หนา 1
ปฏิบัติการเภสัชกรรมการจายยาเรื่อง URI preparations ป 2550
อ. ผูรับผิดชอบปฏิบัติการ อ. วรรณวิไล เลาลัคนา วัตถุประสงค เมื่อนักศึกษาไดผานปฏิบ ัติการเภสัชกรรมการจายยาครั้งนี้แลว นักศึกษาจะตองสามารถ 1. ทราบถึงผลิตภัณฑยาที่ใชในระบบทางเดินหายใจสวนบนชนิดรับประทานและระบุไดถึงผลไมพึงประสงคที่เกิดจากยากลุม ตางๆ 2. ซักประวัติผูปวยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจสวนบน ไดอยางเหมาะสม ประเมิน ภาวะโรคของผูปวยไดถูกตอง และตัดสิน ใจ เลือกใชยาใหผูปวยอยางเหมาะสม 3. อธิบายวิธีการใชยา และใหคําแนะนําทางดานยาและการปฏิบ ัติตัวแกผูปวยไดอยางเหมาะสม วันและเวลาที่สอน วัน พุธที่ 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา 13.00-16.00 น. ลักษณะกิจกรรม ประกอบดวย 2 สวน คือ การอานใบสั่งยาจํานวน 2 ใบ และกรณีศึกษาในรานยาจํานวน 2 กรณี และ โรงพยาบาลแผนกผูป วยนอก 1 กรณีศึกษา โดยใหน ักศึกษาแบงเปน 10 กลุมๆ ละ 9-10 คน แตละกลุมจะมีอาจารยป ระจํากลุม ดูแล 1. การอานใบสั่งยา ใหนศ. คน หาขอมูลเกี่ยวกับ ขอบงใชของยาในใบสั่งยา ฝกอานใบสั่งยา จัดยา เขียนฉลาก และใหคําแนะนําผูป วย โดย ใหน ักศึกษาเขียนซองยา พรอมอธิบ ายวิธีใชยาใหแกอาจารยป ระจํากลุม 2. กรณีศึกษา 2.1 กรณีศึกษาในรานยา ใหนศ.ฝกซักประวัติผูปวยจําลองเพื่อประเมินภาวะโรค พรอมจัดยา และใหคําแนะนําวิธีการใช ยา สําหรับผูปวยที่มาซื้อยาในรานยา 2.2 กรณีศึกษาโรงพยาบาลแผนกผูป วยนอก ใหนศ. ตอบคําถามสั้นๆ เกี่ยวกับ กรณีศึกษาที่ไดรับ การประเมินผล
มีการประเมินผลโดยอาจารยป ระจํากลุมในแตละกิจกรรม และแบบทดสอบทายชั่วโมง
อุป กรณท ี่เตรียมไดแก 1. ซองยา 2. ฉลากชวย 3. หนังสือ MINS 4. หนังสือ drug information handbook 5. ผลิตภัณฑยา
หนา 2 ชื่อยา 1. Loratadine 2. Cetirizine 3. Fexofenadine 4. Chlorpheniramine 5. Hydroxyzine 6. Dimenhydrinate 7. Tripolidine with pseudoephedrine 8. Brompheniramine with pseudoephedrine 9. Chlorpheniramine with pseudoephedrine 10. Paracetamol , chlorpheniramine, pseudoephedrine 11. Pseudoephedrine 12. Dextromethorphan 13. Codeine 14. Ambroxal 15. Bromhexine 16. Bromhexine with guaifenesin 17. Carbocysteine 18. Acetylcysteine 19. Guaifenesin with dextromethophan 20. Dextromethophan with pseudoephedrine 21. Diphenhydramine , ammonium chloride , sodium citrate, menthol 22. Brow mixture 23. Paracetamol 60ml, 120 ml, 250 ml 24. Ibuprofen 25. Amoxycillin dry syrup 125 mg , 250 mg 26. Erythromycin dry syrup 27. Amoxycillin capsule 500 mg 28. Roxithromycin 150 mg 29. Dichlorobenzyl alcohol, amylmetacresol, menthol 30. Neomycin, bacitracin, amylocaine
ขอบงใชของยา/กลุมยา Second gen Antihistamine Second gen Antihistamine Second gen Antihistamine First gen Antihistamine First gen Antihistamine First gen Antihistamine Rhinorhea, decongestant Rhinorhea, decongestant Rhinorhea, decongestant
decongestant Antitussive Antitussive Mucolytic Mucolytic Mucolytic Mucolytic Mucolytic Antitussive and expectorant Antitussive and decongestant Antitussive and expectorant
ตัวอยางชื่อการคา Clarityne ® Zyrtec ® Telfast ® Atarax ® Actifed ®, Sinusaid ®, Sulidine ® Consinut ® Tiffy ®, Decolgen ®
Romilar ® Mucosolvan ®, Mucolid ® Bisolvon ® Bisolvon ex ®, Robitussin ME ® Flemex ®, Amicof ® Robitussin DM ® Robitussin PS ® Benadyl cough syrup ®
Antitussive and expectorant Antipyretic Antipyretic, headache Antibiotic Antibiotic Antibiotic Antibiotic Local antiseptic
ยาแกไอน้ําดํา GPO
Local antiseptic
Mybacin ®
Strepsil ®
หนา 3 1. ใบสั่งยา ใหนศ. เขียนฉลาก จัดยา และใหคําแนะนําวิธีการใชยา สําหรับ ผูป วยที่มารับยาที่ห องจายยาผูป วยนอกของ โรงพยาบาล ใบสั่งยาที่ 1 Rx
Amoxy dry syrup 1ชช x3 pc
2 ขวด
Paracetamol 1 ชช x prn q 6 h
1 ขวด
Bisolvon 1ชช x3 pc
1 ขวด
หนา 4 คําถามสําหรับใบสั่งยาที 1 ผูปวยมีอายุ 1 ป 9 เดือน สมมุติใหน้ําหนักประมาณ 12 กิโลกรัม. 1. ในผูปวยรายนี้ควรเลือกใช Paracetamol ความแรงเทาใด หากที่ รพ. มี Paracetamol 3 ขนาด จะมีห ลักเกณฑในการ พิจารณาเลือกใชอยางไร คําตอบ ผูปวยมีอายุ 1 ป 9 เดือน สําหรับขนาด Paracetamol ที่แนะนําในเด็กในกรณี antipyretic คือ 10-15 mg/kg per dose ในผูป วยรายนี้ควรไดรับ 120-180 mg ทุก 6 ชั่วโมง paracetamol ในทองตลาดมีขนาด drop 60 mg/0.6 ml , 120 mg/5ml และ 250 mg/5ml ดังนั้นสามารถให paracetamol ชนิด 120 mg/5ml (sara stawberry)
2. Amoxycillin ในผูปวยรายนี้ควรเลือกใชความแรงเทาใด เพราะเหตุใด คําตอบ ขนาดปกติคือ 20-40 mg/kg/day แบงใหท ุก 8 ชั่วโมง ผูปวยรายนี้ควรไดยา 240-480 mg แบงให 3 ครั้ง จะได เทากับ 80- 160 mg ยาขนาด 125 mg/ 5 ml จะไดเทากับ 3.2-6.4 ml Reference: Drug evaluation system. Micromedex ® 2007 a) EAR, NOSE, AND THROAT INFECTION 1) In children 3 months of age and younger, the upper dose limit is 30 milligrams/kilogram/day orally divided every 12 hours depending on type and severity of infection (Prod Info AMOXIL(R) oral capsules, oral tablets, chewable oral tablets, oral suspension, 2006) 2) In children older than 3 months of age, weighing less than 40 kilograms, with mild to moderate infection, the recommended dose is 25 milligrams/kilogram/day (mg/kg/day) orally divided every 12 hours or 20 mg/kg/day orally divided every 8 hours. For severe infections in this patient population, the recommended dose is 45 mg/kg/day orally divided every 12 hours or 40 mg/kg/day orally divided every 8 hours (Prod Info AMOXIL(R) oral capsules, oral tablets, chewable oral tablets, oral suspension, 2006). 3. Bisolvon ® มีชื่อสามัญทางยาวาอะไร และมีขอบงใชใดในผูป ว ยรายนี้ และควรเลือกใชชนิดใด คําตอบ Bisolvon ® มีชื่อสามัญทางยาวา Bromhexine มีขอบงใชในการแกไอแบบมีเสมหะ โดยทําหนาที่เปน mucolytic ในทองตลาดมี 3 ชนิด Bisolvon ® , Bisolvon pediatric ®, Bisolvon EX® สําหรับขนาด Bromhexine เทากัน คือ 4 mg/ 5 ml ดังนั้นสามารถเลือก Bisolvon ® หรือ Bisolvon pediatric ® ก็ได แต Bisolvon pediatric ® มีขอดีคือ ไมมี alcohol โดยในเอกสารอางอิงแนะนําชนาด bromhexine 2- 4 mg tid สําหรับเด็กเล็ก ดังนั้นนศ. อาจจะปรึกษาแพทยถึง ขนาดยาที่ใช (1/2 ถึง 1 ชอนชา)
หนา 5 Reference: Drug evaluation system. Micromedex ® 2007 1.4.1.A Bromhexine Hydrochloride 1.4.1.A.1 Oral route a) The recommended oral dose of bromhexine for the treatment of RESPIRATORY DISORDERS is 4 milligrams twice daily for children under 5 years of age and 4 milligrams four times daily for children 5 to 10 years of age (Reynolds, 1991). b) Bromhexine 2 to 4 milligrams orally three times daily (as drops) was reported beneficial in treating children (under 5 years of age) with acute hypersecretory BRONCHOPULMONARY DISEASE in 1 randomized study (Azzollini et al, 1990a). c) Oral bromhexine 0.6 to 0.8 milligram/kilogram/day, in 3 divided doses, has been used in combination with cephalexin (80 to 100 milligrams/kilogram/day) in the treatment of upper and lower RESPIRATORY TRACT INFECTIONS in children (1 month to 14 years of age) (Boner et al, 1984; Caramia et al, 1984). d) Oral bromhexine in doses of 16 to 48 milligrams daily for 4 to 6 weeks has been ineffective in the treatment of OTITIS MEDIA with effusion in children (3 to 10 years of age) (Stewart et al, 1985a; Elcock & Lord, 1972).
4. ใหเขียนซองยา จัดยา และ อธิบ ายวิธีการใชยาใหอาจารยประจํากลุม คําอธิบายวิธีการใชยา ขอมูลที่อธิบ ายมีความ ครบถวนทุกหัวขอ ไดแก ชื่อยา, ขอบงใช , วิธีใช , คําแนะนํา วิธีการใชยา
Amoxycillin เปนยาปฏิชีวนะสําหรับ รักษาโรค ติดเชื้อทางเดินหายใจสวนบน (โรคหวัด)
Paracetamol เปนยาลดไข
Bisolvon เปนยาบรรเทาอาการไอแบบมี เสมหะ
รับประทานครั้งละ 1 ชอนชาวัน รับประทานครั้งละ 1 ชอนชาทุก ละ 3 ครั้งหลังอาหาร เชา กลางวัน 6 ชั่วโมงเมื่อมีไข เย็น
รับประทานครั้งละ ครึ่ง ชอนชา วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น
คําแนะนําเพิ่มเติม
ใหรับประทานยาทุกวัน จนกระทั่ง ยาหมด ใหใชน ้ําผสมยาทีละขวด เมื่อผสม น้ําแลวใหเก็บยาในตูเย็น ซึ่งจะมี อายุ 14 วัน
-
หนา 6 ขอมูลเพิ่มเติม การใหคําแนะนําวิธีการใชยาและคําแนะนําอื่น ๆ การแนะนําผูปวยเมื่อสงมอบยาตองใหเปนไปตามขอบังคับของสภาเภสัชกรรมวาดวยขอจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบ วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2540 ดังนี้ (1) (2) (3) (4)
ชื่อยา ขอบงใช ขนาดและวิธีการใช ผลขางเคียง (side effect) (ถามี) และอาการไมพึงประงสงคจากการใชยา (adverse drug reaction) ที่ อาจเกิดขึ้น (5) ขอควรระวังและขอควรปฏิบัติในการใชยาดังกลาว (6) การปฏิบัติเมื่อเกิดปญหาจากการใชยาดังดลาว ตัวอยางการใหคําแนะนําเกี่ยวกับยา การจายยา cloxacillin capsule (500 mg) 1 x 4 PO ac จํานวน 20 แคปซูล เพื่อรักษาแผลติดเชื้อ ตองแนะนําผูปวยดังนี้ - ยานี้ชอื่ cloxacillin ขนาด 500 มิลลิกรัม จํานวน 20 แคปซูล - ใชรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียหรือหนองที่ผิวหนัง - กินครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง กอนอาหาร เขา กลางวัน เย็น และกอนนอน ยานี้ควารกินกอนอาหารครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง หรือกินครั้งละ 1 แคปซูล ทุก 6 ชั่วโมง ถาใกลมื้ออาหารใหกินกอนอาหารครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง - ยานี้อาจทําใหแพได โดยอาจเกิดอาการผื่น คัน หรือหายใจไมสะดวก อาการนี้ไมไดเกิดกับ ผูป วยทุกคน จะเกิดกับผูที่แพยา นี้เทานั้น - เมื่อเกิดอาการแพดังกลาวตองหยุดใชยาทันทีและรีบ ไปพบแพทย - ยานี้ตองกินติดตอกัน ทุกวัน
หนา 7 5. ใหน ศ. ฝกผสมยาชนิดผงแหง และอาจารยเปน ผูสังเกตุพรอมใหคําแนะนําที่ถูกตอง จะมียาใหใช เพียงกลุมละ 1 ขวด คําตอบ สําหรับ Amoxycilin ทั่วไปหลังจากผสมน้ําแลวมีวันหมดอายุ 7 วัน ในกรณีที่เก็บในอุณภูมิหอง และ 14 วันในกรณีท ี่เก็บ ตูเย็น (ตามขอกําหนดของสภาเภสัชกรรม 2546) ยาน้ําเชื่อมชนิดผงแหง ตามขอกําหนดของสภาเภสัชกรรม 2546 ถาผูป วยไดรับยาขวดเดียว ควรผสมน้ําใหผูปวยเลย ถาไดรับยา 2 ขวด ควรผสมให 1 ขวด อีกขวดอธิบาย วิธีผสมน้ํา ขอแนะนําวิธีการใช -
การผสมยาตอ งใชน้ําสุก หรือ น้ําสะอาดที่เย็น หามใชน้ํารอนหรือน้ําอุน กอนผสมน้ําควรเคาะผงยาในขวดใหรวน ไมจับตัวกัน เติมน้ําครั้งแรก ประมาณ 1/2 ของขีดที่กําหนด หรือพอทวมยาผง เขยาใหย กระจายตัวทั่ว ไมมีกอนแข็ง เติมน้ําปรับ ระดับ ใหพอดีขึดที่กําหนด แลวเขยาอีกครั้ง หลังผสมน้ําแลว เก็บที่อ ุณภูมิห องได 7 วัน ถาเก็บในตูเย็นจะเก็บไดน าน 2 สัป ดาห ควรรอใหย าขวดแรกหมดกอน แลวจึงผสมขวดที่ 2 ถายาเหลือใหท ิ้งไป
Reference: Drug evaluation system. Micromedex ® 2007 1.2 Storage and Stability A) Preparation 1) Oral route a) May be taken with or without food. The suspension and pediatric drops should be shaken well before measuring the dose. The suspension dose may be mixed with formula, milk, fruit juice, water, ginger ale, or cold drinks. After mixing, administer immediately and completely (Prod Info AMOXIL(R) capsules, tablets, chewable tablets, powder for oral suspension, 2006). B) Oral route 1) Refrigeration is preferred but not required for Amoxil(R) suspension and pediatric drops. Unused portions of the suspension should be discarded 14 days after reconstitution (Prod Info Amoxil(R), 2003).
หนา 8 ใบสั่งยาที่ 2 Rx
Augmentin (1g) 1x2 pc
28 tab
Pseudoephedrine (30 mg) 1x3 pc
10 tab
Flixonase ® 1 puff od
1 ขวด
Clarityne ® 1x1 hs
10 tab
หนา 9 คําถามสําหรับใบสั่งยาที 2 1. ในกรณีที่ รพ. ไมมียาเหลานี้ ผูปวยสามารถไปซื้อจากรานขายยาแผนปจจุบัน ชั้นหนึ่งไดห รือไมเพราะเหตุใด คําตอบ ยา Augmentin , Clarityne, Flixonase สามารถซื้อไดเนื่องจากเปนยาอัน ตราย ยา Pseudoephedrine ไม สามารถซื้อในรานยาได ไมวาจะมีใบสั่งแพทยหรือไม เพราะวาจัดเปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภท 2 ใหจําหนายได เฉพาะในสถานพยาบาลเทานั้น 2. เนื่องจาก รพ. มี Pseudoephedrine ขนาด 60 mg ในผูป วยรายนี้แพทยสั่งจายขนาด 30 mg ไมทราบวาสามารถแบงยา ไดห รือไม และมีอาการไมพึงประสงคและขอควรระวังอะไร คําตอบ Pseudoephedrine เปน plain tablet สามารถแบงครึ่งได อาการไมพึงประสงคไดแก ใจสั่น กระสับกระสาย นอนไมห ลับ ยากลุมนี้ควรหลีกเลี่ยงการใชยาในเด็กเล็กอายุน อยกวา 1 ป (เนื่องจากมีความแตกตางระหวางขนาดยา therapeutic dose และ toxic dose นอย) ผูที่มีอายุมากกวา 60 ป ผูป วยตั้งครรภ ผูปวยที่มีโรค hyperthyroid cardiomyophathy ความดัน โลหิตสูง ตอมลูกหมากโต ตอหิน และกลุมผูปวยที่ใชยา beta-blocker หรือ MAO inhibitor 3. ผูป วยรายนีน้ าจะเปน โรคใด เพราะเหตุใด คําตอบ ผูป วยนาจะเปน โรคไซนัสอักเสบ เนื่องจากไดรับ ยา Pseudoephedrine และ antihistamine แสดงวาอาการเดนคือ อาการทางจมูก เชน น้ํามูก และคัดจมูก นอกจากนี้ยังไดรับ Augmentin ติดตอกันอยางนอย 14 วันซึ่งในโรคไซนัสอักเสบพบวา สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรียประมาณ 80% ไดแก เชื่อ Streptococcus pneumoniae, Hemophilus influenzae และ Moraxella catarrhalis ในกรณี Severe infection หรือ resistant Streptococcus pneumoniae Augmentin เปน antibiotic ที่จะไดรับ การ เลือกใชเนื่องจากสามารถครอบคลุมเชื้อดังกลาว และการรักษามักใหยา antibiotic ติดตอกันอยางนอย 1 สัป ดาห นอกจากนี้ยัง ไดรับ ยา Topical intranasal corticosteroid เปนยาชนิดพนเขาชองจมูก ซึ่งมีขอบงใชโรคไซนัสอักเสบได โดยปจจุบัน พบวาการ ให intranasal corticosteroids รวมกับยาปฏิชีวนะในโรคไซนัสอักเสบเฉียบพลันจะชวยใหอาการทุเลารวดเร็วขึ้น โดยทําใหรูเปด โพรงอากาศขางจมูกโลง การระบายหนองดีขึ้น จึงมีการแนะนําใหใชเปนยาเสริมในการรักษาโรคไซนัสอักเสบเฉียบพลัน 4. ใหเขียนซองยา และ อธิบายวิธีการใชยาใหอาจารยประจํากลุม ยกเวนยา flixonase ® คําอธิบายวิธีการใชยา Augmentin Pseudoephedrine Clarityne ® ขอมูลที่อธิบ ายมีความ เปน ยาปฏิชีวนะสําหรับ รักษาโรค เปน ยาบรรเทาอาการคัดจมูก จาย เปน ยาลดน้ํามูก ครบถวนทุกหัวขอ ไดแก ติดเชื้อทางเดินหายใจสวนบน Pseudoephedrine ขนาด 60 mg ชื่อยา, ขอบงใช, วิธีใช , วิธีการใชยา รับประทานครั้งละ 1 เม็ดวัน ละ รับประทานครั้งละ ครึ่ง เม็ด รับประทานครั้งละ 1 เม็ด 2 ครั้งหลังอาหาร เชา เย็น วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร เชา วันละ 1 ครั้งกอนนอน กลางวัน เย็น คําแนะนําเพิ่มเติม ใหรับประทานยาทุกวัน จนกระทั่ง ยาหมด
หนา 10 2. กรณีศึกษา กรณีศึกษาที่ 1 ผูปวยมาขอซื้อยาที่รานยาที่ท านปฏิบัติงานอยู ใหนศ. ซักประวัติผูปวย จัดยาและจายยาใหแกผูป วยรายนี้พรอมทั้งให คําแนะนําวิธีการใชยาแกผูป วย
ขอมูล คนไขหญิง อายุตามจริง ซื้อยากินเอง มีอาการไอ (ถาถามวาไอแบบไหนใหตอบวา ไอแหงๆ) (ถาถามชวงเวลาใหตอบวา อาการไอเปนทั้งชวงกลางวันและกลางคืน ไอไมมากนัก) มีน้ํามูก ( ถาถามวาเปนแบบไหนใหตอบวา น้ํามูกใสไหลมาก เปนตลอดวัน) มีคัดแนนจมูกดวยบางครั้ง มีอาการเจ็บคอดวย ไมมากนัก มีไขเล็กนอย ปวดศีรษะ (อาการปวดทั้งหัว ปวดตุบๆ) มีปวดเมื่อยกลามเนื้อ ครั่นเนื้อครั่นตัว ออนเพลียเล็กนอย มีอาการมาประมาณ 2 วัน ไมจาม ไมคันจมูก คิดวาเปนเพราะอากาศเปลี่ยน และนอนดึก กิน tiffy ไป 1 แผง อาการดีขึ้นแตเมื่อหมดฤทธิ์ยาก็มีอาการอีก คนไขมีประวัติแพยาซัลฟา (กินแลวเปนผื่นขึ้นทั้งตัว) คนไขมีประวัติโรคประจําตัว โรคกระเพาะ (ถามนศ. ดวยวายากัดกระเพาะหรือไม) คนไขมีอาชีพรับจาง/เย็บผา เมื่อเภสัชจายยาแลวใหถามวางวงหรือไม เพราะตองไปทํางานเย็บผาตอนกลางวัน อยากไดยาแบบไมงวงนอน นศ. ถามดวยวาจาสุภาพเรียบรอยหรือไม นศ. ใชคําถามปลายเปดหรือปลายปดเปนสวนใหญ นศ. ใหคําแนะนําที่ผูปวยฟงเขาใจหรือไม ** หมายถึง ขอที่นศ. จําเปนตองถาม $ หมายถึง ขอที่นศ. ควรถามเพื่อประกอบการพิจารณาวาเปนโรคอะไร
ไดถามหรือไม ** ** ** ** ** $ ** $ ** ** **
หนา 11
คําถาม
1. จากการซักประวัติ ทานคิดวาผูปวยรายนี้นาจะเปน โรคอะไร เพราะอะไร คําตอบ จากขอมูลคาดวาผูป วยนาจะเปน โรค common cold จากเชื้อไวรัสเนื่องจากมีอาการทุกดาน ทั้งไข ปวดศีรษะ มีน ้ํามูก และไอ Reference: Drug consult. Micromedex ® 2007 Approximate incidence of symptoms in rhinovirus colds in adults (Jackson et al, 1960; Gwaltney, 1985) Symptoms Percentage of cases Rhinorrhea/sneezing 70-90 / 50-70* Nasal obstruction/congestion 65 / 80* Sore/scratchy throat 50 Cough/hoarseness 25 /40* Headache 25 Fever 1 Malaise 20-50 * * ขอมูลจากคนละ reference 2. ทานจะจายยาอะไรใหแกผูปวยรายนี้ พรอมอธิบายวิธีใชยาและคําแนะนําตางๆ คําตอบ ยาที่ใหควรเปน ยาตามอาการโดยไมมีการให antibiotic เนื่องจากสาเหตุสวนใหญเปน เชื้อไวรัส
Reference: Drug consult. Micromedex ® 2007 Percentage of colds in adults associated with specific agents: Rhinoviruses 15-40% Coronaviruses 10-20% Influenza Viruses A,B,C Parainfluenza viruses 5-10% Respiratory syncytial virus Adenoviruses Coxsackie viruses Echoviruses 1-2% Group A beta-hemolytic streptococci 2-10% No specific agent but presumed viral 30-50%
หนา 12
กรณีศึกษาที่ 2 เจ็บคอ ใหผูปวยจําลองตอบขอมูลเฉพาะที่ นศ. ถาม ใหคนไขบอกวา “ ขอซื้อยาแกหวัด“ ขอมูล ไดถามหรือไม ลูกชาย (อายุ 13 ขวบ) (น้ําหนักประมาณ 45 กิโล) ** ซื้อยาใหลูกกินเอง ** มีอาการเจ็บคอ (บนวาเวลากลืนน้ําลายแลวเจ็บคอ) ** ไมมีน้ํามูก (ไมคัดแนนจมูก) $ มีไขพอสมควร $ มีเบื่ออาหาร กินไมมากเพราะเจ็บคอ มีอาการมาประมาณ 3-4 วัน ** ไมจาม ไมคันจมูก มีอาการไอบาง ไอแบบแคะๆ นาจะมีเสมหะ $ ยังไมไดซื้อยาอะไรใหลูกกิน มีแตใหกินพาราที่บาน (เปนยาเม็ดซาราหักครึ่ง) ** ลูกมีประวัติแพยาเพนนิซิลิน ** โรคประจําตัว ลูกเคยเปนตุมฝที่ขา ประมาณ 2 ปที่แลว รักษาหายแลว ** เมื่อเภสัชจายยาแลวใหถามวา ลูกชอบกินน้ําแข็งกับไอศกรีม ไมทราบวาสามารถกินได หรือไม และยาอมแกเจ็บคอใชไดหรือไม นศ. ถามดวยวาจาสุภาพเรียบรอยหรือไม นศ. ใชคําถามปลายเปดหรือปลายปดเปนสวนใหญ นศ. ใหคําแนะนําที่ผูปวยฟงเขาใจหรือไม ** หมายถึง ขอที่นศ. จําเปนตองถาม $ หมายถึง ขอที่นศ. ควรถามเพือ่ ประกอบการพิจารณาวาเปนโรคอะไร คําถาม 1. จากการซักประวัติ ทานคิดวาผูปวยรายนี้นาจะเปน โรคอะไร เพราะอะไร คําตอบ จากขอมูลคาดวาผูป วยนาจะเปน โรค pharyngitis (คออักเสบ) จากเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากมีอาการเดนเฉพาะการเจ็บ คอ และอายุ4-14 ปมีโอกาสติดเชื้อ Streptococcal Gr A จึงควรใหยา antibiotic ติดตอกัน 14 วัน