ผาปูท่ี นอน และเสื้อผาปานคอกลมสีขาวมอ ๆ ที่ปูสวม กับใบหนาที่เผือด ซีด... จําไดถึงเพลงจีนที่แววมาจากที่ไกล ๆ แมจะไมแน ใจวามันเปน เพลงในหนังเรื่อง “จอมใจจักรพรรดิ” หรือเปนเพลงโบราณที่ช่ อ ื “กง ลกกงซิ่ว” ...และจําไดถึงอากัปกิริยาเซื่องซึมและสีหนาเศราหมอง ของทุก ๆคนที่ชุมนุมกันอยูในหองปูในวันนั้น ปูนอนหายใจระรวยอยูบนเตียง ไมทานขาวปลาอาหาร และ ไมพูดไมจากับใคร นาน ๆ จึงจะลืมตาขึน ้ มองเพดานหองสักครั้ง มือ ขวายังคงกําเหรียญบาทเกาแกสมัยรัชกาลที่ 6 ไวแน น บางครั้งจะ คลึงมันเลนชา ๆ เหมือนกําลังคิดอะไรอยูในใจ... เสียงจอกแจกจอแจที่ดังขึน ้ หนาหอง ทําใหทุกคนในหองที่อยู ในอาการของคนทุกขหนักเหลียวกลับไปมอง และสิ่งที่ไมมีใครคาด ถึงก็คือรางของพี่ชาญชัยที่ยืนเดนอยูตรงขอบประตู ดานหลังมี ตํารวจในเครื่องแบบยืนประชิดตัว
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
“ชาญชัยหรือ” ปูพยายามพยุงรางขึน ้ มองหลานชายที่กอเรื่องเดือดรอนใหไม รูจักจบ “ปูครับ...”
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
พี่ชาญชัยเดินเขามาชา ๆ และยกมือทั้งสองขางที่ติดกุญแจมือ ขึน ้ กราบบนอกปู “...ผมขอโทษ” “ไมเปนไรหรอก” ปูยกมือซายขึน ้ ลูบศีรษะหลานชายอยางปลอบโยน “...เรารออยูนานเหลือเกิน นานจนคิดวา คงไมมีโอกาสไดพบ หนาเจาอีกแลว”
ขา ย
พี่ชาญชัยเงยหนาขึน ้ มองปู นํ้าตาไหลพรากเปนทาง
นํา ไป
“ขอบใจที่อุตสาหมา ไมตองเปนหวงอะไรทั้งสิ้น ทุกอยางวากัน ไปตามผิดตามถูก แตขอใหรูไวอยางหนึ่ งวาเราจะไมทอดทิ้งเจาพวก สือพาณิชยทุกคนจะคอยดูแลเจาอยางดีตลอดไป”
ี โป รด อย ่า
ปูคลายมือจากพี่ชาญชัยและเอนตัวลงนอน สีหนาอิ่มเอิบอยาง คนที่หมดกังวล...
กอนจะหยุดหมุนและ
นฟ รี โ ปร ดอ
อน ํ าม าให ้อ่า
เหรียญบาทหมุนควางอยูช่ว ั ขณะหนึ่ ง ทอดตัวนิ่ งสงบอยูกับที่
ย่า นํา ไป ขา
นฟ ร
ย
เหรียญบาทสมัยรัชกาลที่ 6 หลุดจากมือขวาของปูท่ค ี ลาย ออก... เสียงเหรียญกระทบพื้นดังบาดเขาไปในจิตใจของพวกเราทุก คน
ครอบครัวเราเปนครอบครัวใหญ มีลูกมีหลานเยอะแยะ อยางที่ยาเนี ยมชอบพูดวา
งส อื
นํา ม
าให
้อ่า
หน ั งส
นฟ ร
ี โป
อื น ํ าม
รด อ
าให ้อ่า
“ญาติวงศพงศาพญาขร ดั่งมัจฉาในสาครวาสี”
นฟ ร
้อ่า
าให
นํา ม
งส อื
รด อ
ี โป
นฟ รี โ ปร ดอ
าให ้อ่า
อื น ํ าม
หน ั งส
ย
นํา ไป
ี โป รด อย ่า
ย่า นํา ไป ขา
นฟ ร
อน ํ าม าให ้อ่า
ขา ย